ขึ้นรถไฟแอ่วลำปางหนาเจ้า

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราจะแทนชื่อตัวเองว่ามายเมนะคะ เหตุผลคือเราชอบตัวการ์ตูนที่ชื่อมายเมโลดี้ค่ะ (สมเหตุสมผลดีเนาะ 55) แล้วภาพในเกือบทุกภาพของเราก็จะมีเจ้ามายเมนี่แหละค่ะที่โผล่มา ชัดบ้างเบลอบ้างก็ว่ากันไป ^^

ส่วนกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของมายเมเองนะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่าาาาาา ก่อนอื่นขอบอกให้เพื่อนๆรู้ก่อนนะว่าภาพที่มายเมถ่ายเป็นภาพจากกล้องโทรศัพท์ทุกภาพ และมีการปรับแต่งภาพด้วยโปรแกรมบ้างนะคะ บางภาพอาจจะดูแปลกๆบ้าง (มายเมขอโทษน๊าาาา) เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนาะ



"ถ่านหินลือชา"..."รถม้าลือลั่น"..."เครื่องปั้นลือนาม"..."งามพระธาตุลือไกล"..."ฝึกช้างใช้ลือโลก"

เริ่มต้นด้วยคำขวัญประจำจังหวัดลำปางกันก่อน เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปไก่ นั่นก็คือ"ถ้วยตราไก่" หรือชาวเหนือเรียกกันว่า "ถ้วยก๋าไก่" (ก๋า แปลว่า ตราสัญลักษณ์) และยังมีรถม้าที่อยู่คู่กับจังหวัดนี้มานาน จังหวัดลำปางจะมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น เขลางค์นคร เวียงละกอน นครลำปาง เป็นต้น


มายเมเริ่มเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่จังหวัดลำปางด้วยรถไฟเที่ยวเช้าสุดคือ 06:30 น. ราคาเพียง 23 บาท มายเมไปช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนอากาศตอนเช้าก็เริ่มหนาวแล้ว กลิ่นดอกพญาสัตบรรณ หรือน้องตีนเป็ดนั่นเอง โชยคลุ้งทั่วเชียงใหม่เลยล่ะค่ะ (น้องเป็ดมาทวงคืนนนนน)









ระหว่างทางรถไฟก็จะแวะตามสถานีต่างๆ จะมีพ่อค้าแม่ค้าหาบของขึ้นมาขาย อาทิเช่น ข้าวเหนียว ไก่ทอด ไก่ต้ม ไส้อั่ว มาม่า เครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น ราคาก็เป็นกันเอง ไก่ทอด ไก่ต้ม ไส้อั่ว ชิ้นละ 20 บาท ส่วนข้าวเหนียวห่อละ 5 บาทเองค่ะ เลยจะขอแอบเก็บรูปภาพคุณป้าซะหน่อย แต่ป้าแกเห็นมายเมยกกล้องปุ๊บ ป้าแกรีบยกไปเลยค่ะ อยากจะร้องไห้ ไม่ทันได้โฟกัสอะไรเลย 555555






พอมาถึงจุดหมาย สถานีลำปาง ก็มุ่งตรงไปที่กาดเก๊าจาวเลยค่ะ หรือเรียกอีกชื่อว่าตลาดรัตน ซึ่งตั้งตามชื่อหลวงเสรีเริงฤทธิ์ รัตนยนต์ ผู้ว่าราชการรถไฟ แต่ส่วนมากจะเรียกว่าเก๊าจาวมากกว่า เพราะในอดีตมีต้นขะจาวต้นใหญ่ในบริเวณนั้น ซึ่งคำว่าเก๊าเป็นภาษาเหนือที่แปลว่าต้นไม้ เช่น ต้นมะม่วง ภาษาเหนือคือเก๊าบ่าม่วง เป็นต้น ส่วนคำว่า จาว มาจากขะจาว เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง กาดเก๊าจาวเป็นตลาดที่อยู่มานานตั้งแต่ พ.ศ.2453 สมัยยุคแรกๆที่เริ่มสร้างทางรถไฟ บริเวณนั้นยังคงสภาพบ้านเรือนโบราณให้ได้ชมกันอีกด้วย ใครที่อยากลิ้มลองอาหารเหนือแท้ๆ ลองมาแวะชมแวะชิมได้นะคะ การเดินทางก็เดินออกมาหน้าสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวซ้าย ไปตามถนนเลียบทางรถไฟไปเรื่อยๆก็ถึงค่ะ




