เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา
เราได้ไปเที่ยวยุโรปมาค่ะ ก่อนที่จะไปทริปนี้ ก็ได้หาข้อมูลมาจากกระทู้ต่างๆ รู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากๆ เลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวที่น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กับผู้ที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวรูทนี้บ้างค่าาา
โดยสถานที่ที่เราไปในทริปนี้มีทั้งหมด 3 ประเทศ 6 เมือง ใช้เวลาทั้งหมด 9 วัน 8 คืน (ไม่รวมวันเดินทาง)
ทริปนี้ไปกันเอง ผู้หญิง 2 คน ไปกันเอง ไม่ง้อทัวร์จ้า หมดเงินไปทั้งหมด ประมาณ 50000-60000 บาท
ขอเริ่มด้วยการเตรียมตัวก่อนไปกันเลยจ้า อาจจะลำดับไม่ถูก
เพราะว่าจริงๆแล้วก็ทำทุกอย่างพร้อมๆกันค่ะ ค่อยๆเตรียมนู่นนี่ไปเรื่อยๆ
1.เลือกประเทศและเมืองที่จะไป
จุดมุ่งหมายคือกรุงปรากค่ะ อยากไปมากๆ แต่ไหนๆไปแล้วก็ขอไปให้คุ้มสมกับนั่งเครื่องบินนานๆ และลางานหลายวัน เลยแพลนไปเมืองอื่นๆด้วย โหหตอนแรก คิดกันหัวแตกเลยจ้า เมืองนั้นก็สวยเมืองนี้ก็ดี นี่ก็พลาดไม่ไป แต่เวลาไม่พอ สุดท้ายมาจบตรงที่ Vienna > Salzburg > Hallstatt > Cesky Krumlov > Prague > Budapest > Vienna เที่ยวเป็นวงกลม เพราะว่าตั๋วเครื่องบินไปและกลับ ขึ้นจากสนามบินเวียนนา(VIE)ค่ะ
2.การจองตั๋วเครื่องบิน
เอาจริงๆเราจองตั๋วเครื่องบิน ก่อนได้แผนเดินทางอีก โปรออกต้องรีบสอย และสายการบินที่ใช้บริการในครั้งนี้คือ Royal Jordanian(RJ) ได้ตั๋วไปกลับ BKK<-->VIE มาในราคา 19,xxx บาท (ตอนแรกราคาอยู่ 15,xxx มัวลังเล ช้าไป 3 ชั่วโมงราคาขึ้นมา4000แน่ะ) จองปลาย มิ.ย. เดินทาง ต.ค. RJเป็นสายการบินของประเทศจอร์แดน เราจึงต้อง Transit ที่Amman ประเทศจอร์แดนกันก่อนค่ะ ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถ้าเบื่อก็ไปช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีได้ ราคาถูกกว่าไทย แต่ก็ลองเปิดเว็ปเทียบราคาก่อนเด้อ พอดีตอนที่ไปนัมีลด 10 % ก็เลยเสียเงินกันไปตามระเบียบจ้า ส่วนของสายการบินนั้น ขอแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ เครื่องบินจาก BKK<->AMM เป็นเครื่องบินลำใหญ่ค่อนข้างโอเคค่ะ ดูไม่เป็นอ่ะว่าเก่าหรือใหม่ แต่ภายในเครื่องบินก็ดูดี ในระดับมาตรฐาน(สำหรับเรา) การบริการค่อนข้างดี บนเครื่องมีหน้าจอ สามารถดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้ มีหมอนมีผ้าห่มให้ และส่วนที่สองคือเครื่องบินจาก AMM<->VIE อันนี้จะเป็นเครื่องบินลำเล็กค่าา จอไม่มี ขอหมอนผ้าห่มได้ ส่วนอาหารบนเครื่อง ถ้าเป็นmealก็โอเคค่ะ(ตอนจองสามารถระบุประเภทของอาหารได้) แต่ของเบรคจะเป็นขนมปังบาเก็ตแข็งๆไส้ไก่ไส้ชีสอะไรว่ากันไป แต่รสชาดขอบายค่าา ไม่สู้จริงๆ
3.การจองที่พัก
เราจองที่พักทั้งหมด ผ่านbooking.comจ้า จองแบบสามารถยกเลิกภายหลังได้ เน้นโลเคชั่นดี เรื่องราคาก็มีถูกบ้างแพงบ้าง ที่ออสเตรียนอนแพงค่ะ ที่เมืองอื่นราคาไม่ค่อยแพงเท่าไร
