ปกติเวลาสร้างนิยายหักมุมสักเรื่อง (รวมไปถึงหนัง เกม การ์ตูน และสื่ออื่น ๆ ที่พล็อตมันจะมีการหักมุม) คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างนิยายเรื่องนั้น ตั้งแต่คนเขียนไปจนถึง บก. และ สนพ. เขาจะไม่มาบอกกันก่อนว่า เฮ้ย เรื่องนี้เดี๋ยวจะหักมุมนะ เพราะต่อให้ไม่สปอยล์เรื่อง แต่ถ้าคนอ่านรู้ตัวก่อนว่าเรื่องจะหักมุม ระหว่างเสพเรื่องไปก็จะมองหาเงื่อนงำไปพลางว่า เรื่องมันจะหักมุมในรูปแบบไหนได้บ้าง ทำให้สุดท้ายแล้วพลอยไม่ตื่นเต้นไปเมื่อเรื่องมาถึงจุดหักมุมจริง ๆ เพราะตรงกับที่คิดไว้พอดี
แต่บางทีก็จะมีบางเรื่องที่พยายาม "ยั่ว" ให้คนอ่านลองคิดลองมองหาเงื่อนงำของการหักมุมไปพลาง เพราะมั่นใจว่าจุดหักมุมของจริงเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของคนอ่านส่วนใหญ่ อย่างเช่น "แรกรัก" หรือชื่อต้นฉบับว่า "Initation Love" โดย อินุอิ คุรุมิ ที่บอกทั้งบนปกหลังและในคำนำว่าจะมีการหักมุม กระทั่งบนปกหน้ายังมีการพิมพ์เคลือบเงาคำว่า "ลวง" (ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเรื่องเลย) แถมตอนเล่มนี้วางขายในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พนักงานที่บูธก็ยกเรื่องการหักมุมมาเป็นจุดขายของเล่มนี้ (แน่นอนว่าไม่ได้สปอยล์เนื้อเรื่อง)
ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้ใกล้เคียงที่สุด ก็ต้องบอกว่าเป็นกลยุทธ์เบี่ยงเบนความสนใจแบบ Red Herring อย่างที่นักมายากลชอบใช้ และเรื่องนี้ก็เล่นมายากลกับคนอ่านจนตะลึงงันกันยกใหญ่ พอมาเฉลยในหน้าสุดท้ายก็แทบขนลุกเกรียว
เนื้อเรื่องแบ่งเป็น 2 Side คล้ายเทปคาสเสตต์ที่บันทึกเสียงไว้ 2 ด้าน Side A เป็นเรื่องของนักศึกษาไก่อ่อนปี 4 ชื่อ ซุซุกิ ยูกิ ที่ไปนัดเดตหมู่ตามคำเชิญชวนของเพื่อนกลุ่มที่ไม่สนิทเท่าไร และได้ปิ๊งรักแรกพบกับ นารุโอกะ มายุโกะ (ต่อไปจะเรียกสั้น ๆ ตามตัวเอกเรียกว่า "มายุ") ที่ไปนัดเดตหมู่เหมือนกัน กลุ่มนัดเดตทั้งชายและหญิงดูจะสานสัมพันธ์กันด้วยดี ทำให้มีการนัดเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกันอีกหลายครั้งตามมา ขณะเดียวกัน ยูกิก็ได้ติดต่อสานสัมพันธ์กับมายุและคบกันลับ ๆ มายุเองก็ดูจะมีใจให้เขาและตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า "ทักคุง" (ด้วยเหตุผลที่เอาจริงก็ไม่ได้ซับซ้อนเท่าไร เอาเป็นว่าเป็นการเล่นคำกับตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่น) พแถมยังให้คำแนะนำทักคุงในการปรับปรุง look ตัวเองหลายอย่าง เช่น เปลี่ยนจากสวมแว่นเป็นใส่คอนแทกต์เลนส์ ซื้อรถของตัวเอง ฯลฯ จากนั้นทั้งคู่ก็พัฒนาความสัมพันธ์ถึงขั้นไปมีอะไรกันที่ห้องของมายุ และคืนวันคริสต์มาสก็ไปดินเนอร์และพักค้างคืนที่โรงแรมหรู ๆ พร้อมกับแลกของขวัญกัน Side A เรื่องจบลงเท่านี้
