สวัสดีค่ะ พอดีเป็นหนึ่งในคนที่คอยอ่านกระทู้พันทิปมาตลอด จนวันนี้รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอคำแนะนำค่ะ
เรามีพี่น้องทั้งหมด 3 คนซึ่งร่วมถึงตัวเราด้วย สมัยที่เด็กๆก็สนิทกันดีค่ะ โตขึ้นมาก็ยังสนิทกันอยู่ แต่มีประเด็นตรงที่ว่า
ปัญหาการแข่งขันกันระหว่างพี่น้องเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะที่จะมี แต่ในกรณีที่จะกล่าวถึงนี้เราว่ามันเกินขอบเขตแล้วค่ะ
พฤติกรรมของพี่คนกลางคือประเด็นที่จะกล่าวถึงค่ะ สมัยวัยรุ่นวีรกรรมก็มากมายค่ะ แต่ขอข้ามไปนะคะ
แม้จะมีปัญหาหลายๆอย่างผ่านเข้ามาแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ จนกระทั่งเรา พี่คนโตเรียนจบ เริ่มมีปัญหาค่ะ
1. "ขี้อิจฉา และวัตถุนิยม"
พี่คนกลางเริ่มมีความอิจฉาพี่คนโตที่ทำงาน มีรายได้ (ขณะนั้นคนกลางยังไม่จบแต่ใกล้จะจบค่ะ) เมื่อมีแผนจะทำอะไรบาง
อย่าง จะให้คนโตเป็นคนช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดพร้อมบอกว่า "เดี๋ยวถ้าได้เงินมาจะแบ่งให้" แต่สรุปสุดท้ายปลิวหมดค่ะ
เคยถามเขาว่าให้คนโตจ่ายขนาดนี้ไม่มากไปเหรอ เขาตอบว่า "เงินมันก็เยอะแยะจ่ายแค่นี้ไม่เป็นไรเลย!" เขาอิจฉาที่คนโต
มีรายได้ เลยกลายเป็นว่าหลอกล่อให้คนโตช่วยควักลงทุนให้หมดแล้วบอกว่า "จะแบ่งให้ 50%" ค่ะ หรือเวลามีอะไรที่อยาก
ได้ก็จะหลอกล่อให้คนโตออกให้ ขนาดเคยพูดว่า "วันเกิดขอเงินหกพันได้มั้ย ถ้าไม่มีตอนนี้ผ่อนได้นะเดือนละพัน" เน้นนะคะ
ขอเงินวันเกิด.... ขอจริงๆนะคะ เขามีปัญหาเรื่องตรรกะที่แปลกมากๆ ขนาดเคยมาขอให้เราซื้อรองเท้าเป็นพันให้
(เขาทำงานแล้วนะคะตอนมาขอ เรายังอยู่มหาลัย ค่าขนมสี่พัน) เขาบอกว่า "ทำไม ก็เบิกที่บ้านได้ไม่ใช่เหรอ?" เราเลยตอบ
ว่าเราไม่เคยเบิกที่บ้านเพิ่มเติมจากสี่พันนี่ค่ะ ที่สำคัญของขวัญวันเกิดเราเขาให้เป็นตัวอย่างของที่จะลองซื้อมาขาย เราเคยบอก
ว่าสวยดี สรุปเขาซื้อมาเป็นตัวอย่างขายอันนึง ให้เราอันนึง แล้วบอกว่าของห่วยไม่เอามาขาย... เราเสียความรู้สึกค่ะ
ไม่แพงไม่ว่า... แต่ไม่เต็มใจให้ ให้ของเหลือแล้วมาทวงว่าวันเกิดเราเขายังให้เลย (ของ 160 บาท) ขอเราพันนึงค่ะ...