ตอนจองเราใส่ชื่อไปทั้งสองคนเลยค่ะ เผื่อเอาไว้ให้เพื่อนไปยื่นวีซ่าด้วย จะได้มีชื่อเพื่อนด้วยเลย เช่น Ms.XXXX and Ms.YYYY
Vianna - Motel One Wien-Hauptbahnhof นอนที่นี่ 2 คืนแรก แล้วก็คืนสุดท้ายก่อนกลับ ราคาที่เราจองไป คืนละ 3200-4500 บาท ใกล้สถานีรถไฟหลักค่ะ เดินทางไปเมืองอื่นได้ ไปสนามบินสะดวก 15 นาทีเอง
Salzburg - ACHAT Plaza Zum Hirschen อันนี้ก็ไม่ไกลจากสถานีSalzburgมากค่ะ เดินประมาณ 7 นาที คืนละ 3900 บาท
Hallstatt - เราไม่ได้ค้างที่นี่ค่ะ
Cesky Krumlov - Pension Faber ใกล้ปราสาทเชสกี้ เดินไปสถานีรถบัส spicak ไม่ไกลมาก คืนละประมาณ 2400 บาท
Prague - Apartments Pushkin อยู่ใกล้ๆย่าน old townเลย เดินไปสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆได้ไม่ไกล คืนละประมาณ 2500 บาท
Budapest - Budapest Holidays Harmony เป็น Service Apartment ค่ะ คือออฟฟิตที่เช็คอินที่นึง ห้องพักที่นึง แต่ไม่ไกลกันมากค่ะ คืนละประมาณ 2100 บาท
ในส่วนของที่พักนี่ ถ้ามีเวลาจะทำรีวิวไว้ให้ในรายละเอียดต่อๆไปค่ะ
4.การขอวีซ่า
เราขอ Schengen Visa ออสเตรียไปค่ะ เพราะว่าประเทศแรกที่เดินทางเข้า และก็ใช้เวลาที่นี่เยอะสุด การขอวีซ่าไม่ยากค่ะ ขอแค่เตรียมเอกสารให้ครบ และไปยื่นกับตัวแทน VFS Global สามารถดูรายละเอียดและจองคิวออนไลน์จากเว็บไซต์ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ ผลก็ออกแล้ว เราได้เป็นแบบ Multiple แต่ระยะเวลาได้แค่เดือนนึงอ่ะค่ะ ครอบคลุมทริปบวกเพิ่มวันให้ประมาณ 14 วัน
ขั้นตอนการยื่น
จองคิวออนไลน์ แล้ววันนัดก็ไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาทีค่ะ สำนักงานอยู่ที่สีลมคอมเพล็ก ชั้น 15 สามารถนั่ง BTS ลงสถานีศาลาแดง หรือ MRT ลงสถานีสีลม สำหรับคนที่ขับรถไป สามารถจอดในสีลมคอมเพล็กได้ (จอดฟรีชั่วโมงนึง เกินนั้นมีค่าบริการ น่าจะ 40 บาท จำไม่ได้แล้วค่ะ) ต้องเข้าไปในส่วนของสำนักงานนะคะ(ทางเข้าชั้น 1 อยู่ตรงร้าน Au Bon Pain ถ้านำรถขึ้นไปจอดก็จะมีจุดแลกบัตรชั้นที่จอดรถเลยค่ะ ไม่ต้องลงมาชั้นล่าง) บอกเจ้าหน้าที่ตรงเคาท์เตอร์ว่าไปทำวีซ่าเขาจะขอบัตรประชาชน ถ่ายรูปเรา และให้บัตรสำหรับเข้าอาคารมาค่ะ บัตรประชาชนก็จะได้คืนมาด้วย หลังจากนั้นก็สแกนบัตรที่ได้เข้าอาคาร กดลิฟต์ไปชั้น 15 ออกจากลิฟต์ก็เจอเลยค่ะ พอเข้าไปในศูนย์ก็แจ้งที่เคาท์เตอร์ หรือเอาใบนัดที่จองผ่านระบบไปยื่นให้เขาค่ะ เราลืมปริ๊นท์ไปแต่สามารถยื่นพาสปอร์ตแทนได้ พอถึงเวลาที่เราจองไว้ เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปในห้อง ด้านในจะมีที่นั่ง เข้าไปแล้วก็ต้องรอเรียกคิวอีกค่ะ อารมณ์เหมือนรอรับยาที่โรงพยาบาล 555 ข้างในห้ามคุยโทรศัพท์นะจ๊ะ แต่เล่นได้ พอถึงคิวก็ไปยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ ถ้าไปกับเพื่อนก็ยื่นพร้อมเพื่อนเลยค่ะ แล้วก็รอจ่ายเงิน สแกนลายนิ้วมือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็เสร็จแล้ว (แล้วแต่คิวในวันนั้นด้วยนะคะ) ทีนี้ก็รอผลค่ะ (แจ้งผลทาง SMS และ Email) เมื่อผลออกแล้ว ก็ไปรับวีซ่าค่ะ การรับวีซ่า สามารถไปรับได้ที่ศูนย์ ในเวลา 13.00 - 16.00 น. สามารถให้คนอื่นไปรับแทนได้ แต่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ แล้วก็ใช้สำเนาบัตร ปชช ของเรา และผู้รับมอบอำนาจไปด้วยค่ะ สามารถใช้แบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจจากที่ไหนก็ได้ เราก็หาจากในเนทไป
