คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
มีพบ ต้องมีจาก
มีเกิดต้องมีดับ
หากรู้สัจธรรมข้อนี้แล้ว คุณจะไม่เสียดายเวลาที่ได้ชีวิตร่วมกับอดีตภรรยา
เมื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ ก็เหมือน ต้นไม้สองต้น ต่างพ่อต่างแม่ มาปลูกบนพื้นดินผืนเดียวกัน
เวลาผ่านไป แม้อากาศ น้ำ ปุ๋ย จะได้พอๆกัน แต่ต้นหนึ่งอาจเติบโตทางสูงขึ้นชะลูด อีกต้นอาจจะแตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นพุ่มใหญ่แต่ไม่สูง
เมื่อเริ่มต้น ก็ด้วยรักเสน่หากันแบบหนุ่มสาว
เวลาเปลี่ยน ทุกสิ่งเปลี่ยน แม้แต่สังขารตัวเอง
ผัวเมียก็เช่นกัน ถ้าไม่จากเป็น ก็จากตาย
เมื่อถึงเวลาจากแล้ว ทำใจยอมรับความจริง ต่างคนต่างมีชีวิตดีกว่า
เรารู้ว่าคนที่ถูกทิ้ง ย่อมเคว้งคว้าง เหมือนโดนทิ้งลอยแพไปในแม่น้ำเชี่ยวกราก
ยามรักไม่มีเหตุผลแค่รักและอยากอยู่ด้วยกัน
ยามจะทิ้ง มีเหตุผลมากมาย ทำยังไงได้ คนจะไป ต่อให้เอาเชือกผูกไว้ เขาก็ต้องหาทางจากเราไปจนได้
มีเกิดต้องมีดับ
หากรู้สัจธรรมข้อนี้แล้ว คุณจะไม่เสียดายเวลาที่ได้ชีวิตร่วมกับอดีตภรรยา
เมื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ ก็เหมือน ต้นไม้สองต้น ต่างพ่อต่างแม่ มาปลูกบนพื้นดินผืนเดียวกัน
เวลาผ่านไป แม้อากาศ น้ำ ปุ๋ย จะได้พอๆกัน แต่ต้นหนึ่งอาจเติบโตทางสูงขึ้นชะลูด อีกต้นอาจจะแตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นพุ่มใหญ่แต่ไม่สูง
เมื่อเริ่มต้น ก็ด้วยรักเสน่หากันแบบหนุ่มสาว
เวลาเปลี่ยน ทุกสิ่งเปลี่ยน แม้แต่สังขารตัวเอง
ผัวเมียก็เช่นกัน ถ้าไม่จากเป็น ก็จากตาย
เมื่อถึงเวลาจากแล้ว ทำใจยอมรับความจริง ต่างคนต่างมีชีวิตดีกว่า
เรารู้ว่าคนที่ถูกทิ้ง ย่อมเคว้งคว้าง เหมือนโดนทิ้งลอยแพไปในแม่น้ำเชี่ยวกราก
ยามรักไม่มีเหตุผลแค่รักและอยากอยู่ด้วยกัน
ยามจะทิ้ง มีเหตุผลมากมาย ทำยังไงได้ คนจะไป ต่อให้เอาเชือกผูกไว้ เขาก็ต้องหาทางจากเราไปจนได้
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
คำที่ว่า "คนเรา ศีลไม่เสมอกัน อยู่กันไม่ได้" เชื่อถือได้แค่ไหน ? อย่าไปเชื่อกันนะครับ
อยากจะบอกว่า...
ไอ้ที่ชอบพูดกันว่า คนเรา หากศีลไม่เสมอกัน มันอยู่กันไม่ได้...
มันไม่จริงหรอกครับ !
มันมักจะเป็นคำพูด ของไอ้พวก หวังดี ประสงค์ร้าย ทั้งนั้น !
นี่พูดจากประสบการณ์จริง ในชีวิต
ใครจะนึกล่ะครับ ว่าเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว...
คนที่รักกันมากๆ สองคน ต่างให้คำมั่นสัญญากันว่า
ถึงจะยาก จะมี จะดี จะเลว จะเจ็บ จะป่วย จะสุขสบาย
ก็จะไม่มีวันทอดทิ้งกัน
จะดูแลกันไปจนแก่ จนเฒ่า
จะมีแต่ความตายเท่านั้น ที่พรากพวกเราจากกัน
ใครจะนึกล่ะครับ 20 กว่าปีมานี้
ไอ้คนสองคนนี้ ได้ร่วมกัน ผ่านทุกข์ ผ่านสุข ผ่านเสียงหัวเราะ ร้องไห้
ผ่านเจ็บป่วย ผ่านทุกข์ร้อน ยากดีมีจน มีผ่านวิกฤตชีวิตนานาสารพัด
แต่แล้ววันนึง กลับเป็นต้องแยกทางกัน
เพียงเพราะ มีคนบอกว่า "ศีลไม่เสมอกัน อยู่กันไม่ได้"
ง่ายๆ อย่างเงี๊ยะนะ ?
