Sony ในช่วงสิ้นปี 2018 ก็ได้เปิดตัวเรือธง ต่อยอดจาก XZ2 หลายๆคนคงคาดหวังมันว่าจะมากล้องคู่แบบ XZ2Premium นั้นคงต้องผิดหวังกันไป และเช่นกันกับแอดมินครับ รวมถึงกล้องมันคือเดิมๆจาก XZ2 เลยสำหรับกล้องหลังแน่นอนว่า ดีไซน์ก็มีเปลี่ยนเล็กน้อยมากๆในด้านหลัง แต่ด้านหน้าก็สวยขึ้นเยอะเลยแหละ รุ่นนี้เปิดตัวมาช่วงปลายปีมาดันกระแสกันนิดหน่อยด้วยการใช้จอโค้งครั้งแรกของค่ายรวมถึงฟีเจอร์ Side Sense ที่สั่งงานจากขอบกระจกข้างเครื่องครับ ดีไซน์ยังคงใช้หลังเต่าแบบเดิมแต่ผอมดูดีขึ้น ต่างกับ XZ2Premium ชัดเจน แต่กล้องคู่นั้นก็ยังคงไว้ในตระกูล Premium ไปก่อน เราก็ได้กล้องเดี่ยวเหมือนเดิม แต่แน่นอน Software มันปรับใหม่นิดหน่อยภาพสวยขึ้นแบบนี้เลยต้องลองกันหน่อย อย่างที่บอกอารยธรรมรุ่นไหนมาบ่นตอนเปิดตัวสุดท้ายก็ซื้อกันอยู่ดีครับ55
SONY XZ3 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจ อย่างที่บอกไป หน้าจอ OLED แบบจอโค้ง พร้อมการรองรับ HDR และมาพร้อมจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว กล้องหน้าก็ได้ใช้ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.9 ที่อัพจากรุ่นก่อนพอสมควร และ จุดเด่นที่สุดเลยคือ Side Senseเป็นระบบ Gesture สำหรับสัมผัสที่ขอบโค้งของหน้าจอ เพื่อเปิดเมนูและเรียกใช้แอปหรือทางลัด คล้ายๆของ Samsung ขอบเครื่อง และ HTC ที่บีบข้างๆเครื่องนั้นเอง แต่ทาง Sony จะเป็นการสัมผัสกับขอบจอไม่ได้มีเซนเซอร์รับแรงบีบแต่อย่างใดครับ และ มาพร้อม Android 9.0 รวมถึงสีใหม่ด้วย
SONY XZ3 แน่นอนว่าไม่น่าจะเข้าไทยครับเพราะ บริษัทแม่ ยังคงไม่นำรุ่นใหม่มาและไม่ทำตลาดชั่วคราวกันไปก่อน เราคงต้องหิ้วกันเอง หรือตามร้านได้เลย ราคาที่เห็นประมาณ บาท ครับผมสำหรับ ตัว RAM 6 GB ROM 64 GB
UNBOX SONY XZ3
ตัวกล้องยังคงใช้ดีไซน์เดิมครับสีเท่าและบอกชื่อรุ่นปกติ ขนาดไม่หนีกันมากในส่วนอุปกรณ์นั้นก็มาให้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งสายแปลง หูฟังทั้งหมดครับ แต่ที่ชาร์จที่แถมเหมือนจะไม่ใช่ Quickcharge นะ
- ตัวเครื่อง
- หูฟังแบบ 3.5 มม.
- สายแปลง TYPE-C ไป 3.5 มม.
