สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ เราพึ่งเลิกกับแฟนไปเมื่อวานนี้เองค่ะ สาเหตุมาจากทะเลาะกันและเขาทำร้ายทุบตีเราหนักหนาสาหัสเหลือเกิน แต่ในใจยังรักเขามาก ยังอยากให้เขากลับมาอยู่ด้วย ไม่รู้จะตัดใจยังไงดี จะเล่าถึงสิ่งที่เราทำให้เขาและสิ่งที่เขาทำกับเรา ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะคะ
เราคบกับแฟนได้ไม่นาน ก็รู้ว่าเขาติดยาเสพย์ติด ถึงขนาดโดนจับเข้าเรือนจำตัดสินจำคุก 10 เดือน แต่เพราะเราสงสารเขา ก็เลยไม่ทิ้ง ไปเยี่ยมซื้อของฝากตังให้เขาได้ใช้ทุกอาทิตย์ไม่เคยเว้น ส่วนญาติๆและพี่น้องของเค้าไม่เคยไปดูดำดูดีเลย มีแค่แม่ของเขาที่เราพยายามโทรไปให้มาเยี่ยม แต่ก็ไปแค่ครั้งเดียวตลอด 10 เดือน เราเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ยอมใช้แม้เงินเดือนเราจะน้อย ไปไว้ให้เค้าเพื่อเค้าจะได้ใช้ในเรือนจำแม้แต่ตางที่เราจะซื้อรองเท่าสักคู่ยังไม่กล้าซื้อ กินข้าวแค่วันละมือคือตอนค่ำ เพราะต้องเก็บเงินไว้ให้เค้าซื้อของให้เขาใช้ แต่เขาที่อยู่ในเรือนจำ กลับใช้เงินที่เราฝากไว้ให้จ้างลูกน้องเขาอยู่สบายในนั้น แต่เราเกือบจะไม่มีกิน เขาสัญญาว่าพอออกจากเรือนจำมาจะเลิกปรับตัวเป็นคนดี และจะไม่ทำให้เราเสียใจอีก เขาบอกว่าขออย่าให้เราทิ้งเขา เขาไมมีใครแล้ว เราก็รับปากและทำตามสัญญา รอจนวันที่เขาออกจากเรือนจำ ก็หางานให้เขาทำ แต่สุดท้ายเขาก็ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก โดนจับ ตำรวจเรียกเก็บเงิน ทีละ หมื่น สองหมื่น เราต้องหามาประกันตัวเขา โดยที่ไม่ให้พ่อแม่ของเรารู้ เขาสัญญาว่าจะเลิกทุกครั้งที่มีปัญหา ขอร้อง ร้องให้ สาบาน และบอกว่าคิดได้แล้ว เราช่วยแม้กระทั่งครอบครัว และพี่น้องของเขาเวลาเดือดร้อน ในวันที่เขาจะบวชแม้แต่เงินที่เขาจัดงานบวชแม่เขาก็ยืมจากเราไป สุดท้ายก็ไม่ได้คืน เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ โกหกสารพัดเพื่อนจะเอาเงิน เราก็ยอมเขาตลอดแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เขาเอามาอ้าง มันจะไม่ใช่เรื่องจริง เขาอยุ่กับเราที่บ้านค่ะ มาสู่ขอแล้วจึงมาอยุ่ด้วยกันค่ะ เขาก็ทำงานเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนคิดว่าที่ทำงานล่าสุดคงอยุ่ได้นานเขาก็ให้เราเก็บเงิน และบอกว่าให้ผ่อนสร้อยคอให้หน่อย 1 บาท รวมเป็นเงินก็ 2 หมื่นกว่าบาท เราก็กลัวแต่ก็ผ่อนให้จากบัตรเรา ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ประมาณ 6 เดือนจากเงินที่เขาให้มา จนวันหนึ่ง