สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามดีนะเพราะมันคือคำถามปลายเปิด
ฉากนี้เยอะมาก จนแบบทำไมต้องเครื่องซักผ้าด้วย จริงๆ ก็อาจเป็นอย่างที่คห ข้างบนพูดก็ได้ แต่แบบมันเยอะจนเลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ บ้างหรือเปล่านะ มันไม่ได้อยู่แค่เอ็มวีด้วย ไม่ก็สะท้อนความเป็นไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ชีวิตที่แออัดยัดเยียดของคนยุคปัจจุบัน ธุรกิจแฟรนไชส์แบบเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนี่คือบูมเรื่อยๆนะ ตอบสนองต่อ วิถีชีวิตของคนที่มันเปลี่ยนไป
แต่ส่วนใหญ่ชีวิตของคนเรามันก็ต้องเกียวกับอุปกรณ์พวกนี้วนไปอยู่แล้วที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมมือถือ อีกอัน แล้วไอดอลก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งในกิจกรรมพวกนี้จะวนเวียนบ้างก็คือไม่แปลก จากสถิติเหมือนคนอเมริกันเนี่ย ซักผ้าเป็นอันดับ 3 ของการทำงานบ้าน จะมีฉากแบบนี้สมัยก่อนมากๆ นี่ก้อถือเข้าใจได้ ในฐานะหนึ่งใน way of life
แรกๆอาจจะเป็นศิลปะหรือว่าเป็นสไตล์เทคนิคการถ่ายภาพ หรือเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ที่กลับมาเล่าใหม่ ดังนั้นใครเกิดยุคก่อนหน้าสัก 10 -20 ปีก่อน Gen y ต้องเคยเห็นเอ็มวีแนวนี้มาก่อนแน่ๆ ความจริงตอนเห็น ครั้งแรก ก็คิดแค่ว่ารับมาจากตะวันตกนี่แหละ ส่วนที่เกิดไม่ทัน ไม่ได้ตาม MV ตะวันตก สมัยก่อน เขาจะสงสัย ก็ไม่แปลกเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่พอตอนหลังเนี่ยเมื่อมันเยอะเข้าแล้ว เจอหลายที่ไปอีก ถ้าไม่ก้อปปี้ตามเทรนด์แบบตะบี้ตะบัน
คิดว่าสปอนเซอร์ก็อาจจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ไม่ทางตรงก้อทางอ้อม จำดอกมุราคามิได้ไหมเหมือนกัน เพราะคนสนใจเยอะๆเข้า มันก็จะเปลี่ยนเป็นการทำเงิน ได้มหาศาล
คืออย่างพวกแบรนด์เกาหลีตรงนี้เขาผลิตและทำพวกนี้มาเกือบ 70 ปีแล้ว พวกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แต่แค่ช่วงสมัยก่อนคนไม่ได้ พีอาร์กันชัดเจน เพราะว่ามันก็ยังไม่ได้บูมอะไรบางคนก็ใช้ไปโดยที่ไม่รู้ว่ามันดัง เหมือนเอาทุกอย่างไปลงกับด้านมือถือหมดแล้ว รู้ตัวอีกทีอ้าว ใช้กันครึ่งโลก แต่ตอนนี้เครื่องซักผ้าโดน Safeguard จากทรัมป์ด้วย
ถ้าเอาเรื่องสปอนเซอร์
เกาหลีเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกด้านสินค้าอิเลคทรอนิคส์ในปีก่อน แต่ก็ติดมาหลายปีแล้ว มาปีก่อนนี่ล่ะขึ้นมาถึงที่ 3
ที่ 1 จีน ที่ 2 อเมริกา http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180126000750
เครื่องซักผ้าหรือพวกอุปกรณ์อิเลคโทรนิคนี่เป็น 1 ในสัญลักษณ์และตัวแทนของเกาหลีเพราะส่งออกมากในแต่ละปี แถมไปตั้งฐานการผลิตไว้ทั่วโลก ที่อเมริกาก็มี โดยเฉพาะฝาเปิดหน้านี่ล่ะฮิตนัก และชอบส่งออกต่างประเทศ
ล่าสุดซัมซุงยังโดนเมกาฟ้องเลย เพราะมันระเบิด เรียกเก็บคืนแทบไม่ทัน รวมไปถึงเฟรนไชส์ร้านซักรีดหยอดเหรียญก็ฮิตอยู่ แต่ฝรั่งเขาซักกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็ใช้ทั้งเครื่องจากอเมริกาและเกาหลี วนๆ ไป เพราะใครๆ ก็ต้องมีกิจกรรมนี้เป็นส่วนนึงของชีวิต แต่มันคงไม่ซักกันทุกเอ็มวีล่ะมั้ง
ตอนนี่ที่ 1 แบรนด์เครื่องซักผ้า อันดับ 1 ของโลกปี 2018 คือของ LG ส่วน Whirpool ของอเมริกาคือที่ 4 แล้วก็ใช้เจ้าพวกนี้ล่ะ ในร้านซักรีดแบบหยอดเหรียญด้วย แต่บางสถิติก็จะอันดับ 2-5 แต่ไม่หลุดเกินนี้
ไม่จำเป็นต้องโคลสอัพยี่ห้อแต่ว่า แต่ละรุ่นมันก็มีลักษณะและดีไซน์เฉพาะของมันเองด้วย บางเอ็มวีโคลสอัพมาทั้งปุ่มกดแบบนี้ คุ้นๆ รุ่นนี้
http://www.thedailyrecords.com/2018-2019-2020-2021/world-famous-top-10-list/highest-selling-brands-products-companies-reviews/best-washing-machine-brands-world-front-loader-japanese/12897/
สปอนเซอร์หลักๆ ก็ LG & SAMSUNG เหมือนสินค้าทางวัฒนธรรมแบบเคป็อปเช่นเพลง แต่ตรงส่วนนึ้ทำรายได้สูงมาก โดยเฉพาะ พวกสินค้าอิเล็คโทรนิคส์
เลยเดาเอา + คิดเองว่า สินค้าพวกนี้ มัดเป็นแพ็คขายคู่กับไอดอล แต่จริงๆ คือ คนต่างชาติเขาใช้กันอยู่แล้ว เครื่องซักผ้าแบรนด์ LG/SAM SUNG แต่แค่คนส่วนใหญ่จะนึกว่าดังแค่มือถือเท่านั้น
ยิ่งกว่า อาหารเกาหลี เครื่องสำอาง หรืออะไรต่างๆ อีก ดนตรีคือสิ่งไร้พรหมแดน ด้วยการใช้ Soft Culture เข้าช่วย จะไทอินเนียนๆ ติดเครื่องซักผ้าหรือสินค้าอิเลคโทรนิคส์อย่างอื่นแถมมาด้วยก็ได้ ดีกว่าไปโฆษณาโต้งๆ ฮาร์ดเซลล์อีก แล้วไม่จำเป็นต้องระบุยี่ห้อตรงๆ ก็ได้ เพราะเลือกใช้เป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ใน ฐานะ 1 ในตัวแทนแบรนด์ของเกาหลีที่ไปทำธุรกิจไว้ทั่วโลก เช่นเดียวกับเคป็อป ซึ่งคนกำหนดเทรนด์หรือคนที่อยู่เบื้องหลัง 1 ในนั้นมักจะเป็นพวกนายทุน หรือผู้ประกอบการแต่ก็ไม่ทุกเรื่องเสมอไป สักพักอาจลุยมาทางตลาด AR/VR เพิ่มขึ้น
คือเราเองก็ไม่ได้ชอบเกาหลีไปทุกเรื่องหรอกนะแต่อย่างน้อยก็จะให้เครดิตเขาสำหรับคนที่ผลิตของและมีคนใช้เกือบทั่วโลก ซึ่งแทรกได้กับทุกส่วนของชีวิตประจำวันสำหรับคนยุคใหม่ ที่มากไปกว่าการก๊อปปี้อย่างเดียว แม้ของบางอย่างมันจะไม่ได้อยู่ในสภาพดีแบบใช้งานได้ทุกอย่างก็เถอะ 555