- สายชาร์จ TYPE-C
- Adaptor ชาร์จไฟ 5V 1.5A
- คู่มือ
- จุกเปลี่ยนขนาดหูฟัง
DESIGN
ด้านการออกแบบตัวนี้ยังคงใช้การออกแบบที่คล้ายกับ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ทั้งทาง XZ2 และ XZ2 Premium ครับคือการดีไซน์ที่เรียกว่า Ambient Flow หรือเจ้าหลังเต่าที่คุ้นเคยกันดีนั้นเองแต่รุ่นนี้จะเรียกว่าลงตัวมากขึ้นก็ได้ครับทั้งความบางที่บางขึ้นและทรงมาแนวยาวขึ้นรวมถึงหน้าจอนั้นเต็มมากขึ้นด้วยจอแบบ 6 นิ้ว จอโค้งครั้งแรกของค่ายด้วย
ด้านหน้านั้นมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 6 นิ้ว 18:9 OLED ขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง และ รองรับ HDR ความละเอียด QHD+ และ มีการนำเทคโนโลยีการปรับแต่งจากจอตัวเทพของ BRAVIA เรื่องสี ความสว่างจัดว่าดีงาม เลยแหละ
ด้านขอบล่างหน้าจอนั้น ต้องบอกว่ามีขนาดเล็กบางลงสวยงามและ มีโลโก้อยู่เช่นเคยครับปุ่มทั้งหมดไปอยู่บนหน้าจอแบบ 3 ปุ่มควบคุม ไม่ใช่แบบของ Android 9 ที่เป็นแถบปัดไปมานะครับ ส่วนลำโพงนั้นซ่อนเนียนๆใต้โลโก้ยาวๆ
ในส่วนของขอบด้านบนหน้าจอ ก็มีขนาดบางกว่ารุ่นก่อนหน้านี้แน่นอนมันทำให้เครื่องดูสวยขึ้นมากจริงๆนะ มีกล้องหน้า เซนเซอร์ ลำโพงตัวที่ 2 และจะเห็นว่าขอบหน้าจอนั้นเป็น แบบ 2.5D ทั้ง 4 มุมเลยและซ้ายขวาจอโค้งซะด้วย
มาดูกันที่ท้ายเครื่องกันบ้างเป็น รูไมค์ สำหรับเวลาคุยโทรศัพท์ ช่อง TYPE-C และ บอดี้อลูขัดด้านแถมเสาสัญญาณ
ขอบขวาเป็นที่อยู่ของปุ่มทั้งหมดครับ เริ่มจากด้านล่างคือปุ่ม ชัตเตอร์ ที่เป็นสิ่งที่แอดมินชอบมากที่สุด และ ปุ่ม Power ตรงกลางเครื่องเลย และ ปุ่มเพิ่มลดเสียงครับ ยังแอบไม่ชอบตำแหน่งการวางปุ่มเท่าไรทั้ง XZ2-XZ2P และในรุ่นนี้ด้วย เหมือนผิดหลักการจับถือทั่วไปพอสมควรครับและรวมถึงสแกนนิ้วด้านหลังด้วย
ด้านบนนั้นเป็น ไมค์อีก 1 ตัว และ ถาดใส่ซิมแบบDUAL SIM Hybrid แน่นอนว่าใช้นิ้วงัดออกมาได้เลยสะดวกมาก
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นไม่มีอะไรเลย และจะเห็นว่าขอบจอนั้นโค้งลงมาพอสมควรทำให้เครื่องดูบางๆสวยงาม
ด้านหลังการดีไซศน์ออกแบบนั้นยังคงอิงกับรุ่นก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 รุ่น หรือแทบจะแบบเดิมเลยแต่มีขนาดที่ยาวขึ้นครับทั้งตำแหน่ง กล้องตัวเดียว สแกนนิ้วตรงกลางเครื่อง แอบแตะยากไปนิด และมี โลโก้ XPERIA อยู่ด้านล่างและมีติ่งบอดี้ขึ้นมาเพื่อความแข็งแรงครับแบบที่เจอกันได้ในมือถือพวก HTC U Ultra พวกนั้นครับ
SPEC SONY XZ3
- Android Pie 9.0
- จอ 6 นิ้ว OLED อัตราส่วน 18:9 QHD+ 2880 x 1440 รองรับ HDR
- CPU Snapdragon 845 GPU Adreno 630
- RAM 6 GB
- STORAGE 64GB
- กล้องหลัง 19 MP, f/2.0, รองรับกันสั่น 5 แกน EIS วีดีโอ รองรับ Super Slow motion ที่ความละเอียด Full-HD และถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้
- กล้องหน้า 13 MP f/1.9, รองรับกันสั่น 5 แกน EIS มี AF
- แบตเตอรี่ 3,330 mAh QC3.0 และ ชาร์จไร้สาย
- รองรับ Bluetooth 5.0, NFC
- USB-C 3.1
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. แต่แถมสายแปลงมาให้
- กันน้ำกันฝุ่น IP65/68
- สัดส่วนเครื่อง 158 x 73 x 9.9 ม.ม.
