ผมพร้อม(เผ่น?) “ลูกโอ๊ค” จะ “เล่น” ใหญ่ลง ทษช. หรือจะ“เผ่น?”สืบตำนานนักโ(ทษช)าย

กระทู้สนทนา

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “พร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร แล้วพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นรูปแบบประชาธิปไตยทุกรูป”

คำตอบตรงๆ จากปาก “ยอดชายนายโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี ที่ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงแนวโน้มการเข้าสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัว

เป็นคำถามที่ต่อยอดจากคำประกาศของ “ลูกบิ๊กบอส” ที่ “ของขึ้น” ตั้งแต่รู้ตัวว่าจะถูกอัยการส่งฟ้องในคดีฟอกเงินจากกรณีทุจริตเงินกู้กรุงไทย-กฤษดามหานคร แล้วลั่นคีย์บอร์ดไว้ว่า “จะชวนทุกคนในบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค … ไม่อยากให้ผมไปช่วยหาเสียง-ผมก็จะไปมันทุกจังหวัด” โดยอ้างว่า “ผู้มีอำนาจพยายามยัดเยียดคดีความให้เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้ง..!!”

เป็นคำถามที่กรองมาจากกระแสข่าวว่า “ลูกนายใหญ่” เตรียมตัวไปนั่งแท่นรองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ที่เพิ่งเปิดตัวกันหมาดๆ ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้ “ป๋าษิณ” ดัน “ลูกชายหัวแก้ว” ขึ้นชั้นหัวหน้าพรรค หรือแคนดิเดตนายกฯ เต็มตัวไปเลย

เป็นคำถามที่กรองมาจากกระแสข่าวที่ว่า “เสี่ยโอ๊ค” เป็นตัวตั้งตัวตีในการเปิดสาขาใหม่ของพรรคเพื่อไทย ในนามพรรคไทยรักษาชาติ ที่มาทีหลังแต่ “เส้นใหญ่” กว่า เบียด “พรรคนอมินี” หัวอื่นตกขอบ ขนาด “เพื่อธรรม” ของ “อาแดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ยังถูกเหยียบข้ามหัวไปเฉยเลย

ประเมินทิศทางลมตามนี้ ก็คาดการณ์กันว่า วันเปิดตัว พรรคไทยรักษาชาติ ที่ใช้ตัวย่อ “ทษช.” แทนที่จะเป็น “ทรช. สื่อความหมายให้ตรงกันตัวย่อ “ทักษิณ ชินวัตร” นั้น “พานทองแท้” จะโผล่ไปเป็น “บิ๊กเซอร์ไพร์ส” ไม่ว่าจะในฐานะผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุน แต่กลับไร้วี่แวว

ไม่สมราคาที่คุยเขื่องพร้อมนักหนา ตั้งแต่เกิดเป็น “ลูกชายนายทักษิณ” แล้ว

แต่ก็อาจจะรอจังหวะอะไรบางประการก่อนเปิดตัวก็เป็นได้

ตัดภาพไปที่การเปิดตัว พรรคไทยรักษาชาติ ที่โรงแรมรามาการ์เดนท์ เมื่อวันก่อน โผผู้บริหารพรรคออกมาตามรายชื่อที่ถูกปล่อยผ่าน “สื่อค่ายประชาชื่น” มาเเบบเป๊ะๆ

ไล่ตั้งแต่ “เสี่ยป๋อม” ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย และ เจ๊เบียบ-นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น ที่พกดีกรี ส.ส.แค่ 2 สมัย ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค

ขณะที่รองหัวหน้าพรรคประกอบด้วย “เสี่ยไนท์” ฤภพ ชินวัตร บุตรชายพายัพ ชินวัตร น้องชายของทักษิณ, สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทยยุคบุกเบิก คนสนิทของ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย และคนสนิทของนายทักษิณ, พฤฒิชัย วิริยะโรจน์ อดีตผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล แกนนำกลุ่มพลเมืองก้าวหน้าราชบุรี ที่เคยประกาศตัวเป็นหมอคนเสื้อแดง

ถัดมาตำแหน่งสำคัญ เลขาธิการพรรค ตกเป็นของ “เสี่ยฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด บุตรชาย “ยุทธ ตู้เย็น” ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ที่เพิ่งประกาศตัวสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ

สำหรับรองเลขาธิการพรรค ประกอบด้วย ต้น ณ ระนอง บุตรชาย “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง, วิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกรัฐบาลด้านเศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มือทำงานของ “เฮียเพ้ง” เจ้าของตำนาน “จดหมายถึงท่านพงษ์ศักดิ์-ข้อเสนอ วิม” เรื่องฉาวโฉ่เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2554 และ “เสี่ยเอิง” คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เพื่อนสนิทกับ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของทักษิณส่งเข้าประกวดด้วย

ถัดมาที่ กรรมการบริหารพรรค 2 ราย ประกอบด้วย รุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตที่ปรึกษา รมช.คลัง สมัยรัฐบาลทักษิณ และ “ทูตจุล” จุลพงษ์ โนนศรีชัย อดีตทูตใหญ่หลายประเทศ และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ส่วนนายทะเบียนสมาชิกพรรค เป็นของ “เจ๊แซน” ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ บุตรสาว เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ โฆษกพรรคเป็น “กาย” พงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ อดีตผู้ประกาศข่าวทีวี พร้อมกันนี้ยังมีชื่อ “มาดามจุ๊บ” วรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็นเหรัญญิกพรรคอีกด้วย
โอ๊ค พานทองแท้ที่กระเตง “คุณหญิงแม่” และ “น้องสาว” ไปด้วยทุกครั้ง
ไล่ต่อมาถึงในส่วน คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค 11 ราย แบ่งเป็นผู้บริการพรรค 4 ราย ประกอบด้วย ร.ท.ปรีชาพล, สุณีย์, มิตติ และพฤฒิชัย ร่วมด้วยบุคคลอื่นอีก 7 ราย ประกอบด้วย “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย, กฤษณา สีหลักษณ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์, “ทนายถุงขนม” พิชิต ชื่นบาน หัวหน้าทีมทนายความในคดีรับจำนำข้าว และทนายประจำตระกูลชินวัตร “บิ๊กตุ๊” พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 10 (ตท.10) และอดีต ผอ.กองสลากกินแย่งรัฐบาล สมัยรัฐบาลทักษิณ, “เสี่ยแมว” วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์, วราวุธ ยันต์เจริญ อดีตที่ปรึกษา รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ “เจ๊สุ” สุทิษา ประทุมกุล เลขานุการส่วนตัวของยิ่งลักษณ์

แล้วยังมีแนวร่วมที่น่าสนใจอย่าง “ฟลุค เดอะสตาร์ 5” พชร ธรรมมล ผู้มักก่อกระแสดรามาในโลกโซเชียลด้วยจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และเครือข่ายทักษิณ ตลอดจนแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช.มาโดยตลอด รวมไปถึง “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ พิธีกรฝีปากกล้า ทายาทของ สุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ โดยเป็นที่รู้กันว่า “เจ๊มดดำ” เป็นเพื่อนร่วมก๊วน “พานทองแท้” ที่ถูกชักชวนมาเป็นหัวหอกในการเจาะกลุ่มฐานเสียงคนข้ามเพศ หรือ LGBT ให้กับพรรคไทยรักษาชาติด้วย

ไล่เรียงจนถ้วนทั่วก็จะเห็นได้ว่า ทษช. ที่ใครต่อใครก็เรียก “พรรคทักษิณชัวร์” ที่ชอบมีคนอุตริไปเติม “ไม้เอก” ผันวรรณยุกต์ตรงคำท้ายอยู่เรื่อย นอกจาก “หัวหน้าพรรคในนาม” อย่าง “ปรีชาพล” ที่คงหวังอาศัยใช้ความเป็น “คนนอกตระกูล” มาบังหน้า “เครือข่ายชินวัตร” ไว้เท่านั้น แต่ “ไส้ใน” มันปิดกันไม่มิด ก็เล่นระดม “เครือข่ายลูกหลาน” มาแบบตะพึดตะพือ จนมิอาจขนานให้เป็น “พรรคอะไหล่-พรรคสำรอง” ธรรมดาๆได้แล้ว ต้องเป็น “พรรคชินวัตรแฟมิลี่” หรือ “ลูกท่านหลานทักษิณ” ดูจะตรงตัวมากที่สุด

