สวัสดีค่าาาา...
กลับมาอีกครั้งพร้อมประสบการณ์โป่งแยงแสนสะท้าน ไม่มีใครป้ายยา ตูมาของตูเอง ที่สะท้านเพราะ มีทั้งฝน ทั้งหนาว เรียกได้ว่าหนาวดึ๋งส์ ตามที่ผู้จัดเค้าโฆษณาชวนเชื่อไว้เลยค่ะ หนาวมากตรงฝน ทางลื่น การวิ่งขึ้นคือไหลลง เห็นรุ่นใหญ่เค้าลื่นไหลคารวะพื้นดินพื้นโคลนแบบสนุกสนาน ส่วนเราก็เจียมตัวลงระยะหวังว่าจะไม่เหนื่อย 23กิโล พอได้เสพบรรยากาศ
เริ่มจากตื่นตั้งแต่ตี2 จากที้พักแถวๆเมญ่า มาขึ้นรถตู้ที่จองไว้ รถออกตี3 ถึงที่งานก็ประมาณเกือบๆตี4 ที่รีบมาไม่ใช่อะไร อยากมีดูเค้าปล่อยตัวระยะ 100กิโล อยากดูหน้าเหล่าผู้กล้า จิตใจเหี้ยมโหดห้าวเป้งทั้งหลาย ดูแล้วก็โคตรฮึกเหิมเลยค่ะ อารมณ์เหมือนกองเชียร์ส่งนักรบไปกู้ชาติ
เอาล่ะๆ อย่าไปฮึกเหิมตามเค้า เจียมสังขารตัวเองด้วย อายุก็ปูนนี้แล้ว และที่สำคัญรอยไหม้ดำจากเทรลซาปายังไม่จางหายไปเลยจ่ะ
เทรลระยะ23กิโล ก็นะหน่อมแน้มกรุบกริบ วิ่งขึ้นม่อนล่อง (จากประสบการณ์ปีก่อนที่ผ่าน30โลมาแล้ว พอจำได้ลางๆแบบคนสมองเลอะเลือนว่ามีเนินเดียว
เวลา 6:30 น ก็เริ่มเช็คอินเข้าจุดปล่อยตัว ฝนก็พรำๆ เดี๋ยวพรำหนัก พรำเบา สลับกันเปนช่วงๆ อากาศที่หนาวอยู่แล้ว ก็หนาวเพิ่มขึ้นไปอี๊ก แต่ๆๆ...แต่ช้าก่อน คนที่ยืนปล่อยตัวข้างๆเรานั้น ทำให้อุณหภุมิร้อนขึ้นทันที โป่งแยงต้องลุกเป็นไฟเมื่อหันไปเห็นพระเอกคนนี้...
งุ้ยยย...หล่อล่ำจนลืมอากาศหนาวไปเลยค่ะ จนได้เวลาปล่อยตัว เราก็ปลบ่อยพระเอกให้จากเราไปในที่ที่เค้าควรไปค่ะ ส่วนเราก็ต้วมเตี้ยมๆวิ่งไปเรื่อยๆ 2กิโลแรกคือวิ่งลงเนินสวนพฤกษศาสตร์ฯแม่ริม วิ่งข้ามถนนไปขึ้นเนินผ่าน รร.โบทานิค แล้วก็วิ่งทะลุเลยเถิดเข้าป่าไปตามระยะใครระยะมัน เรื่องทางนี่ไม่ต้องห่วงว่าจะรกนะคะ เพราะนักวิ่ง166,100,45 ได้แพ่วถางทางไว้ให้หมดแล้ว ทางงี้เตียนเชียวเหลือไว้แต่ความเละของดินโคลน555
ภาพที่ถ่ายมาก็มีเฉพาะตรงที่ทางดีๆนะคะ ทางเละๆเราต้องเอาตัวให้รอดเลยไม่ได้ถ่ายมาอวดค่ะ
