▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
จังหวัดน่าน
เที่ยวน้ำตก
จังหวัดพะเยา
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
ตระเวนเดี่ยวเที่ยวเมืองอุตรดิตถ์ เมืองพะเยาต่อเมืองน่าน ตอนที่ 5
รีวิวกระทู้ตระเวนเดี่ยวเที่ยวเมืองอุตรดิตถ์ เมืองพะเยาต่อเมืองน่านกันต่อนะครับ สำหรับกระทู้นี้จัดเป็นกระทู้ตอนสุดท้ายของทริปนี้ ซึ่งผมจะเขียนเล่าประสบกาารณ์การท่องเที่ยวที่ผมไปเที่ยวมาในวันที่ 7 - 8 ของทริปนี้กัน โดยในตอนนี้จะเป็นการเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และกลับมาที่อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เที่ยวเก็บตกเมืองน่านเป็นที่สุดท้ายก่อนบินกลับกรุงเทพฯ ครับ
สำหรับอำเภอเชียงม่วนเป็นอำเภอในหุบเขาที่ถูกหลงลืม หลายคนมักใช้เป็นทางผ่านจากเมืองพะเยาไปยังเมืองน่าน ทั้ง ๆ ที่ดูศักยภาพแล้วเมืองเชียงม่วนก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าแวะเวียนไปชมกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แถมความสงบเงียบในเมืองและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่ายที่ความเจริญยังมีไม่มากนัก น่าจะเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ชวนให้เมืองนี้น่าไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งนะครับ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักการกำหนดการตระเวนเที่ยวของผมในทริปนี้ จำนวน 8 วันก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพุฯ - อุตรดิตถ์ และเที่ยวย่านเมืองลับแล
วันที่ 2 : เที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ
วันที่ 3 : เที่ยวเก็บตกในเมืองอุตรดิตถ์ และนั่งรถต่อไปยังเมืองน่าน
วันที่ 4 : เที่ยวย่านอำเภอปัว และอำเภอท่าวังผา
วันที่ 5 : เที่ยวชมทะเลหมอกภูลังกา และเที่ยวย่านอำเภอเชียงคำ
วันที่ 6 : เที่ยวย่านเมืองพะเยา และอำเภอดอกคำใต้
วันที่ 7 : เที่ยวย่านอำเภอเชียงม่วน และเที่ยวยามค่ำคืนในเมืองน่าน
วันที่ 8 : เที่ยวเก็บตกในเมืองน่าน และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 7 : เที่ยวย่านอำเภอเชียงม่วน และเที่ยวยามค่ำคืนในเมืองน่าน
หลังจากที่เมื่อวานผมได้ไปเที่ยวชมฝั่งต้าในยามเย็นในอำเภอเชียงม่วนมาแล้ว สายนี้ผมออกจากที่พักไปเที่ยวเก็บสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในอำเภอเชียงม่วน ก่อนที่จะขี่รถไปยังเมืองน่าน โดยสถานที่แรกที่ผมแวะเวียนไปชมคือ วัดพระธาตุภูปอ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของผมมากนัก
วัดพระธาตุภูปอ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาไม่ไกลจากตัวอำเภอเชียงม่วนมากนัก นับเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นตัวอำเภอเชียงม่วนได้ดี เสียดายว่าผมมารู้ทีหลัง ไม่อย่างงั้นเมื่อวานขี่รถขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่นี่แล้ว พอดีป้าเจ้าของที่พักเขาแนะนำให้มาชมที่นี่ ผมเลยถือโอกาสขี่รถมาชมสักหน่อย
วิธีการเดินทางมายังวัดพระธาตุภูปอก็ให้เราขี่รถเลยตัวอำเภอเชียงม่วนมาสักหน่อย ไปทางที่จะไปจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน ก่อนถึงแยกไปจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน เราจะเจอแยกทางขวามือที่มีรูปไดโนเสาร์ตัวเล็กอยู่ทางซ้ายมือ เป็นทางแยกเดียวกับที่จะไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง (หน่วยที่ 6 ไดโนเสาร์) นั่นแหละครับ
ขี่รถตามถนนสายนี้เข้าไปเรื่อย ๆ จะเจอทางแยกขึ้นเขาไปจุดชมวิววัดพระธาตุภูปอ ซึ่งอยู่ทางซ้ายของถนนดังภาพด้านบนครับ
