ก่อนอื่น ขออนุญาตปูเรื่องก่อนนะคะว่า
- เราเป็นหัวหน้าทีมมือใหม่ และในทีมมีสองคนค่ะ
- ลักษณะงานที่ทำ จะได้ผลตอบแทนเป็นคอมมิชชั่น (แต่เราไม่ใช่เซลล์นะคะ) ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย
- เราเป็นหัวหน้าทีม จึงได้ค่าตอมจากผลงานรวมของทีม ที่เฉพาะ senior จะได้ค่ะ
เริ่มเรื่องนะคะ (เราไม่สามารถบอกลักษณะงานที่ทำได้เนาะ) ก่อนหน้านี้เราทำหน้าที่นี้มาคนเดียวตลอดค่ะ ดังนั้น "โอกาส" ที่เราจะได้ค่าคอม จึงไม่ต้องแบ่งใคร แต่พอเวลาผ่านไป ลูกค้าเยอะขึ้น เราจึงเสนอบริษัทให้จ้างคนเพิ่ม บริษัทเห็นด้วย เราจึงได้เพื่อนร่วมทีมมาหนึ่งคน อายุมากกว่าเราประมาณ 5-6 ปี เราจึงได้กลายเป็น senior ไปโดยปริยาย นั่นคือไม่มีการประกาศตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ทำหน้าที่ทุกอย่างที่ senior ต้องทำคือ เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม ดันผลงานให้ถึงเป้า เป็นด่านแรกที่ลูกคอมเพลนต้องคุยด้วย แก้ปัญหาต่างๆ บลาๆๆ
ทีนี้พอมีเพื่อนร่วมทีม "โอกาส" ที่จะได้ค่าคอม ก็ถูกแบ่งออกไป ดังนั้นกลายเป็นว่า เมื่อมีคนมาช่วย ข้อดีคือลูกค้าได้รับการดูแลทั่วถึงมากขึ้น แต่เราต้องทำงานหนักขึ้นหากต้องการจะได้ค่าคอม (ไม่รวมค่าคอมของ senior) เท่าเดิม เพราะค่าคอม (เราตั้งเกณฑ์ขึ้นมาเอง) ว่าใครทำเท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้นเหมือนเซลล์
แต่เมื่อเวลาผ่ายไป เรากลับเห็นว่า ด้วยหน้าที่ ที่เราต้องดูแลลูกค้ากลุ่มสำคัญ ที่ต้องใช้เวลากับเค้ามากกว่าปกติ ทำให้โอกาสที่จะเพิ่มจำนวนผลงาน เพื่อให้ได้ค่าคอมเยอะเหมือนเดิม จึงเป็นไปไม่ได้เลย ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนใหม่ ได้ค่าคอมมากขึ้น ทำผลงานได้มา เพราะเขาดูลูกค้าทั่วไป ไม่ยากมากเท่าเรา
เราจึงปรึกษาผู้จัดการ เขาจึงเสนอว่าทำไมไม่เอาผลงานทั้งหมดมารวมกัน แล้วหารค่าคอมเท่าๆกันล่ะ เราก็เห็นด้วย จึงให้ผู้จัดการคุยให้ เพื่อนร่วมทีมเราไม่พอใจมาก เขาน่าจะมองว่าเราเอาเปรียบ ดังนั้นตอนนี้บรรยากาศการทำงานไม่โอเคเลยค่ะ เขาดูหมางเมิน ไม่พอใจเราตลอดเวลา ซึ่งงานที่เราทำ เราต้องทำงานประสานกัน ช่วยกัน แต่ตอนนี้บรรยากาศมาคุมากค่ะ
จึงขอรบกวนปรึกษาค่ะว่า
- สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ เราเอาเปรียบเขารึเปล่า?
- เราควรเปลี่ยนไปคิดค่าคอมแบบเดิมดีหรือไม่คะ?
