คนที่สนใจลงทุนในหุ้นไอพีโอ...ต้องทำอย่างไร????
สัปดาห์นี้ Smart Invest มีคำตอบ...
www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3927
น่าผิดหวัง...สำหรับหุ้นไอพีโอที่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2561 ที่ราคา “ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” ต่างจากช่วง 4-5 ปีก่อน ที่ให้ผลตอบแทนในอัตราสูง
แน่นอนว่า ใครที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอในช่วงก่อนหน้านี้ ต่างยิ้มรับรอกำไรกันถ้วนหน้า
เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นไอพีโอในปีนี้!!!!
คำตอบจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาวะตลาดที่มีความผันผวนจากปัญหาสงครามการค้า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เงินทุนไหลออก (Fund Flow) หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
ส่งผลให้หุ้นไอพีโอในปีนี้ “ต่ำจอง”
จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 9 พ.ย.2561 พบว่ามีหุ้นไอพีโอจำนวน 18 หลักทรัพย์ฯ 16 เป็นบริษัทจดทะเบียน ส่วนที่เหลืออีก 2 หลักทรัพย์ เป็นกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ในจำนวน 16 บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ในปีนี้ พบว่า มี 2 บริษัทเข้าเทรดในวันแรก...ราคาต่ำกว่าจอง นั่นคือ NER และ SONIC
และหุ้น IPO ที่เทรดในปีนี้... ราคาเทรดในกระดาน ต่ำกว่าราคา IPO สูงถึง 9 บริษัท จากที่เข้าระดมทุน 16 บริษัท
หมายความว่า หุ้นไอพีโอ มากกว่าครึ่ง “ราคาต่ำจอง”
ประกอบด้วย NER , TIGER , SONIC , OSP , KWM , TPLAS , TEAMG , CMAN และ ABM
ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ ในปีนี้ ออกอาการ “หวาดผวา” เลยทีเดียวvและถือเป็นการ “หักปากกาเซียน” เพราะจากข้อมูลสถิติย้อนหลัง 2556-2560 หุ้นไอพีโอเทรดวันแรกยืนเหนือจอง 80% และให้ผลตอบแทนสูงกว่าราคาจองสูงถึง 39% นั่นคือ...ช่วงยุคทองของหุ้นไอพีโอ
และก็มีข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในหุ้นไอพีโอเช่นเดียวกัน สำหรับนักลงทุนที่ชอบแหย่ขาเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ หุ้นไอพีโอ ในช่วง 1 เดือนแรก มีโอกาสขาดทุน 63-68% และผลตอบแทนติดลบ 3-4% กันเลยทีเดียว
แล้วคนที่สนใจลงทุนในหุ้นไอพีโอ...ต้องทำอย่างไร????
สัปดาห์นี้ Smart Invest มีคำตอบ...
ก่อนอื่นต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าหุ้น IPO ที่เราจะเข้าไปลงทุน
-แผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตเป็นอย่างไร
-วัตถุประสงค์การระดมทุน เอาเงินที่ได้ไปคืนหนี้ หรือใช้เพื่อขยายธุรกิจ
-เปรียบเทียบราคาเหมาะสมหรือไม่ เช่น ราคาหุ้นต่อผลกำไร P/E เทียบอุตสาหกรรม P/BV หรือราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี แพงหรือไม่ และ EPS หรือกำไรต่อหุ้น เป็นอย่างไร
-ใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นตัวแทนการจัดจำหน่าย เพราะ FA เป็นเรื่องสำคัญ ค่ายไหนเปิดโดด ค่ายไหนราคานิ่งแล้วค่อยๆไป แล้วค่ายไหนที่ปล่อยให้ราคาไหลลง ไม่สนใจรายย่อย
-หุ้นไอพีโอ มีการกระจายให้ใครบ้าง รายใหญ่ สถาบัน ถือว่าสำคัญเช่นเดียวกัน หาก FA มีการกระจายสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม กระจุกตัวมากเกินไป โอกาสที่จะทำให้หุ้นไอพีโอ ต่ำกว่าจองก็มีสูงเช่นเดียวกัน และมีความเสี่ยงโดนขาใหญ่ ถล่มราคา หลังเข้าเทรดวันแรก
-จำนวนหุ้น IPO ที่กระจาย ถ้าหากมีหุ้นเข้าเทรดจำนวนมาก แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวของราคายากที่จะคาดเดา เมื่อเทียบกับหุ้นจำนวนไม่มาก เจ้าย่อมสามารถคอนโทรลราคาหุ้น ได้ดีกว่าหุ้นไอพีโอที่มีจำนวนมากแน่นอน
ถือเป็น “การบ้าน” ที่นักลงทุนต้องศึกษาก่อน “แหย่ขา” เข้าลงทุนหุ้นไอพีโอครับ
///////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก share2trade.com
www.facebook.com/share2trade
หมดยุคทอง...หุ้นไอพีโอ
สัปดาห์นี้ Smart Invest มีคำตอบ...
www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3927
น่าผิดหวัง...สำหรับหุ้นไอพีโอที่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2561 ที่ราคา “ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” ต่างจากช่วง 4-5 ปีก่อน ที่ให้ผลตอบแทนในอัตราสูง
แน่นอนว่า ใครที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอในช่วงก่อนหน้านี้ ต่างยิ้มรับรอกำไรกันถ้วนหน้า
เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นไอพีโอในปีนี้!!!!
คำตอบจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาวะตลาดที่มีความผันผวนจากปัญหาสงครามการค้า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เงินทุนไหลออก (Fund Flow) หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
ส่งผลให้หุ้นไอพีโอในปีนี้ “ต่ำจอง”
จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 9 พ.ย.2561 พบว่ามีหุ้นไอพีโอจำนวน 18 หลักทรัพย์ฯ 16 เป็นบริษัทจดทะเบียน ส่วนที่เหลืออีก 2 หลักทรัพย์ เป็นกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ในจำนวน 16 บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ในปีนี้ พบว่า มี 2 บริษัทเข้าเทรดในวันแรก...ราคาต่ำกว่าจอง นั่นคือ NER และ SONIC
และหุ้น IPO ที่เทรดในปีนี้... ราคาเทรดในกระดาน ต่ำกว่าราคา IPO สูงถึง 9 บริษัท จากที่เข้าระดมทุน 16 บริษัท
หมายความว่า หุ้นไอพีโอ มากกว่าครึ่ง “ราคาต่ำจอง”
ประกอบด้วย NER , TIGER , SONIC , OSP , KWM , TPLAS , TEAMG , CMAN และ ABM
ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ ในปีนี้ ออกอาการ “หวาดผวา” เลยทีเดียวvและถือเป็นการ “หักปากกาเซียน” เพราะจากข้อมูลสถิติย้อนหลัง 2556-2560 หุ้นไอพีโอเทรดวันแรกยืนเหนือจอง 80% และให้ผลตอบแทนสูงกว่าราคาจองสูงถึง 39% นั่นคือ...ช่วงยุคทองของหุ้นไอพีโอ
และก็มีข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในหุ้นไอพีโอเช่นเดียวกัน สำหรับนักลงทุนที่ชอบแหย่ขาเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ หุ้นไอพีโอ ในช่วง 1 เดือนแรก มีโอกาสขาดทุน 63-68% และผลตอบแทนติดลบ 3-4% กันเลยทีเดียว
แล้วคนที่สนใจลงทุนในหุ้นไอพีโอ...ต้องทำอย่างไร????
สัปดาห์นี้ Smart Invest มีคำตอบ...
ก่อนอื่นต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าหุ้น IPO ที่เราจะเข้าไปลงทุน
-แผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตเป็นอย่างไร
-วัตถุประสงค์การระดมทุน เอาเงินที่ได้ไปคืนหนี้ หรือใช้เพื่อขยายธุรกิจ
-เปรียบเทียบราคาเหมาะสมหรือไม่ เช่น ราคาหุ้นต่อผลกำไร P/E เทียบอุตสาหกรรม P/BV หรือราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี แพงหรือไม่ และ EPS หรือกำไรต่อหุ้น เป็นอย่างไร
-ใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นตัวแทนการจัดจำหน่าย เพราะ FA เป็นเรื่องสำคัญ ค่ายไหนเปิดโดด ค่ายไหนราคานิ่งแล้วค่อยๆไป แล้วค่ายไหนที่ปล่อยให้ราคาไหลลง ไม่สนใจรายย่อย
-หุ้นไอพีโอ มีการกระจายให้ใครบ้าง รายใหญ่ สถาบัน ถือว่าสำคัญเช่นเดียวกัน หาก FA มีการกระจายสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม กระจุกตัวมากเกินไป โอกาสที่จะทำให้หุ้นไอพีโอ ต่ำกว่าจองก็มีสูงเช่นเดียวกัน และมีความเสี่ยงโดนขาใหญ่ ถล่มราคา หลังเข้าเทรดวันแรก
-จำนวนหุ้น IPO ที่กระจาย ถ้าหากมีหุ้นเข้าเทรดจำนวนมาก แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวของราคายากที่จะคาดเดา เมื่อเทียบกับหุ้นจำนวนไม่มาก เจ้าย่อมสามารถคอนโทรลราคาหุ้น ได้ดีกว่าหุ้นไอพีโอที่มีจำนวนมากแน่นอน
ถือเป็น “การบ้าน” ที่นักลงทุนต้องศึกษาก่อน “แหย่ขา” เข้าลงทุนหุ้นไอพีโอครับ
///////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก share2trade.com
www.facebook.com/share2trade