เพราะออกจากห้องไอซียูถึงมาเล่าให้ฟังได้ จากประสบการณ์เฉียดตายของตัวเองจากการแพ้ยาขั้นรุนแรง (แชร์บอกต่อช่วยชีวิตกันได้)

กระทู้สนทนา
❤✌ ยาวหน่อยนะคะได้โปรดฟัง เราจะมาเล่าให้ฟังไว้เป็นอุทาหรณ์ จากประสบการณ์เฉียดตายของตัวเองจากการแพ้ยาขั้นรุนแรง (แชร์บอกต่อกันช่วยชีวิตได้ค่ะ)
ตอนเด็ก ๆ หมอบอกกับแม่ว่าเราแพ้ยา Penicillin (เพนิซิลลิน) อาการคือกินแล้วมีผื่นขึ้นแดงเต็มตัว พอโตมาเราก็นึกว่าเราหายแพ้ยาตัวนี้แล้ว เวลาเป็นหวัด(ที่ติดเชื้อแบคทีเรีย)ก็มีบ้างที่ไปซื้อยาตามร้านขายยากินเอง เภสัชเค้าก็จ่ายพวกยาฆ่า Amoxicillin (อะม็อกซีซิลลิน) มาให้กินเพื่อฆ่าเชื้อ เราก็เคยกินอยู่หลายครั้ง ก็คิดว่าไม่เป็นไรแล้ว ทีนี้จุดพีคก็คือ….
คืนวันอาทิตย์ที่4พ.ย.61 หลังเสร็จจากงานเผาคุณพ่อของเรา (คุณพ่อของเราพึ่งเสียค่ะ)  เราเจ็บคอมากและเสมหะเขียวก็ไปซื้อยาที่ร้านขายยามากิน (ปกติเราไม่ซื้อยากินรักษาหวัดเท่าไหร่ จะอัดวิตามินซีกับกินน้ำเยอะๆงดของมันทอดเดี๋ยวก็หาย แต่ดันคิดอย่างเดียวกลัวพรุ่งนี้ไม่สบายหนักกลัวไม่ได้ไปเก็บกระดูกไปลอยอังคารพ่อ ก็เลยเลือกทางลัดซื้อยากินเองจะได้หายไวไว) หลังจากกินยา Amoxicillin (อะม็อกซีซิลลิน) เม็ดสีน้ำตาลเหลือง จำนวน2เม็ด ไปได้ประมาณ40นาที เรามีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดแบบมากๆ หน้าบวมแดง เจ็บแสบเหงือก น้ำมูกใสไหลเยอะไม่หยุด คัดจมูก จามต่อเนื่องไม่หยุด เจ็บคอมากขึ้น รู้สึกคับคอบีบๆแคบๆ หายใจไม่สะดวก หัวใจเต้นเร็วเหมือนรัวกลอง ตัวแดงบวมทั้งตัว เจ็บที่หน้าอก วินาทีนั้น เรารู้ตัวว่าเราไม่ไหวอีกแล้ว มันไม่ใช่หวัดธรรมดา แต่เรากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ก็เดินไปบอกแฟนว่าพาไปโรงพยาบาลหน่อยไม่ไหวแล้ว เอาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนะ ก็เลือกร.พ.ธนบุรี2 ใกล้สุดแล้ว สองพ่อลูกก็รีบเปิดบ้านเอารถออกทันที แต่พอเราก้าวขาไปนั่งในรถปุ๊บ เราก็จะหลับให้ได้ เราบอกกับตัวเองว่าอย่าหลับอย่าหลับ หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย เรารู้สึกตัวอีกครั้งตอนลืมตาอยู่บนเตียงที่ร.พ.แล้ว เราปลอดภัยแล้ว เราพ้นภาวะวิกฤตแล้ว.....
ย้อนกลับมาเรื่องบนรถที่เราไม่รู้เรื่องรู้ตัวเลยก็คือ พ่อลูกเล่าว่าพอแม่ก้าวขาขึ้นรถนั่งแปบนึงแม่ก็พูดว่าลืมตาไม่ไหวแล้วก็สลบเลย แล้วขึ้นมาชักเกร็งมือเท้าหงิกงอ ตาเหลือก กัดฟัน น้ำลายย้อย ถ่ายอุจจาระราด พ่อเป็นคนขับรถเปิดไฟฉุกเฉินขอทางบีบแตรตลอดทาง ลูกก็มีสติมากปฐมพยาบาล ใช้นิ้วมือตัวเองงัดฟันงัดปากแม่งัดฟันงัดปากแม่ แม่ก็หายใจฟี๊ดๆ อีกครั้ง แล้วแม่ก็เริ่มชักหงิกงออีก มันเป็นวินาทีเป็นวินาทีตายเลยที่สองพ่อลูกบอกว่าผ่านมาได้ช้าและยากมากๆ และในที่สุดสองพ่อลูกก็พาแม่มาถึงร.พ.ทัน แม่ก็ถูกส่งไปห้องCPR แล้วต่อด้วยห้องICU คุณหมอฉีดยาให้หลายเข็มอยู่ แล้วก็ติดสายแถวหน้าอกให้หลายๆสาย ให้น้ำเกลือ และหมอให้เฝ้าดูอาการก่อน เพราะเคสเราเป็นเคสแพ้ยาขั้นรุนแรง ถ้ามาถึงร.พ.ช้ากว่านี้ เรามีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต
ที่อยากจะบอกต่อที่สุดคือ 1. เรื่องแพ้ยา ถ้าใครเป็นแล้วไม่มีทางหาย เคยแพ้ยาอะไรแล้วอย่ากลับมากินอีก นิดเดียวก็ไม่ได้ ยาที่อยู่ในตระกูลเดียวกันก็ไม่ได้ 2.ถ้ามีคนเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ส่งร.พ.ไหนก็ได้ที่ใกล้และเร็วที่สุด จะมีโครงการUCEP เป็นสิทธิที่คุ้มครองดูแลค่าใช้จ่ายให้เราส่วนนึง จนกว่าจะพ้นวิกฤต (ค่าใช้จ่ายรักษาเราค่ายาค่าหมอรวมนอนICU 1 คืนทั้งหมดประมาณ23,000 แต่โครงการUCEPช่วยเราจ่ายประมาณ10,500บาทค่ะ)
สุดท้าย ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดี ดูแลตัวเองครอบครัวและคนที่รักให้ดี ทุกวินาทีมีค่ามากๆมีความหมายมากๆ ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่