อันนี้ Link ต่างๆที่น่าจะเป็นประโยชน์
จองคิวออนไลน์
https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisterUser?Length=7
แบบฟอร์มที่ต้องกรอก
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/pdf/schengen-tourist-visa-form.pdf
รายชื่อบริษัทประกัน
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/pdf/insurance-list.pdf
เอกสารจำเป็นในการยื่นขอวีซ่า
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/all_about_visa.html
1.ใบสมัครยื่นคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วนโดยสมบูรณ์ 1 ชุด (เคยมีคนรีวิวอย่างละเอียดไว้แล้ว)
2.พาสปอร์ต และ สำเนาจำนวน 2 ใบ
พาสปอร์ต: ควรมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนหลังจากการเดินทางกลับออกจากกลุ่มประเทศเชงเก้น และ จะต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าในหนังสือเดินทาง ถ้าหากไม่มีหน้าว่าง 2 หน้าตามที่กำหนด ผู้ยื่นจำเป็นต้องทำหนังสือเดินทางใหม่ก่อนการยื่นขอวีซ่า
3.รูปถ่ายสีที่มีพื้นหลังสีขาว และเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 ใบ และต้องไม่ซ้ำกับรูปถ่ายหน้าวีซ่าในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน>>> เราไปถ่ายรูปที่ศูนย์วีซ่าในวันที่นัดทำเลยค่ะ 250 บาท ได้ 6 รูป (แต่ถ้ามีเวลาก็เตรียมไปเลยก็ดีค่ะ พอดีเราไม่ว่างไปร้านถ่ายรุปเลย)
4.ประกันภัยการเดินทาง >> เราใช้ประกันของ Chubb ราคาประมาน 600กว่าบาท
5.หนังสือรับรองการทำงานตัวจริง 1 ฉบับ ออกโดยหน่วยงาน หรือองค์กร อายุไม่เกิน 1 เดือน ให้ระบุ อาชีพ เงินเดือน และระยะเวลาในการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมัน) หรือ กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัวให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้าที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และมีชื่อผู้สมัคร (ส่วนกรณีที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ผู้สมัครจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงถึงที่มาของรายได้ในชีวิตประจำวัน) ถ้าเป็นนักเรียนต้องมีหนังสือรับรองตัวจริงการเป็นนักเรียน นักศึกษา
6.เอกสารทางการเงิน เช่น (สำเนาสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมมีการเคลื่อนไหวล่าสุดไม่เกิน 1 เดือน
ในกรณีที่สมุดบัญชีขาดการเคลื่อนไหวในบางเดือน ผู้สมัครสามารถยื่น Statement ที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องแทนได้ แต่หาก Statement บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวในเดือนนั้นๆ ผู้สมัครสามารถยื่น Bank Certificate ตัวจริงเพิ่มเติมที่ออกให้โดยธนาคารนั้นๆ >>> สำหรับคนที่ใช้ K bank สามารถขอ statement ผ่าน App ได้ค่ะ และสำเนาหน้าสมุดบัญชีไปด้วยเพราะใน statement เลขบัญชีจะขึ้นไม่ครบ