- น้ำหนัก 193 กรัม
- ขาว (White Silver), ดำ (Black), เขียว (Forest Green) และ แดง (Bordeaux Red)
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในเรื่องความแรงที่มาพร้อมกับ Snapdragon 845 ที่มีความลื่นและแรงสุดในตระกูล Snap ตอนนี้รวมถึงมาพร้อม RAM 6GB แต่ความจุนั้นมาแค่ 64GB ถือว่าน้อยไปหน่อยแต่ได้ UFS2.1 ส่วนคะแนน antutu นั้นทำได้ไป 274121 คะแนน และส่วนของคะแนน 3d mark นั้นก็ทำไปได้ 3595 และ 2869 คะแนน ถือว่าไม่ได้เลวร้ายเลยครับ เล่นเกมส์ได้สบายใช้งานลื่นๆเลยแหละ แต่ถ้าใครชอบดูคะแนนมันอาจจะแอบไม่สุดเท่าไรนัก
SOFTWARE UI
ทางด้านหน้าตามีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเป็นปลจากการใช้งาน Android 9.0 ครับแต่น่าเสียดายปุ่มควบคุมข้างล่างยังคงแบบเดิมไว้ หน้าตายังคงคุ้นเคยกันดีครับมีจุดแจ้งเตือน มี App drawer มาให้เหมือนเดิมโดยการกดไม่สามารถปัดขึ้นมาได้แบบรุ่นอื่นๆนะครับ
ทางด้าน Quicksetting นั้น เป็นจุดหลักๆที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาครับ มาในโทนดำ และไอคอนวงกลม และใครสังเกตนั้นแถบด้านบนสุดมีการแยกไปซ้ายขวา ในส่วนของเวลาพวกนั้น เหมือนตัวอื่นๆที่ย้ายไปหลบติ่งหน้าจอตามแบบ Android 9 ด้วยครับ ส่วนแบ่งหน้าจอก็ยังคงทำได้ปกติ รวมถึงการตั้งค่าที่สามารถเพิ่มเข้ามาได้ 2 หน้าครับ
ในเรื่องของหน่วยความจำนั้นมาพร้อมกับความจุ 64 GB แน่นอนแอบน้อยไปหน่อยครับเหลือให้ใช้ประมาณ 50 ครับผมไม่รวมแอพต่างๆ มีแค่ระบบ ส่วนในเรื่องของ RAM นั้นมาให้เยอะ 6 GB ใช้งานไป 4 เหลือ 1.9 กำลังดีครับ ส่วนคียอบร์ดไทยนั้นใช้ของ SWIFTKEY ไม่มีของตัวเองที่ตัดออกไปซักพักแล้วเสียดายเหมือนกันครับ
สำหรับการตกแต่งปรับแต่งหน้าแรกก็ยังคงมีให้ครบเหมือนเดิมครับ ในส่วนการใช้งาน Gesture ก็มีนิดหน่อย เวลายกมือถือขึ้นมาจะถ่ายภาพมันจะเดาให้เราเองว่าจะถ่ายภาพและเปิดกล้องถ่ายให้เลย เช่นหยิบจากกระเป๋าออกมาแบบนี้ถือว่าฉลาดครับ และ กด Power 2 ครั้งก็สามารถตั้งได้ว่าจะเปิดกล้องหรือเรียก Google และ มี Xperia Assist /Xperia Action มาให้เหมือนเดิมครับในการช่วยเราทำให้การใช้งานค่อนข้างง่ายขึ้นเยอะเลย ปรับตั้งไว้ได้หมด
