การไม่บวช = บาป ทำอย่างไรดี ???

ดิฉันเป็นสาวประเภทสองค่ะ ตอนนี้มีปัญหากับทางบ้านเรื่องบวช ตั้งแต่อายุ 20 มาเรื่อยๆ ถ้ามีใครบวช ก็จะพูดกรอกหูเรา ว่างานหน้าเตรียมตัวนะ อะไรทำนองนี้ คือทุกคนที่บ้านดูมีความพยายามที่จะให้เราบวชมาก ทั้งๆที่เพศสภาพเราไปทางผู้หญิงหมดแล้ว เสื้อผ้า ต่างๆ ไม่มีของผู้ชายเลยค่ะ
เมื่อไม่นานมานี้ ลูกพี่ลูกน้องถามเรื่องบวชอีก ว่ารู้ไหม พ่อเครียดมากที่เราบอกไม่บวช เพราะไม่นับถือศาสนาใดๆ (ประเภทประยุกต์ใช้ค่ะ ดีก็ปรับ ไม่ดีก็ทิ้ง ร่วมพิธีกรรมได้ทุกศาสนาตามศรัทธา)  เราก็แบบ เห้ย เกี่ยวอะไร คืออธิบายก่อนว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่ย่า กับพี่สาว ที่ส่งเสียเราค่ะ พ่อคือต้องขอถึงจะให้ และไม่ได้ทุกครั้งด้วย (ไม่ได้อยู่กับพ่อค่ะ)
เราเรียนจบได้ด้วย กยศ ล้วนๆ ม.6 ค่าเทอมก็ไม่ได้จ่าย เพราะพ่อไม่ส่ง ย่าไม่มี เราหลบเลี่ยงจนจบมาได้ เราทำงานพิเศษตั้งแต่ ม.ต้น จนจบมหา'ลัย แล้วคือให้เราบวชทดแทนบุญคุณพ่อ ที่สำคัญลูกพี่ลูกน้องคนนี้ยังให้เราแต่งชุดชายรับปริญญา เพราะแต่งเพื่อพ่อ เราก็เห้ย เพื่อตัวเราสิ เรียนกว่าจะจบแถมทำงานไปด้วย (ม.เราอนุญาติแต่งหญิงได้ค่ะ)
คำพูดโดยรวมของเขาทั้งหมดคือ การไม่บวชของเราเป็นบาป ทำให้คนทางบ้านทุกข์ โดยเฉพาะพ่อ ทั้งๆที่แทบไม่ได้สนใจอะไรเราเลย นอกจากตอนโทรมาต่อว่าเวลามีปัญหาอ่ะ เรียนหนักไม่มีให้กำลังใจอะไรเลย ต่างจากแม่ที่ไม่ให้เงินเหมือนกัน แต่โทรถามไถ่ให้กำลังใจเสมอ (ทั้งสองคนเลิกรากันค่ะ) และแม่ก็ทำใจเรื่องบวชบ้างแล้ว
ดิฉันจึงอยากรู้ว่า การบวชมันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอ การที่เราทำงานหาเงิน ตั้งใจเรียน ติดมหาลัยดีดี เรียนได้เกียรตินิยม ทำงานเพื่อแบ่งเบา พยายามไม่เดือดร้อน ช่วยตัวเอง มันถือเป็นการตอบแทนพระคุณไม่ได้หรอ เราพัฒนาศักยภาพทุกด้านให้เป็นที่ยอมรับ กลับไม่เกิดประโยชน์และมีแต่คนรอบข้างด่าเรา เพียงเพราะเราไม่บวช จากคำบอกเล่าของลูกพี่ลูกน้อง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราเกิดมาในครอบครัวที่มีแต่ลูกสาวล้วน  มีญาติพี่น้องมากมายที่มาพูดจาทำนองว่า มีแต่ลูกสาวคงไม่มีวาสนาเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ฯลฯ  

พ่อจะบอกว่า  ไม่สำคัญเลย... เพราะถ้ามีลูกชายแล้วมันเกกมะเหรกเกเร บวชพระแบบเสียไม่ได้ ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ฯลฯ อย่างนั้นไม่ต้องบวชหรอก ทำลายศาสนาเปล่าๆ  

ในความเป็นจริง ลูกสาวบ้านนี้ทุกคนได้เรียนพระธรรม ก็พ่อนั่นแหละเป็นคนสอน  และเก่งพอที่จะโต้คารมกับผู้ชายที่เคยบวชมาแล้วได้  พ่อขอว่า แค่ให้ถือศีลห้าให้ได้ รู้ว่าจะเอาพระธรรมคำสอนไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างไร โดยไม่งมงายเชื่อหมอดู หรือลัทธิมารต่างๆ ก็ถือว่าประเสิรฐแล้ว

จขกท เอาไปปรับใช้ได้นะคะ  ที่สำคัญ อย่าให้คนพูดจาส่อเสียด มามีผลกับชีวิตของเรา  โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีการศึกษา ควรตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตได้ด้วยตนเอง... โชคดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่