“Mira inn “ Tsim sha tsui ...แค่ถามโดนไล่ ไม่ให้เข้าพัก🙊

Mira Inn ตึก Mirradoor Mansion ,ชั้น 8 ฮ่องกง



วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561

ผมกับภรรยาวางแผนเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง เสาร์27 กลับวันจันทร์ ที่ 29 ตุลาคม 2561 เลยจองที่พัก Mira Inn ตึก Mirradoor  Mainsion แถว Tsim sha tsui เพราะเราคุ้นเคยที่นั่น ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง จะไปพักที่นั่น รวมแล้วมาพักที่นี่ 3 ครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 4 เราจองล่วงหน้าถึง 5 เดือนจึงได้ราคาค่อนข้างดี 3,000 กว่าบาท ผ่าน Agoda 2คืนเสาร์อาทิตย์ จองห้องแบบ Double room
เมื่อเราไปถึงหน้าประตู Mira Inn ก็กดกริ่งพร้อมทั้งพูดแจ้งชื่อ เพื่อเช็คอิน (ผ่านระบบ intercom)โดยรับแจ้งว่า “ห้องคุณหมายเลข 17 “ เมื่อประตูหน้าเปิดออก ก็มีพนักงานดูแล น่าจะเป็นคนฮ่องกง มาพาไปห้องที่เปิดอยู่ หมายเลข 17 เราเห็นภายในห้องมีเตียงคู่ชนิดที่ผนังสองด้านติดเตียงเลย เราคิดว่าน่าจะเป็นห้อง semi double หรือเปล่าที่จัดให้เรา ? แต่เราจองมาเป็นห้อง double room นี่นา เมื่อสงสัยเราจึงถามคนที่พนักงานเรียกว่า boss ปรากฎว่าเขาไม่พอใจที่เราถามและถือเอาเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต จนไล่เราออกไปโดยบอกว่าจะคืนเงินที่จ่ายมาคืนให้!? OMG ขอเรียกเจ้า boss ละกัน เป็นแขก แต่ไม่รู้ประเทศอะไร
เจ้า boss แขก บอกว่าจ่ายเงินนิดเดียวจะเอาห้องใหญ่โตขนาดไหน ...! เราจ่ายก่อนล่วงหน้า 5 เดือน จองมา 2 คืน เสาร์ที่27-อาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561 ราคา 3,000 กว่าบาท ก็คงจริงอย่างว่า เพราะราคาวันนั้น หากวอค์กอินเข้ามาก็จะประมาณ คืนละ4,000 บาท (1,000 us hk) นั่นหมายถึงถ้ามันเอาห้องไปขายคนอื่น มันก็จะได้ราคาประมาณนั่น
...แต่เราจองมาก่อนล่วงหน้านานถึง 5 เดือน ผ่าน agoda นี่ แล้วจะมาว่าเราจ่ายน้อย มันไม่น่าเป็นเหตุให้มาไล่เรา

