ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าที่มีกระทู้นี้ขึ้นมาได้เพราะว่าเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่มาจ้า จริงๆ ก็ไม่ค่อยเหมือนไปทำงานเท่าไหร่เหมือนไปเที่ยวมากกว่า แต่การมาเชียงใหม่ครั้งนี้เราไม่ได้เที่ยวในตัวเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยวหลักเหมือนที่หลายๆ คนเคยมากัน เพราะงานของเราเป็นการลงไปในพื้นที่ในหมู่บ้านต่างๆ เราจึงคิดว่าลองเอามาเขียนรีวิวดูดีกว่าเผื่อมีคนสนใจตามไป แต่ก็ไม่ต้องคาดหวังกันมากนะเพราะบางที่หลายคนอาจเคยเห็นมาแล้วก็ได้ แต่เราไม่เคยเห็นไงเลยตื่นเต้นหน่อย 555 เอาเป็นว่าเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ไม่เกริ่นเยอะปวดนิ้ว

เริ่มด้วยวันแรกกับเชียงใหม่โซนกลาง
หมู่บ้านแรกที่ได้มาคือ “หมู่บ้านป่าตาล” อยู่ที่ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง ความตื่นเต้นที่ได้เจอสถานที่ไม่เคยเจอยังไม่หมดไป ก็มีความตื่นเต้นอีกเรื่องเพิ่มมาทันทีเพราะพอเรามาถึงเท่านั้นแหละฝนก็เทลงมาเลยจ้า เค้าบอกอยู่กันมาตั้งหลายวันไม่ตกพอเรามาตกเลย (อันนี้คือต้องรู้สึกผิดเลยอะพูดกันขนาดนี้ 555) แต่ด้วยคุณงามความดีที่เราสั่งสมมานั้น เราก็เลยภาวนาให้ฝนหยุดตก และในที่สุดฝนก็....ยังไม่หยุดตกก็คือความดีที่สั่งสมมาไม่พอที่จะทำให้ฝนหยุด ก็เลยต้องรอ รอ รอ ในที่สุดสองชั่วโมงผ่านไปฝนถึงได้หยุดตกสักที
สถานที่แรกในหมู่บ้านที่เราได้มาก็คือ วัดป่าตาล พอเข้ามาในวัดเท่านั้นแหละเราก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเลย ไม่ใช่สิ!! พอเข้าวัดมาเราก็คือชอบมากรู้สึกว่าวัดสวยมาก หรือเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้เข้าวัดด้วยมั้งเลยตื่นเต้นหน่อยๆ นอกจากความสวยงามก็สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ สงบจนคิดว่าต้องบวชแล้วปะ ฮ่าๆ

อันนี้คือความสวยงามภายนอกวัด

ภายในวัดก็คือสวยมาก รายละเอียดการตกแต่งคือดีประณีตมาก

ถึงไม่มีคุกกี้เสี่ยงทาย แต่มีตู้อธิฐานเสี่ยงทายนะฮ่าๆๆ


มีโอกาสได้เห็นการทอผ้าด้วย คุณยายเก่งกันมากๆ ลายผ้าสีสันก็สวยสุดๆ


และสิ่งที่เราชอบมากที่สุดก็คือกิน กิน กิน อาหารท้องถิ่นคือดียยยยย์

อันนี้คือไข่ป่าม อารมณ์แบบไข่เจียวแหละอร่อยดี

ทุกคนเห็นรูปนี้ก็คงรู้แล้วแหละว่าคือข้าวเกรียบว่าว แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณคิด....ผิดจ้า
ตอนแรกเราก็คิดเหมือนทุกคน แต่ความจริงแล้วมันคือ “หนังน้องควาย”
จริงๆ รสชาติมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนะ แต่เรากินไปหนึ่งคำแล้วก็คิดว่าไม่กินต่อดีกว่า ฮ่าๆ

มาต่อด้วยที่ที่สองของหมู่บ้านที่เราได้มาคือ สะพานไม้ไผ่ “ขั๋วแต๊ะชาวยอง” ถือเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านป่าตาลเลย ถ้าใครมาก็ต้องมาเช็คอินที่นี่แหละ สะพานไม้ไผ่บวกกับนาข้าวเขียวขจีถ้าได้ไปยืนถ่ายรูปแล้วโพสลงโซเชียลหลายๆ คนต้องอิจฉาแน่ๆ แต่...ช่วงที่เราไปคือนาข้าวทองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยวสุด มันก็ได้อีกอารมณ์นึงนะดูสวยไปอีกแบบ

......................................