ปล. ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ตั้งกระทู้ซะยาว แต่ตอนนีไม่รู้จะปรึกษาใคร จะปรึกษาผู้จัดการก็เกรงใจ
รบกวนเพื่อนๆหน่อยนะค้า
ขอบคุณมากค่ะ
เราเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานไปรึเปล่าคะ
- เราเป็นหัวหน้าทีมมือใหม่ และในทีมมีสองคนค่ะ
- ลักษณะงานที่ทำ จะได้ผลตอบแทนเป็นคอมมิชชั่น (แต่เราไม่ใช่เซลล์นะคะ) ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย
- เราเป็นหัวหน้าทีม จึงได้ค่าตอมจากผลงานรวมของทีม ที่เฉพาะ senior จะได้ค่ะ
เริ่มเรื่องนะคะ (เราไม่สามารถบอกลักษณะงานที่ทำได้เนาะ) ก่อนหน้านี้เราทำหน้าที่นี้มาคนเดียวตลอดค่ะ ดังนั้น "โอกาส" ที่เราจะได้ค่าคอม จึงไม่ต้องแบ่งใคร แต่พอเวลาผ่านไป ลูกค้าเยอะขึ้น เราจึงเสนอบริษัทให้จ้างคนเพิ่ม บริษัทเห็นด้วย เราจึงได้เพื่อนร่วมทีมมาหนึ่งคน อายุมากกว่าเราประมาณ 5-6 ปี เราจึงได้กลายเป็น senior ไปโดยปริยาย นั่นคือไม่มีการประกาศตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ทำหน้าที่ทุกอย่างที่ senior ต้องทำคือ เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม ดันผลงานให้ถึงเป้า เป็นด่านแรกที่ลูกคอมเพลนต้องคุยด้วย แก้ปัญหาต่างๆ บลาๆๆ
ทีนี้พอมีเพื่อนร่วมทีม "โอกาส" ที่จะได้ค่าคอม ก็ถูกแบ่งออกไป ดังนั้นกลายเป็นว่า เมื่อมีคนมาช่วย ข้อดีคือลูกค้าได้รับการดูแลทั่วถึงมากขึ้น แต่เราต้องทำงานหนักขึ้นหากต้องการจะได้ค่าคอม (ไม่รวมค่าคอมของ senior) เท่าเดิม เพราะค่าคอม (เราตั้งเกณฑ์ขึ้นมาเอง) ว่าใครทำเท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้นเหมือนเซลล์
แต่เมื่อเวลาผ่ายไป เรากลับเห็นว่า ด้วยหน้าที่ ที่เราต้องดูแลลูกค้ากลุ่มสำคัญ ที่ต้องใช้เวลากับเค้ามากกว่าปกติ ทำให้โอกาสที่จะเพิ่มจำนวนผลงาน เพื่อให้ได้ค่าคอมเยอะเหมือนเดิม จึงเป็นไปไม่ได้เลย ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนใหม่ ได้ค่าคอมมากขึ้น ทำผลงานได้มา เพราะเขาดูลูกค้าทั่วไป ไม่ยากมากเท่าเรา
เราจึงปรึกษาผู้จัดการ เขาจึงเสนอว่าทำไมไม่เอาผลงานทั้งหมดมารวมกัน แล้วหารค่าคอมเท่าๆกันล่ะ เราก็เห็นด้วย จึงให้ผู้จัดการคุยให้ เพื่อนร่วมทีมเราไม่พอใจมาก เขาน่าจะมองว่าเราเอาเปรียบ ดังนั้นตอนนี้บรรยากาศการทำงานไม่โอเคเลยค่ะ เขาดูหมางเมิน ไม่พอใจเราตลอดเวลา ซึ่งงานที่เราทำ เราต้องทำงานประสานกัน ช่วยกัน แต่ตอนนี้บรรยากาศมาคุมากค่ะ
จึงขอรบกวนปรึกษาค่ะว่า
- สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ เราเอาเปรียบเขารึเปล่า?
- เราควรเปลี่ยนไปคิดค่าคอมแบบเดิมดีหรือไม่คะ?
ปล. ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ตั้งกระทู้ซะยาว แต่ตอนนีไม่รู้จะปรึกษาใคร จะปรึกษาผู้จัดการก็เกรงใจ
รบกวนเพื่อนๆหน่อยนะค้า
ขอบคุณมากค่ะ