Side B เริ่มที่ "ทักคุง" ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ได้รับการคัดเลือกจากทางบริษัทให้ไปประจำที่สาขาแม่ที่โตเกียว ทักคุงแรก ๆ ก็อิดออดไม่ค่อยอยากไปจากชิซุโอกะ เพราะทำให้ได้เจอมายุที่คบกันเป็นแฟนแล้วน้อยลง แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ทำใจได้ โดยตกลงกับมายุว่าจะขับรถกลับชิซุโอกะเพื่อมาเจอกันเป็นระยะ ๆ พอทักคุงไปทำงานที่โตเกียวก็ได้เจอสังคมใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ รวมถึง อิชิมารุ มิยาโกะ ซึ่งขาวสวยหมวกเอ็กซ์สเปกผู้สุด ๆ มิยาโกะเกิดหลงเสน่ห์ทักคุงและหาทางเข้าใกล้บ่อย ๆ จนทักคุงพลอยหวั่นไหวและเริ่มเอาใจออกห่างมายุ ระหว่างนั้นความสัมพันธ์ของมายุกับทักคุงก็เริ่มแย่ลง ๆ หนึ่งคือเพราะระยะทาง สองคือมายุเกิดตั้งท้องขึ้นมา และทักคุงตัดสินใจให้เธอทำแท้ง แต่แล้วในที่สุดทักคุงก็เลิกกับมายุและเริ่มคบหากับมิยาโกะอย่างจริงจัง จนทำเอาเกือบทั้งบริษัทหมั่นไส้ Side B จบลงที่ทักคุงไปฉลองคริสต์มาสที่บ้านของมิยาโกะ
อ่านเรื่องย่อแค่นี้แล้ว อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องดราม่าประโลมโลกย์ธรรมดา ๆ มีฉากรักหวานแหววและบทอัศจรรย์พอประมาณ (ขอบอกว่าเล่มนี้บรรยายบทอัศจรรย์ด้วยภาษาร่วมสมัยได้ดีมาก ๆ และไม่อุจาดอนาจารด้วยแหละ) แต่ไม่เห็นจะมีอะไรที่ดู "หักมุม" ... ก็แน่นอน เพราะ จขกท. ยังไม่อยากสปอยล์เรื่อง เอาเป็นว่าถ้าอ่านและเก็บตกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตลอด จนถึงช่วงสุดท้ายของหน้าสุดท้าย ทุกอย่างจะเหมือนโดนไขกุญแจดังกริ๊ก
มีจุดหนึ่งที่สะกิดใจ จขกท. เอามาก ๆ เพราะมันไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรกับพล็อตเรื่องเลย แต่พอมาย้อนคิดดู กลับเป็นเหมือนส่วนที่คนเขียนใส่มาเพื่อทิ้งคำใบ้ให้คนอ่านรู้เกี่ยวกับจุดหักมุมในตอนท้าย นั่นคือในกลุ่มนัดเดตหมู่ของพวกทักคุง มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ "คิตาฮาระ" ซึ่งชอบโชว์มายากลเวลานัดเจอกัน (และดูเหมือนจะพยายามทำคะแนนกับมายุด้วย) กลครั้งหนึ่งของคิตาฮาระคือ เอาเชือกความยาวประมาณ 1 เมตรมาทำให้ดูเหมือนทะลุผ่านลูกกุญแจบ้านของมายุ โดยที่มองไม่เห็นร่องรอยว่าเชือกโดนตัดเลย
กลับมาที่วิธีการดำเนินเรื่องของคนเขียน ซึ่งแบ่งเป็น Side A กับ Side B เหมือนม้วนเทปคาสเสตต์ ซึ่งคนที่เคยตัดต่อม้วนเทปจะรู้ว่า เราสามารถเอาม้วนเทปที่เป็นคนละเรื่องคนละเพลง มาตัดต่อและเชื่อมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าทำได้แนบเนียนพอ ตอนเอาไปเล่นแล้วก็จะแยกไม่ออกเลยว่ามาจากเทปคนละม้วน
นี่คือมายากลที่ อินุอิ คุรุมิ ใช้ในการเขียนเรื่องนี้ และทำให้การย้อนกลับมาอ่านทั้งเรื่องเพื่อหา "รอยตัด" หรือเงื่อนงำ สร้าง impact ตอนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ดีมาก ๆ รวมถึงตระหนักได้ว่า ผู้หญิงบางคน
โคตรน่ากลัว...