วิ่งๆเดินๆเนินแอบนรก ลื่นๆเละๆบ้าง ทางปูนบ้าง ไปจนถึงระยะ10กิโล ก็เห็น ณเดชน์วิ่งสวนลงมา วิ่งอย่างเร็ว ใจก็ได้แต่แอบคิดว่า..เมื่อไหร่จะได้วิ่งลงมั่งว่ะ จิไม่ไหวแล้วนะเนี่ย ไม่น่าไปเดินเล่นเส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปานเมื่อวานเล้ย!! ตัดกำลังตัวเองชัดๆ นี่ตูโง่หรือบ้ากันแน่ไปเดินเล่นสันเขาอินทนนท์3กิโลก่อนวิ่งแค่วันเดียว บ้าบอที่สุด (นี่คือด่าตัวเองไประหว่างทางไต่เนิน 555+)
จุดกลับตัวอยู่ที่ม่อนล่อง ที่ระยะ 11.2กิโล โอ้โห นี่มันสวรรค์ชัดๆ มีไข่พะโล้ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ขนมปี๊บ กล้วย ส้ม แตงโม สเปรย์ไล่ตะคริว ครบครันมากกกก แถมมีกาแฟสดให้จิบด้วย สวรรค์ชัดๆ
อย่าเพลินนานไปค่ะ หยุดชื่นชมธรรมชาติได้แล้ว พยากรณ์อากาศที่เช็คมาท่านว่าฝนจะเท ฟ้าจะรั่วตอนเที่ยงตรง คิดได้ดังนั้นก็รีบไปค่ะ พลังงานเต็ม น้ำพร้อม ขนมพร้อม ตอนวิ่งลงนี่สนุกมาก ร่าเริงเบอร์สุด ต่างกันกับขาขึ้นราวฟ้ากับเหว วิ่งจ๊อกๆไปเรื่อยๆจนถึงโบทานิค ทีนี้ละ 2กิโลสุดท้ายที่ต้องไต่เนินสวนพฤกษฯขึ้นไปให้ถึงเรื่อนกระจกจุดเส้นชัย
"ทางเดินช่างแสนยาวไกล..." ใช่ค่ะ เราเดิน555 เดินนับเสาข้างทางทุกต้น พิจารณาพื้นไหล่ถนนที่ชุ่มไปด้วยมอส แล้วถ้าเดินไม่ดีมีสไลด์ด้วย เดินเจริญสติ ระลึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว ปีหน้าไม่มาแล้วนะโป่งแยง เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ.... (จงเติมคำในช่องว่าง) 555+
พีคสุดก็ตอนจะถึงเส้นชัยที่เราต้องวิ่งขึ้นบันได ขาก็จะยกไม่ขึ้นละ เหล่าสตาฟและช่างภาพก็ตะโกนเชียร์ให้รีบขึ้นมา ไม่ต้องเขิล 555 ไม่ได้เขินเว้ย ขามันสั้นและมันทั้งสั่นและเปลี้ย!
เห้อ...จบไปอีกงาน ปิดซีซันเทรลที่โป่งแยงไปด้วยเวลา 4.47ชม. ขนมอร่อย เหรียญสวย ได้ดอกไม้กลับบ้าน พร้อมเสื้อฟินิชเชอร์
โป่งแยงแก้วตา พี่ลาแล้ว
วาสนาถ้าไม่แคล้ว พี่จะมาแอ่วใหม่
จะลองระยะ45 ให้หายคาใจ
จักได้คลานกลับบ้านไปให้สมอุรา
#ผู้เสพติดความเจ็บปวด
#เอะอะก็หาเรื่องเข้าป่าตลอด
ขอบคุณพื้นพันทิปที่ให้เราได้เก็บความทรงจำไว้เป็นตัวหนังสือ
ขอบคุณเพิ่อนๆ ผู้ที่หลงเข้ามา และสละเวลาอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ป้าน้องไงจะใครล่ะ!
