การสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งวิศวกรอาวุโส
ในวงการอุตสาหกรรมของอเมริกา บริษัทชั้นนำจะแบ่งตำแหน่งของวิศวกรโดยเรื่มจากไม่มีประสบการณ์หรือมีประสบการ์น้อย Entry Level,Associate,Engineer 1-2 จะมีอายุผ่านงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ต่อจากนั้นจะเป็นตำแหน่งวิศวกร 3-5 ซึ่งเทียบเท่ากับ Senior Engineer หรือ Principal Engineer ผ่านงานมาแล้ว 5 ถึง 10 ปีขี้นไป และตำแหน่งสุดท้ายของสายปฏิบัติงานคือ หัวหน้าวิศวกร หริอ วิศวกร 6 หรือ Senior Principal Engineer ชึ่งตำแหน่งนี้จะมีหลายคนในโรงงานอุตสาหกรรม บางท่านมีประสบการทำงานมากว่า 30 ปี
เมื่อครั้งที่ลูกชายคนแรกได้สมัครงานและเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งวิศวกรอาวุโส หนึ่งในสี่คำถามสัมภาษณ์ก็คือ "คุณจะมีวิธิการดำเนินการและแก้ไขอย่างไรเมื่อพบข้อผิดพลาดในโปรเจกต์ที่คุณควบคุมอยู่" ส่วนอีกสามคำถามจะเกี่ยวกับความรู้ทางวิศวกรรมและการพูดคุยสอบถามถึงประสบกาณ์ทำงานที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทต้องแน่ใจว่าผู้สมัคร(ลูกชาย) มีความรู้ความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการ
การสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการในบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ในอเมริกา
เนื่องจากในแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมจะมีพนักงานเป็นพันคน และมีวิศวกรเป็นร้อยคน ดังนั้นจึงมีตำแหน่งผู้จัดการโน่นนี่นั่นมากมาย ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องในแต่ละสายงานและจำนวนพนักงาน คุณสมบัติของวิศวกรที่จะดำรงตำแหน่งผู้จัดการหรือฝ่ายบริหารจัดการจะมีอายุงาน 5 ปีขึ้นไป พร้อมวุฒิ ป.โทหรือสูงกว่า เคยเป็นหัวหน้างาน(ซุปเปอร์ไวเซอร์) และหรือ มีประกาศนียบัตรเคยผ่านหลักสูตรอบรมพิเศษต่างๆแล้วแต่บริษัทนั้นๆจะกำหนด โดยที่ตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการนั้นนอกจากจะบริหารงานและดูแลงบประมาณแล้ว ยังมีหน้าที่ปกครองดูแลวิศวกรในกลุ่ม ซึ่งสามารถให้คุณหรือให้โทษแก่วิศวกรในกลุ่มงานที่ตนรับผิดชอบได้ การจะเลื่อนลำดับวิศวกรเพื่อดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นไม่ใช่ทุกคนจะได้รับตำแหน่งเมื่ออายุงานครบ แต่บริษัทจะพิจารณาคัดเลือกจากการสอบสัมภาษณ์ และประเมินผลงานที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหากไม่ผ่านการประเมิน บริษัทมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาว่าจ้างได้ ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีตำแหน่งว่างรองรับถึงจะได้เลื่อนลำดับที่สูงขึ้น
สำหรับคำถามในการสอบสัมภาษณ์ลูกชายคนที่สองเพื่อเข้ารับตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการนั้น (ตำแหน่งนี้เปิดรับสมัครวิศวรจากภายนอกด้วย)โดยที่ลูกชายคนที่สองยังเป็นวิศวกรของบริษัทอยู่ แต่ได้สมัครและได้รับการคัดเลือกให้เดินทางไปเข้าสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อทำงานในอีกเมืองหนี่ง อาจจะด้วยเหตุเพราะเป็นวิศวกรของบริษัทการสอบสัมภาษณ์จึงไม่มีคำถามเกี่ยวกับความรู้ทางวิศวกรรมเลย คำถามสัมภาษณ์จึงเกี่ยวกับการบริหารงานและการบริหารบุคคลล้วนๆ โดยบางคำถามได้ถามในลักษณะว่า "ท่านจะมีวิธีการอย่างไรที่จะให้ผู้ร่วมงานแสดงศักยภาพของตนออกมาใช้ในการทำงาน" จขกท.ต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถนำคำถามทั้งหมดมาเผยแพร่ได้
คำถามของสองบริษัทที่ลูกชายทั้งสองคนได้เข้ารับการสอบสัมภาษณ์นั้น จะมีลักษณะให้แก้ไขปัญหาบุคคลากรและแสดงความคิดเห็นหากแผนงานนั้นมีปัญหา และรวมถึงการสอบถามพูดคุยประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา โดยใช้เวลาสัมภาษณ์ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ
จขกท.มีข้อสงสัยได้ถามลูกชายคนเล็กว่า แล้วใครจะคุมหัวหน้าวิศวกร คำตอบก็คือวิศวกรผู้จัดการ
คำถามต่อมา ในเมื่อหัวหน้าวิศวกรแต่ละคนเชี่ยวชาญช่ำชองระดับกูรู พวกเขาจะยอมรับผู้จัดการใหม่อย่างลูกหรือ
คำตอบก็คือ ก็อย่าไปทำตัวฉลาดกว่าเขาสิ ผู้จัดการมีหน้าที่ดูแล ประสานงาน เป็นตัวเชื่อมระหว่างบริษัทกับพนักงาน เพื่อให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ถ้างานมีปัญหาที่ต้องตัดสินใจ ผู้จัดการจะเป็นคนตัดสินใจและสั่งการ เพราะฉะนั้น ถ้าตัดสินใจหรือสั่งการผิดทำให้บริษัทเสียหายร้ายแรง ผู้จัดการจะโดนบริษัทเชือดเป็นคนแรก
ส่วนเรื่องเงินเดือนค่าตอบแทนระหว่างตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการ(ใหม่)และวิศวกรอาวุโส(ใหม่) จะไม่แตกต่างกันมาก แต่เนื่องจากว่าตำแหน่งผู้จัดการนั้นเป็นตำแหน่งในฝ่ายบริหาร ฉะนั้นตำหน่งของฝ่ายบริหารจะไปสิ้นสุดที่ตำแหน่งประธานบริษัท
อนึ่ง โดยปกติในบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ระดับโลก ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้จัดการนั้นจะมีพร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ แต่ขณะนั้นลูกชายคนเล็กมีอายุเพียง 26 ปีเศษ และ จขกท.เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นเด็กไทยคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการดูแลวิศวกรและเจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบประมาณสิบกว่าคน และเท่าที่ลูกชายคนเล็กทราบ ในพ.ศ.นี้เขาอาจจะเป็นวิศวกรคนที่สองของบริษัทนี้ ที่ได้เป็นวิศวกรผู้จัดการตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งวิศวกรชาวอเมริกันคนแรกของบริษัทนี้ที่ได้รับตำแหน่งผู้จัดการขณะนั้นอายุ 26 ปีเท่ากัน แต่ขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งไดเร็คเตอร์ ทำงานคนละรัฐ
เมื่อเข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งผู้จัดการกับบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก
ในวงการอุตสาหกรรมของอเมริกา บริษัทชั้นนำจะแบ่งตำแหน่งของวิศวกรโดยเรื่มจากไม่มีประสบการณ์หรือมีประสบการ์น้อย Entry Level,Associate,Engineer 1-2 จะมีอายุผ่านงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ต่อจากนั้นจะเป็นตำแหน่งวิศวกร 3-5 ซึ่งเทียบเท่ากับ Senior Engineer หรือ Principal Engineer ผ่านงานมาแล้ว 5 ถึง 10 ปีขี้นไป และตำแหน่งสุดท้ายของสายปฏิบัติงานคือ หัวหน้าวิศวกร หริอ วิศวกร 6 หรือ Senior Principal Engineer ชึ่งตำแหน่งนี้จะมีหลายคนในโรงงานอุตสาหกรรม บางท่านมีประสบการทำงานมากว่า 30 ปี
เมื่อครั้งที่ลูกชายคนแรกได้สมัครงานและเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งวิศวกรอาวุโส หนึ่งในสี่คำถามสัมภาษณ์ก็คือ "คุณจะมีวิธิการดำเนินการและแก้ไขอย่างไรเมื่อพบข้อผิดพลาดในโปรเจกต์ที่คุณควบคุมอยู่" ส่วนอีกสามคำถามจะเกี่ยวกับความรู้ทางวิศวกรรมและการพูดคุยสอบถามถึงประสบกาณ์ทำงานที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทต้องแน่ใจว่าผู้สมัคร(ลูกชาย) มีความรู้ความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการ
การสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการในบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ในอเมริกา