2. "การโกหก การข่ม การเกทับ การดูถูก การแข่งขัน"
เมื่อคนกลางเรียนจบ ปัญหาเรื่อง "การโกหก การข่ม การเกทับ การดูถูก การแข่งขัน" ถึงขั้นหนักมากจนลำบากใจเลยค่ะ
หลังจากที่เรียนจบ และสมัครงานที่แรก เขาเริ่มโกหกเงินเดือน เช่น เงินเดือนน้อยก็จะบอกว่ามาก แล้วก็มาดูถูกพี่คนโตว่า
"ทำงานมาไม่นานเงินเดือนจะแซงคนโตแล้ว เนี่ยคนโตทำงานหลายปีเงินเดือนแค่นี้ กูจะได้เป็นผู้จัดการแล้วนะ" ซึ่งแน่นอนว่าไม่
มีใครเชื่อค่ะว่า คนเพิ่งจบทำงานมา 3 เดือนจะได้ปรับเป็นผู้จัดการ เขาเริ่มจากการโกหกไปทีละนิดจนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญคือเป็นคนที่ "โกหกแล้วหลุด" เขามักจะเผลอหลุดบ่อยมาก แล้วพอโดนจับได้ก็จะเงียบ ไม่พูดต่อหรือแถไปเรื่อยๆค่ะ
แล้วพฤติกรรมการโกหกก็หนักขึ้น เมื่อไปทำงานเริ่มโกหกว่าตัวเองเป็น เมเนเจอร์ เงินเดือนสูงลิ่วสี่ห้าหมื่น ทั้งที่ขณะนั้นอายุงานเขา
ความจริงประมาณ 2 เดือน และประสบการณ์การทำงานก็ไม่ได้ผ่านการจัดการบริหารมาก่อน อายุ 26 ปี บอกว่าเงินเดือน 50,000 ค่ะ
มักจะโกหกเงินเดือน รายได้ รวมถึงตำแหน่ง ชอบมาพูดข่มทั้งเรา และพี่ชายค่ะว่าตัวเองหารายได้เดือนนึงเยอะมาก มีคนมาจ้างให้
ทำงานต่างๆ เคยถึงขนาดแคปรูปเงินเก็บในบัญชี (หน้ารวมยอดเงินนะคะไม่ใช่หน้า statement โอนค่ะ) แล้วบอกว่าเนี่ยเงินเดือน
ส่งมาอวดให้คนโตดู แต่ทั้งเรา และพี่ชายคิดว่าสักวันนึงเดี๋ยวก็คงหายโกหก หรือพูดแบบตรงๆคือ "
" ค่ะ
เขาถึงขนาดว่าเวลาซื้อของราคาหมื่นสี่ บอกว่าสี่หมื่น ของราคาสองหมื่นห้าบอกว่าแปดหมื่น เราทราบเนื่องจากว่าเขาโพสต์รูปของ
ลงในโซเชียลแล้วเราไปสืบราคาจริงค่ะถึงได้รู้ เวลาที่เราหรือพี่ชายซื้ออะไรสักอย่าง เขามักจะพูดเสมอว่า "ที่บ้านออกให้หรือซื้อเอง"
"ทำไมซื้อรุ่นนี้ ถ้าเป็นเค้าเค้าจะซื้อรุ่นแพงกว่า" "เนี่ยเค้าก็มีเหมือนกัน ตัวนี้อย่างแพง" กลายเป็นว่า พอตอนนี้เรากับพี่ซื้ออะไร พยายาม
จะไม่บอกให้เขารู้ค่ะ เพื่อที่เขาจะได้เลิกข่ม เกทับ บางครั้งถึงขนาดโกหกราคาเพื่อข่มเราเลยค่ะ
เรากับพี่ชายไม่ค่อยชอบพฤติกรรมการโกหกของเขาเท่าไรค่ะ ที่กล่าวข้างต้นคือตัวอย่างพอสังเขปค่ะ ความจริงแล้วโดนมาตลอด ถึง
ขนาดที่ว่าเวลาซื้ออะไรกันจะต้องซ่อนหรือพยายามไม่ให้เขาเห็นเลยล่ะค่ะ เพราะเวลาที่เขาเห็นว่าเรากับพี่มีอะไรที่เขายังไม่มี ยังไม่ซื้อ
หรือจะเก็บเงินซื้อแต่ยังซื้อไม่ได้ เขาจะเริ่มพูดเกทับ หรือโกหกว่า "พอดีซื้อของไปหกหมื่น เดี๋ยวเดือนหน้าจะซื้อรุ่นดีกว่าที่เราซื้อ" เป็นต้น
เขาเป็นคนที่โกหกเยอะมากจนจำไม่ได้ว่าตัวเองโกหกอะไรไว้ เคยผ่อนมอไซค์แล้วสุดท้ายผ่อนไม่ไหวเอาไปคืนไฟแนนซ์
แล้วบอกกับเรา "รถมันไม่ดีเหยียบไม่ค่อยไป ห่วยแตก เอาไปคืน" ทั้งที่ความจริงทุกคนรู้ค่ะ แค่ไม่พูด เราไม่ชอบที่ตอนที่เขาทำ
ผิดพลาด เขาไม่เคยยอมรับนะคะว่าเขาพลาด แต่ถ้าเป็นคนอื่นอย่าพลาดนะคะ เขาพูดข่มจนเสียความรู้สึกเลยล่ะค่ะ...