ในระหว่างการคุยกัน (น่าจะใช้คำว่าเถียงกันมากกว่า) เจ้า boss แขก ก็เอาแต่ไล่เราออกไป ไม่ให้เราพัก โดยบอกว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ไม่ happy ที่จะให้เราพัก แต่เราก็ยืนยันว่าเราจะพักห้องนี้เพราะเราจ่ายเงินแล้วและก็จองมาตั้งนาน จู่ๆจะมาไล่เราออก เพราะเหตุผลว่าเราไม่พอใจห้องพัก ทั้งที่เราแค่ถามว่าจัดห้องให้ถูกหรือเปล่า มันหาเหตุชัดๆที่จะยกเลิกห้องที่เราจองเพื่อจะขายให้คนใหม่ในราคาที่สูงขึ้นเท่าตัว แขกมาก...! มันไม่สนอะไรทั้งนั้นเอาแต่ไล่เรา ทั้งที่เรายอมแล้ว ห้อง semi double ก็พัก เพราะลำบากแน่หากต้องไปหาที่พักใหม่ ตอนนั้นเวลาจะบ่ายสองแล้ว ถ้าต้องหาใหม่กระชั้นแบบนั้น ไม่ราคาแพงมากๆๆ ก็อาจไม่มีห้องเพราะอาจจะเต็มหมด
มีจังหวะหนึ่งที่แฟนผมอ้อนวอนขอพักห้องนี้ เห็นมันขอเล่ม passport ของเราทั้งคู่ไปแล้วใช้มือถือถ่ายรูปหน้าที่มีรูปไว้ เราคิดว่ามันยอมให้พักแล้ว คิดว่ามันคือการเช็คอิน แต่กลับไม่ใช่ครับพี่น้อง....มันถ่ายเพื่อเก็บเป็นหลักฐานอ้างว่าเพื่อเป็นการปกป้องทรัพย์สินของมัน เพราะเราอยู่ในบ้าน/ทรัพย์สินของมัน ผมหงุดหงิดมากและยืนยันที่จะไม่ออก มันก็เข้ามาในห้องถอด key card ไป และบอกจะตัดไฟฟ้าห้องนี้ มันเป็นเจ้าของ ทำอะไรก็ได้ ผมจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาหวังจะถ่ายรูปมันไว้บ้าง แต่ยังไม่ทันได้ถ่าย มันก็กระโดดเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วแย่งโทรศัพท์ในมือผมไป เล็บมือมันยังข่วนอุ้งมือซ้ายผมเลย แฟนผมก็ตกใจมาก กลัวผมจะโดนทำร้าย และก็ไปเอาโทรศัพท์คืนมา ประเด็นการจะถ่ายรูปนี้ เป็นจุดอ่อนที่ทำให้สถานการณ์เราเสียเปรียบมันมากขึ้น ผมบอกให้มันไปพาตำรวจมาคุยกัน ถ้าตำรวจบอกให้ผมออก ผมก็จะออก เพราะผมยังมั่นใจว่าสิทธินักท่องเที่ยวที่จองและจ่ายเงินค่าห้องพักมาเต็มจำนวนแล้ว และก็เข้าห้องพักแล้วด้วย ตำรวจน่าจะสั่งให้เจ้าแขกนั่น อนุญาตให้เราพักได้....มันก็ไปพาตำรวจมาจริงๆ
ตำรวจเป็นชาย 1 หญิง 1 แน่นอนเป็นคนฮ่องกงยังรุ่นๆอยู่เลยน่าจะอายุยี่สิบกว่าๆ มาถึงตำรวจก็ให้เราออกมาคุยนอกห้องของเจ้าแขกนั่น แล้วเล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้น ระหว่างนั้นเจ้าแขกนั่นมันก็ยืนตรงประตูห้องมันคอยตอบคำถามตำรวจเป็นภาษาเดียวกันเป็นระยะ ตำรวจถามเราว่าเราต้องการยังไง เราตอบชัดว่าเราต้องการจะพักที่ห้องนี้ห้องที่เราจองและจ่ายเงินไปแล้ว พอหันไปเจรจากับเจ้าแขกนั่น มันก็ไม่ยอมท่าเดียว สุดท้ายตำรวจก็สั่งอะไรไม่ได้ เราก็ต้องลากกระเป๋าออกจากห้องมัน ส่วนเงินที่เราจ่ายไป เจ้าแขกนั่นมันก็ไม่จ่ายเราคืนมันบอกต้องไปเอาคืนกับ agoda เอง เพราะยูจ่ายกับ agoda ...! เด็ดมากแขก

ประเด็นของตำรวจมีดังนี้ 1. เจ้าแขกมีสิทธิ์ถ่ายรูปเราเพราะเราไปอยู่ในห้องของมัน แต่เราไม่มีสิทธ์ทำแบบนั้น ผิดกฏหมาย 2. เจ้าของห้องไม่ยินดีให้พัก เราก็ไม่ควรพัก
ตำรวจแนะนำให้ไป complain /ร้องเรียนกับ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฮ่องกง
สุดท้ายตำรวจหันกลับมาถามเราอีกครั้งว่าตกลงเรายังจะพักอีกหรือ ในเมื่อเจ้าของไม่ยินดีที่จะให้เราพัก ในเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีท่าทีที่อยากจะให้จบเรื่องด้วยการให้เราออกจากที่นั่นเราเลยตัดสินใจลากกระเป๋าเดินออกจากตึกไปด้วยความขุ่น สิ่งที่เราคิดไว้ในใจ หากหาที่พักไม่ได้จริงๆก็คงต้องไปนอนที่สนามบิน นั่นคือทางออกสุดท้าย...!

เดินไปสักพักมีแขกอีกคนหนึ่งมาเสนอห้องพัก 2คืน 8,000 บาท เราบอกแพง แขกนั่นบอกไปดูห้องก่อนถ้าไม่พอใจไม่เอาไม่เป็นไร เราจึงไปดูห้องปรากฏว่าเป็นห้องเล็กๆไม่มีห้องน้ำในตัวอีกต่างหากแถมยังแพงซะขนาดนี้เราจึงไม่เอา ที่สำคัญในระหว่างที่ดูห้องมีกลุ่มคนไทยหกคน กำลังเถียง/ต่อรองกับที่พัก (เจ้าของก็เป็นแขกเหมือนกัน) ในกลุ่ม มีเด็กด้วย2คน กำลังเจอสถานการณ์แย่คล้ายๆเรา คือเค้าพักห้องที่จองมาแล้วสำหรับ6คน จู่จู่เจ้าของ ก็มาขนกระเป๋าออกจากห้องแล้วบอกให้ไปพักอีกห้องหนึ่งเป็นห้องเล็กมากพักหกคนไม่ได้หรอกที่สำคัญคือเค้าจ่ายเงินสำหรับห้องหกคนเรียบร้อยแล้ว จู่ๆมาเปลี่ยนห้อง มาย้ายของออกอย่างนี้ลำบากครับ

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นึกถึงคำพูดที่ได้ยินมาแต่เด็ก เห็นงู (พิษ) กับ แขก ควรตีอะไรก่อน......!?

หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์กับ backpacker โดยเฉพาะที่ชื่นชอบไปฮ่องกงครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่