แม้รู้อยู่เต็มอกว่า เป็นแค่ “หุ่นเชิด” แต่ตัว “ปรีชาพล” เองก็แอ่นอกพร้อมรับ ด้วยความที่โอกาสดีๆเช่นนี้ไม่ได้มากันง่ายๆ ต้องพยายามเบียดแทรกเข้าไปอยู่ใกล้ชิดในกลุ่มก๊วน ส.ส.รุ่นใหม่ที่อยู่รายล้อม “คุณหนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตลอด
“เสี่ยป๋อม” ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้า ทษช.ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าคือ “แก๊งไอติม” แห่งระบอบทักษิณ เมื่อครั้งชวนเพื่อนร่วมก๊วนไปถ่ายรูปร่วมกับ “ยิ่งลักษณ์” ที่ลอนดอน
ดังจะเห็นได้จาก เมื่อครั้งที่ “เสี่ยป๋อม” ร่วมทริปกับอดีต ส.ส.เพื่อไทยรวมถึงคนใกล้ชิดหลายคน อาทิ เสี่ยแมว-วรวัจน์, เจ๊แซน-ชยิกา และ “เจ๊เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล จับเครื่องไปเยี่ยมถึงมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ แล้วยังเซลฟี่โพสต์รูปกันเย้ย “รัฐบาล คสช.” กันแบบรัวๆ

อีกทั้งยังมีช้อตยืนโซ้ยไอศกรีมร้านดังท้าลมหนาว จนคนที่อยู่ในเฟรมถูกขนานนามว่า “แก๊งไอติม” ประจำพรรคเพื่อไทยกันมาแล้ว

หันมาดูในแง่ “ยุทธศาสตร์” ของ “เครือข่ายทักษิณ” ตามสูตร “แยกกันเดิน รวมกันตี” กับการกำเนิดเกิดขึ้นของ “ไทยรักษาชาติ” ในขณะที่พรรคสาขาเปิดรอไว้อยู่แล้วนับสิบ แต่ก็อย่างที่ว่าไปข้างต้นว่า พรรคนี้ “เส้นก๋วยจั๊บ” ล้วนแล้วแต่เป็น “สายตรงดูไบ-สายตรงลอนดอน” แทบทั้งสิ้น ไม่เท่านั้นยังมีแรงหนุนจากทั้ง “ลูกบิ๊กบอส” ทั้ง “เสี่ยโอ๊ค” รวมไปถึงว่าที่เจ้าสาว “คุณหนูอุ๊งอิ๊ง” อีกด้วย

และแม้จะใช้ภาพ “คนรุ่นใหม่” แต่ก็หนีเงาตัวเองไม่พ้น แต่ละผู้ แต่ละราย ล้วนแล้วมีร่องรอย-ร่างเงา “แกนนำตัวเก๋า” อยู่เบื้องหลัง ไม่เป็นลูกเลิฟ หลานรัก ก็เป็นลูกน้องทั้งสิ้น จนเกิดอาการประดักประเดิด สุดท้ายก็แค่เข็นพวก “ละอ่อนการเมือง” ไปตายแทน “แกนนำแถวบน” หากประสบอุบัติเหตุทางการเมืองไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นปมทุจริตการเลือกตั้ง หรือการให้คนนอกครอบงำพรรค เหมือนอย่างที่พรรคเครือข่ายทักษิณหวั่นสะพรึงกันอยู่

การกำเนิดเกิดขึ้นของ “ไทยรักษาชาติ” ยังตอกย้ำถึง “ความไม่ลงรอย” กันภายในของ “เครือข่ายทักษิณ” ด้วย โดยเฉพาะกระแส “คลื่นใต้น้ำ” หลัง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โผล่พรวดขึ้นนำสาขาหลักอย่าง พรรคเพื่อไทย ทำเอา “แกนนำมีชื่อ” ออกอาการงอแง ไม่ให้ความร่วมมือกับแนวทางของ “หญิงหน่อย” ตีโพยตีพายทำท่าจะย้ายสำมะโนครัวไปซุกหัวในพรรคเครือข่ายกันเป็นแถว ตามชื่อที่ปล่อยออกมาก็มีทั้ง “เสี่ยอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง หรือ “เสี่ยแดง” พิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นอาทิ
จากซ้าย) “เสี่ยไนท์” ฤภพ ชินวัตร เสี่ยป๋อม-ปรีชาพล และ“เสี่ยฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช 3 ขุนพลคนสำคัญของ ทษช.และ“เจ๊แซน” ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ บุตรสาว เยาวเรศ ชินวัตร
หากแต่ “เบอร์ใหญ่” ก็ยังรอความชัดเจนการวาง “โพซิชั่น” ของแต่ละพรรคในเครือข่าย จาก “นายใหญ่แดนไกล” อยู่ว่าที่สุดแล้วจะให้พรรคไหนนำ พรรคไหนตาม พรรคไหนเก็บสแปร์ ก่อนเลือกลงหลักปักฐานในทางที่เหมาะที่ควร