3. "ความซื่อสัตย์"
เขามีปัญหาในเรื่องนี้มาก สืบเนื่องจากข้อ 1. ที่เขาขอให้คนโตลงทุนให้นะคะ ปัจจุบันคนโตไม่ได้เงินตามที่สัญญา ไม่ได้
อะไรนอกจากการดูถูก การข่มเกทับ แถมยังมีการมาขอให้ลงทุนเพิ่มอีกค่ะ ไม่ชอบที่เขามักจะพูด คนโตเองก็ไม่พอใจเหมือนกันค่ะ แต่ไม่
ลงทุนอะไรกับเขาอีก เพราะผลประโยชน์ที่ได้ ทุกอย่างที่ได้มาทุกวันนี้ เขาไม่นึกถึงว่าคนกลางเป็นคนที่ช่วยให้เขาเริ่มจากศูนย์ ทุกครั้งที่ทัก
มีแต่มาอวดนั่น มาอวดนี่ พูดจาข่มคนโต หรือมากสุดแค่ส่งมุขตลกมาให้ดูค่ะ เคยยืมพ่อไปลงทุนแล้วบอกจะคืน ภายหลังมาอวด
กับเราว่าหาเงินได้เป็นแสน เราเลยถามว่าเมื่อไรจะคืน เขาเงียบค่ะ สรุปปลิวเช่นกัน แต่พอ่ไม่ว่าอะไรค่ะเพราะให้ลูกลงทุน แต่ที่
พูดเรื่องความซื่อสัตย์เพราะตอนที่เพื่อนเขาถามว่า "เอาเงินลงทุนมาจากไหน" เขากลับตอบว่า "เป็นเงินที่ออมจากการทำงาน" ค่ะ
(ไปคุยกับเพื่อนของเขาหลังไมค์มาค่ะถึงได้รู้ความจริงมาพอสมควร) แต่กล่าวประมาณนี้ละกันนะคะ
4. "เงิน"
เขาไม่เคยติดต่อคนในบ้านเลยนะคะ จนกระทั่ง
- จะขอเงิน (ปัจจุบันยังส่งมาขอเงินวันเกิดกับพ่ออยู่เลยนะคะ)
- จะขอยืมบัตรเครดิตหรือขอให้รูดผ่อนอะไรให้ แน่นอนค่ะว่าทุกคนในบ้านปฏิเสธ
- ตอนมีปัญหาอะไรบางอย่าง
- เขาจะทำอะไรให้เรานั้นมีกรณีพิเศษคือ เขาต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เราจะคืนให้เขาต้องคุ้มค่าหรือแพงกว่าที่เขาจะให้เราค่ะ
- รายละเอียดเล็กน้อยตามที่ระบุในข้อ 1. นิดหน่อยค่ะ
แต่ปัญหาหลักของทุกอย่างเลยคือ เขา "ไม่รู้ตัวว่าทำไมคนในบ้านไม่ชอบเขา" เขาทำอะไรผิด เขาชอบพูดว่าคนในบ้านไม่
เห็นหัวเขา เวลาออกไปไหนก็ไม่ชวนเขาไป หรือเวลากินข้าวก็ไม่เรียกลงมา หรือเวลาซื้ออะไรมาก็ไม่เคยฝากเขา
เราเคยซื้อของมาฝากเขานะคะ แต่อย่างที่บอกไว้ว่าเขาไม่ค่อยเห็นคุณค่าของสิ่งที่คนอื่นให้ หรือเวลาให้ก็จะดีกับเราสอง
สามวัน หลังจากนั้นก็มาดูถูกเราเหมือนเดิม... บางครั้งซื้อมาให้เขากลับพูดจาให้เสียความรู้สึกด้วยค่ะจนคิดว่าอย่าเลยดีกว่า
สรุปกลายเขามองคนในบ้านดูถูกเขา ไม่เห็นหัวเขา เพราะคิดว่าเขาไม่เก่งหรือเปล่า เขาถึงพยายามทำตัวเอาชนะคนอื่น