แล้วก็คงขึ้นอยู่กับค่ายด้วย สมมุติถ้าเป็น YG , Big Hit ก็อาจจะไปคิดเกี่ยวกับศิลปะ การตีความ ที่มันดูมีความหมายกับเพลง ดูใส่ใจพาร์ทงานดนตรีมากกว่า แต่พอมาเป็น SM นี่ยังไงแอบคิดมาทางนี้ด้วยเพราะพาร์ทเนอร์เขาก็วนๆ อยู่กับพวกแชโบล แล้วของค่ายนี้จะไม่ใช่แบบร้านซักผ้าหยอดเหรียญ มันจะมาเป็นตัวเครื่องโต้งๆ แค่ไม่กี่เครื่อง บางทีเห็นโลโก้หราเลย
ดงบังก็มี แนวโมเดิร์นนิดๆ ไม่ย้อนยุค แต่เนียนเน้นสายการบินกับเครื่องบินมากกว่าเพราะทำงานเกี่ยวกับพรีเซนเตอร์ตัวนี้อยู่แต่ก็ไม่เห็นโลโก้สายการบินอยู่ดี
NCT ก็มีฉากที่นั่งรอปั่นเครื่องซักผ้าวนไป แบบไม่ใช่แค่นั่งหล่อ แต่แจฮยอนเอาผ้าเข้าเครื่องปั่นด้วย นาทีที่ 2.49 มีในช่วงแนะนำเอ็มวีระบบ NCT เลยคิดว่าต่อให้ระบบครบ 50 คนแล้วแต่เครื่องซักผ้าก็ยังมีอยู่ ถ้ามันถูกเลือกเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นตัวแทนอะไรสักอย่าง หรือแม้แต่สปอนเซอร์ทั้งแบบเห็นโลโก้ตัวเป้ง (นี่เราก็ไทอินอยู่นะ รู้ป่าว 55555 )
ถ้าเอาแบบไม่ซีเรียส ตามเทรนด์ ก็อปจากตะวันตกมา อันนี้ดูง่ายสุดล่ะ
สรุป เอาแบบเนื้อๆ มีแค่ เนื้อหาแต่ละเอ็มวี การตีความ ภาพสวย ศิลปะ แสงสี ,ตัวแทนเชิงสัญลักษณ์, สปอนเซอร์ ,เทรนด์แฟชั่นที่ฮิตและก็อปปี้ตามมาอีกที ซึ่งของพวกนี้มันก็วนๆกันไปอ่ะแหละ รับมาจากใครแล้วก็กลับไปใช้กันอีกต่อวนไปเวียนมา
เทียบได้กับตัวเครื่องปั่นในเครื่องซักผ้าที่เน้นการหมุนวงกลม ที่บางคนอาจไม่รู้ว่าเคยมี เคยเกิดมาก่อน อาจเกิดไม่ทันหรือไม่เคยเห็นก็แล้วแต่ ฝรั่งใช้เกาหลีใช้แล้วต่อไปฝรั่งก็อาจจะกลับมาใช้อีกที คล้ายๆกับเอาของเก่ามาเล่าใหม่จากโมเดิร์นไปย้อนยุค กลับไปกลับมาจนกลับมาบูมอีกรอบเกิดกระแสให้คนถามว่ามันมาจากไหน มาได้ไง
ซึ่งชีวิตคนเรามันก็เป็นแบบนั้น ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรงอย่างเดียว มีการทำกิจกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ ไหนจะโดนปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้หมุนอยู่คล้ายกับติดในตัวเครื่องซักผ้าที่อยู่ในกรอบแคบๆ ถูกปั่นไปปั่นมา บางคนเอะใจเลยตั้งคำถามขึ้น หรือปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ โดยไม่ตั้งคำถามอะไรเลย
ที่สำคัญขึ้นกับแบคกราวนด์ส่วนตัวของคนตอบ สนใจธุรกิจแบรนด์แบบเราก็จะตอบแบบนี้ส่วนองค์ประกอบศิลป์เนื้อหา เลยเอ้าต์ แฟชั่น ก็อีกแบบ ของชิ้นเดียวตอบได้ไม่เหมือนกันหรอก หรือแอคเห็บมาตอบก็จะจิกๆ เกรียนๆ แซ่บๆ ตามสไตล์เค้า
มันไม่มีใครผิดใครถูกอ่ะมันตอบได้กว้างมากกกกกก ดังนั้นเครื่องซักผ้าเครื่องเดียวมันเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิดแน่นอน
