ผมควรไปพบจิตแพทย์มั้ยครับ

จขกท. อายุ 29 ปี ครับ เรียนจบ ป.ตรี สายวิศวะ ปัจจุบันไม่ได้ทำงานประจำแล้วครับ ว่างงานมา 2 เดือนครึ่งแล้ว สาเหตุที่ออกจากงานประจำมาก็เพราะว่า งานที่ทำไม่มีความก้าวหน้า อายุงานประมาณ 4 ปีกว่าๆ เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยดี กั๊กงานไม่ยอมเราช่วยทำ เคยขอให้ช่วยสอนงานก็ไม่สอน ขอรหัสผ่านเค้าไปศึกษาระบบงาน ก็ไม่ให้รหัส ก็ทำงานเท่าที่จะทำได้มาตลอดสี่ปี จนมาสองเดือนที่แล้วก็เลยตัดสินใจลาออกมาเพราะถ้าอยู่ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น บวกกับออฟฟิศย้ายไปตึกใหม่มีความยุ่งยาก เดินทางไม่สะดวกด้วย ระหว่างนี้ก็ทำงานขายของออนไลน์กับสอนพิเศษไปพลางๆ พอมีเงินมีกินใช้บ้าง มีเงินเก็บอยู่บ้าง รวมทั้งได้เงินช่วยเหลือกรณีลาออกจากงานของประกันสังคม ก็น่าจะพออยู่ได้สักระยะนึง แต่คาดการณ์ไม่น่าจะเกิน 6 เดือน ถ้าว่างงานอยู่ ระหว่างนี้เราก็หางานเรื่อยๆทุกวันนะครับ ทั้งเอกชนและราชการ ใจจริงอยากได้งานราชการไปเลย เพราะอายุก็เริ่มเยอะแล้ว ควรจะได้งานที่มั่นคงเสียที

แต่ระหว่างที่ว่างงานนี้เอง ทั้งพ่อและแม่ก็เหมือนจะไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ เพราะเราอยู่บ้านไม่ได้ออกทำงาน คนรอบตัวทั้งญาติ พ่อค้าแม่ค้า ญาติ ก็ถามว่าลูกชายไม่ทำมาหากินหรอ อยู่บ่อยครั้ง จนเกิดความกดดันในใจ เพราะพวกเค้าเองก็ไปพูดป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าลูกเรียนจบสูง คงจะได้งานทำเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้าน พอไม่ได้ดั่งใจ ก็มาทะเลาะกับเราเป็นประจำ รวมทั้งกดดันให้เราได้งานไวๆ โดยการหางานอะไรก็ได้มาให้เราทำ ไม่ว่าจะงานใช้แรงงานหรืองานอื่นตามเว็บ จนเราเองก็เกิดความรู้สึกว่า เราเองก็มีปัญญาและความสามารถที่จะหางานทำเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่เลย แล้วอีกอย่างงานที่พ่อแม่หามาให้ก็ไม่ค่อยจะตรงสาขาที่จบมา หรือไม่ก็วุฒิไม่ตรงกับที่ประกาศรับ แต่ก็ยังอุตส่าห์เอามาบอกโดยไม่อ่านรายละเอียดให้ชัดเจนเสียก่อนว่าสมัครได้มั้ย จนบางครั้งก็ทะเลาะกับพ่อแม่ จนทุกวันนี้ได้ยินเสียงพ่อแม่ทักก็เกิดอาการหลอนๆขึ้นมาเฉยๆว่า เอาอีกแล้วหรอ จะกดดันอะไรเราอีกนักหนา