ไปค้นข้อมูลคร่าว ๆ มา เรื่องนี้เหมือนจะมีทำเป็นหนังหรือซีรีส์ที่ญี่ปุ่นด้วย แอบอยากรู้ว่าเขาจะนำเสนอจุดที่มีการ "หักมุม" อย่างไร หรือจะไม่นำเสนอเลย ใครรู้ก็มาเล่าให้ฟังทีนะครับ
ต่อไปนี้จะเป็นการสปอยล์ เพราะคันไม้คันมือมาก ทนไม่ไหวละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จุดสำคัญของเรื่องคือ ตัวละครเอกทั้ง 2 Sides ถูกเรียกว่า "ทักคุง" โดย Side A ทักคุงคือชื่อเล่นใหม่ของยูกิที่มายุตั้งให้ ส่วน Side B พอเปิดมา มายุก็เรียกเขาว่าทักคุงแล้ว
พออ่านไปจนถึง 2 ย่อหน้าสุดท้าย จะพบว่า "ทักคุง" ของทั้ง 2 Sides เป็นคนละคนกัน
ที่ Peak กว่าคือ ตอนอ่านรอบแรก จะเข้าใจว่า Side B เป็นเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจาก Side A โดยทิ้งช่วงเวลาห่างกันประมาณครึ่งปี แต่จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 Sides เรื่องราวเกิดขึ้นคู่ขนานกัน
ดังนั้นเรื่องนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ มายุ
[Review] แรกรัก (Initiation Love) โดย อินุอิ คุรุมิ
แต่บางทีก็จะมีบางเรื่องที่พยายาม "ยั่ว" ให้คนอ่านลองคิดลองมองหาเงื่อนงำของการหักมุมไปพลาง เพราะมั่นใจว่าจุดหักมุมของจริงเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของคนอ่านส่วนใหญ่ อย่างเช่น "แรกรัก" หรือชื่อต้นฉบับว่า "Initation Love" โดย อินุอิ คุรุมิ ที่บอกทั้งบนปกหลังและในคำนำว่าจะมีการหักมุม กระทั่งบนปกหน้ายังมีการพิมพ์เคลือบเงาคำว่า "ลวง" (ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเรื่องเลย) แถมตอนเล่มนี้วางขายในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พนักงานที่บูธก็ยกเรื่องการหักมุมมาเป็นจุดขายของเล่มนี้ (แน่นอนว่าไม่ได้สปอยล์เนื้อเรื่อง)
ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้ใกล้เคียงที่สุด ก็ต้องบอกว่าเป็นกลยุทธ์เบี่ยงเบนความสนใจแบบ Red Herring อย่างที่นักมายากลชอบใช้ และเรื่องนี้ก็เล่นมายากลกับคนอ่านจนตะลึงงันกันยกใหญ่ พอมาเฉลยในหน้าสุดท้ายก็แทบขนลุกเกรียว
เนื้อเรื่องแบ่งเป็น 2 Side คล้ายเทปคาสเสตต์ที่บันทึกเสียงไว้ 2 ด้าน Side A เป็นเรื่องของนักศึกษาไก่อ่อนปี 4 ชื่อ ซุซุกิ ยูกิ ที่ไปนัดเดตหมู่ตามคำเชิญชวนของเพื่อนกลุ่มที่ไม่สนิทเท่าไร และได้ปิ๊งรักแรกพบกับ นารุโอกะ มายุโกะ (ต่อไปจะเรียกสั้น ๆ ตามตัวเอกเรียกว่า "มายุ") ที่ไปนัดเดตหมู่เหมือนกัน กลุ่มนัดเดตทั้งชายและหญิงดูจะสานสัมพันธ์กันด้วยดี ทำให้มีการนัดเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกันอีกหลายครั้งตามมา ขณะเดียวกัน ยูกิก็ได้ติดต่อสานสัมพันธ์กับมายุและคบกันลับ ๆ มายุเองก็ดูจะมีใจให้เขาและตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า "ทักคุง" (ด้วยเหตุผลที่เอาจริงก็ไม่ได้ซับซ้อนเท่าไร เอาเป็นว่าเป็นการเล่นคำกับตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่น) พแถมยังให้คำแนะนำทักคุงในการปรับปรุง look ตัวเองหลายอย่าง เช่น เปลี่ยนจากสวมแว่นเป็นใส่คอนแทกต์เลนส์ ซื้อรถของตัวเอง ฯลฯ จากนั้นทั้งคู่ก็พัฒนาความสัมพันธ์ถึงขั้นไปมีอะไรกันที่ห้องของมายุ และคืนวันคริสต์มาสก็ไปดินเนอร์และพักค้างคืนที่โรงแรมหรู ๆ พร้อมกับแลกของขวัญกัน Side A เรื่องจบลงเท่านี้