3D CREATOR
ตัวนี้ก็ยังคงเป็นจุดเด่นที่ทาง Sony ใส่เข้ามาได้ซักพักแล้วในเรื่องของการสแกนแบบ 3 มิติที่ค่อนข้างดีและสแกนได้ง่ายกว่าเดิมทั้งกล้องหน้าและหลัง มีทั้งโหมดสแกนอาหาร สแกนหน้าคนต่างๆครับ หรือสแกนสิ่งของ ซึ่งเรา สามารถ สแกนอาหารต่างๆและนำไปลงเฟส ได้แชร์ให้คนอื่นๆ ไปหมุนๆ ตัวสิ่งของที่เราสแกนได้ครับ ล้ำมากๆเลย
SIDE SENSE
การใช้งานแตะขอบข้างนั้นหรือจะเรียกว่าขอบจอก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าครับสำหรับฟีเจอร์นี้ ทำให้เราสามารถแตะขอบเครื่อง 2 ครั้งเพื่อเรียกหน้าจอแสดงไอคอนแอพที่เราเปิดบ่อยๆหรือตั้งได้นะครับ ช่วยให้เข้าถึงแอพฯ ที่ต้องการได้เร็วขึ้น และยังมีการตั้งค่าแบบเร่งด่วนรวมถึงการใช้งานแบบหน้าจอมือเดียว ดูแถบ Noti และ เข้าตั้งค่าได้ครับผม
ในส่วนของการตั้งค่าตัวนี้สามารถเลือกได้ว่าจะทำงานฝั่งไหนบ้าง ตั้งค่าความไวได้ รวมถึงระยะในการถูตรงขอบเพื่อย้อนกลับหน้าได้ พวกนี้ครับ และตัวแอพที่ขึ้นมานั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแอพอะไรหรือจะให้ทาง Sony เลือกมาได้ด้วยครับจะเห็นว่าตัวแอพที่มันขึ้นมาจะอิงจากที่เราใช้งานบ่อยสุด หรือเปิดบ่อยๆมันก็จะเลือกขึ้นมาให้อับดับแรกๆ
SCREEN
หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ OLED ครั้งแรกของทางค่ายเลยและยังเป็นจอขอบโค้งครั้งแรกด้วยครับถือว่าเป็นรุ่นที่แปลกพอสมควรแต่จอรุ่นนี้เป็นการพัฒนาที่ดีในเรื่องของความสว่างที่ดีกว่า XZ2Premium มากก แม้จะไม่คมบาดใจเท่าตัวนั้นแต่ตัวนี้ได้เรื่องความสว่าง สู้แดดได้ดี และสีที่ดำสนิทสวยงามต้องบอกว่ามันสวยที่สุดในหลายๆตัวที่ทำออกมาเลยแหละครับในเรื่องของ สเปคนั้น จอ 6 นิ้ว OLED HDR อัตราส่วน 18:9 QHD+ 2880 x 1440 พร้อมเทคโนโลยี HDR up-conversion ปรับเนื้อหาให้ใกล้เคียง HDR ได้ ทางด้านการใช้งานกลางแจ้งไม่เป็นปัญหาครับมองเห็นและสียังคงมีมาสวยงามเช่นกัน จอขอบโค้งแอบมีไปโดนบ้างนิดหน่อยตัวนี้เป็นปัญหาของพวกจอโค้งเลย
[CR] รีวิว Sony Xperia XZ3 เรือธงค่ายอารยธรรม กล้องเดี่ยว จอโค้ง OLED พร้อมกับ Side Sense !