เราสงสัยกับที่มาพฤติกรรมเขามากๆเลยค่ะ เพราะเราเติบโตมาในครอบครัวเดียวกัน ถูกเลี้ยงมาแบบเดียวกัน แต่กลายเป็นว่า
เขาทำตัวจนคนในบ้านไม่มีใครชอบ และอยากอยู่ด้วยเลย จริงๆมีเรื่องเกิดขึ้นอีกมากแต่เท่านี้ก็น่าจะพอเห็นภาพค่ะ
เรากับพี่ชายมองว่าขืนยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในอนาคตคงไม่มีใครเอาเขาจริงๆค่ะ เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครเอาแล้ว ไม่มีใคร
ไว้ใจ ไม่มีใครอยากคุย เขาทำตัวดีอยู่วันสองวันจนคนในบ้านงงกันหมด จนเขามาอ้อนว่า จะขอ....ได้มั้ย พอที่บ้านไม่ให้เขา
กลับมาประชดประชันว่าทำตัวดีก็ไม่มีใครไว้ใจ เสียเวลา คนโตเคยบอกเขาค่ะว่า ชีวิตไม่ใช่เกมที่ทำ quest แลกของ ความไว้ใจ
มันไม่ได้เป็น quest ที่ทำแล้วได้ตอบแทนทันที เขาก็เลยเงียบค่ะ
ปัญหาคือเขาไม่เข้าใจว่า "เขาทำอะไรผิด" หรือ "ทำไมคนอื่นไม่ชอบเขา" หากคุณสงสัยว่าทำไมตอนเขาพูดจาไม่ดี เราไม่ตำหนิเขา
เราตำหนิแล้วค่ะ เขาบอกว่า "ก็พูดเฉยๆไม่ได้คิดอะไร" จึงอยากจะขอปรึกษาผู้อ่านนะคะ ช่วยแนะนำวิธีในการคุยกับเขาหน่อยค่ะ
ว่าเหตุใดคนในบ้านถึงไม่ชอบเขาหรือเขาทำอะไรผิด เขาเหมือนเด็กค่ะ เคยพูดเปรียบเปรยแล้วเขาไม่เข้าใจ บางทีพูดตรงๆเขาก็
เถียงเราค่ะ จนตอนนี้เราหมดวิธีที่จะคุยกับเขาแล้วค่ะ เรากับพี่ไม่เคยแข่งกับเขาหรือไปอวดเขาเลยเวลาซื้ออะไรสักอย่าง กลายเป็น
เรากับพี่ก็ต้องปิดบังความลับไม่ให้เขารู้รายละเอียดความเป็นอยู่ของเราเพื่อให้เขาสบายใจค่ะ เพราะทุกครั้งที่เล่าอะไรเขาจะโกหก
หรือข่มเพื่อเอาชนะเราทันที หรือเรียกง่ายๆว่า "ดิ้น" ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำจากทุกท่านนะคะ เพราะเราคิดว่าตอนนี้อาจจะยังพอหาวิธีคุยให้เค้าปรับตัวได้ เราเองก็ไม่อยากให้คนมองว่า
ทำไมเราเกลียดพี่ชายตัวเอง แต่พฤติกรรมเขาทำให้เรากับพี่ชาย เอือมระอาสุดๆค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ เราไม่ได้มีเจตนามาว่าร้ายเขาค่ะ แต่ทุกอย่างที่พูดขึ้นมาคือตัวอย่างที่มาจากเรื่องจริงทั้งหมด
และเราต้องการที่จะแก้นิสัยเขาในจุดที่ระบุค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เพื่อเอาชนะพี่น้อง จำเป็นต้องมีพฤติกรรมแบบนี้ด้วยหรือคะ เห็นใครดีกว่าตัวเองไม่ได้เลย...
