สวัสดีสมาชิกพันทิปทุกคนนะคะ
กระทู้นี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องราวความสนุกของเราที่ได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับผู้สนับสนุนใจดี๊ใจดีอย่าง ททท. และเพื่อนๆสมาชิกพันทิปผู้โชคดี ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...คราวนี้เป็นตัวจริงนะจ๊ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมในฐานะผู้ติดตาม
กระทู้เที่ยวครั้งที่แล้วของเพื่อนเราเอง ตามไปอ่านรีวิวที่นี่เลย
https://ppantip.com/topic/37849460
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า.....
เส้นทางท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ คือ
ลพบุรี - อ่างทอง - อยุธยาค่ะ
หลายคนอาจจะสงสัยหรือกำลังงงว่า ลพบุรีและอ่างทองมีอะไรให้เที่ยว!!!
เราไปดูกันเลยค่ะ ว่าจังหวัดเล็กๆอย่างลพบุรีและอ่างทอง มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามรอเราไปเยือนอยู่นะคะ
วันที่ 1 [ศุกร์, 28 กันยายน 2561]
ppantip.com + ททท.เรียกรวมตัวผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ที่ ททท.สำนักงานใหญ่
ลงทะเบียนทั้ง 4 เส้นทาง รับของแจกสุดคิ้วท์ และข้าวเหนียวหมูรองท้องกันไปจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ระหว่างรอพิธีการ ก็ขอถ่ายรูปเล่นกันนิดนึง
เข้าสู่ช่วงพิธีการเปิดงานโดยผุ้บริหารพันทิป และททท. รวมไปถึงแนะนำไกด์ที่จะร่วมเดินทางไปกับเราทั้ง 4 เส้นทางค่ะ
เราเลือกเส้นทางที่ 4 และพี่น้อยคือไกด์ประจำเส้นทางเรานะคะ
พี่น้อยเริ่มแนะนำประวัติศาสตร์ตั้งแต่รถยังไม่ออกจากกรุงเทพเลย ย้อนวัยกลับไปสมัยมัธยมกันเลยจ้า
เดินทางจากกรุงเทพไม่นาน ก็มาถึงจุดหมายแรกของทริปกันค่ะ
ศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด แห่งเมืองลพบุรี
ถ่ายรูปท้าแดดและฝูงลิงเจ้าถิ่นกันจนเหงื่อท่วม
พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังตลาดโบราณบ้านไทย 4 ภาค
เพื่อฟังคำแนะนำในการเขียนกระทู้จากพี่ผู้บริหารพันทิป (ขอโทษค่ะ...จำชื่อพี่เค้าไม่ได้) และร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผ้าไทยกับแม่สาลี่กันค่ะ
อยากให้คนไทยหันมาใส่ผ้าไทยกันเยอะๆเลย
เริ่มหิวเเล้ววววววว
มื้อนี้เราฝากท้องกันที่ร้านอาหารฉัตรนารา
อาหารเยอะมาก อร่อยและยังมีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย
อิ่มแล้วก็ลุยต่อกันเลยที่......พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดให้เข้าชม วันพุธ - วันอาทิตย์ (หยุด วันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดชดเชย)
สำนักงาน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. - 16.30 น.
ส่วนอาคารจัดแสดง เปิดเวลา 9.00 น. - 16.00 น.
ค่าเข้าชม ท่านละ 30 บาท (ชาวต่างชาติ 150 บาท)
แต่สำหรับ นักเรียน นักศึกษา พระภิษุ-สามเณร ในเครื่องแบบ รวมถึงผู้สูงอายุ (60ปีขึ้นไป) เข้าฟรี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Tel. 0-3641-1458
ในสมัยของรัชกาลที่4 พระราชวังแห่งนี้มีการบูรณะและต่อเติมขึ้นใหม่
ปัจจุบันอาคารหลังใหม่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ เดินชมของเก่าภายในอาคารได้สบายๆ เพราะว่าติดแอร์เย็นฉ่ำมากเด้อ
เดินเที่ยวกันแบบจุใจ ก็ถึงเวลาที่เรามาเช็คอินที่พักในคืนนี้กันเเล้ว