มาต่อกันที่หมู่บ้านที่สองคือ “หมู่บ้านโป่งกวาว” อยู่ที่ตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง
    เราเดินทางมาถึงหมู่บ้านนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว ด้วยความที่หมู่บ้านอยู่บนเขาอากาศก็คือดีมากกกก หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ อิจฉาชาวบ้านที่นี่อยากมีบ้านอยู่บนนี้เลย



หมู่บ้านนี้ชาวบ้านเค้าทำ “จิ้นส้ม” หรือที่เราเรียกกันว่าแหนมเป็นสินค้า OTOP เลยได้ไปดูกระบวนการทำมา แอบจำสูตรว่าจะมาทำขายที่กรุงเทพฯ เอ้า ไม่ใช่สิ!! ไม่ได้ใช่ไหม 555

อันนี้คือคุณป้ากำลังทำกระบวนการห่อกันอยู่

เนื้อหมูที่ใช้ก็คือแน่นมากๆ

อันนี้คือที่ห่อเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมขาย จะบอกว่าน่ากินมากกกก
แต่เสียดายไม่ได้ซื้อกลับมาเพราะต้องอยู่อีกหลายวันไม่มีที่เก็บ อดจ้าปาดน้ำตา

สถานที่ไฮไลท์ของหมู่บ้านนี้คือ “บ่อน้ำพุร้อนโป่งกวาว” ถ้าได้มาต้องลองมาแช่ดูสักครั้ง แต่เราก็ไม่ได้แช่นะเพราะไม่มีเวลา เศร้ามาก T^T

จบแล้วสำหรับวันแรกใครอยากลองตามเรามาดูก็ได้นะ บรรยากาศดีชาวบ้านน่ารักเป็นกันเอง



ต่อด้วยวันที่สองกับเชียงใหม่เหนือ
หมู่บ้านแรกที่ได้มาคือ “หมู่บ้านบ้านใหม่หนองบัว” อยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ
    มาถึงหมู่บ้านนี้เช้ามากกกก เลยได้มาเดินตลาดเช้า ดีใจมากเพราะหิวจะได้หาของกิน อาหารที่ตลาดก็มีอะไรแปลกๆ หลายอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ผักผลไม้ที่นี่ก็คือดูสดแบบมากๆ เหมือนพึ่งเด็ดมาจากต้น ขุดมาจากดิน เก็บมาจากสวนกันเลยทีเดียว

บรรยากาศภายในตลาดเช้าที่เราไปเดิน


อาหารแปลกๆ ที่เราไม่รู้จักก็ไม่ได้ถามด้วยว่าคืออะไร แต่ก็ถ่ายมา


พืชผักดูสดมากกกกกก อยากซื้อไปทำกับข้าวแต่ติดที่ทำไม่เป็น

ลืมบอกว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านของ ชาวจีนยูนาน เลยได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ทั้งได้ดูการแสดง และได้ลองกินอาหารจีนยูนานอย่าง “สุกี้ยูนาน” ซึ่งเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านนี้เลย

การแสดงที่ได้ดูสวยงามตามแบบฉบับจีนยูนาน

อาหารของชาวจีนยูนาน แต่คืออะไรมั้งจำไม่ได้ มันเยอะเหลือเกิน 555

อันนี้คือเมนูที่เราชอบที่สุดหมั่นโถวทอด

และนี้คือไฮไลท์ของหมู่บ้าน สุกี้ยูนาน อร่อยและเยอะมากกกกกก กินหลายคนยังไม่หมดเลย
ถ้าใครมีโอกาสได้มา ต้องมาลองกินดู สมกับเป็นไฮไลท์ของที่นี่จริงๆ

..............................................................

มาต่อกันที่หมู่บ้านที่สองคือ “บ้านแม่แมะ” อยู่ที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว
    หมู่บ้านนี้ไฮไลท์ก็คือบ้านต้นไม้ เดินทางมาเหนื่อยๆ มาเจอบรรยากาศที่นี่บอกเลยว่าคุ้มมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อนแบบสุดๆ แถมมีโฮมสเตย์ราคาไม่กี่ร้อยบาทเมื่อเทียบกับบรรยากาศที่จะได้ตื่นมาเจอตอนเช้าถือว่าคุ้มค่ามากๆ อยากให้ได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง

นั่งจิบเครื่องดื่มชิวๆ กับบรรยากาศแบบนี้ โอ๊ยยยยฟินมากเด้อ

อันนี้ภายในห้องนอนของโฮมสเตย์ มองออกไปเป็นวิวป่าเขาล้อมรอบ
ถ้ามีโอกาสจะไปนอนดู บรรยากาศตอนเช้าต้องฟินมากแน่ๆ



เดินมาข้างล่างก็จะมีร้านนวด มีร้านกาแฟที่ติดกับน้ำตกไปอี๊กกก
ถ้าใครเบื่อกรุงเทพฯ แล้วได้ลองมาเที่ยวที่นี่ ต้องอยากย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่เหมือนกับเราแน่นอน

จบแล้วกับวันที่สองรูปอาจน้อยไปหน่อย อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง
จะบอกว่ามันดีมากจริงๆๆๆๆๆ ลองไปดู

อย่ารอช้ามาต่อกันที่วันที่สามกับเชียงใหม่โซนใต้
หมู่บ้านแรกที่ได้มาคือ “บ้านแม่ปาน” อยู่ที่ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม
    วันที่มาหมู่บ้านนี้โชคดีที่ตรงกับวันตักบาตรเทโวพอดี ตอนเช้าเลยมีโอกาสได้ตักบาตร ทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรม พอได้เข้าวัดบ่อยๆ ก็เริ่มไม่ร้อนละ เริ่มชิน 555

บรรยากาศตอนตักบาตร


ฟังเทศน์ ฟังธรรม รับศิล รับพร



เจอน้องชะนีด้วย ตอนไม่ยืนมองน้องก็คือขี้อายนั่งขดตัวอยู่นิ่ง
สักพักนางก้เริ่มไต่โชว์ท่ายากให้ดู น่ารักมาก

หลังจากเข้าวัดทำบุญต่อเติมแต้มบุญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปที่นาขั้นบันได ต้องบอกว่าทางขึ้นมาก็คือมีความทรหดนิดหน่อยกว่าจะขึ้นมาถึง แต่พอมาถึงแล้วต้องบอกว่าความเหนื่อยคือหายไปเลย เพราะว่านาขั้นบันไดสวยมากกก อากาศดีมากกก คุ้มค่าที่ได้ขึ้นมา


สวยมากเขียวสุดดดดดดดดดด



นาเขียวๆ กับท้องฟ้าสดใส ได้มากกก ดีมากก มีโฮมสเตย์กลางทุ่งนาเขียวขจีอีก

มีอาหารพื้นเมืองให้กินด้วย ยิ่งดีเข้าไปอี๊กกกก
รูปที่ถ่ายมาอาจจะไม่สวยเท่าไร แต่ของจริงมันสวยมากต้องลองมาดู
แต่ต้องมาให้ถูกฤดูด้วยนะ มาผิดเจอฤดูเก็บเกี่ยวอดเห็นข้าวเขียวขจีนะ บอกไว้ก่อน

...................................................

มาต่อกันที่หมู่บ้านที่สองคือ “ดอยสันเกี๋ยง” อยู่ที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาวเหมือนกัน
    ไฮไลท์ของหมู่บ้านนี้คือ น้ำบ่อเย็น ชาวบ้านบอกว่าพอฤดูร้อนน้ำจะเย็น พอฤดูหนาวน้ำจะอุ่นๆ พอได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกอะเมซิ่งไทยแลนด์มากๆ เลยได้ลองเอาขาลงไปแช่ดูก็รู้สึกเย็นสบาย มีปลาตัวน้อยๆ มารุมตอดขาด้วยอารมณ์แบบสปาปลาเลย


ของจริงน้ำในบ่อใสมากๆ

จบแล้วกับวันที่สามเชียงใหม่โซนใต้ธรรมชาติดีมาก ใครชอบต้องลองมาดูคุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอน

วันสุดท้ายกลับมาที่เชียงใหม่โซนกลาง
มีโอกาสได้ขึ้นไปดอยปุย อากาศบนนี้คือดีเย็นสบาย มีสวนดอกไม้ให้มาถ่ายรูป มีหลากหลายดอกมากรวมถึงตัวเราด้วย เอ้ยไม่ใช่สิ!! มีน้ำตกน้อยๆ ในหมู่บ้านด้วยสดชื่นสุด มีร้านกาแฟด้วย มีร้านขายของฝากหลายร้านมากต้องมีโดนสักร้านแหละ

สวนดอกไม้ สวนน้ำตกดอยปุย ของจริงคือสวย