7.ใบจองตั๋วเครื่องบิน (Ticket Reservation) เอกสารจะต้องระบุ ชื่อสายการบินนั้นๆ รวมทั้งข้อมูลวัน-เวลา เดินทาง เที่ยวบิน และชื่อผู้โดยสาร ในกรณีผู้สมัครจองผ่านทาง Travel Agency หรือสายการบินโดยตรง
8.ในการณี มีการเชิญจากเพื่อนที่เป็นชาว Austria ให้ผู้สมัครแสดง Code เชิญจากสถานีตำรวจที่ออสเตรีย
พร้อมทั้งแสดงหน้าหนังสือเดินทางของคนเชิญ ประกอบด้วย (ในกรณีไปพักกับเพื่อน ญาติ หรือ คู่สมรส )
9.เอกสารเกี่ยวกับที่พัก (Hotel Booking) จำเป็นต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทาง
และตั๋วเครื่องบินของผู้สมัครเอกสารจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมันเท่านั้น รวมถึงต้องระบุชื่อของผู้สมัครที่เข้าพัก
และที่อยู่ของที่พักให้ชัดเจนเพื่อง่ายแก่การตรวจสอบ ในกรณีเข้าพักมากกว่า 1 แห่ง จำนวนคืนที่เข้าพักไม่ควรทับซ้อนกัน
10.ตารางการเดินทาง >> เราทำเป็นตารางใส่excel หลักๆก็บอกว่าวันไหนไปไหนบ้าง ใส่วิธีการเดินทาง (ไปจริงไม่ใช่แบบนี้เลยจ้า55)
ส่วนเรื่องของค่าทำวีซ่าตอนนั้นจ่ายไปคนละ 4000 บาท
5.การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
สภาพอากาศ
ช่วงที่เราไปเป็นครึ่งเดือนหลังของเดือนตุลาคม เป็นฤดูใบไม้ร่วง สำหรับเราอากาศกำลังสบายๆค่ะ อุณหภูมิ 18 องศา แต่วันหลังๆ เหลือ 6 องศา นี่สบายใช่ไหม? 555 คือหนังเราหนาค่ะ 555555 แต่ถ้าลมแรงนั่นก็หนาวจริง สำหรับคนขี้หนาวก็คงจะหนาวมากแล้ว แต่ยังไงก็เตรียมตัวให้อุ่นๆไว้ก็ดีค่ะ แต่ละเมืองอุณหภูมิไม่เท่ากันนะคะ บางเมืองอากาศหนาวแต่แดดร้อนเปรี้ยงและมีลมแรง บางเมืองหนาวแต่ไม่มีลม ยังไงก็เช็คสภาพอากาศก่อนไปด้วยนะคะ ส่วนฝนตกไหม ตอนเราไปเจอฝนตกวันสุดท้ายพอดี เตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วยก็ดีค่ะ
การเดินทาง
อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านเลยค่ะว่าจะใช้วิธีเดินทางกันยังไง รถสาธารณะ หรือว่าจะเช่ารถ อย่างของเราตอนข้ามเมืองเราใช้บริการรถไฟกับรถบัส เพราะไปกันสองคนเช่ารถไม่คุ้มแล้วที่จอดรถหาไม่ง่ายเท่าไร การเดินทางในแต่ละเมืองก็ใช้ต่างรูปแบบกัน บางเมืองนี่เราเดินอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะเราเดินเก่งกันมาก กลับมาเปิดในมือถือดู คือเดินวันละ 9-10 กิโล/วัน ตกใจมากจริงๆ 55555
การแลกเงิน
ที่ออสเตรียใช้เงิน ยูโรค่ะ ตอนเราไป 1 ยูโร = 37.75 บาท (ขออนุญาตปัดขึ้นเป็น 38 บาท)
ส่วนที่เช็กใช้สกุลเงินของเขาเอง คือ โครูนาเช็ก(CZK) หรือถ้าฟังเร็วๆจะเป็น คราวเช็ก
และฮังการีก็ใช้สกุลเงินตัวเองคือ HUF แต่สัญลักษณ์จะเป็น Ft. นะ (อ่านว่า โฟรินท์)
การแลกเงินก็แลกยูโรไปจากไทยทั้งหมดค่ะ แล้วเราเอายูโรไปแลกโครูนาเช็กเชสกี้ 1 ยูโร = 25050 czk
และไปแลกโฟรินท์ที่บูดาเปสต์ 1 euro = 318 Ft. เคยหาข้อมูลมาว่าให้หาร้านที่เป็น 0% commission เรทจะดีกว่า