โรงแรมโอทู เป็นโรงแรมใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ
พื้นที่โรงแรมเยอะมากกกกกกกก
ห้องสะอาด ห้องน้ำกว้าง มีอ่างอาบน้ำด้วยนะจ๊ะ
ไม่มีไดร์เป่าผมให้น๊า สาวๆต้องพกไปเองเน้อ
พวกเราได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ากันพักใหญ่ๆ
แล้วก็ถึงเวลาสำคัญของวันนี้
ทุกคนจัดเต็มกับชุดไทย ตรงตาม Concept...นุ่งโจงห่มสไบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพื่อนกับเราดรอปมากค่า กลายเป็นสตาฟไปเลยยยยย
สัญญาว่าถ้ามีครั้งหน้า...พวกเราจะจัดชุดเต็มแน่นอนค่ะ
ได้เวลาผักผ่อน เก็บเเรงเที่ยวต่อพรุ่งนี้ค่าาาา
วันที่ 2 [เสาร์, 29 กันยายน 2561]
เริ่มต้นเช้าวันที่2 ด้วยอาหารเช้าของโรงแรมโอทู
แอบเสียดายที่ไลน์อาหารเช้าน้อย และอาหารเติมช้า
สำหรับเรายังไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะโรงเเรมใหม่เลยยังไม่ชินกับการรับแขกเยอะๆ
เช็คเอ้าท์ แล้วออกเดินทางมายัง
บ้านดินมดแดงค่ะ
ที่นี่เป็นเหมือนตลาดนัดชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาจำหน่ายด้วยนะคะ
บรรยากาศภายในตลาดน่ารักอบอุ่นมาก แม่ค้าเป็นกันเองมากๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผลงานปั้นดินของเพื่อนกับเราค่ะ
เรียนปั้นดินเสร็จแล้ว พวกเราเดินทางต่อไปยัง
ร้านกุ้งเผาทองชุบค่า
ร้านนี้ไม่ควรพลาดเลยคะ หน้าตาอาหารและบรรยากาศร้านอาจดูบ้านๆ แต่อาหารอร่อยทุกอย่าง ย้ำว่าทุกอย่างเลยค่ะ
เรายังไม่หยุดกินที่ร้านนี้คะ กินกันต่อไปอีกกับ
ขนมตาลพับจ้าาาาาาา
คุณป้าขายประจำอยู่ที่ตลาดวิเศษชัยชาญนะคะ
พวกเราได้ลองทำขนมตาลพับด้วยนะคะ แค่พับเท่านั้นค่ะ
เพราะป้าเค้าผสมแป้งกับตาลไว้ให้พวกเราเเล้ว ถ้าเริ่มตั้งแต่ต้นกัน...คงไม่น่าจะรอด
จากนั้นเราก๋เดินทางไปยังจุดหมายถัดไปค่า...
วัดม่วง
อยู่ไม่ไกลเลย หลังบ้านป้าเลยคะ
พวกเรามาในช่วงที่องค์พระใหญ่อยู่ในช่วงบูรณะ ถ่ายรูปมาสวยไปอีกแบบ
ภายในวัดม่วงยังมีรูปปูนปั้นและพระวิหารที่สวยงามอีกมากมายเลยนะคะ
ไหว้พระทำบุญเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักคืนนี้เเล้วค่ะ
คืนนี้พวกเราพักกันที่นี่เลย.....
โรงแรมแคนทารี
ชื่อนี้การันตีคุณภาพอยู่แล้ว
ห้องใหญ่ สะอาด สวย อุปกรณ์ครบ สรุปคือดี
เก็บของเสร็จ เราก็ออกไปเดินสำรวจสระว่ายน้ำ ฟิตเนสของโรงแรม
แล้วก็มารับ welcome drink ที่คาเฟ่ด้านหน้า
จากนั้นเราก็รวมตัวกันเพื่อไปเดินตลาด
[SR] ลพบุรี - อ่างทอง - อยุธยา...เที่ยวไทยในแบบเรา
กระทู้นี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องราวความสนุกของเราที่ได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับผู้สนับสนุนใจดี๊ใจดีอย่าง ททท. และเพื่อนๆสมาชิกพันทิปผู้โชคดี ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...คราวนี้เป็นตัวจริงนะจ๊ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมในฐานะผู้ติดตาม
กระทู้เที่ยวครั้งที่แล้วของเพื่อนเราเอง ตามไปอ่านรีวิวที่นี่เลย https://ppantip.com/topic/37849460
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า.....
เส้นทางท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ คือ ลพบุรี - อ่างทอง - อยุธยาค่ะ
หลายคนอาจจะสงสัยหรือกำลังงงว่า ลพบุรีและอ่างทองมีอะไรให้เที่ยว!!!