อีกปัญหาก็คือว่า พ่อเราปัจจุบันอายุ 56 ปี มีนิสัยขี้หงุดหงิดง่าย มาจากครอบครัวที่แตกแยกปู่กับย่าเลิกกัน ตอนเด็กๆก็โดนปู่ด่าว่า ทุบตีบ่อยๆ ก็เลยมีนิสัยมั่นใจในตัวเองมาก ใครบอกเตือน หรือสอนอะไรก็ไม่สนใจจะฟัง เอาแต่ใจตัวเองเสมอ บางครั้งบอกเตือนให้เค้าอย่าทำอะไรที่ไม่ดี หรือแนะนำให้ทำอย่างนี้ถึงจะดี เค้าก็มักจะบอกเราว่า เมิงเป็นพ่อง gru หรอ อยู่ตลอด หรือบางทีพูดเหตุผลไปก็ไม่ฟัง พอเถียงเราไม่ได้ก็ด่าเรา ไอ้สึด ไอ้สึด ตลอด แล้วก็มาเจอกับแม่เราที่เป็นแม่หม้ายลูกติด ปัจจุบันแม่เราเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบมากมาย จนบางครั้งก็ไม่น่าจะใช้ได้หมด ถ้าสภาพชีวิตยังคงเป็นแบบนี้ หนี้ส่วนมากก็หมดไปกับการผ่อนรถให้พี่ชายลูกติด กับหนี้ครอบครัว ระหว่างที่พ่อเราไม่ทำมาหากินอยู่ 10 กว่าปี (ช่วงปี 2540-2551 พ่อไม่ได้ออกทำงาน ยึดมั่นจะทำแต่ธุรกิจส่วนตัว สุดท้ายไปไม่รอดก็ไม่หางานอื่นทำ) หนี้ก็เรื่อยพอกพูนมาเรื่อยๆ ล่าสุดพี่ชายต่างพ่อซื้อรถยนต์สามคัน คันแรกหลุดไป คันที่สองถูกขโมยยังผ่อนไม่หมด จนมาคันที่สามปัจจุบัน ซึ่งก็คือต้องผ่อนคันที่ถูกขโมยและคันที่ใช้อยู่ถึงสองคัน เหตุผลที่ต้องซื้อรถก็คือไปแต่งกับลูกสาวเศรษฐี พ่อตาแม่ยายบังคับซื้อรถ แต่ไม่ช่วยผ่อน ถ้าไม่ซื้อจะให้เลิกกัน ก็เลยมาลำบากทางแม่เรามาตลอด ทุกวันพี่จะโทรมาไถตังกับแม่ตลอด จนล่าสุดถูกพ่อด่าผ่านโทรศัพท์ไปแรงมาก

ระหว่างที่เราว่างงานอยู่นี้ พ่อเราโดยปกติเค้าจะออกทำงานกะบ่าย ตอนเช้าอยู่บ้าน ก็มักจะบ่นด่าปู่ย่า แม่เรา พี่ชาย ให้เราฟังทุกวันด้วยถ้อยคำแรงๆ จนบางครั้งเราเบื่อหน่ายจะฟัง เราก็เดินหนีไปอยู่บนบ้าน วันเราจะลงมาเจอเค้าแค่เวลากินข้าว ซักผ้า อาบน้ำแค่นั้น ถ้าไม่ได้ออกไปข้างนอก เอาของไปส่ง หรือสอนพิเศษ เวลาส่วนมากก็อยู่บนบ้าน ไม่ลงมาเจอขี้เกียจฟังเค้าบ่น แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้มาก เพราะเค้าชอบมาชวนคุยแล้วก็ด่าๆว่าๆ จนทุกวันนี้เรามีอาการเครียด ประสาทจะกินกับคนๆนี้ เคยบอกให้พ่อไปหาจิตแพทย์รักษาโรคประสาท เค้าก็ไม่ไป เค้าบอกเค้าปกติดี เราอ่ะประสาทเอง

คือทุกวันนี้รู้สึกแย่มากๆนะ นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นขึ้นกลางดึกเสมอ ได้ยินเสียงพ่อแม่เรียกก็หลอนมากๆ กลัวเค้าจะด่าว่า หรือไม่ก็ไปหางานไปฝากงานอะไรมั่วๆมาให้ทำตลอด จนต้องมีปากเสียงทะเลาะกัน ไม่เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายนะ แต่บางครั้งก็คิดว่า ถ้าสมมติไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แล้ว เราก็ไม่ต้องลำบากใจเพราะมีพ่อแม่แบบนี้อีก เราควรไปหาจิตแพทย์มั้ยครับ อยากได้คำปรึกษาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่