Sony ในช่วงสิ้นปี 2018 ก็ได้เปิดตัวเรือธง ต่อยอดจาก XZ2 หลายๆคนคงคาดหวังมันว่าจะมากล้องคู่แบบ XZ2Premium นั้นคงต้องผิดหวังกันไป และเช่นกันกับแอดมินครับ รวมถึงกล้องมันคือเดิมๆจาก XZ2 เลยสำหรับกล้องหลังแน่นอนว่า ดีไซน์ก็มีเปลี่ยนเล็กน้อยมากๆในด้านหลัง แต่ด้านหน้าก็สวยขึ้นเยอะเลยแหละ รุ่นนี้เปิดตัวมาช่วงปลายปีมาดันกระแสกันนิดหน่อยด้วยการใช้จอโค้งครั้งแรกของค่ายรวมถึงฟีเจอร์ Side Sense ที่สั่งงานจากขอบกระจกข้างเครื่องครับ ดีไซน์ยังคงใช้หลังเต่าแบบเดิมแต่ผอมดูดีขึ้น ต่างกับ XZ2Premium ชัดเจน แต่กล้องคู่นั้นก็ยังคงไว้ในตระกูล Premium ไปก่อน เราก็ได้กล้องเดี่ยวเหมือนเดิม แต่แน่นอน Software มันปรับใหม่นิดหน่อยภาพสวยขึ้นแบบนี้เลยต้องลองกันหน่อย อย่างที่บอกอารยธรรมรุ่นไหนมาบ่นตอนเปิดตัวสุดท้ายก็ซื้อกันอยู่ดีครับ55
SONY XZ3 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจ อย่างที่บอกไป หน้าจอ OLED แบบจอโค้ง พร้อมการรองรับ HDR และมาพร้อมจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว กล้องหน้าก็ได้ใช้ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.9 ที่อัพจากรุ่นก่อนพอสมควร และ จุดเด่นที่สุดเลยคือ Side Senseเป็นระบบ Gesture สำหรับสัมผัสที่ขอบโค้งของหน้าจอ เพื่อเปิดเมนูและเรียกใช้แอปหรือทางลัด คล้ายๆของ Samsung ขอบเครื่อง และ HTC ที่บีบข้างๆเครื่องนั้นเอง แต่ทาง Sony จะเป็นการสัมผัสกับขอบจอไม่ได้มีเซนเซอร์รับแรงบีบแต่อย่างใดครับ และ มาพร้อม Android 9.0 รวมถึงสีใหม่ด้วย
SONY XZ3 แน่นอนว่าไม่น่าจะเข้าไทยครับเพราะ บริษัทแม่ ยังคงไม่นำรุ่นใหม่มาและไม่ทำตลาดชั่วคราวกันไปก่อน เราคงต้องหิ้วกันเอง หรือตามร้านได้เลย ราคาที่เห็นประมาณ บาท ครับผมสำหรับ ตัว RAM 6 GB ROM 64 GB
UNBOX SONY XZ3
ตัวกล้องยังคงใช้ดีไซน์เดิมครับสีเท่าและบอกชื่อรุ่นปกติ ขนาดไม่หนีกันมากในส่วนอุปกรณ์นั้นก็มาให้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งสายแปลง หูฟังทั้งหมดครับ แต่ที่ชาร์จที่แถมเหมือนจะไม่ใช่ Quickcharge นะ
- ตัวเครื่อง
- หูฟังแบบ 3.5 มม.
- สายแปลง TYPE-C ไป 3.5 มม.