เรามีพี่น้องทั้งหมด 3 คนซึ่งร่วมถึงตัวเราด้วย สมัยที่เด็กๆก็สนิทกันดีค่ะ โตขึ้นมาก็ยังสนิทกันอยู่ แต่มีประเด็นตรงที่ว่า
ปัญหาการแข่งขันกันระหว่างพี่น้องเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะที่จะมี แต่ในกรณีที่จะกล่าวถึงนี้เราว่ามันเกินขอบเขตแล้วค่ะ
พฤติกรรมของพี่คนกลางคือประเด็นที่จะกล่าวถึงค่ะ สมัยวัยรุ่นวีรกรรมก็มากมายค่ะ แต่ขอข้ามไปนะคะ
แม้จะมีปัญหาหลายๆอย่างผ่านเข้ามาแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ จนกระทั่งเรา พี่คนโตเรียนจบ เริ่มมีปัญหาค่ะ
1. "ขี้อิจฉา และวัตถุนิยม"
พี่คนกลางเริ่มมีความอิจฉาพี่คนโตที่ทำงาน มีรายได้ (ขณะนั้นคนกลางยังไม่จบแต่ใกล้จะจบค่ะ) เมื่อมีแผนจะทำอะไรบาง
อย่าง จะให้คนโตเป็นคนช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดพร้อมบอกว่า "เดี๋ยวถ้าได้เงินมาจะแบ่งให้" แต่สรุปสุดท้ายปลิวหมดค่ะ
เคยถามเขาว่าให้คนโตจ่ายขนาดนี้ไม่มากไปเหรอ เขาตอบว่า "เงินมันก็เยอะแยะจ่ายแค่นี้ไม่เป็นไรเลย!" เขาอิจฉาที่คนโต
มีรายได้ เลยกลายเป็นว่าหลอกล่อให้คนโตช่วยควักลงทุนให้หมดแล้วบอกว่า "จะแบ่งให้ 50%" ค่ะ หรือเวลามีอะไรที่อยาก
ได้ก็จะหลอกล่อให้คนโตออกให้ ขนาดเคยพูดว่า "วันเกิดขอเงินหกพันได้มั้ย ถ้าไม่มีตอนนี้ผ่อนได้นะเดือนละพัน" เน้นนะคะ
ขอเงินวันเกิด.... ขอจริงๆนะคะ เขามีปัญหาเรื่องตรรกะที่แปลกมากๆ ขนาดเคยมาขอให้เราซื้อรองเท้าเป็นพันให้
(เขาทำงานแล้วนะคะตอนมาขอ เรายังอยู่มหาลัย ค่าขนมสี่พัน) เขาบอกว่า "ทำไม ก็เบิกที่บ้านได้ไม่ใช่เหรอ?" เราเลยตอบ
ว่าเราไม่เคยเบิกที่บ้านเพิ่มเติมจากสี่พันนี่ค่ะ ที่สำคัญของขวัญวันเกิดเราเขาให้เป็นตัวอย่างของที่จะลองซื้อมาขาย เราเคยบอก
ว่าสวยดี สรุปเขาซื้อมาเป็นตัวอย่างขายอันนึง ให้เราอันนึง แล้วบอกว่าของห่วยไม่เอามาขาย... เราเสียความรู้สึกค่ะ
ไม่แพงไม่ว่า... แต่ไม่เต็มใจให้ ให้ของเหลือแล้วมาทวงว่าวันเกิดเราเขายังให้เลย (ของ 160 บาท) ขอเราพันนึงค่ะ...
