คำหยาบคายพบได้จากทุกสื่อ

ฉัน ในวัย 36 ปี มีลูกเล็กๆสองคน
เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง
ชีวิตธรรมดาทำงาน กลับบ้าน ดูแลลูก
เกิดมาในยุควัยเด็กไม่มีอินเตอร์เน็ต รับรู้ข่าวสารผ่านโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
ทันยุคสื่อสารผ่านตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ บัตรเติมเงิน เพจลิ้งค์ มือถือนาทีละสามบาท
ช่วงวัยรุ่น เริ่มมีสื่ออินเตอร์เน็ต แต่เน็ตช้ามาก
จนปัจจุบัน เป็นแม่บ้าน ใช้สื่อ online เต็มรูปแบบ ทั้งการทำงาน บันเทิง ธุรกรรมการเงิน ช้อปปิ้ง เหมือนคนอื่นทั่วไป
ความเปลี่ยนผ่านของช่วงวัย ทำให้สัมผัสได้ว่า สื่อที่ฉันเสพ มันต่างจากวัยเด็กพอสมควร
โดยเฉพาะ ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสาร
ในอดีตนั้น โทรทัศน์ ก็เห็นแต่ช่อง 3 5 7 9 11 ITV สื่อที่เห็น แทบไม่มีคำหยาบคายออกมาให้ได้ยินเลย คำเรียกแทนตัว ก็จะเป็น คุณ ผม ฉัน ดิฉัน ทั้งข่าว ละคร สื่อเกือบทุกอย่าง
รายการที่ออกทะลุ่งตึงตังหน่อย ก็น่าจะเป็น กลุ่มตลกคาเฟ่ ที่โชว์ตามรายการต่างๆ เท่านั้น
เสื้อผ้าโป๊สุดๆในยุคหนึ่ง คือ สายเดี่ยว เอวลอย เกาะอก การรายงานข่าวก็อ่านแบบธรรมดาๆไม่หวือหวาอะไร การมีคำหยาบคายออกมาจากสื่อหลัก เป็นเรื่องราวละเอียดอ่อนมากในยุคนั้น
จนปัจจุบัน ดิฉัน ก็ติดตาม กระแสหลักของนักแสดง นักร้อง นักข่าว เน็ตไอดอล หนัง ละคร เพลง ซิทคอม เป็นประจำ ต่อเนื่องทุกวัน จนสัมผัสได้ว่า
ภาษาที่ใช้ในการสิ่อสาร มีความแตกต่างจากอดีตมากพอควร มีคำใช้ เช่น กรู ยิ้ม วะ เว้ย ไอสัด ไอฮา ไอเฮีย ยิ้ม คำศัพท์เหล่านี้ พบได้ทั่วไป เกือบทุกสื่อ ทั้งพิธีกรชื่อดัง เน็ตไอดอล ละครหลังข่าว นักร้อง นักแสดง ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนดังดัง คือ คนแรงๆ พูดแรงๆ ตรงๆ คนที่ใช้มุขตลกใต้กระโปรง ซึ่งมันก็ได้ผลมากๆในการทำให้ตนเองได้ออกสู่กระแสหลัก เป็นที่นิยมชมชอบ มีชื่อเสียง และหน้าที่การงานที่ดี
ความเข้าใจในสิทธิส่วนบุคคล ในยุคนี้ มีมากกว่าอดีต ยกตัวอย่าง ดาราทัองก่อนแต่ง แต่ก่อนนั้น แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมเลยทีเดียว แต่ปัจจุบัน ก็ต่างไป
ความเรียล ความแรง คำหยาบคาย มุขใต้กระโปรง เป็นเรื่องธรรมดา เอาจริงๆ ดิฉันฮา และก็ดูทุกวัน แม้ชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่พูดคำเหล่านี้เลย  แต่พอถึงจุดหนึ่ง คือวันนี้ มองหน้าลูกสองคน แล้ว ก็คิดว่า นี่เขาเกิดมาในยุคที่ต่างจากเรามาก เรารู้สึกว่า แต่ก่อน มันดีมาก สำหรับเด็กผ้าขาว สมัยนี้ สื่อ ต้องกรอง ต้องให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการเสพ อย่างจริงจัง
พอมองดารา นักน้อง นักแสดง คนที่เราตามอยู่ ก็เอ๊ะ วัยไล่ๆเรียงๆกับเราเลย แสดงว่าในอดีต เขาก็ได้รับสื่อ แบบเดียวกับเรา แต่สังคมคงคนละแบบ การแสดงออกจึงต่างจากเรามาก
พิมพ์มายาว แค่ไม่อยากให้ลูก พูดคำหยาบ ไม่อยากให้เด็กหลายๆคน ตั้งเป้าเรื่องการทำทุกวิถีทางเพื่อให้เป็นเน็ตไอดอล มากกว่าการเรียน
เราหวังกับสื่อไม่ได้ คงต้องกรองเอง
แต่ก็อยากสะท้อนไปยังคนทำสื่อบ้าง เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่