แต่พอไปจริงๆแล้วร้านที่ไม่มีค่าคอม มักจะให้เรทน้อยกว่าค่ะ เพราะร้านที่ไม่มีค่าคอมแต่เรทดีหายากค่ะ ลองเทียบเรทดูก่อน หรือที่พักบางที่ก็รับแลกเงินจ้ะ
ตอนต่อไปเราจะพาไปเที่ยวเวียนนากันค่า
https://ppantip.com/topic/38271886
ทริปยุโรปตะวันออก 3 ประเทศ 6 เมือง เที่ยวเอง 9 วัน 8 คืน [Austria - Czech Republic - Hungary] #1
เพราะว่าจริงๆแล้วก็ทำทุกอย่างพร้อมๆกันค่ะ ค่อยๆเตรียมนู่นนี่ไปเรื่อยๆ
1.เลือกประเทศและเมืองที่จะไป
จุดมุ่งหมายคือกรุงปรากค่ะ อยากไปมากๆ แต่ไหนๆไปแล้วก็ขอไปให้คุ้มสมกับนั่งเครื่องบินนานๆ และลางานหลายวัน เลยแพลนไปเมืองอื่นๆด้วย โหหตอนแรก คิดกันหัวแตกเลยจ้า เมืองนั้นก็สวยเมืองนี้ก็ดี นี่ก็พลาดไม่ไป แต่เวลาไม่พอ สุดท้ายมาจบตรงที่ Vienna > Salzburg > Hallstatt > Cesky Krumlov > Prague > Budapest > Vienna เที่ยวเป็นวงกลม เพราะว่าตั๋วเครื่องบินไปและกลับ ขึ้นจากสนามบินเวียนนา(VIE)ค่ะ
2.การจองตั๋วเครื่องบิน
เอาจริงๆเราจองตั๋วเครื่องบิน ก่อนได้แผนเดินทางอีก โปรออกต้องรีบสอย และสายการบินที่ใช้บริการในครั้งนี้คือ Royal Jordanian(RJ) ได้ตั๋วไปกลับ BKK<-->VIE มาในราคา 19,xxx บาท (ตอนแรกราคาอยู่ 15,xxx มัวลังเล ช้าไป 3 ชั่วโมงราคาขึ้นมา4000แน่ะ) จองปลาย มิ.ย. เดินทาง ต.ค. RJเป็นสายการบินของประเทศจอร์แดน เราจึงต้อง Transit ที่Amman ประเทศจอร์แดนกันก่อนค่ะ ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถ้าเบื่อก็ไปช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีได้ ราคาถูกกว่าไทย แต่ก็ลองเปิดเว็ปเทียบราคาก่อนเด้อ พอดีตอนที่ไปนัมีลด 10 % ก็เลยเสียเงินกันไปตามระเบียบจ้า ส่วนของสายการบินนั้น ขอแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ เครื่องบินจาก BKK<->AMM เป็นเครื่องบินลำใหญ่ค่อนข้างโอเคค่ะ ดูไม่เป็นอ่ะว่าเก่าหรือใหม่ แต่ภายในเครื่องบินก็ดูดี ในระดับมาตรฐาน(สำหรับเรา) การบริการค่อนข้างดี บนเครื่องมีหน้าจอ สามารถดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้ มีหมอนมีผ้าห่มให้ และส่วนที่สองคือเครื่องบินจาก AMM<->VIE อันนี้จะเป็นเครื่องบินลำเล็กค่าา จอไม่มี ขอหมอนผ้าห่มได้ ส่วนอาหารบนเครื่อง ถ้าเป็นmealก็โอเคค่ะ(ตอนจองสามารถระบุประเภทของอาหารได้) แต่ของเบรคจะเป็นขนมปังบาเก็ตแข็งๆไส้ไก่ไส้ชีสอะไรว่ากันไป แต่รสชาดขอบายค่าา ไม่สู้จริงๆ
3.การจองที่พัก
เราจองที่พักทั้งหมด ผ่านbooking.comจ้า จองแบบสามารถยกเลิกภายหลังได้ เน้นโลเคชั่นดี เรื่องราคาก็มีถูกบ้างแพงบ้าง ที่ออสเตรียนอนแพงค่ะ ที่เมืองอื่นราคาไม่ค่อยแพงเท่าไร
ตอนจองเราใส่ชื่อไปทั้งสองคนเลยค่ะ เผื่อเอาไว้ให้เพื่อนไปยื่นวีซ่าด้วย จะได้มีชื่อเพื่อนด้วยเลย เช่น Ms.XXXX and Ms.YYYY
Vianna - Motel One Wien-Hauptbahnhof นอนที่นี่ 2 คืนแรก แล้วก็คืนสุดท้ายก่อนกลับ ราคาที่เราจองไป คืนละ 3200-4500 บาท ใกล้สถานีรถไฟหลักค่ะ เดินทางไปเมืองอื่นได้ ไปสนามบินสะดวก 15 นาทีเอง