ฉากนี้เยอะมาก จนแบบทำไมต้องเครื่องซักผ้าด้วย จริงๆ ก็อาจเป็นอย่างที่คห ข้างบนพูดก็ได้ แต่แบบมันเยอะจนเลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ บ้างหรือเปล่านะ มันไม่ได้อยู่แค่เอ็มวีด้วย ไม่ก็สะท้อนความเป็นไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ชีวิตที่แออัดยัดเยียดของคนยุคปัจจุบัน ธุรกิจแฟรนไชส์แบบเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนี่คือบูมเรื่อยๆนะ ตอบสนองต่อ วิถีชีวิตของคนที่มันเปลี่ยนไป
แต่ส่วนใหญ่ชีวิตของคนเรามันก็ต้องเกียวกับอุปกรณ์พวกนี้วนไปอยู่แล้วที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมมือถือ อีกอัน แล้วไอดอลก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งในกิจกรรมพวกนี้จะวนเวียนบ้างก็คือไม่แปลก จากสถิติเหมือนคนอเมริกันเนี่ย ซักผ้าเป็นอันดับ 3 ของการทำงานบ้าน จะมีฉากแบบนี้สมัยก่อนมากๆ นี่ก้อถือเข้าใจได้ ในฐานะหนึ่งใน way of life
แรกๆอาจจะเป็นศิลปะหรือว่าเป็นสไตล์เทคนิคการถ่ายภาพ หรือเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ที่กลับมาเล่าใหม่ ดังนั้นใครเกิดยุคก่อนหน้าสัก 10 -20 ปีก่อน Gen y ต้องเคยเห็นเอ็มวีแนวนี้มาก่อนแน่ๆ ความจริงตอนเห็น ครั้งแรก ก็คิดแค่ว่ารับมาจากตะวันตกนี่แหละ ส่วนที่เกิดไม่ทัน ไม่ได้ตาม MV ตะวันตก สมัยก่อน เขาจะสงสัย ก็ไม่แปลกเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่พอตอนหลังเนี่ยเมื่อมันเยอะเข้าแล้ว เจอหลายที่ไปอีก ถ้าไม่ก้อปปี้ตามเทรนด์แบบตะบี้ตะบัน
คิดว่าสปอนเซอร์ก็อาจจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ไม่ทางตรงก้อทางอ้อม จำดอกมุราคามิได้ไหมเหมือนกัน เพราะคนสนใจเยอะๆเข้า มันก็จะเปลี่ยนเป็นการทำเงิน ได้มหาศาล
คืออย่างพวกแบรนด์เกาหลีตรงนี้เขาผลิตและทำพวกนี้มาเกือบ 70 ปีแล้ว พวกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แต่แค่ช่วงสมัยก่อนคนไม่ได้ พีอาร์กันชัดเจน เพราะว่ามันก็ยังไม่ได้บูมอะไรบางคนก็ใช้ไปโดยที่ไม่รู้ว่ามันดัง เหมือนเอาทุกอย่างไปลงกับด้านมือถือหมดแล้ว รู้ตัวอีกทีอ้าว ใช้กันครึ่งโลก แต่ตอนนี้เครื่องซักผ้าโดน Safeguard จากทรัมป์ด้วย
ถ้าเอาเรื่องสปอนเซอร์
เกาหลีเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกด้านสินค้าอิเลคทรอนิคส์ในปีก่อน แต่ก็ติดมาหลายปีแล้ว มาปีก่อนนี่ล่ะขึ้นมาถึงที่ 3
ที่ 1 จีน ที่ 2 อเมริกา http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180126000750