- สายชาร์จ TYPE-C
- Adaptor ชาร์จไฟ 5V 1.5A
- คู่มือ
- จุกเปลี่ยนขนาดหูฟัง
DESIGN
ด้านการออกแบบตัวนี้ยังคงใช้การออกแบบที่คล้ายกับ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ทั้งทาง XZ2 และ XZ2 Premium ครับคือการดีไซน์ที่เรียกว่า Ambient Flow หรือเจ้าหลังเต่าที่คุ้นเคยกันดีนั้นเองแต่รุ่นนี้จะเรียกว่าลงตัวมากขึ้นก็ได้ครับทั้งความบางที่บางขึ้นและทรงมาแนวยาวขึ้นรวมถึงหน้าจอนั้นเต็มมากขึ้นด้วยจอแบบ 6 นิ้ว จอโค้งครั้งแรกของค่ายด้วย
ด้านหน้านั้นมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 6 นิ้ว 18:9 OLED ขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง และ รองรับ HDR ความละเอียด QHD+ และ มีการนำเทคโนโลยีการปรับแต่งจากจอตัวเทพของ BRAVIA เรื่องสี ความสว่างจัดว่าดีงาม เลยแหละ
ด้านขอบล่างหน้าจอนั้น ต้องบอกว่ามีขนาดเล็กบางลงสวยงามและ มีโลโก้อยู่เช่นเคยครับปุ่มทั้งหมดไปอยู่บนหน้าจอแบบ 3 ปุ่มควบคุม ไม่ใช่แบบของ Android 9 ที่เป็นแถบปัดไปมานะครับ ส่วนลำโพงนั้นซ่อนเนียนๆใต้โลโก้ยาวๆ
ในส่วนของขอบด้านบนหน้าจอ ก็มีขนาดบางกว่ารุ่นก่อนหน้านี้แน่นอนมันทำให้เครื่องดูสวยขึ้นมากจริงๆนะ มีกล้องหน้า เซนเซอร์ ลำโพงตัวที่ 2 และจะเห็นว่าขอบหน้าจอนั้นเป็น แบบ 2.5D ทั้ง 4 มุมเลยและซ้ายขวาจอโค้งซะด้วย
มาดูกันที่ท้ายเครื่องกันบ้างเป็น รูไมค์ สำหรับเวลาคุยโทรศัพท์ ช่อง TYPE-C และ บอดี้อลูขัดด้านแถมเสาสัญญาณ
ขอบขวาเป็นที่อยู่ของปุ่มทั้งหมดครับ เริ่มจากด้านล่างคือปุ่ม ชัตเตอร์ ที่เป็นสิ่งที่แอดมินชอบมากที่สุด และ ปุ่ม Power ตรงกลางเครื่องเลย และ ปุ่มเพิ่มลดเสียงครับ ยังแอบไม่ชอบตำแหน่งการวางปุ่มเท่าไรทั้ง XZ2-XZ2P และในรุ่นนี้ด้วย เหมือนผิดหลักการจับถือทั่วไปพอสมควรครับและรวมถึงสแกนนิ้วด้านหลังด้วย
ด้านบนนั้นเป็น ไมค์อีก 1 ตัว และ ถาดใส่ซิมแบบDUAL SIM Hybrid แน่นอนว่าใช้นิ้วงัดออกมาได้เลยสะดวกมาก
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นไม่มีอะไรเลย และจะเห็นว่าขอบจอนั้นโค้งลงมาพอสมควรทำให้เครื่องดูบางๆสวยงาม
ด้านหลังการดีไซศน์ออกแบบนั้นยังคงอิงกับรุ่นก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 รุ่น หรือแทบจะแบบเดิมเลยแต่มีขนาดที่ยาวขึ้นครับทั้งตำแหน่ง กล้องตัวเดียว สแกนนิ้วตรงกลางเครื่อง แอบแตะยากไปนิด และมี โลโก้ XPERIA อยู่ด้านล่างและมีติ่งบอดี้ขึ้นมาเพื่อความแข็งแรงครับแบบที่เจอกันได้ในมือถือพวก HTC U Ultra พวกนั้นครับ
SPEC SONY XZ3
- Android Pie 9.0
- จอ 6 นิ้ว OLED อัตราส่วน 18:9 QHD+ 2880 x 1440 รองรับ HDR
- CPU Snapdragon 845 GPU Adreno 630
- RAM 6 GB
- STORAGE 64GB
- กล้องหลัง 19 MP, f/2.0, รองรับกันสั่น 5 แกน EIS วีดีโอ รองรับ Super Slow motion ที่ความละเอียด Full-HD และถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้
- กล้องหน้า 13 MP f/1.9, รองรับกันสั่น 5 แกน EIS มี AF
- แบตเตอรี่ 3,330 mAh QC3.0 และ ชาร์จไร้สาย
- รองรับ Bluetooth 5.0, NFC
- USB-C 3.1
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. แต่แถมสายแปลงมาให้
- กันน้ำกันฝุ่น IP65/68
- สัดส่วนเครื่อง 158 x 73 x 9.9 ม.ม.