Salzburg - ACHAT Plaza Zum Hirschen อันนี้ก็ไม่ไกลจากสถานีSalzburgมากค่ะ เดินประมาณ 7 นาที คืนละ 3900 บาท
Hallstatt - เราไม่ได้ค้างที่นี่ค่ะ
Cesky Krumlov - Pension Faber ใกล้ปราสาทเชสกี้ เดินไปสถานีรถบัส spicak ไม่ไกลมาก คืนละประมาณ 2400 บาท
Prague - Apartments Pushkin อยู่ใกล้ๆย่าน old townเลย เดินไปสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆได้ไม่ไกล คืนละประมาณ 2500 บาท
Budapest - Budapest Holidays Harmony เป็น Service Apartment ค่ะ คือออฟฟิตที่เช็คอินที่นึง ห้องพักที่นึง แต่ไม่ไกลกันมากค่ะ คืนละประมาณ 2100 บาท
ในส่วนของที่พักนี่ ถ้ามีเวลาจะทำรีวิวไว้ให้ในรายละเอียดต่อๆไปค่ะ
4.การขอวีซ่า
เราขอ Schengen Visa ออสเตรียไปค่ะ เพราะว่าประเทศแรกที่เดินทางเข้า และก็ใช้เวลาที่นี่เยอะสุด การขอวีซ่าไม่ยากค่ะ ขอแค่เตรียมเอกสารให้ครบ และไปยื่นกับตัวแทน VFS Global สามารถดูรายละเอียดและจองคิวออนไลน์จากเว็บไซต์ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ ผลก็ออกแล้ว เราได้เป็นแบบ Multiple แต่ระยะเวลาได้แค่เดือนนึงอ่ะค่ะ ครอบคลุมทริปบวกเพิ่มวันให้ประมาณ 14 วัน
ขั้นตอนการยื่น
จองคิวออนไลน์ แล้ววันนัดก็ไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาทีค่ะ สำนักงานอยู่ที่สีลมคอมเพล็ก ชั้น 15 สามารถนั่ง BTS ลงสถานีศาลาแดง หรือ MRT ลงสถานีสีลม สำหรับคนที่ขับรถไป สามารถจอดในสีลมคอมเพล็กได้ (จอดฟรีชั่วโมงนึง เกินนั้นมีค่าบริการ น่าจะ 40 บาท จำไม่ได้แล้วค่ะ) ต้องเข้าไปในส่วนของสำนักงานนะคะ(ทางเข้าชั้น 1 อยู่ตรงร้าน Au Bon Pain ถ้านำรถขึ้นไปจอดก็จะมีจุดแลกบัตรชั้นที่จอดรถเลยค่ะ ไม่ต้องลงมาชั้นล่าง) บอกเจ้าหน้าที่ตรงเคาท์เตอร์ว่าไปทำวีซ่าเขาจะขอบัตรประชาชน ถ่ายรูปเรา และให้บัตรสำหรับเข้าอาคารมาค่ะ บัตรประชาชนก็จะได้คืนมาด้วย หลังจากนั้นก็สแกนบัตรที่ได้เข้าอาคาร กดลิฟต์ไปชั้น 15 ออกจากลิฟต์ก็เจอเลยค่ะ พอเข้าไปในศูนย์ก็แจ้งที่เคาท์เตอร์ หรือเอาใบนัดที่จองผ่านระบบไปยื่นให้เขาค่ะ เราลืมปริ๊นท์ไปแต่สามารถยื่นพาสปอร์ตแทนได้ พอถึงเวลาที่เราจองไว้ เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปในห้อง ด้านในจะมีที่นั่ง เข้าไปแล้วก็ต้องรอเรียกคิวอีกค่ะ อารมณ์เหมือนรอรับยาที่โรงพยาบาล 555 ข้างในห้ามคุยโทรศัพท์นะจ๊ะ แต่เล่นได้ พอถึงคิวก็ไปยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ ถ้าไปกับเพื่อนก็ยื่นพร้อมเพื่อนเลยค่ะ แล้วก็รอจ่ายเงิน สแกนลายนิ้วมือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็เสร็จแล้ว (แล้วแต่คิวในวันนั้นด้วยนะคะ) ทีนี้ก็รอผลค่ะ (แจ้งผลทาง SMS และ Email) เมื่อผลออกแล้ว ก็ไปรับวีซ่าค่ะ การรับวีซ่า สามารถไปรับได้ที่ศูนย์ ในเวลา 13.00 - 16.00 น. สามารถให้คนอื่นไปรับแทนได้ แต่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ แล้วก็ใช้สำเนาบัตร ปชช ของเรา และผู้รับมอบอำนาจไปด้วยค่ะ สามารถใช้แบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจจากที่ไหนก็ได้ เราก็หาจากในเนทไป