หนาวดึ๋งส์ที่โป่งแยง เทรลกรุบกริบ23กิโล โม้ได้เปนวันๆ #PYT2018
กลับมาอีกครั้งพร้อมประสบการณ์โป่งแยงแสนสะท้าน ไม่มีใครป้ายยา ตูมาของตูเอง ที่สะท้านเพราะ มีทั้งฝน ทั้งหนาว เรียกได้ว่าหนาวดึ๋งส์ ตามที่ผู้จัดเค้าโฆษณาชวนเชื่อไว้เลยค่ะ หนาวมากตรงฝน ทางลื่น การวิ่งขึ้นคือไหลลง เห็นรุ่นใหญ่เค้าลื่นไหลคารวะพื้นดินพื้นโคลนแบบสนุกสนาน ส่วนเราก็เจียมตัวลงระยะหวังว่าจะไม่เหนื่อย 23กิโล พอได้เสพบรรยากาศ
เริ่มจากตื่นตั้งแต่ตี2 จากที้พักแถวๆเมญ่า มาขึ้นรถตู้ที่จองไว้ รถออกตี3 ถึงที่งานก็ประมาณเกือบๆตี4 ที่รีบมาไม่ใช่อะไร อยากมีดูเค้าปล่อยตัวระยะ 100กิโล อยากดูหน้าเหล่าผู้กล้า จิตใจเหี้ยมโหดห้าวเป้งทั้งหลาย ดูแล้วก็โคตรฮึกเหิมเลยค่ะ อารมณ์เหมือนกองเชียร์ส่งนักรบไปกู้ชาติ
เอาล่ะๆ อย่าไปฮึกเหิมตามเค้า เจียมสังขารตัวเองด้วย อายุก็ปูนนี้แล้ว และที่สำคัญรอยไหม้ดำจากเทรลซาปายังไม่จางหายไปเลยจ่ะ
เทรลระยะ23กิโล ก็นะหน่อมแน้มกรุบกริบ วิ่งขึ้นม่อนล่อง (จากประสบการณ์ปีก่อนที่ผ่าน30โลมาแล้ว พอจำได้ลางๆแบบคนสมองเลอะเลือนว่ามีเนินเดียว
เวลา 6:30 น ก็เริ่มเช็คอินเข้าจุดปล่อยตัว ฝนก็พรำๆ เดี๋ยวพรำหนัก พรำเบา สลับกันเปนช่วงๆ อากาศที่หนาวอยู่แล้ว ก็หนาวเพิ่มขึ้นไปอี๊ก แต่ๆๆ...แต่ช้าก่อน คนที่ยืนปล่อยตัวข้างๆเรานั้น ทำให้อุณหภุมิร้อนขึ้นทันที โป่งแยงต้องลุกเป็นไฟเมื่อหันไปเห็นพระเอกคนนี้...