เครื่องซักผ้าหรือพวกอุปกรณ์อิเลคโทรนิคนี่เป็น 1 ในสัญลักษณ์และตัวแทนของเกาหลีเพราะส่งออกมากในแต่ละปี แถมไปตั้งฐานการผลิตไว้ทั่วโลก ที่อเมริกาก็มี โดยเฉพาะฝาเปิดหน้านี่ล่ะฮิตนัก และชอบส่งออกต่างประเทศ
ล่าสุดซัมซุงยังโดนเมกาฟ้องเลย เพราะมันระเบิด เรียกเก็บคืนแทบไม่ทัน รวมไปถึงเฟรนไชส์ร้านซักรีดหยอดเหรียญก็ฮิตอยู่ แต่ฝรั่งเขาซักกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็ใช้ทั้งเครื่องจากอเมริกาและเกาหลี วนๆ ไป เพราะใครๆ ก็ต้องมีกิจกรรมนี้เป็นส่วนนึงของชีวิต แต่มันคงไม่ซักกันทุกเอ็มวีล่ะมั้ง
ตอนนี่ที่ 1 แบรนด์เครื่องซักผ้า อันดับ 1 ของโลกปี 2018 คือของ LG ส่วน Whirpool ของอเมริกาคือที่ 4 แล้วก็ใช้เจ้าพวกนี้ล่ะ ในร้านซักรีดแบบหยอดเหรียญด้วย แต่บางสถิติก็จะอันดับ 2-5 แต่ไม่หลุดเกินนี้
ไม่จำเป็นต้องโคลสอัพยี่ห้อแต่ว่า แต่ละรุ่นมันก็มีลักษณะและดีไซน์เฉพาะของมันเองด้วย บางเอ็มวีโคลสอัพมาทั้งปุ่มกดแบบนี้ คุ้นๆ รุ่นนี้
http://www.thedailyrecords.com/2018-2019-2020-2021/world-famous-top-10-list/highest-selling-brands-products-companies-reviews/best-washing-machine-brands-world-front-loader-japanese/12897/
สปอนเซอร์หลักๆ ก็ LG & SAMSUNG เหมือนสินค้าทางวัฒนธรรมแบบเคป็อปเช่นเพลง แต่ตรงส่วนนึ้ทำรายได้สูงมาก โดยเฉพาะ พวกสินค้าอิเล็คโทรนิคส์
เลยเดาเอา + คิดเองว่า สินค้าพวกนี้ มัดเป็นแพ็คขายคู่กับไอดอล แต่จริงๆ คือ คนต่างชาติเขาใช้กันอยู่แล้ว เครื่องซักผ้าแบรนด์ LG/SAM SUNG แต่แค่คนส่วนใหญ่จะนึกว่าดังแค่มือถือเท่านั้น
ยิ่งกว่า อาหารเกาหลี เครื่องสำอาง หรืออะไรต่างๆ อีก ดนตรีคือสิ่งไร้พรหมแดน ด้วยการใช้ Soft Culture เข้าช่วย จะไทอินเนียนๆ ติดเครื่องซักผ้าหรือสินค้าอิเลคโทรนิคส์อย่างอื่นแถมมาด้วยก็ได้ ดีกว่าไปโฆษณาโต้งๆ ฮาร์ดเซลล์อีก แล้วไม่จำเป็นต้องระบุยี่ห้อตรงๆ ก็ได้ เพราะเลือกใช้เป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ใน ฐานะ 1 ในตัวแทนแบรนด์ของเกาหลีที่ไปทำธุรกิจไว้ทั่วโลก เช่นเดียวกับเคป็อป ซึ่งคนกำหนดเทรนด์หรือคนที่อยู่เบื้องหลัง 1 ในนั้นมักจะเป็นพวกนายทุน หรือผู้ประกอบการแต่ก็ไม่ทุกเรื่องเสมอไป สักพักอาจลุยมาทางตลาด AR/VR เพิ่มขึ้น
คือเราเองก็ไม่ได้ชอบเกาหลีไปทุกเรื่องหรอกนะแต่อย่างน้อยก็จะให้เครดิตเขาสำหรับคนที่ผลิตของและมีคนใช้เกือบทั่วโลก ซึ่งแทรกได้กับทุกส่วนของชีวิตประจำวันสำหรับคนยุคใหม่ ที่มากไปกว่าการก๊อปปี้อย่างเดียว แม้ของบางอย่างมันจะไม่ได้อยู่ในสภาพดีแบบใช้งานได้ทุกอย่างก็เถอะ 555