ขี่รถตามทางซีเมนต์ขึ้นเขาไปไม่ไกลก็จะเจอกับวัดแล้ว จะเห็นรูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ มากมายตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้าทางเข้าวัด วัดอยู่สุดทางของถนนพอดี
วัดพระธาตุภูปอโดดเด่นด้วยพระธาตุองค์เล็กสีทอง ตั้งอยู่กลางวัด มายามสายเวลานี้แดดเปรี้ยงเลยครับ บรรยากาศร้อนน่าดู
รอบ ๆ ลานวัดมีรูปเทพชุมนุมนั่งพนมมือสีทองวางเรียงรายดูสวยงามดี ถัดไปเป็นวิวเบื้องล่างของภูเขา มองเห็นทุ่งนาและบ้านเรือนของชาวบ้านในอำเภอเชียงม่วน
ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปใหญ่น้อยมากมายให้สักการะ
เสร็จจากการชมวิวที่วัดพระธาตุภูปอแล้ว ผมก็ขี่รถตามถนนสายเดิมต่อไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ไดโนเสาร์ เห็นป้าเจ้าของที่พักเค้าบอกว่าที่อำเภอเชียงม่วนมีของดีที่เชิดหน้าชูตาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฟอสซิสไดโนเสาร์ โดยฟอสซิสไดโนเสาร์ของที่นี่เป็นการค้นพบฟอสซิสไดโนเสาร์เพียงแห่งเดียวในพื้นที่ภาคเหนือนะครับ
วิธีการเดินทางจากวัดพระธาตุภูปอไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ไดโนเสาร์ ก็ขี่รถลงเขามาและขี่รถไปตามถนนหลักดังเช่นภาพด้านล่าง ขี่ไปราว 2 - 3 กิโลได้นะครับ ตรงทางโค้งจะเจอกับทางแยกที่มีป้ายให้เลี้ยวซ้าย ป้ายขนาดใหญ่มากเขียนชัดเจนบอกทางเข้าไปหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ไดโนเสาร์
ขี่รถเข้าไปไม่ลึกก็จะเห็นรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ด้านหน้าของอาคารนะครับ
การเข้าชมฟอสซิสไดโนเสาร์ที่นี่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมอุทยานในการเข้าชมนะครับ ถ้าใครได้เสียค่าเข้าชมน้ำตกธารสวรรค์ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูนางมาแล้ว ก็ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ดูได้ก่อนเข้าชมครับ และตรงกันข้ามถ้าใครเสียเงินซื้อบัตรเข้าชมอุทยานที่นี่ เราก็สามารถใช้บัตรนี้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูได้ที่ป้อมตรวจตอนเข้าไปชมน้ำตกธารสวรรค์นะครับ โดยค่าเข้าชมอุทยานจะเก็บคนละ 20 บาท พอดีผมขี่รถมอเตอร์ไซค์มาก็จะเสียค่ารถมอเตอร์ไซค์อีก 20 บาทด้วยครับ รวมแล้วเสียค่าเข้าชมอุทยานเป็นเงิน 40 บาท
เดินเข้ามาชมภายในอาคารก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลเรื่องฟอสซิสไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบที่นี่นะครับ ภายในอาคารจัดแสดงหุ่นจำลองกระดูกไดโนเสาร์ที่ประกอบเป็นตัวอย่างสมบูรณ์ ไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบที่นี่จะเป็นพันธ์ุกินพืชที่มีคอยาว ดังภาพข้างบนนั่นแหละครับ
หากผมไปได้มาเที่ยวที่อำเภอเชียงม่วน ผมก็คงยังไม่ทราบว่าที่อำเภอนี้มีการขุดค้นพบฟอสซิสไดโนเสาร์ด้วยนะครับ ดังนั้นการมาชมสถานที่แห่งนี้ผมจึงมองว่าเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเอง หลายคนอาจมองว่าไปดูอะไรก็แค่ก้อนหินที่จัดวางในหลุมขุดค้น แต่ผมว่าทุกการเดินทางทุกสถานที่ที่เราได้ไปพบเจอล้วนสร้างความรู้ใหม่ ๆ ให้กับเราได้เสมอ คุณค่าของสถานที่บางแห่งอาจไม่ใช่ความสวยงามทางสายตาแต่มีคุณค่าและความสำคัญต่อมวลมนุษย์ในฐานะที่เป็นประจักษ์พยานบ่งชี้พัฒนาการของโลกเรานะครับ
ต่อมาผมขี่รถไปชม แก่งหลวง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกลนัก
มาชมแก่งหลวงในยามนี้ น้ำอาจมากไปหน่อยเลยทำให้มองเห็นแก่งได้ไม่มากนัก จากจุดจอดรถเดินลัดเลาะตามทางเดินเท้าตามซอกหินเข้าไปประมาณ 200 เมตรก็จะถึงจุดที่มองเห็นแก่งได้
ถ้าได้มาชมแก่งหลวงในยามเย็น บรรยากาศที่นี่น่าจะดีเหมาะกับการมาปิคนิคกินอาหารจำพวกส้มตำริมน้ำเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้ามีเสื้อมาปูนอนชมวิวและเล่นน้ำด้วยก็น่าจะดีไม่น้อย