Side B เริ่มที่ "ทักคุง" ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ได้รับการคัดเลือกจากทางบริษัทให้ไปประจำที่สาขาแม่ที่โตเกียว ทักคุงแรก ๆ ก็อิดออดไม่ค่อยอยากไปจากชิซุโอกะ เพราะทำให้ได้เจอมายุที่คบกันเป็นแฟนแล้วน้อยลง แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ทำใจได้ โดยตกลงกับมายุว่าจะขับรถกลับชิซุโอกะเพื่อมาเจอกันเป็นระยะ ๆ พอทักคุงไปทำงานที่โตเกียวก็ได้เจอสังคมใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ รวมถึง อิชิมารุ มิยาโกะ ซึ่งขาวสวยหมวกเอ็กซ์สเปกผู้สุด ๆ มิยาโกะเกิดหลงเสน่ห์ทักคุงและหาทางเข้าใกล้บ่อย ๆ จนทักคุงพลอยหวั่นไหวและเริ่มเอาใจออกห่างมายุ ระหว่างนั้นความสัมพันธ์ของมายุกับทักคุงก็เริ่มแย่ลง ๆ หนึ่งคือเพราะระยะทาง สองคือมายุเกิดตั้งท้องขึ้นมา และทักคุงตัดสินใจให้เธอทำแท้ง แต่แล้วในที่สุดทักคุงก็เลิกกับมายุและเริ่มคบหากับมิยาโกะอย่างจริงจัง จนทำเอาเกือบทั้งบริษัทหมั่นไส้ Side B จบลงที่ทักคุงไปฉลองคริสต์มาสที่บ้านของมิยาโกะ
อ่านเรื่องย่อแค่นี้แล้ว อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องดราม่าประโลมโลกย์ธรรมดา ๆ มีฉากรักหวานแหววและบทอัศจรรย์พอประมาณ (ขอบอกว่าเล่มนี้บรรยายบทอัศจรรย์ด้วยภาษาร่วมสมัยได้ดีมาก ๆ และไม่อุจาดอนาจารด้วยแหละ) แต่ไม่เห็นจะมีอะไรที่ดู "หักมุม" ... ก็แน่นอน เพราะ จขกท. ยังไม่อยากสปอยล์เรื่อง เอาเป็นว่าถ้าอ่านและเก็บตกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตลอด จนถึงช่วงสุดท้ายของหน้าสุดท้าย ทุกอย่างจะเหมือนโดนไขกุญแจดังกริ๊ก
มีจุดหนึ่งที่สะกิดใจ จขกท. เอามาก ๆ เพราะมันไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรกับพล็อตเรื่องเลย แต่พอมาย้อนคิดดู กลับเป็นเหมือนส่วนที่คนเขียนใส่มาเพื่อทิ้งคำใบ้ให้คนอ่านรู้เกี่ยวกับจุดหักมุมในตอนท้าย นั่นคือในกลุ่มนัดเดตหมู่ของพวกทักคุง มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ "คิตาฮาระ" ซึ่งชอบโชว์มายากลเวลานัดเจอกัน (และดูเหมือนจะพยายามทำคะแนนกับมายุด้วย) กลครั้งหนึ่งของคิตาฮาระคือ เอาเชือกความยาวประมาณ 1 เมตรมาทำให้ดูเหมือนทะลุผ่านลูกกุญแจบ้านของมายุ โดยที่มองไม่เห็นร่องรอยว่าเชือกโดนตัดเลย
กลับมาที่วิธีการดำเนินเรื่องของคนเขียน ซึ่งแบ่งเป็น Side A กับ Side B เหมือนม้วนเทปคาสเสตต์ ซึ่งคนที่เคยตัดต่อม้วนเทปจะรู้ว่า เราสามารถเอาม้วนเทปที่เป็นคนละเรื่องคนละเพลง มาตัดต่อและเชื่อมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าทำได้แนบเนียนพอ ตอนเอาไปเล่นแล้วก็จะแยกไม่ออกเลยว่ามาจากเทปคนละม้วน
นี่คือมายากลที่ อินุอิ คุรุมิ ใช้ในการเขียนเรื่องนี้ และทำให้การย้อนกลับมาอ่านทั้งเรื่องเพื่อหา "รอยตัด" หรือเงื่อนงำ สร้าง impact ตอนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ดีมาก ๆ รวมถึงตระหนักได้ว่า ผู้หญิงบางคนโคตรน่ากลัว...
ไปค้นข้อมูลคร่าว ๆ มา เรื่องนี้เหมือนจะมีทำเป็นหนังหรือซีรีส์ที่ญี่ปุ่นด้วย แอบอยากรู้ว่าเขาจะนำเสนอจุดที่มีการ "หักมุม" อย่างไร หรือจะไม่นำเสนอเลย ใครรู้ก็มาเล่าให้ฟังทีนะครับ
ต่อไปนี้จะเป็นการสปอยล์ เพราะคันไม้คันมือมาก ทนไม่ไหวละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้