แล้วก็คงขึ้นอยู่กับค่ายด้วย สมมุติถ้าเป็น YG , Big Hit ก็อาจจะไปคิดเกี่ยวกับศิลปะ การตีความ ที่มันดูมีความหมายกับเพลง ดูใส่ใจพาร์ทงานดนตรีมากกว่า แต่พอมาเป็น SM นี่ยังไงแอบคิดมาทางนี้ด้วยเพราะพาร์ทเนอร์เขาก็วนๆ อยู่กับพวกแชโบล แล้วของค่ายนี้จะไม่ใช่แบบร้านซักผ้าหยอดเหรียญ มันจะมาเป็นตัวเครื่องโต้งๆ แค่ไม่กี่เครื่อง บางทีเห็นโลโก้หราเลย
ดงบังก็มี แนวโมเดิร์นนิดๆ ไม่ย้อนยุค แต่เนียนเน้นสายการบินกับเครื่องบินมากกว่าเพราะทำงานเกี่ยวกับพรีเซนเตอร์ตัวนี้อยู่แต่ก็ไม่เห็นโลโก้สายการบินอยู่ดี
NCT ก็มีฉากที่นั่งรอปั่นเครื่องซักผ้าวนไป แบบไม่ใช่แค่นั่งหล่อ แต่แจฮยอนเอาผ้าเข้าเครื่องปั่นด้วย นาทีที่ 2.49 มีในช่วงแนะนำเอ็มวีระบบ NCT เลยคิดว่าต่อให้ระบบครบ 50 คนแล้วแต่เครื่องซักผ้าก็ยังมีอยู่ ถ้ามันถูกเลือกเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นตัวแทนอะไรสักอย่าง หรือแม้แต่สปอนเซอร์ทั้งแบบเห็นโลโก้ตัวเป้ง (นี่เราก็ไทอินอยู่นะ รู้ป่าว 55555 )
ถ้าเอาแบบไม่ซีเรียส ตามเทรนด์ ก็อปจากตะวันตกมา อันนี้ดูง่ายสุดล่ะ
สรุป เอาแบบเนื้อๆ มีแค่ เนื้อหาแต่ละเอ็มวี การตีความ ภาพสวย ศิลปะ แสงสี ,ตัวแทนเชิงสัญลักษณ์, สปอนเซอร์ ,เทรนด์แฟชั่นที่ฮิตและก็อปปี้ตามมาอีกที ซึ่งของพวกนี้มันก็วนๆกันไปอ่ะแหละ รับมาจากใครแล้วก็กลับไปใช้กันอีกต่อวนไปเวียนมา
เทียบได้กับตัวเครื่องปั่นในเครื่องซักผ้าที่เน้นการหมุนวงกลม ที่บางคนอาจไม่รู้ว่าเคยมี เคยเกิดมาก่อน อาจเกิดไม่ทันหรือไม่เคยเห็นก็แล้วแต่ ฝรั่งใช้เกาหลีใช้แล้วต่อไปฝรั่งก็อาจจะกลับมาใช้อีกที คล้ายๆกับเอาของเก่ามาเล่าใหม่จากโมเดิร์นไปย้อนยุค กลับไปกลับมาจนกลับมาบูมอีกรอบเกิดกระแสให้คนถามว่ามันมาจากไหน มาได้ไง
ซึ่งชีวิตคนเรามันก็เป็นแบบนั้น ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรงอย่างเดียว มีการทำกิจกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ ไหนจะโดนปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้หมุนอยู่คล้ายกับติดในตัวเครื่องซักผ้าที่อยู่ในกรอบแคบๆ ถูกปั่นไปปั่นมา บางคนเอะใจเลยตั้งคำถามขึ้น หรือปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ โดยไม่ตั้งคำถามอะไรเลย
ที่สำคัญขึ้นกับแบคกราวนด์ส่วนตัวของคนตอบ สนใจธุรกิจแบรนด์แบบเราก็จะตอบแบบนี้ส่วนองค์ประกอบศิลป์เนื้อหา เลยเอ้าต์ แฟชั่น ก็อีกแบบ ของชิ้นเดียวตอบได้ไม่เหมือนกันหรอก หรือแอคเห็บมาตอบก็จะจิกๆ เกรียนๆ แซ่บๆ ตามสไตล์เค้า
มันไม่มีใครผิดใครถูกอ่ะมันตอบได้กว้างมากกกกกก ดังนั้นเครื่องซักผ้าเครื่องเดียวมันเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิดแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเพลง K-POP ถึงต้องมีเครื่องซักผ้า?