อันนี้ Link ต่างๆที่น่าจะเป็นประโยชน์
จองคิวออนไลน์ https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisterUser?Length=7
แบบฟอร์มที่ต้องกรอก http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/pdf/schengen-tourist-visa-form.pdf
รายชื่อบริษัทประกัน http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/pdf/insurance-list.pdf
เอกสารจำเป็นในการยื่นขอวีซ่า http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/all_about_visa.html
1.ใบสมัครยื่นคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วนโดยสมบูรณ์ 1 ชุด (เคยมีคนรีวิวอย่างละเอียดไว้แล้ว)
2.พาสปอร์ต และ สำเนาจำนวน 2 ใบ
พาสปอร์ต: ควรมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนหลังจากการเดินทางกลับออกจากกลุ่มประเทศเชงเก้น และ จะต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าในหนังสือเดินทาง ถ้าหากไม่มีหน้าว่าง 2 หน้าตามที่กำหนด ผู้ยื่นจำเป็นต้องทำหนังสือเดินทางใหม่ก่อนการยื่นขอวีซ่า
3.รูปถ่ายสีที่มีพื้นหลังสีขาว และเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 ใบ และต้องไม่ซ้ำกับรูปถ่ายหน้าวีซ่าในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน>>> เราไปถ่ายรูปที่ศูนย์วีซ่าในวันที่นัดทำเลยค่ะ 250 บาท ได้ 6 รูป (แต่ถ้ามีเวลาก็เตรียมไปเลยก็ดีค่ะ พอดีเราไม่ว่างไปร้านถ่ายรุปเลย)
4.ประกันภัยการเดินทาง >> เราใช้ประกันของ Chubb ราคาประมาน 600กว่าบาท
5.หนังสือรับรองการทำงานตัวจริง 1 ฉบับ ออกโดยหน่วยงาน หรือองค์กร อายุไม่เกิน 1 เดือน ให้ระบุ อาชีพ เงินเดือน และระยะเวลาในการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมัน) หรือ กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัวให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้าที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และมีชื่อผู้สมัคร (ส่วนกรณีที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ผู้สมัครจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงถึงที่มาของรายได้ในชีวิตประจำวัน) ถ้าเป็นนักเรียนต้องมีหนังสือรับรองตัวจริงการเป็นนักเรียน นักศึกษา
6.เอกสารทางการเงิน เช่น (สำเนาสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมมีการเคลื่อนไหวล่าสุดไม่เกิน 1 เดือน
ในกรณีที่สมุดบัญชีขาดการเคลื่อนไหวในบางเดือน ผู้สมัครสามารถยื่น Statement ที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องแทนได้ แต่หาก Statement บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวในเดือนนั้นๆ ผู้สมัครสามารถยื่น Bank Certificate ตัวจริงเพิ่มเติมที่ออกให้โดยธนาคารนั้นๆ >>> สำหรับคนที่ใช้ K bank สามารถขอ statement ผ่าน App ได้ค่ะ และสำเนาหน้าสมุดบัญชีไปด้วยเพราะใน statement เลขบัญชีจะขึ้นไม่ครบ