- น้ำหนัก 193 กรัม
- ขาว (White Silver), ดำ (Black), เขียว (Forest Green) และ แดง (Bordeaux Red)
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในเรื่องความแรงที่มาพร้อมกับ Snapdragon 845 ที่มีความลื่นและแรงสุดในตระกูล Snap ตอนนี้รวมถึงมาพร้อม RAM 6GB แต่ความจุนั้นมาแค่ 64GB ถือว่าน้อยไปหน่อยแต่ได้ UFS2.1 ส่วนคะแนน antutu นั้นทำได้ไป 274121 คะแนน และส่วนของคะแนน 3d mark นั้นก็ทำไปได้ 3595 และ 2869 คะแนน ถือว่าไม่ได้เลวร้ายเลยครับ เล่นเกมส์ได้สบายใช้งานลื่นๆเลยแหละ แต่ถ้าใครชอบดูคะแนนมันอาจจะแอบไม่สุดเท่าไรนัก
SOFTWARE UI
ทางด้านหน้าตามีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเป็นปลจากการใช้งาน Android 9.0 ครับแต่น่าเสียดายปุ่มควบคุมข้างล่างยังคงแบบเดิมไว้ หน้าตายังคงคุ้นเคยกันดีครับมีจุดแจ้งเตือน มี App drawer มาให้เหมือนเดิมโดยการกดไม่สามารถปัดขึ้นมาได้แบบรุ่นอื่นๆนะครับ
ทางด้าน Quicksetting นั้น เป็นจุดหลักๆที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาครับ มาในโทนดำ และไอคอนวงกลม และใครสังเกตนั้นแถบด้านบนสุดมีการแยกไปซ้ายขวา ในส่วนของเวลาพวกนั้น เหมือนตัวอื่นๆที่ย้ายไปหลบติ่งหน้าจอตามแบบ Android 9 ด้วยครับ ส่วนแบ่งหน้าจอก็ยังคงทำได้ปกติ รวมถึงการตั้งค่าที่สามารถเพิ่มเข้ามาได้ 2 หน้าครับ
ในเรื่องของหน่วยความจำนั้นมาพร้อมกับความจุ 64 GB แน่นอนแอบน้อยไปหน่อยครับเหลือให้ใช้ประมาณ 50 ครับผมไม่รวมแอพต่างๆ มีแค่ระบบ ส่วนในเรื่องของ RAM นั้นมาให้เยอะ 6 GB ใช้งานไป 4 เหลือ 1.9 กำลังดีครับ ส่วนคียอบร์ดไทยนั้นใช้ของ SWIFTKEY ไม่มีของตัวเองที่ตัดออกไปซักพักแล้วเสียดายเหมือนกันครับ
สำหรับการตกแต่งปรับแต่งหน้าแรกก็ยังคงมีให้ครบเหมือนเดิมครับ ในส่วนการใช้งาน Gesture ก็มีนิดหน่อย เวลายกมือถือขึ้นมาจะถ่ายภาพมันจะเดาให้เราเองว่าจะถ่ายภาพและเปิดกล้องถ่ายให้เลย เช่นหยิบจากกระเป๋าออกมาแบบนี้ถือว่าฉลาดครับ และ กด Power 2 ครั้งก็สามารถตั้งได้ว่าจะเปิดกล้องหรือเรียก Google และ มี Xperia Assist /Xperia Action มาให้เหมือนเดิมครับในการช่วยเราทำให้การใช้งานค่อนข้างง่ายขึ้นเยอะเลย ปรับตั้งไว้ได้หมด