2. "การโกหก การข่ม การเกทับ การดูถูก การแข่งขัน"
เมื่อคนกลางเรียนจบ ปัญหาเรื่อง "การโกหก การข่ม การเกทับ การดูถูก การแข่งขัน" ถึงขั้นหนักมากจนลำบากใจเลยค่ะ
หลังจากที่เรียนจบ และสมัครงานที่แรก เขาเริ่มโกหกเงินเดือน เช่น เงินเดือนน้อยก็จะบอกว่ามาก แล้วก็มาดูถูกพี่คนโตว่า
"ทำงานมาไม่นานเงินเดือนจะแซงคนโตแล้ว เนี่ยคนโตทำงานหลายปีเงินเดือนแค่นี้ กูจะได้เป็นผู้จัดการแล้วนะ" ซึ่งแน่นอนว่าไม่
มีใครเชื่อค่ะว่า คนเพิ่งจบทำงานมา 3 เดือนจะได้ปรับเป็นผู้จัดการ เขาเริ่มจากการโกหกไปทีละนิดจนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญคือเป็นคนที่ "โกหกแล้วหลุด" เขามักจะเผลอหลุดบ่อยมาก แล้วพอโดนจับได้ก็จะเงียบ ไม่พูดต่อหรือแถไปเรื่อยๆค่ะ
แล้วพฤติกรรมการโกหกก็หนักขึ้น เมื่อไปทำงานเริ่มโกหกว่าตัวเองเป็น เมเนเจอร์ เงินเดือนสูงลิ่วสี่ห้าหมื่น ทั้งที่ขณะนั้นอายุงานเขา
ความจริงประมาณ 2 เดือน และประสบการณ์การทำงานก็ไม่ได้ผ่านการจัดการบริหารมาก่อน อายุ 26 ปี บอกว่าเงินเดือน 50,000 ค่ะ
มักจะโกหกเงินเดือน รายได้ รวมถึงตำแหน่ง ชอบมาพูดข่มทั้งเรา และพี่ชายค่ะว่าตัวเองหารายได้เดือนนึงเยอะมาก มีคนมาจ้างให้
ทำงานต่างๆ เคยถึงขนาดแคปรูปเงินเก็บในบัญชี (หน้ารวมยอดเงินนะคะไม่ใช่หน้า statement โอนค่ะ) แล้วบอกว่าเนี่ยเงินเดือน
ส่งมาอวดให้คนโตดู แต่ทั้งเรา และพี่ชายคิดว่าสักวันนึงเดี๋ยวก็คงหายโกหก หรือพูดแบบตรงๆคือ "" ค่ะ
เขาถึงขนาดว่าเวลาซื้อของราคาหมื่นสี่ บอกว่าสี่หมื่น ของราคาสองหมื่นห้าบอกว่าแปดหมื่น เราทราบเนื่องจากว่าเขาโพสต์รูปของ
ลงในโซเชียลแล้วเราไปสืบราคาจริงค่ะถึงได้รู้ เวลาที่เราหรือพี่ชายซื้ออะไรสักอย่าง เขามักจะพูดเสมอว่า "ที่บ้านออกให้หรือซื้อเอง"
"ทำไมซื้อรุ่นนี้ ถ้าเป็นเค้าเค้าจะซื้อรุ่นแพงกว่า" "เนี่ยเค้าก็มีเหมือนกัน ตัวนี้อย่างแพง" กลายเป็นว่า พอตอนนี้เรากับพี่ซื้ออะไร พยายาม
จะไม่บอกให้เขารู้ค่ะ เพื่อที่เขาจะได้เลิกข่ม เกทับ บางครั้งถึงขนาดโกหกราคาเพื่อข่มเราเลยค่ะ
เรากับพี่ชายไม่ค่อยชอบพฤติกรรมการโกหกของเขาเท่าไรค่ะ ที่กล่าวข้างต้นคือตัวอย่างพอสังเขปค่ะ ความจริงแล้วโดนมาตลอด ถึง
ขนาดที่ว่าเวลาซื้ออะไรกันจะต้องซ่อนหรือพยายามไม่ให้เขาเห็นเลยล่ะค่ะ เพราะเวลาที่เขาเห็นว่าเรากับพี่มีอะไรที่เขายังไม่มี ยังไม่ซื้อ
หรือจะเก็บเงินซื้อแต่ยังซื้อไม่ได้ เขาจะเริ่มพูดเกทับ หรือโกหกว่า "พอดีซื้อของไปหกหมื่น เดี๋ยวเดือนหน้าจะซื้อรุ่นดีกว่าที่เราซื้อ" เป็นต้น
เขาเป็นคนที่โกหกเยอะมากจนจำไม่ได้ว่าตัวเองโกหกอะไรไว้ เคยผ่อนมอไซค์แล้วสุดท้ายผ่อนไม่ไหวเอาไปคืนไฟแนนซ์
แล้วบอกกับเรา "รถมันไม่ดีเหยียบไม่ค่อยไป ห่วยแตก เอาไปคืน" ทั้งที่ความจริงทุกคนรู้ค่ะ แค่ไม่พูด เราไม่ชอบที่ตอนที่เขาทำ
ผิดพลาด เขาไม่เคยยอมรับนะคะว่าเขาพลาด แต่ถ้าเป็นคนอื่นอย่าพลาดนะคะ เขาพูดข่มจนเสียความรู้สึกเลยล่ะค่ะ...