งุ้ยยย...หล่อล่ำจนลืมอากาศหนาวไปเลยค่ะ จนได้เวลาปล่อยตัว เราก็ปลบ่อยพระเอกให้จากเราไปในที่ที่เค้าควรไปค่ะ ส่วนเราก็ต้วมเตี้ยมๆวิ่งไปเรื่อยๆ 2กิโลแรกคือวิ่งลงเนินสวนพฤกษศาสตร์ฯแม่ริม วิ่งข้ามถนนไปขึ้นเนินผ่าน รร.โบทานิค แล้วก็วิ่งทะลุเลยเถิดเข้าป่าไปตามระยะใครระยะมัน เรื่องทางนี่ไม่ต้องห่วงว่าจะรกนะคะ เพราะนักวิ่ง166,100,45 ได้แพ่วถางทางไว้ให้หมดแล้ว ทางงี้เตียนเชียวเหลือไว้แต่ความเละของดินโคลน555
ภาพที่ถ่ายมาก็มีเฉพาะตรงที่ทางดีๆนะคะ ทางเละๆเราต้องเอาตัวให้รอดเลยไม่ได้ถ่ายมาอวดค่ะ
วิ่งๆเดินๆเนินแอบนรก ลื่นๆเละๆบ้าง ทางปูนบ้าง ไปจนถึงระยะ10กิโล ก็เห็น ณเดชน์วิ่งสวนลงมา วิ่งอย่างเร็ว ใจก็ได้แต่แอบคิดว่า..เมื่อไหร่จะได้วิ่งลงมั่งว่ะ จิไม่ไหวแล้วนะเนี่ย ไม่น่าไปเดินเล่นเส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปานเมื่อวานเล้ย!! ตัดกำลังตัวเองชัดๆ นี่ตูโง่หรือบ้ากันแน่ไปเดินเล่นสันเขาอินทนนท์3กิโลก่อนวิ่งแค่วันเดียว บ้าบอที่สุด (นี่คือด่าตัวเองไประหว่างทางไต่เนิน 555+)
จุดกลับตัวอยู่ที่ม่อนล่อง ที่ระยะ 11.2กิโล โอ้โห นี่มันสวรรค์ชัดๆ มีไข่พะโล้ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ขนมปี๊บ กล้วย ส้ม แตงโม สเปรย์ไล่ตะคริว ครบครันมากกกก แถมมีกาแฟสดให้จิบด้วย สวรรค์ชัดๆ
อย่าเพลินนานไปค่ะ หยุดชื่นชมธรรมชาติได้แล้ว พยากรณ์อากาศที่เช็คมาท่านว่าฝนจะเท ฟ้าจะรั่วตอนเที่ยงตรง คิดได้ดังนั้นก็รีบไปค่ะ พลังงานเต็ม น้ำพร้อม ขนมพร้อม ตอนวิ่งลงนี่สนุกมาก ร่าเริงเบอร์สุด ต่างกันกับขาขึ้นราวฟ้ากับเหว วิ่งจ๊อกๆไปเรื่อยๆจนถึงโบทานิค ทีนี้ละ 2กิโลสุดท้ายที่ต้องไต่เนินสวนพฤกษฯขึ้นไปให้ถึงเรื่อนกระจกจุดเส้นชัย
"ทางเดินช่างแสนยาวไกล..." ใช่ค่ะ เราเดิน555 เดินนับเสาข้างทางทุกต้น พิจารณาพื้นไหล่ถนนที่ชุ่มไปด้วยมอส แล้วถ้าเดินไม่ดีมีสไลด์ด้วย เดินเจริญสติ ระลึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว ปีหน้าไม่มาแล้วนะโป่งแยง เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ.... (จงเติมคำในช่องว่าง) 555+
พีคสุดก็ตอนจะถึงเส้นชัยที่เราต้องวิ่งขึ้นบันได ขาก็จะยกไม่ขึ้นละ เหล่าสตาฟและช่างภาพก็ตะโกนเชียร์ให้รีบขึ้นมา ไม่ต้องเขิล 555 ไม่ได้เขินเว้ย ขามันสั้นและมันทั้งสั่นและเปลี้ย!
เห้อ...จบไปอีกงาน ปิดซีซันเทรลที่โป่งแยงไปด้วยเวลา 4.47ชม. ขนมอร่อย เหรียญสวย ได้ดอกไม้กลับบ้าน พร้อมเสื้อฟินิชเชอร์
โป่งแยงแก้วตา พี่ลาแล้ว
วาสนาถ้าไม่แคล้ว พี่จะมาแอ่วใหม่
จะลองระยะ45 ให้หายคาใจ
จักได้คลานกลับบ้านไปให้สมอุรา
#ผู้เสพติดความเจ็บปวด
#เอะอะก็หาเรื่องเข้าป่าตลอด
ขอบคุณพื้นพันทิปที่ให้เราได้เก็บความทรงจำไว้เป็นตัวหนังสือ
ขอบคุณเพิ่อนๆ ผู้ที่หลงเข้ามา และสละเวลาอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ป้าน้องไงจะใครล่ะ!