3D CREATOR
ตัวนี้ก็ยังคงเป็นจุดเด่นที่ทาง Sony ใส่เข้ามาได้ซักพักแล้วในเรื่องของการสแกนแบบ 3 มิติที่ค่อนข้างดีและสแกนได้ง่ายกว่าเดิมทั้งกล้องหน้าและหลัง มีทั้งโหมดสแกนอาหาร สแกนหน้าคนต่างๆครับ หรือสแกนสิ่งของ ซึ่งเรา สามารถ สแกนอาหารต่างๆและนำไปลงเฟส ได้แชร์ให้คนอื่นๆ ไปหมุนๆ ตัวสิ่งของที่เราสแกนได้ครับ ล้ำมากๆเลย
SIDE SENSE
การใช้งานแตะขอบข้างนั้นหรือจะเรียกว่าขอบจอก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าครับสำหรับฟีเจอร์นี้ ทำให้เราสามารถแตะขอบเครื่อง 2 ครั้งเพื่อเรียกหน้าจอแสดงไอคอนแอพที่เราเปิดบ่อยๆหรือตั้งได้นะครับ ช่วยให้เข้าถึงแอพฯ ที่ต้องการได้เร็วขึ้น และยังมีการตั้งค่าแบบเร่งด่วนรวมถึงการใช้งานแบบหน้าจอมือเดียว ดูแถบ Noti และ เข้าตั้งค่าได้ครับผม
ในส่วนของการตั้งค่าตัวนี้สามารถเลือกได้ว่าจะทำงานฝั่งไหนบ้าง ตั้งค่าความไวได้ รวมถึงระยะในการถูตรงขอบเพื่อย้อนกลับหน้าได้ พวกนี้ครับ และตัวแอพที่ขึ้นมานั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแอพอะไรหรือจะให้ทาง Sony เลือกมาได้ด้วยครับจะเห็นว่าตัวแอพที่มันขึ้นมาจะอิงจากที่เราใช้งานบ่อยสุด หรือเปิดบ่อยๆมันก็จะเลือกขึ้นมาให้อับดับแรกๆ
SCREEN
หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ OLED ครั้งแรกของทางค่ายเลยและยังเป็นจอขอบโค้งครั้งแรกด้วยครับถือว่าเป็นรุ่นที่แปลกพอสมควรแต่จอรุ่นนี้เป็นการพัฒนาที่ดีในเรื่องของความสว่างที่ดีกว่า XZ2Premium มากก แม้จะไม่คมบาดใจเท่าตัวนั้นแต่ตัวนี้ได้เรื่องความสว่าง สู้แดดได้ดี และสีที่ดำสนิทสวยงามต้องบอกว่ามันสวยที่สุดในหลายๆตัวที่ทำออกมาเลยแหละครับในเรื่องของ สเปคนั้น จอ 6 นิ้ว OLED HDR อัตราส่วน 18:9 QHD+ 2880 x 1440 พร้อมเทคโนโลยี HDR up-conversion ปรับเนื้อหาให้ใกล้เคียง HDR ได้ ทางด้านการใช้งานกลางแจ้งไม่เป็นปัญหาครับมองเห็นและสียังคงมีมาสวยงามเช่นกัน จอขอบโค้งแอบมีไปโดนบ้างนิดหน่อยตัวนี้เป็นปัญหาของพวกจอโค้งเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้