3. "ความซื่อสัตย์"
เขามีปัญหาในเรื่องนี้มาก สืบเนื่องจากข้อ 1. ที่เขาขอให้คนโตลงทุนให้นะคะ ปัจจุบันคนโตไม่ได้เงินตามที่สัญญา ไม่ได้
อะไรนอกจากการดูถูก การข่มเกทับ แถมยังมีการมาขอให้ลงทุนเพิ่มอีกค่ะ ไม่ชอบที่เขามักจะพูด คนโตเองก็ไม่พอใจเหมือนกันค่ะ แต่ไม่
ลงทุนอะไรกับเขาอีก เพราะผลประโยชน์ที่ได้ ทุกอย่างที่ได้มาทุกวันนี้ เขาไม่นึกถึงว่าคนกลางเป็นคนที่ช่วยให้เขาเริ่มจากศูนย์ ทุกครั้งที่ทัก
มีแต่มาอวดนั่น มาอวดนี่ พูดจาข่มคนโต หรือมากสุดแค่ส่งมุขตลกมาให้ดูค่ะ เคยยืมพ่อไปลงทุนแล้วบอกจะคืน ภายหลังมาอวด
กับเราว่าหาเงินได้เป็นแสน เราเลยถามว่าเมื่อไรจะคืน เขาเงียบค่ะ สรุปปลิวเช่นกัน แต่พอ่ไม่ว่าอะไรค่ะเพราะให้ลูกลงทุน แต่ที่
พูดเรื่องความซื่อสัตย์เพราะตอนที่เพื่อนเขาถามว่า "เอาเงินลงทุนมาจากไหน" เขากลับตอบว่า "เป็นเงินที่ออมจากการทำงาน" ค่ะ
(ไปคุยกับเพื่อนของเขาหลังไมค์มาค่ะถึงได้รู้ความจริงมาพอสมควร) แต่กล่าวประมาณนี้ละกันนะคะ
4. "เงิน"
เขาไม่เคยติดต่อคนในบ้านเลยนะคะ จนกระทั่ง
- จะขอเงิน (ปัจจุบันยังส่งมาขอเงินวันเกิดกับพ่ออยู่เลยนะคะ)
- จะขอยืมบัตรเครดิตหรือขอให้รูดผ่อนอะไรให้ แน่นอนค่ะว่าทุกคนในบ้านปฏิเสธ
- ตอนมีปัญหาอะไรบางอย่าง
- เขาจะทำอะไรให้เรานั้นมีกรณีพิเศษคือ เขาต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เราจะคืนให้เขาต้องคุ้มค่าหรือแพงกว่าที่เขาจะให้เราค่ะ
- รายละเอียดเล็กน้อยตามที่ระบุในข้อ 1. นิดหน่อยค่ะ
แต่ปัญหาหลักของทุกอย่างเลยคือ เขา "ไม่รู้ตัวว่าทำไมคนในบ้านไม่ชอบเขา" เขาทำอะไรผิด เขาชอบพูดว่าคนในบ้านไม่
เห็นหัวเขา เวลาออกไปไหนก็ไม่ชวนเขาไป หรือเวลากินข้าวก็ไม่เรียกลงมา หรือเวลาซื้ออะไรมาก็ไม่เคยฝากเขา
เราเคยซื้อของมาฝากเขานะคะ แต่อย่างที่บอกไว้ว่าเขาไม่ค่อยเห็นคุณค่าของสิ่งที่คนอื่นให้ หรือเวลาให้ก็จะดีกับเราสอง
สามวัน หลังจากนั้นก็มาดูถูกเราเหมือนเดิม... บางครั้งซื้อมาให้เขากลับพูดจาให้เสียความรู้สึกด้วยค่ะจนคิดว่าอย่าเลยดีกว่า
สรุปกลายเขามองคนในบ้านดูถูกเขา ไม่เห็นหัวเขา เพราะคิดว่าเขาไม่เก่งหรือเปล่า เขาถึงพยายามทำตัวเอาชนะคนอื่น