7.ใบจองตั๋วเครื่องบิน (Ticket Reservation) เอกสารจะต้องระบุ ชื่อสายการบินนั้นๆ รวมทั้งข้อมูลวัน-เวลา เดินทาง เที่ยวบิน และชื่อผู้โดยสาร ในกรณีผู้สมัครจองผ่านทาง Travel Agency หรือสายการบินโดยตรง
8.ในการณี มีการเชิญจากเพื่อนที่เป็นชาว Austria ให้ผู้สมัครแสดง Code เชิญจากสถานีตำรวจที่ออสเตรีย
พร้อมทั้งแสดงหน้าหนังสือเดินทางของคนเชิญ ประกอบด้วย (ในกรณีไปพักกับเพื่อน ญาติ หรือ คู่สมรส )
9.เอกสารเกี่ยวกับที่พัก (Hotel Booking) จำเป็นต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทาง
และตั๋วเครื่องบินของผู้สมัครเอกสารจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมันเท่านั้น รวมถึงต้องระบุชื่อของผู้สมัครที่เข้าพัก
และที่อยู่ของที่พักให้ชัดเจนเพื่อง่ายแก่การตรวจสอบ ในกรณีเข้าพักมากกว่า 1 แห่ง จำนวนคืนที่เข้าพักไม่ควรทับซ้อนกัน
10.ตารางการเดินทาง >> เราทำเป็นตารางใส่excel หลักๆก็บอกว่าวันไหนไปไหนบ้าง ใส่วิธีการเดินทาง (ไปจริงไม่ใช่แบบนี้เลยจ้า55)
ส่วนเรื่องของค่าทำวีซ่าตอนนั้นจ่ายไปคนละ 4000 บาท
5.การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
สภาพอากาศ
ช่วงที่เราไปเป็นครึ่งเดือนหลังของเดือนตุลาคม เป็นฤดูใบไม้ร่วง สำหรับเราอากาศกำลังสบายๆค่ะ อุณหภูมิ 18 องศา แต่วันหลังๆ เหลือ 6 องศา นี่สบายใช่ไหม? 555 คือหนังเราหนาค่ะ 555555 แต่ถ้าลมแรงนั่นก็หนาวจริง สำหรับคนขี้หนาวก็คงจะหนาวมากแล้ว แต่ยังไงก็เตรียมตัวให้อุ่นๆไว้ก็ดีค่ะ แต่ละเมืองอุณหภูมิไม่เท่ากันนะคะ บางเมืองอากาศหนาวแต่แดดร้อนเปรี้ยงและมีลมแรง บางเมืองหนาวแต่ไม่มีลม ยังไงก็เช็คสภาพอากาศก่อนไปด้วยนะคะ ส่วนฝนตกไหม ตอนเราไปเจอฝนตกวันสุดท้ายพอดี เตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วยก็ดีค่ะ
การเดินทาง
อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านเลยค่ะว่าจะใช้วิธีเดินทางกันยังไง รถสาธารณะ หรือว่าจะเช่ารถ อย่างของเราตอนข้ามเมืองเราใช้บริการรถไฟกับรถบัส เพราะไปกันสองคนเช่ารถไม่คุ้มแล้วที่จอดรถหาไม่ง่ายเท่าไร การเดินทางในแต่ละเมืองก็ใช้ต่างรูปแบบกัน บางเมืองนี่เราเดินอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะเราเดินเก่งกันมาก กลับมาเปิดในมือถือดู คือเดินวันละ 9-10 กิโล/วัน ตกใจมากจริงๆ 55555
การแลกเงิน
ที่ออสเตรียใช้เงิน ยูโรค่ะ ตอนเราไป 1 ยูโร = 37.75 บาท (ขออนุญาตปัดขึ้นเป็น 38 บาท)
ส่วนที่เช็กใช้สกุลเงินของเขาเอง คือ โครูนาเช็ก(CZK) หรือถ้าฟังเร็วๆจะเป็น คราวเช็ก
และฮังการีก็ใช้สกุลเงินตัวเองคือ HUF แต่สัญลักษณ์จะเป็น Ft. นะ (อ่านว่า โฟรินท์)
การแลกเงินก็แลกยูโรไปจากไทยทั้งหมดค่ะ แล้วเราเอายูโรไปแลกโครูนาเช็กเชสกี้ 1 ยูโร = 25050 czk
และไปแลกโฟรินท์ที่บูดาเปสต์ 1 euro = 318 Ft. เคยหาข้อมูลมาว่าให้หาร้านที่เป็น 0% commission เรทจะดีกว่า
แต่พอไปจริงๆแล้วร้านที่ไม่มีค่าคอม มักจะให้เรทน้อยกว่าค่ะ เพราะร้านที่ไม่มีค่าคอมแต่เรทดีหายากค่ะ ลองเทียบเรทดูก่อน หรือที่พักบางที่ก็รับแลกเงินจ้ะ
ตอนต่อไปเราจะพาไปเที่ยวเวียนนากันค่า
https://ppantip.com/topic/38271886