เนื่องจากในแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมจะมีพนักงานเป็นพันคน และมีวิศวกรเป็นร้อยคน ดังนั้นจึงมีตำแหน่งผู้จัดการโน่นนี่นั่นมากมาย ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องในแต่ละสายงานและจำนวนพนักงาน คุณสมบัติของวิศวกรที่จะดำรงตำแหน่งผู้จัดการหรือฝ่ายบริหารจัดการจะมีอายุงาน 5 ปีขึ้นไป พร้อมวุฒิ ป.โทหรือสูงกว่า เคยเป็นหัวหน้างาน(ซุปเปอร์ไวเซอร์) และหรือ มีประกาศนียบัตรเคยผ่านหลักสูตรอบรมพิเศษต่างๆแล้วแต่บริษัทนั้นๆจะกำหนด โดยที่ตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการนั้นนอกจากจะบริหารงานและดูแลงบประมาณแล้ว ยังมีหน้าที่ปกครองดูแลวิศวกรในกลุ่ม ซึ่งสามารถให้คุณหรือให้โทษแก่วิศวกรในกลุ่มงานที่ตนรับผิดชอบได้ การจะเลื่อนลำดับวิศวกรเพื่อดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นไม่ใช่ทุกคนจะได้รับตำแหน่งเมื่ออายุงานครบ แต่บริษัทจะพิจารณาคัดเลือกจากการสอบสัมภาษณ์ และประเมินผลงานที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหากไม่ผ่านการประเมิน บริษัทมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาว่าจ้างได้ ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีตำแหน่งว่างรองรับถึงจะได้เลื่อนลำดับที่สูงขึ้น
สำหรับคำถามในการสอบสัมภาษณ์ลูกชายคนที่สองเพื่อเข้ารับตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการนั้น (ตำแหน่งนี้เปิดรับสมัครวิศวรจากภายนอกด้วย)โดยที่ลูกชายคนที่สองยังเป็นวิศวกรของบริษัทอยู่ แต่ได้สมัครและได้รับการคัดเลือกให้เดินทางไปเข้าสอบสัมภาษณ์เพื่อดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อทำงานในอีกเมืองหนี่ง อาจจะด้วยเหตุเพราะเป็นวิศวกรของบริษัทการสอบสัมภาษณ์จึงไม่มีคำถามเกี่ยวกับความรู้ทางวิศวกรรมเลย คำถามสัมภาษณ์จึงเกี่ยวกับการบริหารงานและการบริหารบุคคลล้วนๆ โดยบางคำถามได้ถามในลักษณะว่า "ท่านจะมีวิธีการอย่างไรที่จะให้ผู้ร่วมงานแสดงศักยภาพของตนออกมาใช้ในการทำงาน" จขกท.ต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถนำคำถามทั้งหมดมาเผยแพร่ได้
คำถามของสองบริษัทที่ลูกชายทั้งสองคนได้เข้ารับการสอบสัมภาษณ์นั้น จะมีลักษณะให้แก้ไขปัญหาบุคคลากรและแสดงความคิดเห็นหากแผนงานนั้นมีปัญหา และรวมถึงการสอบถามพูดคุยประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา โดยใช้เวลาสัมภาษณ์ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ
จขกท.มีข้อสงสัยได้ถามลูกชายคนเล็กว่า แล้วใครจะคุมหัวหน้าวิศวกร คำตอบก็คือวิศวกรผู้จัดการ
คำถามต่อมา ในเมื่อหัวหน้าวิศวกรแต่ละคนเชี่ยวชาญช่ำชองระดับกูรู พวกเขาจะยอมรับผู้จัดการใหม่อย่างลูกหรือ
คำตอบก็คือ ก็อย่าไปทำตัวฉลาดกว่าเขาสิ ผู้จัดการมีหน้าที่ดูแล ประสานงาน เป็นตัวเชื่อมระหว่างบริษัทกับพนักงาน เพื่อให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ถ้างานมีปัญหาที่ต้องตัดสินใจ ผู้จัดการจะเป็นคนตัดสินใจและสั่งการ เพราะฉะนั้น ถ้าตัดสินใจหรือสั่งการผิดทำให้บริษัทเสียหายร้ายแรง ผู้จัดการจะโดนบริษัทเชือดเป็นคนแรก
ส่วนเรื่องเงินเดือนค่าตอบแทนระหว่างตำแหน่งวิศวกรผู้จัดการ(ใหม่)และวิศวกรอาวุโส(ใหม่) จะไม่แตกต่างกันมาก แต่เนื่องจากว่าตำแหน่งผู้จัดการนั้นเป็นตำแหน่งในฝ่ายบริหาร ฉะนั้นตำหน่งของฝ่ายบริหารจะไปสิ้นสุดที่ตำแหน่งประธานบริษัท
อนึ่ง โดยปกติในบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ระดับโลก ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้จัดการนั้นจะมีพร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ แต่ขณะนั้นลูกชายคนเล็กมีอายุเพียง 26 ปีเศษ และ จขกท.เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นเด็กไทยคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการดูแลวิศวกรและเจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบประมาณสิบกว่าคน และเท่าที่ลูกชายคนเล็กทราบ ในพ.ศ.นี้เขาอาจจะเป็นวิศวกรคนที่สองของบริษัทนี้ ที่ได้เป็นวิศวกรผู้จัดการตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งวิศวกรชาวอเมริกันคนแรกของบริษัทนี้ที่ได้รับตำแหน่งผู้จัดการขณะนั้นอายุ 26 ปีเท่ากัน แต่ขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งไดเร็คเตอร์ ทำงานคนละรัฐ