คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
-เหนื่อยและเครียด
ที่ต้องคอยบอกเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ห้ามซ้ำ ๆ หรือฟังคำพูดซ้ำ ๆ
แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสมองของเขาเสื่อมลงแล้ว เหมือนกระชอนที่ไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ ความทรงจำหยุดชะงักลง
สิ่งที่เขาทำคือการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวแบบฉับพลัน ณ ขณะนั้น สิ่งที่เขาจำได้คือเรื่องราวในอดีต
ความถดถอยของเขา เราไม่สามารถแก้ไขได้ ทำได้แค่ชะลอให้ช้าลง และป้องกันในส่วนที่จะทำให้เขาไม่สะดวกหรือเป็นอันตราย (เช่น เขียนตารางเวลารายการทีวีและเลขช่องไว้หน้าทีวี, เขียนป้ายเปิด-ปิดตัวโต ๆ ไว้ที่ปุ่มเครื่องทำน้ำอุ่น, เขียนคำว่าสบู่-แชมพูกำกับไว้ที่ขวด ฯลฯ) พาเขาออกไปกินไปเที่ยวให้พอได้สดชื่นบ้างถ้าเขาชอบ
โชคดีที่เราทำงานอยู่บ้าน เลยไม่ได้ให้เขาห่างสายตา แต่ช่วงไหนงานเยอะงานเร่ง เราก็หงุดหงิดเหมือนกัน คนที่ต้องทำงานนอกบ้านคงเหนื่อยยิ่งกว่าเราอีก
-เศร้า
ที่เห็นคนที่เรารักถดถอยทั้งด้านร่างกายและสมอง
คนที่เคยแข็งแรง ทำทุกอย่างอย่างกระฉับกระเฉง ตอนนี้เชื่องช้าลงมาก
บ่อยครั้งเราภูมิใจที่ได้ดูแลเขาเป็นการตอบแทน แต่ก็บ่อยครั้งที่เราท้อเพราะรู้ว่าเขาไม่มีวันดีขึ้น และเราไม่อยากเห็นเขาจากเราไป ซึ่งเวลานั้นก็ใกล้เข้ามาทุกที
เล่าให้ฟัง ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์นะ
ที่ต้องคอยบอกเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ห้ามซ้ำ ๆ หรือฟังคำพูดซ้ำ ๆ
แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสมองของเขาเสื่อมลงแล้ว เหมือนกระชอนที่ไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ ความทรงจำหยุดชะงักลง
สิ่งที่เขาทำคือการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวแบบฉับพลัน ณ ขณะนั้น สิ่งที่เขาจำได้คือเรื่องราวในอดีต
ความถดถอยของเขา เราไม่สามารถแก้ไขได้ ทำได้แค่ชะลอให้ช้าลง และป้องกันในส่วนที่จะทำให้เขาไม่สะดวกหรือเป็นอันตราย (เช่น เขียนตารางเวลารายการทีวีและเลขช่องไว้หน้าทีวี, เขียนป้ายเปิด-ปิดตัวโต ๆ ไว้ที่ปุ่มเครื่องทำน้ำอุ่น, เขียนคำว่าสบู่-แชมพูกำกับไว้ที่ขวด ฯลฯ) พาเขาออกไปกินไปเที่ยวให้พอได้สดชื่นบ้างถ้าเขาชอบ
โชคดีที่เราทำงานอยู่บ้าน เลยไม่ได้ให้เขาห่างสายตา แต่ช่วงไหนงานเยอะงานเร่ง เราก็หงุดหงิดเหมือนกัน คนที่ต้องทำงานนอกบ้านคงเหนื่อยยิ่งกว่าเราอีก
-เศร้า
ที่เห็นคนที่เรารักถดถอยทั้งด้านร่างกายและสมอง
คนที่เคยแข็งแรง ทำทุกอย่างอย่างกระฉับกระเฉง ตอนนี้เชื่องช้าลงมาก
บ่อยครั้งเราภูมิใจที่ได้ดูแลเขาเป็นการตอบแทน แต่ก็บ่อยครั้งที่เราท้อเพราะรู้ว่าเขาไม่มีวันดีขึ้น และเราไม่อยากเห็นเขาจากเราไป ซึ่งเวลานั้นก็ใกล้เข้ามาทุกที
เล่าให้ฟัง ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์นะ
แสดงความคิดเห็น
อยากรู้ความรู้สึกของคนที่มีญาติเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ผมอยากจะขอสอบถามความรู้สึกของคนที่มีญาติหรือพ่อแม่ คนใกล้ตัวที่เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เพราะว่าผมอยากจะรู้จริงๆว่า คนที่ดูแลผู้ป่วยแต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไร กว่าจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน และมีมุมมองต่อโรคอัลไซเมอร์ทั้งก่อนและหลังอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อนำมาพัฒนาตัวละครในหนังให้มีความสมจริงและใกล้เคียงกับสิ่งที่เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปครับ
อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมอยากจะต่อยอดหนังเรื่องนี้ให้มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อคนที่เป็นผู้ดูแล และผู้ที่กำลังจะเป็นผู้ดูแลในอนาคต เพราะผมเห็นว่าผู้สูงอายุมากกว่าครึ่งมีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งก็อยากจะให้หนังเรื่องนี้เป็นตัวแทนที่ทำให้ผู้ที่กำลังจะเป็นผู้ดูแลได้เข้าใจถึงวิธีการรับมือกับผู้ป่วยจริงๆ
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะขอนัดเจอเพื่อสัมภาษณ์ โดยมีค่าเสียเวลาให้นะครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้าครับ