เพื่อนๆ คิดอย่างไร กับข่าวนี้ครับ
(3 พ.ย.) เวลา 20.00 น. ที่บ้านน้อยจอมศรี ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร บ้านเช่าเป็นที่พักพิงของ น้องเอ (นามสมมุติ)วัย 17 ปี ที่ถูกผู้เป็นพ่อแท้ๆข่มขืนตนเองนาน 5 ปี ก่อนหลบหนีด้วยการเดินเท้าจากกระท่อมนาในเขต อ.กุดบาก ถึง อ.เมือง เป็นระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อให้อาช่วย ก่อนที่ 2 พลเมืองดี จะเข้าไปช่วยดำเนินคดีกับพ่อในข้อหาหนักหลายข้อหาและถูกคุมขังกำลังดำเนินคดีเอาผิดอยู่
ต่อมามีการเปิดบัญชีบริจาค โดยบัญชีเป็นชื่อ 3 คน ประกอบด้วย อาของน้องเอ ตัวน้องเอ และเพื่อนบ้านเป็นพยาน ต่อมามีกระแสข่าวว่าผู้เป็นอาใช้เงินที่ได้รับบริจาคไปอย่างไม่เหมาะสม มีนัยยะแอบแฝง เพราะนำไปซื้อรถกระบะ 1 คัน และโอนเงินออกจากบัญชีบริจาคเกือบหมด จนเกิดข้อกังขาว่าตัวอาเองต้องการฮุบเงินบริจาค โดยกล่อมให้น้องเอยินยอมด้วย
>> อาของเด็ก 17 ที่ถูกพ่อข่มขืนยอมคืนเงิน 7 แสน-รถยังให้ไม่ได้ ย่าห่วงฟุ้งเฟ้อจนหมดตัว
ในเรื่องนี้ นางกุหลาบ อาของน้องเอ กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อรถเป็นการตัดสินใจของน้องเอเองเนื่องจากรถคันเก่าของอาเป็นรถที่ยังใช้งานได้ดีก็จริง แต่เป็นรถตอนเดียวนั่งได้ 2 คน เวลาเดินทางไปสถานีตำรวจทั้ง สภ.กุดบาก สภ.เมือง สำนักงานอัยการ หรือทำธุระอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้องมันลำบาก ต้องโดนฝนโดนลมเสี่ยงอุบัติเหตุเวลาเด็กๆ นั่งหลังรถ เพราะน้องเอจะต้องไปนั่งท้ายกระบะ รวมถึงลูกๆ ตนอีก 2 จึงตัดสินใจซื้อรถกระบะมือสองสภาพดี ที่เป็นแบบแค็ปนั่งได้ 5 คน ในราคา 540,000 บาท จึงทำให้ยอดเงินบริจาคขณะนี้เหลือ 700,000 บาท ส่วนสาเหตุที่นำเงินออกจากบัญชีที่เป็นบัญชีบริจาคเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากบุคคลที่ 3 ที่พาไปเปิดบัญชีอ้างว่า คุณอ้อและคุณอ้อย 2 พลเมืองดี ฝากความมาว่าให้มาขอเงินบริจาคร้อยละเท่านั้นเท่านี้ ให้กับคนที่มาช่วยแรกๆ คือ 2 พลเมืองดี จึงรู้สึกคิดลบกับ 2 พลเมืองดีเพราะขาดการติดต่อกันไประยะหนึ่ง
อ่านต่อที่
https://www.sanook.com/news/7564338/
ก่อนหน้านี้ รายการต่างคนต่างคิด ได้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกเกลียดอา มาก
#ข้อเสนอแนะถึงพันทิป : รายการต่างคนต่างคิด (AMARIN TV HD)
เปิดใจ "อา" ไม่คิดฮุบเงินหลานสาว 17 ที่ถูกพ่อข่มขืน ยอมรับเข้าใจพลเมืองดีผิด
(3 พ.ย.) เวลา 20.00 น. ที่บ้านน้อยจอมศรี ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร บ้านเช่าเป็นที่พักพิงของ น้องเอ (นามสมมุติ)วัย 17 ปี ที่ถูกผู้เป็นพ่อแท้ๆข่มขืนตนเองนาน 5 ปี ก่อนหลบหนีด้วยการเดินเท้าจากกระท่อมนาในเขต อ.กุดบาก ถึง อ.เมือง เป็นระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อให้อาช่วย ก่อนที่ 2 พลเมืองดี จะเข้าไปช่วยดำเนินคดีกับพ่อในข้อหาหนักหลายข้อหาและถูกคุมขังกำลังดำเนินคดีเอาผิดอยู่
ต่อมามีการเปิดบัญชีบริจาค โดยบัญชีเป็นชื่อ 3 คน ประกอบด้วย อาของน้องเอ ตัวน้องเอ และเพื่อนบ้านเป็นพยาน ต่อมามีกระแสข่าวว่าผู้เป็นอาใช้เงินที่ได้รับบริจาคไปอย่างไม่เหมาะสม มีนัยยะแอบแฝง เพราะนำไปซื้อรถกระบะ 1 คัน และโอนเงินออกจากบัญชีบริจาคเกือบหมด จนเกิดข้อกังขาว่าตัวอาเองต้องการฮุบเงินบริจาค โดยกล่อมให้น้องเอยินยอมด้วย
>> อาของเด็ก 17 ที่ถูกพ่อข่มขืนยอมคืนเงิน 7 แสน-รถยังให้ไม่ได้ ย่าห่วงฟุ้งเฟ้อจนหมดตัว
ในเรื่องนี้ นางกุหลาบ อาของน้องเอ กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อรถเป็นการตัดสินใจของน้องเอเองเนื่องจากรถคันเก่าของอาเป็นรถที่ยังใช้งานได้ดีก็จริง แต่เป็นรถตอนเดียวนั่งได้ 2 คน เวลาเดินทางไปสถานีตำรวจทั้ง สภ.กุดบาก สภ.เมือง สำนักงานอัยการ หรือทำธุระอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้องมันลำบาก ต้องโดนฝนโดนลมเสี่ยงอุบัติเหตุเวลาเด็กๆ นั่งหลังรถ เพราะน้องเอจะต้องไปนั่งท้ายกระบะ รวมถึงลูกๆ ตนอีก 2 จึงตัดสินใจซื้อรถกระบะมือสองสภาพดี ที่เป็นแบบแค็ปนั่งได้ 5 คน ในราคา 540,000 บาท จึงทำให้ยอดเงินบริจาคขณะนี้เหลือ 700,000 บาท ส่วนสาเหตุที่นำเงินออกจากบัญชีที่เป็นบัญชีบริจาคเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากบุคคลที่ 3 ที่พาไปเปิดบัญชีอ้างว่า คุณอ้อและคุณอ้อย 2 พลเมืองดี ฝากความมาว่าให้มาขอเงินบริจาคร้อยละเท่านั้นเท่านี้ ให้กับคนที่มาช่วยแรกๆ คือ 2 พลเมืองดี จึงรู้สึกคิดลบกับ 2 พลเมืองดีเพราะขาดการติดต่อกันไประยะหนึ่ง
อ่านต่อที่ https://www.sanook.com/news/7564338/
ก่อนหน้านี้ รายการต่างคนต่างคิด ได้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกเกลียดอา มาก
#ข้อเสนอแนะถึงพันทิป : รายการต่างคนต่างคิด (AMARIN TV HD)