[CR] Slow Life in Lampang หนีความวุ่นวายของเมืองกรุง ไปใช้ชีวิตเนิบช้าที่ลำปาง PART 1

ลำปาง มีอะไรดี? เวลาพูดถึงลำปาง สิ่งแรกๆที่คนมักจะนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นวัดพระธาตุลำปางหลวง รถม้า และข้าวแต๋นน้ำแตงโม ใครๆก็บอกว่า ลำปางน่าไปนะ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ต้องเก็บให้ครบถ้าไปเที่ยวภาคเหนือ ประมาณว่าถ้าไปเชียงใหม่ ก็ควรจะแวะไปจังหวัดรอบข้างอย่างเชียงราย-ลำพูน-ลำปางซะหน่อย แต่ไม่ค่อยเห็นใครยกลำปางขึ้นมาเป็นเมืองไฮไลท์สักเท่าไหร่ ส่วนตัวรู้สึกว่าลำปางเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับ “อยู่” มากกว่า “เที่ยว” ถ้ากำลังเบื่อชีวิตในเมืองกรุง เบื่อความวุ่นวาย เบื่อรถติด อยากพักเบรกสักอาทิตย์ ไปใช้ชีวิตเนิบช้า ไม่เร่งรีบ ลำปางเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปอยู่ลำปางนาน 7 วัน 7 คืน กิจวัตรประจำวันคือตื่นแต่เช้า ไปตลาดซื้อผลไม้ สายๆออกไปเที่ยว บ่ายๆกลับมานอน ตกเย็นไปเดินเล่นดูเมือง ไม่ก็ไปวิ่งในสวน พลบค่ำนั่งชิวหรือไม่ก็อ่านหนังสือ เรียกว่าสโลว์ไลฟ์จริงๆค่ะ คือมาเพื่อพักผ่อน ไม่มีวันไหนรีบเลย เราอ่านพันทิปมานาน วันนี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง เป็นครั้งแรกเลยที่มาเขียนรีวิวท่องเที่ยวบนพันทิป ขาดตกบกพร่องตรงไหนก็ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ยิ้ม

ไปยังไง?

เราเลือกเดินทางกับสายการบิน Bangkok Airways ค่ะ ครั้งนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์อะไรจากสายการบินนี้นะคะ 555 คือเลือกเองเพราะส่วนตัวเคยบินกับสายการบินนี้แล้วตอนไปสมุย ประทับใจตั้งแต่ตอนนั้น ครั้งนี้ก็ยังคงบริการทุกระดับประทับใจเหมือนเดิมค่ะ ราคาสูงกว่าบิน Nok Air แต่เราว่าคุ้มนะคะ ขั้นตอนการเช็คอินง่ายและสะดวกมาก ยิ่งถ้าเช็คอินออนไลน์ก็ยิ่งเร็ว แค่เดินมาปริ้น boarding pass จาก kiosk แล้วก็ไป luggage drop ประมาณ 15 นาทีก็เรียบร้อยค่ะ

ก่อนขึ้นเครื่องก็เดินเล่นดูของหรือไปนั่งพักใน Boutique Lounge ก็ได้ สำหรับ Blue Ribbon Lounge จะสงวนไว้ให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและผู้มีสิทธิพิเศษอื่นๆ ความแตกต่างก็คือ Blue Ribbon Lounge จะหรูกว่า อาหารอลังการกว่า (จากที่เห็นในรีวิว) แต่ Boutique Lounge ก็ดีมากนะคะ ที่นั่งเยอะ นั่งสบาย อาหารก็โอเคเลยค่ะ (แน่นอนว่ามีข้าวต้มมัด) ที่ชอบเป็นพิเศษคือมี Free Wifi และมีปลั๊กให้นั่งชาร์ตแบตได้ด้วย

การเดินทางกินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเครื่องบินใบพัด ขาไปรู้สึกว่าเครื่องจะเก่าสักหน่อยค่ะ เสียงดังมาก คุยกันไม่ได้ยิน 555 แต่ขากลับได้เครื่องใหม่ค่ะ เงียบกว่าเยอะ ค่าตั๋วไปกลับตกคนละประมาณสี่พันกว่าบาทค่ะ

พอถึงลำปางก็มีรถเล็กๆมารับจากตัวเครื่องไปที่อาคารผู้โดยสาร น่ารักดีค่ะ

สำหรับการเดินทางในตัวเมืองลำปางและจังหวัดใกล้เคียง แนะนำให้เช่ารถขับค่ะ ถนนอยู่ในสภาพดีมาก ขับไม่ลำบากเลยค่ะ

พักที่ไหนดี?
เนื่องจากครั้งนี้โชคดีได้ไปนอนบ้านญาติของแฟนก็เลยไม่ต้องคิดมากเรื่องที่พัก แต่ที่พักดีๆราคาไม่แพงหาไม่ยากเลยค่ะที่ลำปาง ถ้าออกแนว budget-friendly ก็จะมี B2 กับ Hop Inn ที่น่าสนใจค่ะ ใหม่ สะอาด ราคาประหยัด แต่ถ้าอยากนอนที่พักเก๋ๆ ราคาไม่แพง ลองดู “บ้านคำออน” ค่ะ เป็นบ้านไม้ อยู่ในขุมชนท่ามะโอ ตัวบ้านยังอยู่ในสภาพดี การออกแบบตกแต่งสวยค่ะ มินิมัลแบบล้านนา ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปลองนอนที่นี้ดูค่ะ

ไปเที่ยวไหนดี?

อย่างที่บอก ทริปนี้คือชิวมาก วันๆก็คือไปตลาด ไปเที่ยว ไปเดินเล่นดูเมือง ไม่ก็ไปวิ่งในสวนหรือไม่ก็อ่านหนังสือ ที่เที่ยวอาจจะไม่เยอะมาก แต่ทุกที่เหมาะแก่การใช้เวลานั่งทอดอารมณ์ค่ะ

ไปดูรถไฟ
เริ่มจาก สถานีรถไฟนครลำปาง สถานีรถไฟเงียบๆ คนไม่พลุกพล่าน ตัวสถานียังเป็นสถานีแบบโบราณ ที่นี้มีหัวรถจักรกับตู้เคบินจัดแสดงให้คนเข้าไปชมได้
ด้านนอกก็ดูธรรมดาตามมาตรฐานรถไฟ แต่ด้านในนี่สิเราชอบมาก เพราะทุกอย่างเป็นสี Mint ดูแล้วเย็น สบายตามากๆ ก็เลยได้ถ่ายรูปเล่นอยู่ในตู้รถไฟสักพักนึง

ไปตลาด
ต่อมาก็ไปตลาดค่ะ ลำปางมีตลาดเยอะมากกกกกก แต่ที่เราชอบเป็นพิเศษคือตลาดอัศวิน ตอนเช้าๆจะมีผัก ผลไม้ น้ำพริก ข้าวเหนียวนึ่ง ไส้อั่ว และของกินอีกสารพัดมาขาย น่าสนใจทั้งนั้นค่ะ เราเป็นสายกินผัก ผลไม้นี่แฮปปี้มากกกกก อยู่ลำปาง 7 วันกินผลไม้ไปเป็นตัน (เว่อร์ไป) ที่สำคัญคือผลไม้ที่นี้นอกจากจะใหม่สด ปลอดสารพิษ แล้วยังราคาถูกมากกกก สัปปะรดลูกละ 10 บาทงี้ มะละกอลูกละ 30 บาทงี้ มีอะโวคาโดด้วยนะ อะโวคาโดชาวดอย 3 ลูก 80 บาท อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือเมนูข้าวนึ่งค่ะ ที่นี้มีทั้งข้าวเหนียวนึ่งซึ่งจะเป็นข้าวขาว และข้าวก่ำ หรือข้าวเหนียวไรซ์เบอรี่นึ่งนั่นเอง สายสุขภาพมาอยู่ลำปางได้ค่ะ ชีวิตดี กระเป๋าไม่ฉีกด้วย

