เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่
นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดบ้านพักในจ.สงขลา ให้นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รับสมัครสมาชิกพรรคและปราศรัยว่าหวัง
จะล้มนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า
– เริ่มจาก “ส.ส.ถาวร” เปิดบ้านรับ “เทือก”
– ส่อผิดระเบียบพรรค โทษถึงไล่ออก
– เทือกล้ำเส้น หรือ “คนในบ้าน” เป็นใจ?
– “หัวหน้ามาร์ค มาแล้ว! สั่งสอบ ผิดหรือไม่?”
– ถาวร งง! ผิดตรงไหน เปิดบ้านรับ “คนต่างพรรค?”
ขณะที่นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังไม่ได้รับแจ้งจากพรรคว่า
จะดำเนินการสอบสวนตนจริงหรือไม่ ถ้าจะสอบสวนจริง ตนยินดีเข้าสู่กระบวนการ และจะไม่ร้องขอความช่วย
เหลือ และถ้าผลการตัดสินของพรรคออกมาว่าตนทำผิด ก็พร้อมรับโทษ
อย่างไรก็ตาม ตนและนายสุเทพเป็นเพื่อนมานานกว่า 20 ปี ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณและรัฐบาลทรราชกว่า 240 วัน
รวมถึงถูกฟ้องคดีอื่นๆ แม้ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ไปร่วมพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่อุดมการณ์
เดิมและความเป็นเพื่อนยังมีอยู่
เมื่อเพื่อนเดินทางมา ตนเชิญนายสุเทพมาใช้บ้านของตนเป็นสถานที่พบปะประชาชนในจ.สงขลา ในฐานะคนรักกัน
และนี่จะทำให้คนประชาธิปัตย์มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น คนของพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะได้รู้จักคนประชาธิปัตย์ดี
สิ่งที่ตนทำจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่างไรก็ตาขอยืนยันว่าตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
– ควรขอบคุณลุงกำนัน ปชป.ต้องประเมินตนเอง
นายถาวร กล่าวอีกว่า ส่วนการที่นายสุเทพพูดถึงนายศิริโชคนั้น เขาระบุชัดว่าจะแข่งขันกับนายศิริโชคซึ่งเป็นเขตที่อ่อน
ที่สุด และไม่ได้มีเพียงพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ยังมีอีกหลายพรรคที่หวังว่าจะเจาะพื้นที่นี่ด้วย ตนจึงไม่อยากให้
พรรคเข้าใจผิดหรือมองในแง่ร้ายแต่พรรคควรขอบคุณนายสุเทพที่ได้เป็นกระจกสะท้อนว่าพื้นที่เขตใดบ้างที่อ่อนหรือ
เข้มแข็ง เพื่อทำให้พรรคได้รู้ตัวว่ามีเขตใดที่ควรปรับปรุงให้พื้นที่เขตนั้นเข้มแข็งมากขึ้น
ส่วนการเปิดบ้านให้นายสุเทพรับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น ที่จริงแล้ว พรรคการเมืองและนักการเมือง
ขณะนี้เปรียบเหมือนสินค้า ใครมีสินค้าดี นำมาวางขาย ก็เป็นสิทธิของคนซื้อที่จะเลือกซื้อ คือประชาชน ขณะนี้ในจ.สงขลา
มีพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประมาณ 10 พรรค ดังนั้นถ้ประชาชนเห็นว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหนดี
ก็เหมือนเห็นสินค้าดี มีสิทธิเลือกซื้อได้
ศึกสายเลือด! ‘ประชาธิปัตย์-ลุงกำนัน’ ซัดกันนัว จ่อขับ สาย กปปส.พ้นพรรค! ....ข่าวสดออนไลน์ ../sao..เหลือ..noi
นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดบ้านพักในจ.สงขลา ให้นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รับสมัครสมาชิกพรรคและปราศรัยว่าหวัง
จะล้มนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า
– เริ่มจาก “ส.ส.ถาวร” เปิดบ้านรับ “เทือก”
– ส่อผิดระเบียบพรรค โทษถึงไล่ออก
– เทือกล้ำเส้น หรือ “คนในบ้าน” เป็นใจ?
– “หัวหน้ามาร์ค มาแล้ว! สั่งสอบ ผิดหรือไม่?”
– ถาวร งง! ผิดตรงไหน เปิดบ้านรับ “คนต่างพรรค?”
ขณะที่นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังไม่ได้รับแจ้งจากพรรคว่า
จะดำเนินการสอบสวนตนจริงหรือไม่ ถ้าจะสอบสวนจริง ตนยินดีเข้าสู่กระบวนการ และจะไม่ร้องขอความช่วย
เหลือ และถ้าผลการตัดสินของพรรคออกมาว่าตนทำผิด ก็พร้อมรับโทษ
อย่างไรก็ตาม ตนและนายสุเทพเป็นเพื่อนมานานกว่า 20 ปี ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณและรัฐบาลทรราชกว่า 240 วัน
รวมถึงถูกฟ้องคดีอื่นๆ แม้ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ไปร่วมพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่อุดมการณ์
เดิมและความเป็นเพื่อนยังมีอยู่
เมื่อเพื่อนเดินทางมา ตนเชิญนายสุเทพมาใช้บ้านของตนเป็นสถานที่พบปะประชาชนในจ.สงขลา ในฐานะคนรักกัน
และนี่จะทำให้คนประชาธิปัตย์มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น คนของพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะได้รู้จักคนประชาธิปัตย์ดี
สิ่งที่ตนทำจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่างไรก็ตาขอยืนยันว่าตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
– ควรขอบคุณลุงกำนัน ปชป.ต้องประเมินตนเอง
นายถาวร กล่าวอีกว่า ส่วนการที่นายสุเทพพูดถึงนายศิริโชคนั้น เขาระบุชัดว่าจะแข่งขันกับนายศิริโชคซึ่งเป็นเขตที่อ่อน
ที่สุด และไม่ได้มีเพียงพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ยังมีอีกหลายพรรคที่หวังว่าจะเจาะพื้นที่นี่ด้วย ตนจึงไม่อยากให้
พรรคเข้าใจผิดหรือมองในแง่ร้ายแต่พรรคควรขอบคุณนายสุเทพที่ได้เป็นกระจกสะท้อนว่าพื้นที่เขตใดบ้างที่อ่อนหรือ
เข้มแข็ง เพื่อทำให้พรรคได้รู้ตัวว่ามีเขตใดที่ควรปรับปรุงให้พื้นที่เขตนั้นเข้มแข็งมากขึ้น
ส่วนการเปิดบ้านให้นายสุเทพรับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น ที่จริงแล้ว พรรคการเมืองและนักการเมือง
ขณะนี้เปรียบเหมือนสินค้า ใครมีสินค้าดี นำมาวางขาย ก็เป็นสิทธิของคนซื้อที่จะเลือกซื้อ คือประชาชน ขณะนี้ในจ.สงขลา
มีพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประมาณ 10 พรรค ดังนั้นถ้ประชาชนเห็นว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหนดี
ก็เหมือนเห็นสินค้าดี มีสิทธิเลือกซื้อได้