หลังจากดู Fantastic Beasts 2 มา ได้เห็นกรินเดลวัลด์ประกาศศักดาแล้วประทับใจมาก ดูแล้วรับรู้ได้เลยว่า นี่เป็นพ่อมดที่ Extremely Powerful จริงๆ
ทีนี้เลยย้อนมาคิด แล้วโวลเดอมอร์ ที่โลกเวทย์มนต์พูดกันนักหนา ว่าเป็นพ่อมดศาสตร์มืดอันดับหนึ่ง กลัวกันจนพ่อมดแม่มดไม่กล้าเอ่ยชื่อ มันมีปัจจัยอะไรให้เป็นแบบนั้น
ลองตัดเรื่องพลังเวทย์ที่สูงส่ง เรื่องฮอร์ครักซ์ อะไรพวกนี้ไปก่อน
นึกภาพตามว่าเราเป็นพ่อมดแม่มดธรรมดาๆที่อยู่ในยุคนั้น
คุณจะไม่มีทางเห็นโวลเดอมอร์ตัวเป็นๆเดินโต้งๆมาเสกคาถาแน่ๆ ถ้าเห็นก็เตรียมใจตายได้เลย คุณจะรับรู้เรื่องราวของโวลเดอมอร์ได้แค่จากข่าวในหนังสือพิมพ์ หรือเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากที่ต่างๆ
ผู้เสพความตายไม่ได้มานั่งป่าวประกาศว่า เออ ฉันเป็นผู้เสพความตายนะ พวกนี้จะมีวงสังคมของตัวเอง เป็นเหมือนสมาคมลับ คุณอาจเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าแม่มดไฮโซคนหนึ่งไปเป็นประธานพิธีตัดริบบิ้นงานเปิดตัวไม้กวาดนิมบัสรุ่นใหม่ แต่หลังฉาก แม่มดคนนั้นอาจจะเป็นผู้เสพความตายก็ได้
คนเป็นผู้เสพความตายไม่ได้เป็นเพราะกลัว แต่มันเป็นสังคมอีลิทแบบหนึ่ง ที่มีแนวคิดสุดโต่ง พวกนี้จับกลุ่มกันเอง มีโวลเดอมอร์เป็นผู้นำทางความคิด ผู้เสพความตายรุ่นแรกก็เพื่อนๆสลิธีรีนของโวลเดอมอร์นั่นแหละ
ทีนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากที่ลับ โวลเดอมอร์แกเล่นสงครามประสาทกับโลกเวทย์มนต์ ปล่อยข่าวลวง, ใช้คำสาปสะกดใจ, บางบ้านโดนฆ่ายกครัว คนทั่วไปมันก็สับสนไปหมด
แล้วดัมเบิลดอร์ทำอะไร ทำไมถึงไม่ไปจัดการ?
พอเรื่องทั้งหมดมันหนักข้อเข้า ดัมเบิลดอร์ก็เลยตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ขึ้นมาไง เพราะในสงครามแบบนี้ มันเอาชนะกันด้วยเวทย์มนต์ไม่ได้ โวลเดอมอร์กับผู้เสพความตายอยู่ในที่ลับ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ก็ไม่รู้ที่อยู่ ที่ต้องทำคือการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ระบุตัวผู้เสพความตายให้ได้ รวมถึงหาแหล่งกบดานของโวลเดอมอร์ด้วย
ภาพรวมในยุคมืดของโวลเดอมอร์จึงเป็นสงครามจารกรรม จะเห็นว่าทั้งฝ่ายผู้เสพความตาย ทั้งฝ่ายภาคี มีสายลับอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะในกระทรวง คอยแก้เกมกันไปมา แต่ละฝ่ายต่างก็พยายามหาข่าวของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด ใครมีข้อมูลมากก็ยิ่งได้เปรียบ
บรรยากาศของโลกเวทย์มนต์ในช่วงนั้นมันไม่ได้น่ากลัวแบบเลือดสาด แต่มันอึมครึม ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราไปเดินตรอกไดแอกอนวันนี้เราจะโดนระเบิดไหม วันนี้จะมีข่าวใครหายไป เพื่อนที่มาเยี่ยมบ้านเราจะใช่เพื่อนจริงๆหรือเปล่า
ทุกคนไม่ไว้ใจกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ถ้าเอาช่วงเวลานี้มาทำภาพยนตร์ คงเป็นภาพยนต์แนวสายลับที่ไม่ได้ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เป็นสายลับที่อยู่ในบรรยากาศชวนอึดอัดเหมือนกับเรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy
ทั้งหมดนี้เลยทำให้คิดว่า ยุคของโวลเดอมอร์ก็มีความน่ากลัวในแบบของมันนะ แถมน่ากลัวมากด้วย ถ้าเราเป็นพ่อมด อยู่ในยุคกรินเดลวัลด์อาจจะปลอดภัยกว่าก็ได้ (เผลอๆเข้าร่วม)
นี่มองในมุมประชาชนผู้วิเศษทั่วไป เราคงไม่รู้จริงไหมว่าโวลเดอมอร์คือทอม ริดเดิ้ล เรื่องแยกวิญญาณทำฮอร์ครักซ์ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งเรื่องรู้กันอยู่แค่สี่คน ดัมเบิลดอร์ แฮรี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่
ยุคสมัยของโวลเดอมอร์น่ากลัวอย่างไร?