ร่องรอยปริร้าว ยังกระทบชิ่งไปถึง “พรรคเพื่อธรรม” ที่มีชื่อ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นักการเมืองมากประสบการณ์ อดีตแกนนำกลุ่ม 16 ไปนั่งคุมเป็นหัวหน้ารอท่าอยู่ โดยมีชื่อ “เจ๊แดง” อยู่เบื้องลึก แว่วว่ามีสายตรงจาก “พี่ษิณ” แตะเบรก “น้องแดง” ให้คงสถานะเป็นแค่ “อะไหล่สำรอง” ยามที่พรรคเพื่อไทยถูกยุบเท่านั้น แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีวี่แววการยุบพรรคเพื่อไทย ก็ให้ “จำศีล” ห้ามส่งผู้สมัคร ส.ส.เด็ดขาด

ด้วยมีการกางสูตรแก้เกม “ผู้เฒ่ามีชัย” มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่วางค่ายกล “จัดสรรปันส่วนผสม” ทำเอา “นักเลือกตั้ง” คิดกันไม่ตก ปรับสูตรกันเป็นรายวัน

จนพอตกผลึกกันได้ว่า แผน “แยกกันเดิน รวมกันตี” ที่แตกไลน์ไว้เกือบ 10 พรรค ดูจะไม่เวิร์ก หากเวลาลงสนามแล้วคะแนนฐานเสียงแตกยิบย่อยไปตาม “พรรคสาขา” ที่เปิดรอไว้ก็ยุ่ง แล้วจะเสร็จ “ตาอยู่” คว้าพุงปลาไปกิน เป็นเหตุให้ต้องเบรก “เพื่อธรรม” ให้นิ่งๆไว้ก่อน

หลังตัดชอยส์อื่นทิ้งเหี้ยน เหลือแค่ 2 พรรค ใช้กลยุทธ์ “ถ่างขาล่าแต้ม” หนึ่ง สาขาหลัก “พรรคเพื่อไทย” ที่เอาไว้ล่า ส.ส.เขตแบบเน้น ปูพรมส่งผู้สมัคร ประมาณ 250 จากทั้งหมด 350 เขตทั่วประเทศ ด้วยดีดลูกคิดแล้วว่า จำนวน ส.ส.เขต จะทะลุเกินกว่าคะแนนพรรค ที่เอาไว้เคาะจำนวน “ส.ส.พึงมี” ก็เท่ากับเอาคะแนนโยนทิ้งน้ำไปเปล่า เหมือนที่เคยมีคนเอาผลเลือกตั้งปี 54 มาเป็นตุ๊กตา สรุปพรรคเพื่อไทย ที่นั่งหดไปมากกว่า 40 ที่นั่งเลยทีเดียว

ขณะที่ สาขาสอง ยกให้ “พรรคไทยรักษาชาติ” ชูธง “พรรคคนรุ่นใหม่” ส่งผู้สมัครแค่ 100 เขตที่เหลือ ในโซนภาคกลาง ตะวันออก ใต้ หรือเขตที่น่าจะแพ้คู่แข่ง เอาแค่ล่าแต้มให้มากที่สุด สะสมไปแลกที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ แต่หากเขตไหนเข้าวินก็ถือเป็นกำไร

อย่างไรก็ดียุทธการ “ถ่างขาล่าแต้ม” ยังติดปัญหาอยู่เล็กน้อย ด้วยหวั่นใจว่า ถึงวันจริงแล้ว อาจจะ “ตกม้าตาย” โดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอยร่วงง่าย ด้วยข้อหา “ฮั้วเลือกตั้ง” ก็เลยยังต้องรอบทสรุปกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่เกินวันที่ 26 พ.ย.ที่เป็นเส้นตายในการสังกัดพรรคสำหรับคนที่จะลงสมัคร ส.ส.

เอาเป็นว่ายุทธศาสตร์ฟากฝั่ง “เครือข่ายทักษิณ” ใกล้จะลงตัวแล้ว น่าเสียดายอยู่นิด ก็ตรงที่ “พานทองแท้” ไม่มาตามนัด ทั้งที่ประกาศลั่นทุ่ง “พร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกชายนายทักษิณ” แท้ๆ ในทางกลับกัน “ลูกโอ๊ค” ก็ดูจะฝ่อๆ ยามนี้ต้องกระเตง “นายแม่” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ไปเป็นกำลังใจในทุกที่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่