ส่วนแฟนเราเป็นสายกินเนื้อ ก็จะตามล่าไส้อั่วกับหมูทอด หรือที่เค้าเรียกกันว่า "ชิ้นทอด" ตามตลาด สีชิ้นทอดที่นี้โหดมากค่ะ แต่วางอยู่บนใบตองแล้วก็ดูสวยดี

ไปวัด

ลำปางวัดเยอะมากค่ะ แบบมากๆ ต้องมีวัดอย่างน้อย 1 แห่งในถนนทุกเส้น ได้ไปมาหลายวัดเหมือนกันนะคะ แต่จะขอยกมาแต่วัดที่ชอบเป็นพิเศษละกันเนอะ เริ่มจากวัดไชยมงคลหรือที่ชาวลำปางเรียกว่าวัดจองคา ตอนแรก วัดนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์วัดที่อยากไป เพราะเสิร์ชละไม่ค่อยขึ้นมา แต่สะดุดตากับสถาปัตยกรรมตอนขับรถผ่าน เลยขอให้แฟนจอดรถละลงเดินไปดู
โครงสร้างสวยมากค่ะ โครงเป็นปูน เสริมด้วยเรือนไม้ การออกแบบเป็นการผสมผสานทั้งศิลปะล้านนา พม่า และยุโรป เสียดายที่วัดอยู่ในสภาพค่อนข้างจะทรุดโทรม เงียบเหงา แต่มีป้ายติดว่าได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมอนุรักษณ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามด้วยนะ อยากให้มีคนมา renovate จัง คงจะสวยมาก เพราะของเดิมดีอยู่แล้ว

อีกวัดที่ประทับใจก็คือวัดพระแก้วดอนเต้า เป็นวัดเงียบๆ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สวยเรียบง่ายตามสไตล์วัดล้านนาค่ะ สะอาดดีด้วย
ประทับใจวิหารที่นี้คะ หลังคาไม้สวยมาก

แน่นอนว่ามาลำปางทั้งทีก็คงจะพลาดวัดประจำจังหวัดอย่าง วัดพระธาตุลำปางหลวง ไม่ได้ สวยสมคำร่ำลือค่ะ เผอิญวันที่ไปเป็นวันเดียวกันกับวันก่อนวันเข้าพรรษา เลยเจอกองทัพเด็กจากโรงเรียนใกล้ๆวัด เด็กๆเดินมาเวียนเทียน ทำบุญเนื่องในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา น่ารักดีนะคะ

ไปกาดกองต้า
สถานที่ที่เราชอบที่สุดในลำปางก็คือกาดกองต้าค่ะ แต่ไม่ใช่กาดกองต้าตอนกลางคืนนะคะ เราชอบกาดกองต้าตอนกลางวัน โดยเฉพาะช่วงเย็นประมาณ 4-5 โมง ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถนนจะเงียบ แดดจะต่ำ เหมาะแก่การเดินสำรวจตึกเก่าๆ อาคารขนมปังขิงและบ้านไม้โบราณที่มีอยู่หนาแน่นบนถนนเส้นนี้ ชื่นชมคนลำปางจริงๆค่ะที่ร่วมแรงร่วมใจกันบูรณะฟื้นฟูอาคารเก่า บ้านเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ใครชอบสถาปัตยกรรม ชอบดูตึก เดินถนนเส้นนี้ได้ไม่เบื่อแน่นอนค่ะ


เจ้าของกระทู้ชอบอาคารแถวนี้เป็นพิเศษค่ะ เพราะผนังอาคารเก่า บางส่วนก็หลุดร่อน เห็นลายน้ำ เห็นความสึกกร่อน เป็นลวดลาย เป็น texture ที่มาตามกาลเวลา ดูแล้วมีสเน่ห์จริงๆนะคะ