เราสงสัยกับที่มาพฤติกรรมเขามากๆเลยค่ะ เพราะเราเติบโตมาในครอบครัวเดียวกัน ถูกเลี้ยงมาแบบเดียวกัน แต่กลายเป็นว่า
เขาทำตัวจนคนในบ้านไม่มีใครชอบ และอยากอยู่ด้วยเลย จริงๆมีเรื่องเกิดขึ้นอีกมากแต่เท่านี้ก็น่าจะพอเห็นภาพค่ะ
เรากับพี่ชายมองว่าขืนยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในอนาคตคงไม่มีใครเอาเขาจริงๆค่ะ เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครเอาแล้ว ไม่มีใคร
ไว้ใจ ไม่มีใครอยากคุย เขาทำตัวดีอยู่วันสองวันจนคนในบ้านงงกันหมด จนเขามาอ้อนว่า จะขอ....ได้มั้ย พอที่บ้านไม่ให้เขา
กลับมาประชดประชันว่าทำตัวดีก็ไม่มีใครไว้ใจ เสียเวลา คนโตเคยบอกเขาค่ะว่า ชีวิตไม่ใช่เกมที่ทำ quest แลกของ ความไว้ใจ
มันไม่ได้เป็น quest ที่ทำแล้วได้ตอบแทนทันที เขาก็เลยเงียบค่ะ
ปัญหาคือเขาไม่เข้าใจว่า "เขาทำอะไรผิด" หรือ "ทำไมคนอื่นไม่ชอบเขา" หากคุณสงสัยว่าทำไมตอนเขาพูดจาไม่ดี เราไม่ตำหนิเขา
เราตำหนิแล้วค่ะ เขาบอกว่า "ก็พูดเฉยๆไม่ได้คิดอะไร" จึงอยากจะขอปรึกษาผู้อ่านนะคะ ช่วยแนะนำวิธีในการคุยกับเขาหน่อยค่ะ
ว่าเหตุใดคนในบ้านถึงไม่ชอบเขาหรือเขาทำอะไรผิด เขาเหมือนเด็กค่ะ เคยพูดเปรียบเปรยแล้วเขาไม่เข้าใจ บางทีพูดตรงๆเขาก็
เถียงเราค่ะ จนตอนนี้เราหมดวิธีที่จะคุยกับเขาแล้วค่ะ เรากับพี่ไม่เคยแข่งกับเขาหรือไปอวดเขาเลยเวลาซื้ออะไรสักอย่าง กลายเป็น
เรากับพี่ก็ต้องปิดบังความลับไม่ให้เขารู้รายละเอียดความเป็นอยู่ของเราเพื่อให้เขาสบายใจค่ะ เพราะทุกครั้งที่เล่าอะไรเขาจะโกหก
หรือข่มเพื่อเอาชนะเราทันที หรือเรียกง่ายๆว่า "ดิ้น" ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำจากทุกท่านนะคะ เพราะเราคิดว่าตอนนี้อาจจะยังพอหาวิธีคุยให้เค้าปรับตัวได้ เราเองก็ไม่อยากให้คนมองว่า
ทำไมเราเกลียดพี่ชายตัวเอง แต่พฤติกรรมเขาทำให้เรากับพี่ชาย เอือมระอาสุดๆค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ เราไม่ได้มีเจตนามาว่าร้ายเขาค่ะ แต่ทุกอย่างที่พูดขึ้นมาคือตัวอย่างที่มาจากเรื่องจริงทั้งหมด
และเราต้องการที่จะแก้นิสัยเขาในจุดที่ระบุค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