เขาออกจากงานอยู่บ้านหลายวันและเขาเก็บเสื่อผ้าหนีเราไป แบบที่ไปแบบไม่ลา ไม่มีใครรุ้ว่าเขาไปตอนไหน เขาเบล็อคเราหมดทุกอย่าง เฟส ไลน์ แม้แต่เบอร์โทร เขาก็เปลี่ยน ปิดทุกช่องทางการติดต่อ เราเสียใจมากร้องให้อยุ่หลายวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนคนในครอบครัวเครียดไปด้วย และเมื่อเขาไป เขาก็เอาสร้อยคอที่เราผ่อนให้ไปด้วย สุดท้ายเขาเอาไปขายไปกินกับพี่น้องของเขา เราต้องรับภาระผ่อนอยุ่คนเดียว จนเงินเขาหมดก็ให้เราไปรับ และจากนั้นเราก็หางานใหม่ให้ มีอะไรที่เขาทำผิด เราจะปกปิดให้ตลอดเพราะกลัวที่บ้านเราไม่ยอมรับเขา คบกันมาจนถึงปีที่ 6 ปี ทางบ้านให้แต่งงานกัน ก็ช่วยกันเก็บเงิน แต่เงินส่วนมากจะมากจากเราเองที่หามา ก่อนแต่งงานแค่ 1 อาทิตย์ เขาโดนจับอีก 2 ครั้ง เงินประกันไม่ต้องพูดถึง ต้องไปยืมเขามาอีก เขาก็โดนจับตรวจสารเสพย์ติดอีก เราไม่รู้จะทำยังไงจะปล่อยให้เขาถูกจับไป งานที่เตรียมไว้ก็กำลังจะมาถึง ไม่อยากให้ครอบครัวต้องขายหน้า ก็ไปหาหยิบยืนมาประกันตัวเขาออกมาพอแต่งงานเสร็จเขาก็สัญญากับเราว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติดอีกแล้ว แต่สุดท้ายเราก็จับโกหกเขาได้ตลอด เราหมดเงินไปกับการที่เขายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเยอะมาก พอมีปัญหาก็ทะเลาะกัน เวลาทะเลาะกัน เราไม่เคยจะพูดหยาบหรือด่าว่าเขาเลย มีแต่ขอร้อง พอพูดเยอะๆ เขาก็โมโห ตวาดใส่เรา ทำลายข้าวของ รวมถึงทำร้ายตัวเราด้วย จนเราต้องหนีออกไปจากตรงนั้นทุกครั้ง และหนักสุดหลังจากแต่งงานได้ 2 เดือน เขาก็ยังไม่ทิ้งยานรกนั้น ทำงานขับรถหัวลากที่เขาถนัดเขาคงจะขายน้ำมันรถที่เขาขับไม่เหลือพอจะต้องไปทำงานรอบต่อไป ก็มาขู่เอาตางที่เราไปหาเติมน้ำมันมาชดใช้ที่หายไป ซึ่งก็คงหายไปกับการเล่นยาเสพติดอีก เราก็ต้องหาเงินมาชดใช้ให้อีก แบบนี้ประจำ เขาทำงานให้เงินมาแต่สุดท้ายก็เอากลับไปกับสิ่งเหล่านี้ทุกครั้ง จนล่าสุดเราคุยด้วยว่าเลิกได้ไหม เราไม่มีเงินจะชดใช้ให้แล้ว เท่าที่เป็นอยู่เราก็ต้องไปยืม ต้องใช้หนี้เขาอีกมากมาย จนเขาตะวาดเรา บีบคอเราเกือบตาย พอเราจะหนีก็จับเราทุ่มกับที่นอน บีบคอรา ซ้อมเรา ต่อยเรา ยึดโทรศัพท์เราไม่ให้โทรแจ้งความ พอเขาหลับเราจะหนี ก็ซ้อมเราบีบคอเราอีก นั่งทับบนซี่โครงเราเกือบหัก จับเราหักคอ และบีบคอเกือบตายหลายรอบมาก และขู่ว่าถ้าหนีออกไปจากห้อง จะตามออกไปทำร้ายพ่อแม่พี่ น้องเราหมดทุกคน ถ้าเรายอมแลกก็คอยดู เขาไม่กลัวอะไรหรือหน้าไหนทั้งนั้น เราก็กลัวก็เลยไม่หนีออกไป จนเช้า เราหนีไปทำงานแต่โทรศัพท์เรายังอยู่ที่เค้า