รถสองแถว หรือ รถเหลือง หรือ รถคิว หรือ รถสี่ล้อ (แล้วแต่คนจะเรียกค่ะ) รอบเมือง ค่าโดยสารคนละ 20 บาท



มื้อแรก ณ ลำปาง เป็นร้านข้าวซอยในบ้าน เป็นร้านเล็กๆข้างทาง อยู่ริมแม่น้ำวัง ตั้งอยู่ระหว่างสะพานแขวนสีส้มสองที่ อยู่ฟากเดียวกับวัดเชียงราย ข้าวซอยที่มายเมสั่งคือข้าวซอยเนื้อ ธรรมดา 50 บาท เป็นเนื้อเอ็นแก้ว ที่นุ่มละมุนลิ้นมาก มายเมบังเอิญเดินมาเจอร้านนี้ ถึงแม้เป็นร้านเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็กนะครับ 555 อร่อย เข้มข้น ล้ำลำขนาดเจ้า



ถึงแล้วจ้าสะพานแขวนสีส้มหรือสะพานส้ม สะพานออเร้นจ์ มีอยู่ 2 ที่ ห่างกันไม่มาก เป็นสะพานที่รถไม่สามารถข้ามได้ มีสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะเทศกาลลอยกระทง จะมีผู้คนมากมายมาชมการแสดงล่องสะเปา (ล่องสะเปา จาวละกอน) ซึ่งสะเปามีความหมายเดียวกับสำเภา ส่วนจาวละกอนหมายถึงชาวลำปาง



วัดเชียงราย อยู่ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ใช่ค่ะ ครั้งแรกที่มายเมได้ยินชื่อนี้ เชียงราย? แต่อยู่ลำปาง สวนดอก? แต่อยู่ลำปาง (คิดว่าสวนดอกมีแค่ที่เชียงใหม่ 555555555) มายเมเลยไปหาที่มาที่ไปมาให้อ่านกัน
"วัดเชียงราย (CHIANGRAI TEMPLE )วัดเชียงราย คณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี 2200 โดยเจ้าพระยามหาโยธานราธิบดีศรีพิไชยณรงค์ หรือพระยาเจ่ง ผู้เป็นต้นตระกูลคชเสนีฝ่ายเหนือได้ส่งพระยาชมภู บุตรชาย ร่วมกับญาติทางมารดา ซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือตระกูลขัติ เชียงราย ก่อสร้างหมู่บ้าน และวัดเชียงรายขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลชาวเชียงราย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี 2457"
cr : https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/วัดเชียงราย--7093




ส่วนที่นี่คือห้าแยกหอนาฬิกา อยู่ไม่ไกลจากวัดเชียงรายเลยค่ะ ถ้ามองจากหน้าวัดเชียงรายมองไปทางซ้ายก็จะสังเกตเห็นห้าแยกหอนาฬิกาเลยค่ะ



อันนี้เป็นภาพเก่าที่มายเมมาเที่ยวครั้งก่อนนะคะ


ที่พักที่มายเมพักเป็นสไตล์ Guest house ชื่อ TT&T Backpackers Guesthouse เป็นที่พักสุดคุ้ม การบริการที่เป็นกันเอง แถมยังมีน้องหมาน่ารักๆเป็นพนักงานต้อนรับอีกด้วย สถานที่ร่มรื่น ติดกับแม่น้ำ ตอนกลางคืนเงียบสงบ




"บ้านเสานัก" อยู่ไม่ไกลจากที่พัก บ้านเสานัก (เสานัก แปลว่า มีเสามากมาย) นักแต้ๆ มีถึง 116 ต้น ค่าบริการเข้าชมคนละ 50 บาท เก็บเป็นค่าบำรุงสถานที่ บ้านเสานักสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2438 โดยคหบดีพ่อค้าชื่อ หม่องจันโอง ซึ่งเป็นต้นตระกูลจันทรวิโรจน์ เป็นบ้านไม้สักโบราณผสมผสานศิลปะแบบพม่า ถึงแม้จะเก็บค่าเข้าชม แต่ก็ยังมีบริการน้ำดื่มสมุนไพรเย็นชื่นใจ และขนมให้รับประทานอีกด้วย