เราไปดูกันเลยค่ะ ว่าจังหวัดเล็กๆอย่างลพบุรีและอ่างทอง มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามรอเราไปเยือนอยู่นะคะ
วันที่ 1 [ศุกร์, 28 กันยายน 2561]
ppantip.com + ททท.เรียกรวมตัวผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ที่ ททท.สำนักงานใหญ่
ลงทะเบียนทั้ง 4 เส้นทาง รับของแจกสุดคิ้วท์ และข้าวเหนียวหมูรองท้องกันไปจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เข้าสู่ช่วงพิธีการเปิดงานโดยผุ้บริหารพันทิป และททท. รวมไปถึงแนะนำไกด์ที่จะร่วมเดินทางไปกับเราทั้ง 4 เส้นทางค่ะ
เราเลือกเส้นทางที่ 4 และพี่น้อยคือไกด์ประจำเส้นทางเรานะคะ
พี่น้อยเริ่มแนะนำประวัติศาสตร์ตั้งแต่รถยังไม่ออกจากกรุงเทพเลย ย้อนวัยกลับไปสมัยมัธยมกันเลยจ้า
เดินทางจากกรุงเทพไม่นาน ก็มาถึงจุดหมายแรกของทริปกันค่ะ
ศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด แห่งเมืองลพบุรี
ถ่ายรูปท้าแดดและฝูงลิงเจ้าถิ่นกันจนเหงื่อท่วม
พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังตลาดโบราณบ้านไทย 4 ภาค
เพื่อฟังคำแนะนำในการเขียนกระทู้จากพี่ผู้บริหารพันทิป (ขอโทษค่ะ...จำชื่อพี่เค้าไม่ได้) และร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผ้าไทยกับแม่สาลี่กันค่ะ
อยากให้คนไทยหันมาใส่ผ้าไทยกันเยอะๆเลย
เริ่มหิวเเล้ววววววว
มื้อนี้เราฝากท้องกันที่ร้านอาหารฉัตรนารา
อาหารเยอะมาก อร่อยและยังมีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย
อิ่มแล้วก็ลุยต่อกันเลยที่......พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในสมัยของรัชกาลที่4 พระราชวังแห่งนี้มีการบูรณะและต่อเติมขึ้นใหม่
ปัจจุบันอาคารหลังใหม่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ เดินชมของเก่าภายในอาคารได้สบายๆ เพราะว่าติดแอร์เย็นฉ่ำมากเด้อ
เดินเที่ยวกันแบบจุใจ ก็ถึงเวลาที่เรามาเช็คอินที่พักในคืนนี้กันเเล้ว
โรงแรมโอทู เป็นโรงแรมใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ
พื้นที่โรงแรมเยอะมากกกกกกกก
ห้องสะอาด ห้องน้ำกว้าง มีอ่างอาบน้ำด้วยนะจ๊ะ
ไม่มีไดร์เป่าผมให้น๊า สาวๆต้องพกไปเองเน้อ
พวกเราได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ากันพักใหญ่ๆ
แล้วก็ถึงเวลาสำคัญของวันนี้
ทุกคนจัดเต็มกับชุดไทย ตรงตาม Concept...นุ่งโจงห่มสไบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ได้เวลาผักผ่อน เก็บเเรงเที่ยวต่อพรุ่งนี้ค่าาาา
วันที่ 2 [เสาร์, 29 กันยายน 2561]
เริ่มต้นเช้าวันที่2 ด้วยอาหารเช้าของโรงแรมโอทู
แอบเสียดายที่ไลน์อาหารเช้าน้อย และอาหารเติมช้า
สำหรับเรายังไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะโรงเเรมใหม่เลยยังไม่ชินกับการรับแขกเยอะๆ
เช็คเอ้าท์ แล้วออกเดินทางมายังบ้านดินมดแดงค่ะ
ที่นี่เป็นเหมือนตลาดนัดชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาจำหน่ายด้วยนะคะ
บรรยากาศภายในตลาดน่ารักอบอุ่นมาก แม่ค้าเป็นกันเองมากๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรียนปั้นดินเสร็จแล้ว พวกเราเดินทางต่อไปยังร้านกุ้งเผาทองชุบค่า
ร้านนี้ไม่ควรพลาดเลยคะ หน้าตาอาหารและบรรยากาศร้านอาจดูบ้านๆ แต่อาหารอร่อยทุกอย่าง ย้ำว่าทุกอย่างเลยค่ะ
เรายังไม่หยุดกินที่ร้านนี้คะ กินกันต่อไปอีกกับขนมตาลพับจ้าาาาาาา
คุณป้าขายประจำอยู่ที่ตลาดวิเศษชัยชาญนะคะ
พวกเราได้ลองทำขนมตาลพับด้วยนะคะ แค่พับเท่านั้นค่ะ
เพราะป้าเค้าผสมแป้งกับตาลไว้ให้พวกเราเเล้ว ถ้าเริ่มตั้งแต่ต้นกัน...คงไม่น่าจะรอด
จากนั้นเราก๋เดินทางไปยังจุดหมายถัดไปค่า...วัดม่วง
อยู่ไม่ไกลเลย หลังบ้านป้าเลยคะ
พวกเรามาในช่วงที่องค์พระใหญ่อยู่ในช่วงบูรณะ ถ่ายรูปมาสวยไปอีกแบบ
ภายในวัดม่วงยังมีรูปปูนปั้นและพระวิหารที่สวยงามอีกมากมายเลยนะคะ
ไหว้พระทำบุญเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักคืนนี้เเล้วค่ะ
คืนนี้พวกเราพักกันที่นี่เลย.....โรงแรมแคนทารี
ชื่อนี้การันตีคุณภาพอยู่แล้ว
ห้องใหญ่ สะอาด สวย อุปกรณ์ครบ สรุปคือดี
เก็บของเสร็จ เราก็ออกไปเดินสำรวจสระว่ายน้ำ ฟิตเนสของโรงแรม
แล้วก็มารับ welcome drink ที่คาเฟ่ด้านหน้า
จากนั้นเราก็รวมตัวกันเพื่อไปเดินตลาด
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้