แนะนำให้เริ่มเดินจาก เดอะพริ้ง คาเฟ่ หัวมุมถนนสวนดอกตัดกับถนนตลาดเก่า แล้วก็เดินยาวเลยค่ะ แวะชมหอศิลป์ลำปาง เดินผ่านบ้านคมสันแวะพักดื่มชา กาแฟที่บ้านหม่องโง่ยซิน ดูแผนที่บ้านโบราณในกาดกองต้า ส่งโปสการ์ด และเดินเรื่อยไปจนสุดถนนจบที่สะพานรัษฎา ถ้ากะเวลาดีๆ ไปถึงสะพานตอนพระอาทิตย์ตกดินได้ก็จะโรแมนติกมากๆค่ะ


คืนวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ถนนกาดกองต้าจะกลายเป็นถนนคนเดิน มีคนท้องถิ่นมาขายของสารพัดสิ่ง แต่ส่วนมากจะเป็นผลไม้ ของกินเมนูพื้นถิ่น อาทิ ชิ้นทอด ยำไข่น้ำแร่ ไข่ป่าน และน้ำปั่น ถนนคนเดินที่นี้มีเอกลักษณ์ตรงที่ยังมีความเป็นท้องถิ่นอยู่มาก ไม่ได้กลายเป็นถนนคนเดินโดยคนกรุงเทพฯ เพื่อคนกรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าของกระทู้ชอบมากค่ะ ยิ้ม

ไปกินข้าวซอย

แอ่วเหนือทั้งที จะพลาดอาหารเมนูคนเหนืออย่างข้าวซอยได้ยังไง ก่อนมาลำปาง แฟนเจ้าของกระทู้โม้ไว้หนักมากค่ะ ว่าข้าวซอยลำปางอร่อยมาก แต่ไม่ใช่ข้าวซอยที่ไหนนะ ต้อง "ข้าวซอยป้าบุญ" เท่านั้น เราก็เชื่อค่ะว่าอร่อย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะอร่อยอะไรขนาดนั้น เพราะตัวเองไม่ได้ชอบกินข้าวซอยเป็นทุนเดิม เพราะรู้สึกมันเลี้ยน แต่พอได้ไปกินเองแล้วถึงกับอึ้งค่ะ คือมันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก กลมกล่อมกำลังดี ไม่เลี่ยนเลยค่ะ เราสั่งข้าวซอยเปล่าๆมากิน ส่วนแฟนกินข้าวซอยเนื้อ กินกันเรียบในเวลาไม่ถึง 5 นาที อร่อยโฮมเมด ราคาเป็นกันเอง (รวมสองคน จ่ายไป 60 บาทค่ะ ข้าวซอยเปล่า 20 ข้าวซอยเนื้อ 30 ถั่วลิสงนึ่ง 10 บาท) ถูกใจจริงๆค่ะ


เขียนไปเขียนมาชักจะยาวเกินความคาดหมาย 555 นั้นขอจบรีวิวพาเที่ยวลำปาง part 1 ไว้แค่นี้ ถ้าใครสนใจก็ไปตามอ่าน part 2 ได้นะคะ เดี๋ยวจะเอาลิ๊งค์มาแปะไว้ part 2 จะพาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ไปลำพูน ไปบ้านเสานักแถมแวะกินกาแฟกันสักหน่อยค่ะ

สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน แวะไปชม Instagram ของเราได้นะคะ
Instagram: https://www.instagram.com/vivawaratah/

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณที่แวะมาอ่านรีวิวของเรานะคะ ใครมีคำแนะนำหรือมีประสบการณ์เที่ยวลำปางก็มาเล่าสู่กันฟังได้เลยค่ะ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   รีวิวเที่ยวไทย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่