อีกสถานที่ที่คนนิยมเดินเที่ยวตอนเวลากลางคืน คือถนนคนเดินกาดกองต้า (กาด แปลว่า ตลาด, กอง แปลว่า ถนน, ต้า แปลว่า ท่าน้ำ) เป็นถนนคนเดินที่เลียบฝั่งแม่น้ำวัง มีบ้านเรือนสองฝั่งถนนและยังคงสภาพบ้านเรือนไทยร่วมสมัย ทรงคุณค่า มีเสน่ห์สวยงาม ถนนคนเดินนี้อยู่ติดกับสะพานรัษฎาภิเศกหรือสะพานขาว เป็นสะพานที่มีสีขาวข้ามแม่น้ำวัง โดยอดีตเป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จครองราชย์ครบ 25 ปี ในปีพ.ศ. 2437 อีกทั้งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ได้ทาสีเพื่ออำพรางตา โดยอ้างว่าสะพานนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ จึงรอดจากการโจมตีทิ้งระเบิดมาได้ จากนั้นต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีให้เห็นถึงปัจจุบัน





รูปนี้เป็นรูปเก่าที่มายเมมาเที่ยวครั้งก่อนเช่นกันค่ะ


AT ONE กาดกองต้า ร้านนี้เป็นร้านที่มายเมแนะนำให้ไปลิ้มลอง (มายเมไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ถูกใจจริงจึงอยากรีวิว)  มายเมคิดว่าชาเขียวที่นี่อร่อยมาก มากๆจริงๆ และยังมีพวกขนมหวานต่างๆอีกด้วย ร้านนี้มีระเบียงชั้นสองให้ขึ้นไปนั่งอีกด้วย ไปดูวิวถนนคนเดินตอนกลางคืน ราคาก็เอื้อมถึง ไม่แพงเกินไป เจ้าของร้านก็ใจดี




กินเล่นกินจริง เป็นอีกร้านหนึ่งที่มายเมไปนั่งรอเวลาเพื่อจะไปเดินเล่นถนนคนเดิน เป็นร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ในถนนคนเดินกาดกองต้า การบริการของเจ้าของร้านดีมาก สุภาพและเป็นมิตร เมนูในร้านมีทั้งของหวาน ของคาว ตั้งแต่กาแฟ น้ำหวาน เค้ก รวมไปถึงอาหารจานเดียวอีกด้วย



ร้าน 989 Cafe' Dessert & Drink เป็นคาเฟ่เล็กๆที่กาดกองต้า มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน ขนมปังปิ้ง บิงซู รสชาติพอใช้ได้ มายเมคิดว่าอร่อยถูกปากมายเมนะ แต่เพื่อนมายเมบอกว่า แปลกๆ แบบนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคลด้วยเนอะ การบริการก็ดีเยี่ยม ถือว่าโอเคเลยล่ะ







ร้านขนมจีนชื่อดัง ร้านขนมจีนป้าบุญศรี เป็นร้านอาหารเหนือ มีทั้งน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ข้าวกั้นจิ้น(ข้าวเงี้ยว) ขนมหวานต่างๆ ราคาไม่แพงเลย ร้านอยู่ข้างสะพานรัษฎาภิเศก ตรงข้ามกับร้าน AT ONE กาดกองต้า




ตรงนี้เป็นบริเวณข้างๆร้านที่ติดกับสะพานรัษฎาภิเศก เป็นทางลงลอดใต้สะพาน จะมีภาพวาดศิลปะบนกำแพง สามารถไปถ่ายรูปเล่นกันได้ค่ะ มายเมหารูปตัวเองไม่เจอ หายไปไหนไม่รู้ ยืมเพื่อนมาเป็นนางแบบก่อน(ขออนุญาตเน้อ 555)




ต่อที่ comment เน้อ
v
v
v
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่