ใช่ครับ... ง่ายๆอย่างนี้นี่แหละ
ก็อยากจะถามว่า ไอ้ที่เคยสัญญากัน ว่าจะรักกัน จะดูแลกันไปจนแก่จนเฒ่า
จะไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก นู่น นี่ นั่น
มันมีความหมายอะไรหลงเหลือบ้างมั๊ยยย...
หรือพอวันนึง ฝ่ายนึงไปปฏิบัติธรรม จนคิดว่ามีภูมิธรรมสูงส่ง
เลยมีความชอบธรรม ที่จะ "ถีบ" อีกฝ่ายนึงออกไปจากชีวิต
แล้วก็มาอ้างว่า ศีลไม่เสมอกัน มันอยู่กันไม่ได้ (นี่ครูบาอาจารย์บอกมานะ)
มันไม่ใช่หรอกครับ
มันอยู่กันได้ครับ
ศาสนาไม่ได้สอนให้คนเรามีจิตใจที่คับแคบอย่างนี้
ศาสนาสอนให้คนเรามีความเข้าใจในที่มา-ที่ไปของสรรพสิ่ง
แล้วหากมีภูมิธรรมสูงส่งซะขนาดนี้ แล้วทำไมทำความเข้าใจกับความจริงๆง่ายข้อนี้ไม่ได้ล่ะ
ว่าคนเรามันเกิดมาต่างกัน มีความสามารถในการรับรู้ เข้าใจในธรรม ได้ต่างกัน
การมีภูมิธรรมไม่เสมอกัน หรือ ศีลไม่เสมอกัน
มันไม่ถึงขั้นต้องมา "ถีบ" อีกฝั่งนึงออกไปจากชีวิตหรอก
เป็นครูบาอาจารย์ภาษาแมวอะไร มายุยงส่งเสริมให้ครอบครัวเขา บ้านแตกสาแหรกขาดแบบนี้
หรือ เพียงเพราะอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่เห็นด้วยดับการปฏิบัติธรรมเอาอีท่าไหนไม่รู้ แต่หมดเงินไปเป็นล้านๆ !
ใช่ไหมล่ะ ?
ผมมิได้มีเจตนาใดๆที่จะมาทำลาย หรือ ทำร้ายใคร
ผมเสีย ภรรยาไป จากอะไรทำนองนี้ ซึ่งก็หลายปีมาแล้ว
แค่อยากจะบอก คู่สมรส ที่อาจจะตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน ณ ปัจจุบัน
ว่า พวกท่าน จงทำความเข้าใจกับไอ้วลี บ้าๆนี้ให้ดี
คนเรา ศีลไม่เสมอกัน อยู่กันไม่ได้ ... ไม่จริง
ครองสติ ตั้งสติไต่ตรองดูให้ดี
หากเป็นกันอย่างนี้หมด มันไม่ต้องหย่าร้างกันค่อนประเทศเลยหรือ
ชีวิตคู่ มันไม่ได้ต้องถูกกำหนดให้ต้องมีเวลาไปปฏิบัติธรรม ที่สถานที่เดียวกัน
แนวปฏิบัติเดียวกัน โดยครูบาอาจารย์คนเดียวกันนะครับ
อย่าไปหลงเชื่อคำพูดของไอ้พวกหวังดี ประสงค์ร้ายเหล่านี้
จงนึกถึง วันที่ท่านให้คำมั่นสัญญากัน ว่าจะอยู่ดูแลกัน จนแก่ จนเฒ่า
จงนึกถึง วันดีๆ วันร้ายๆ ที่พวกท่านผ่านชีวิตสมรสกันมา
จงนึกถึง ความเศร้าโศกเสียใจ ที่อีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับ จากการถูกทอดทิ้ง
มันต้องมี ใจเขา - ใจเรากันบ้าง
การที่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งได้มีโอกาสเข้าถึงธรรมคำสอนได้มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
มิได้เป็น เหตุผล หรือ ความชอบธรรมใดๆ ที่จะมา ถีบอีกฝ่ายหนึ่งออกไปจากชีวิต
แล้วมาอ้าง ว่า ศีลไม่เสมอกัน...
ใครเป็นคนคิดไอ้วลีเด็ดนี้ขึ้นมาวะ
อยากจะโดดเตะก้านคอ จั๋งๆซักมี...ผับผ่า
พิมพ์ไปพิมพ์มา ชักโมโห ขอจบมันดื้อๆ แบบนี้เลยแล้วกันครับ
สวัสดี
ปล. จขกท. น้อมรับความเห็นทุกรูปแบบ แต่ไม่ขอถกเถียงอะไร กับผู้ที่เห็นต่างนะครับ
เป็นความเห็นที่มาจากประสบการ์ณชีวิตส่วนตนจริงๆเท่านั้นเอง / ไม่ควรลอกเลียนแบบ และ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