และเค้าต้องไปทำงานก็เลยตามมาหาเราที่ทำงาน พอเข้มาก็ผลักเราขู่เอาเงินจากเรา 5000 เขาเลิกแล้วจบ เขามาตัวเปล่าเขาออกไปก็อย่าให้เขาต้องตกงาน ให้เอาเงินให้เขาดีๆ เราก็บอกว่าเราก็เลิกแล้ว แต่เราจะไม่ให้เงิน จนเขาขู่ทำร้ายเราต่อหน้าหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานโดยไม่กลัวใคร ว่าถ้าไม่ให้เงินเขา เขาจะโทรให้คนไปทำร้ายพ่อแม่เราที่บ้าน ถ้าอยากแลกก็ลองดู แล้วเราจะเสียใจไปตลอดชีวิต รวมถึงทุกคนที่อยุ่รอบตัวเราด้วย เขาไม่กลัวที่จะติดคุก เขาทำร้ายเราขู่เราต่อหน้าเพื่อนร่วมงานแม้กระทั่งหัวหน้างาน จนหัวหน้างานเห็นแล้วว่าเราต้องแย่แน่เพราะดูจากสีหน้า คำพูดและการกระทำของเขาแล้ว ก็เลยบอกว่าให้เงินเขาไปก่อน สุดท้ายพอได้เงินแล้วเขาก็ไป เราคิดจะแจ้งความแต่ก็กลัวเป็นห่วงครอบครัวเพราะขู่ไว้ เลยไม่แจ้ง แต่พอเวลาผ่านแค่ 2 วัน ในใจเราก็ยังเป็นห่วง และสงสารเขาอยู่ เพราะเขาไม่มีบ้าน เขาทำงานก็คงอยุ่แต่ในรถใช้ชีวิตอยุ่ในรถ เราตัดใจจากเขาไมได้สักที จะทำยังถึงจะตัดใจได้ค่ะ ใครๆอ่านข้อความของเรา ก็คงจะสมน้ำหน้าเรา ที่เราเจ็บแล้วไม่เคยจำ เพราะคำว่ารักคำเดียว หากในวันที่เขากลับมา เรากลัวว่าเราจะให้โอกาสเขาอีก เพราะใจในยังรักเขามาก ที่เล่ามาแค่ส่วนหนึ่งที่เขาทำกับเรา แต่ทำไมเรายังรักเขาอยู่ คงเพราะสงสารด้วย จะทำไง จะคิดยังไงให้ตัดใจจากเขาได้สักทีคะ
คบกับแฟนมา 6 ปี ทำเพื่อนเขาทุกอย่าง โดนโกหก ทำร้ายทุบตี โดนทิ้งไปหลายครั้ง ก็ยังให้โอกาศ ยังรัก จะตัดใจได้อย่างไร
เราคบกับแฟนได้ไม่นาน ก็รู้ว่าเขาติดยาเสพย์ติด ถึงขนาดโดนจับเข้าเรือนจำตัดสินจำคุก 10 เดือน แต่เพราะเราสงสารเขา ก็เลยไม่ทิ้ง ไปเยี่ยมซื้อของฝากตังให้เขาได้ใช้ทุกอาทิตย์ไม่เคยเว้น ส่วนญาติๆและพี่น้องของเค้าไม่เคยไปดูดำดูดีเลย มีแค่แม่ของเขาที่เราพยายามโทรไปให้มาเยี่ยม แต่ก็ไปแค่ครั้งเดียวตลอด 10 เดือน เราเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ยอมใช้แม้เงินเดือนเราจะน้อย ไปไว้ให้เค้าเพื่อเค้าจะได้ใช้ในเรือนจำแม้แต่ตางที่เราจะซื้อรองเท่าสักคู่ยังไม่กล้าซื้อ กินข้าวแค่วันละมือคือตอนค่ำ เพราะต้องเก็บเงินไว้ให้เค้าซื้อของให้เขาใช้ แต่เขาที่อยู่ในเรือนจำ กลับใช้เงินที่เราฝากไว้ให้จ้างลูกน้องเขาอยู่สบายในนั้น แต่เราเกือบจะไม่มีกิน เขาสัญญาว่าพอออกจากเรือนจำมาจะเลิกปรับตัวเป็นคนดี และจะไม่ทำให้เราเสียใจอีก เขาบอกว่าขออย่าให้เราทิ้งเขา เขาไมมีใครแล้ว เราก็รับปากและทำตามสัญญา รอจนวันที่เขาออกจากเรือนจำ ก็หางานให้เขาทำ แต่สุดท้ายเขาก็ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก โดนจับ ตำรวจเรียกเก็บเงิน ทีละ หมื่น สองหมื่น เราต้องหามาประกันตัวเขา โดยที่ไม่ให้พ่อแม่ของเรารู้ เขาสัญญาว่าจะเลิกทุกครั้งที่มีปัญหา ขอร้อง ร้องให้ สาบาน และบอกว่าคิดได้แล้ว เราช่วยแม้กระทั่งครอบครัว และพี่น้องของเขาเวลาเดือดร้อน ในวันที่เขาจะบวชแม้แต่เงินที่เขาจัดงานบวชแม่เขาก็ยืมจากเราไป สุดท้ายก็ไม่ได้คืน เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ โกหกสารพัดเพื่อนจะเอาเงิน เราก็ยอมเขาตลอดแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เขาเอามาอ้าง มันจะไม่ใช่เรื่องจริง เขาอยุ่กับเราที่บ้านค่ะ มาสู่ขอแล้วจึงมาอยุ่ด้วยกันค่ะ เขาก็ทำงานเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนคิดว่าที่ทำงานล่าสุดคงอยุ่ได้นานเขาก็ให้เราเก็บเงิน และบอกว่าให้ผ่อนสร้อยคอให้หน่อย 1 บาท รวมเป็นเงินก็ 2 หมื่นกว่าบาท เราก็กลัวแต่ก็ผ่อนให้จากบัตรเรา ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ประมาณ 6 เดือนจากเงินที่เขาให้มา จนวันหนึ่ง เขาออกจากงานอยู่บ้านหลายวันและเขาเก็บเสื่อผ้าหนีเราไป แบบที่ไปแบบไม่ลา ไม่มีใครรุ้ว่าเขาไปตอนไหน เขาเบล็อคเราหมดทุกอย่าง เฟส ไลน์ แม้แต่เบอร์โทร เขาก็เปลี่ยน ปิดทุกช่องทางการติดต่อ เราเสียใจมากร้องให้อยุ่หลายวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนคนในครอบครัวเครียดไปด้วย และเมื่อเขาไป เขาก็เอาสร้อยคอที่เราผ่อนให้ไปด้วย สุดท้ายเขาเอาไปขายไปกินกับพี่น้องของเขา เราต้องรับภาระผ่อนอยุ่คนเดียว จนเงินเขาหมดก็ให้เราไปรับ และจากนั้นเราก็หางานใหม่ให้ มีอะไรที่เขาทำผิด เราจะปกปิดให้ตลอดเพราะกลัวที่บ้านเราไม่ยอมรับเขา คบกันมาจนถึงปีที่ 6 ปี ทางบ้านให้แต่งงานกัน ก็ช่วยกันเก็บเงิน แต่เงินส่วนมากจะมากจากเราเองที่หามา ก่อนแต่งงานแค่ 1 อาทิตย์ เขาโดนจับอีก 2 ครั้ง เงินประกันไม่ต้องพูดถึง ต้องไปยืมเขามาอีก เขาก็โดนจับตรวจสารเสพย์ติดอีก เราไม่รู้จะทำยังไงจะปล่อยให้เขาถูกจับไป งานที่เตรียมไว้ก็กำลังจะมาถึง ไม่อยากให้ครอบครัวต้องขายหน้า ก็ไปหาหยิบยืนมาประกันตัวเขาออกมาพอแต่งงานเสร็จเขาก็สัญญากับเราว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติดอีกแล้ว แต่สุดท้ายเราก็จับโกหกเขาได้ตลอด เราหมดเงินไปกับการที่เขายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเยอะมาก พอมีปัญหาก็ทะเลาะกัน เวลาทะเลาะกัน เราไม่เคยจะพูดหยาบหรือด่าว่าเขาเลย มีแต่ขอร้อง พอพูดเยอะๆ เขาก็โมโห ตวาดใส่เรา ทำลายข้าวของ รวมถึงทำร้ายตัวเราด้วย จนเราต้องหนีออกไปจากตรงนั้นทุกครั้ง และหนักสุดหลังจากแต่งงานได้ 2 เดือน เขาก็ยังไม่ทิ้งยานรกนั้น ทำงานขับรถหัวลากที่เขาถนัดเขาคงจะขายน้ำมันรถที่เขาขับไม่เหลือพอจะต้องไปทำงานรอบต่อไป ก็มาขู่เอาตางที่เราไปหาเติมน้ำมันมาชดใช้ที่หายไป ซึ่งก็คงหายไปกับการเล่นยาเสพติดอีก เราก็ต้องหาเงินมาชดใช้ให้อีก แบบนี้ประจำ เขาทำงานให้เงินมาแต่สุดท้ายก็เอากลับไปกับสิ่งเหล่านี้ทุกครั้ง จนล่าสุดเราคุยด้วยว่าเลิกได้ไหม เราไม่มีเงินจะชดใช้ให้แล้ว เท่าที่เป็นอยู่เราก็ต้องไปยืม ต้องใช้หนี้เขาอีกมากมาย จนเขาตะวาดเรา บีบคอเราเกือบตาย พอเราจะหนีก็จับเราทุ่มกับที่นอน บีบคอรา ซ้อมเรา ต่อยเรา ยึดโทรศัพท์เราไม่ให้โทรแจ้งความ พอเขาหลับเราจะหนี ก็ซ้อมเราบีบคอเราอีก นั่งทับบนซี่โครงเราเกือบหัก จับเราหักคอ และบีบคอเกือบตายหลายรอบมาก และขู่ว่าถ้าหนีออกไปจากห้อง จะตามออกไปทำร้ายพ่อแม่พี่ น้องเราหมดทุกคน ถ้าเรายอมแลกก็คอยดู เขาไม่กลัวอะไรหรือหน้าไหนทั้งนั้น เราก็กลัวก็เลยไม่หนีออกไป จนเช้า เราหนีไปทำงานแต่โทรศัพท์เรายังอยู่ที่เค้า และเค้าต้องไปทำงานก็เลยตามมาหาเราที่ทำงาน พอเข้มาก็ผลักเราขู่เอาเงินจากเรา 5000 เขาเลิกแล้วจบ เขามาตัวเปล่าเขาออกไปก็อย่าให้เขาต้องตกงาน ให้เอาเงินให้เขาดีๆ เราก็บอกว่าเราก็เลิกแล้ว แต่เราจะไม่ให้เงิน จนเขาขู่ทำร้ายเราต่อหน้าหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานโดยไม่กลัวใคร ว่าถ้าไม่ให้เงินเขา เขาจะโทรให้คนไปทำร้ายพ่อแม่เราที่บ้าน ถ้าอยากแลกก็ลองดู แล้วเราจะเสียใจไปตลอดชีวิต รวมถึงทุกคนที่อยุ่รอบตัวเราด้วย เขาไม่กลัวที่จะติดคุก เขาทำร้ายเราขู่เราต่อหน้าเพื่อนร่วมงานแม้กระทั่งหัวหน้างาน จนหัวหน้างานเห็นแล้วว่าเราต้องแย่แน่เพราะดูจากสีหน้า คำพูดและการกระทำของเขาแล้ว ก็เลยบอกว่าให้เงินเขาไปก่อน สุดท้ายพอได้เงินแล้วเขาก็ไป เราคิดจะแจ้งความแต่ก็กลัวเป็นห่วงครอบครัวเพราะขู่ไว้ เลยไม่แจ้ง แต่พอเวลาผ่านแค่ 2 วัน ในใจเราก็ยังเป็นห่วง และสงสารเขาอยู่ เพราะเขาไม่มีบ้าน เขาทำงานก็คงอยุ่แต่ในรถใช้ชีวิตอยุ่ในรถ เราตัดใจจากเขาไมได้สักที จะทำยังถึงจะตัดใจได้ค่ะ ใครๆอ่านข้อความของเรา ก็คงจะสมน้ำหน้าเรา ที่เราเจ็บแล้วไม่เคยจำ เพราะคำว่ารักคำเดียว หากในวันที่เขากลับมา เรากลัวว่าเราจะให้โอกาสเขาอีก เพราะใจในยังรักเขามาก ที่เล่ามาแค่ส่วนหนึ่งที่เขาทำกับเรา แต่ทำไมเรายังรักเขาอยู่ คงเพราะสงสารด้วย จะทำไง จะคิดยังไงให้ตัดใจจากเขาได้สักทีคะ