ทีนี้เลยย้อนมาคิด แล้วโวลเดอมอร์ ที่โลกเวทย์มนต์พูดกันนักหนา ว่าเป็นพ่อมดศาสตร์มืดอันดับหนึ่ง กลัวกันจนพ่อมดแม่มดไม่กล้าเอ่ยชื่อ มันมีปัจจัยอะไรให้เป็นแบบนั้น
ลองตัดเรื่องพลังเวทย์ที่สูงส่ง เรื่องฮอร์ครักซ์ อะไรพวกนี้ไปก่อน
นึกภาพตามว่าเราเป็นพ่อมดแม่มดธรรมดาๆที่อยู่ในยุคนั้น
คุณจะไม่มีทางเห็นโวลเดอมอร์ตัวเป็นๆเดินโต้งๆมาเสกคาถาแน่ๆ ถ้าเห็นก็เตรียมใจตายได้เลย คุณจะรับรู้เรื่องราวของโวลเดอมอร์ได้แค่จากข่าวในหนังสือพิมพ์ หรือเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากที่ต่างๆ
ผู้เสพความตายไม่ได้มานั่งป่าวประกาศว่า เออ ฉันเป็นผู้เสพความตายนะ พวกนี้จะมีวงสังคมของตัวเอง เป็นเหมือนสมาคมลับ คุณอาจเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าแม่มดไฮโซคนหนึ่งไปเป็นประธานพิธีตัดริบบิ้นงานเปิดตัวไม้กวาดนิมบัสรุ่นใหม่ แต่หลังฉาก แม่มดคนนั้นอาจจะเป็นผู้เสพความตายก็ได้
คนเป็นผู้เสพความตายไม่ได้เป็นเพราะกลัว แต่มันเป็นสังคมอีลิทแบบหนึ่ง ที่มีแนวคิดสุดโต่ง พวกนี้จับกลุ่มกันเอง มีโวลเดอมอร์เป็นผู้นำทางความคิด ผู้เสพความตายรุ่นแรกก็เพื่อนๆสลิธีรีนของโวลเดอมอร์นั่นแหละ
ทีนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากที่ลับ โวลเดอมอร์แกเล่นสงครามประสาทกับโลกเวทย์มนต์ ปล่อยข่าวลวง, ใช้คำสาปสะกดใจ, บางบ้านโดนฆ่ายกครัว คนทั่วไปมันก็สับสนไปหมด
แล้วดัมเบิลดอร์ทำอะไร ทำไมถึงไม่ไปจัดการ?
พอเรื่องทั้งหมดมันหนักข้อเข้า ดัมเบิลดอร์ก็เลยตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ขึ้นมาไง เพราะในสงครามแบบนี้ มันเอาชนะกันด้วยเวทย์มนต์ไม่ได้ โวลเดอมอร์กับผู้เสพความตายอยู่ในที่ลับ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ก็ไม่รู้ที่อยู่ ที่ต้องทำคือการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ระบุตัวผู้เสพความตายให้ได้ รวมถึงหาแหล่งกบดานของโวลเดอมอร์ด้วย
ภาพรวมในยุคมืดของโวลเดอมอร์จึงเป็นสงครามจารกรรม จะเห็นว่าทั้งฝ่ายผู้เสพความตาย ทั้งฝ่ายภาคี มีสายลับอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะในกระทรวง คอยแก้เกมกันไปมา แต่ละฝ่ายต่างก็พยายามหาข่าวของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด ใครมีข้อมูลมากก็ยิ่งได้เปรียบ
บรรยากาศของโลกเวทย์มนต์ในช่วงนั้นมันไม่ได้น่ากลัวแบบเลือดสาด แต่มันอึมครึม ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราไปเดินตรอกไดแอกอนวันนี้เราจะโดนระเบิดไหม วันนี้จะมีข่าวใครหายไป เพื่อนที่มาเยี่ยมบ้านเราจะใช่เพื่อนจริงๆหรือเปล่า
ทุกคนไม่ไว้ใจกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ถ้าเอาช่วงเวลานี้มาทำภาพยนตร์ คงเป็นภาพยนต์แนวสายลับที่ไม่ได้ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เป็นสายลับที่อยู่ในบรรยากาศชวนอึดอัดเหมือนกับเรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy
ทั้งหมดนี้เลยทำให้คิดว่า ยุคของโวลเดอมอร์ก็มีความน่ากลัวในแบบของมันนะ แถมน่ากลัวมากด้วย ถ้าเราเป็นพ่อมด อยู่ในยุคกรินเดลวัลด์อาจจะปลอดภัยกว่าก็ได้ (เผลอๆเข้าร่วม)
นี่มองในมุมประชาชนผู้วิเศษทั่วไป เราคงไม่รู้จริงไหมว่าโวลเดอมอร์คือทอม ริดเดิ้ล เรื่องแยกวิญญาณทำฮอร์ครักซ์ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งเรื่องรู้กันอยู่แค่สี่คน ดัมเบิลดอร์ แฮรี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่