มาอีกๆ หลังจากแปลบทความที่น่าสนใจไปคราวที่แล้วได้เสียงตอบรับดี อยากให้เอาบทความน่าสนใจมาลงอีกเลยเลือกเอาอีกหนึ่งบทความมาเล่าสู่กันฟังเช่นเคย รู้สึกดีเหมือนกันแหะ บทความเกี่ยวกับลูกๆเด็กๆก็หานั่งอ่านเรื่อยๆอยู่แล้วตามโอกาสและเวลาจะพาไปพอมีคนให้ความสนใจเหมือนกันก็แบบมีแรงฮึดๆฮึบๆอยากอ่านแล้วมาเล่าให้คนอื่นฟังด้วย ถ้าชอบยังไงก็เป็นกำลังใจกันไปเรื่อยๆนะ (ยิ้มกว้างๆ)

วันนี้มาเล่าสู่กันฟังเรื่องความใฝ่ฝัน ...
ตอนเด็กๆตัวคุณยังเล็ก คุณมีความฝันไหมและมันอยู่จนถึงตอนคุณโตรึเปล่า???
บางคนอาจจะใช่แต่บางคนก็ลืมมันไปแล้ว (ตัวเองก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน ฝันเยอะไปหมด ฟุ้งมาก) บางอันก็ทำได้แต่บางอันก็ไม่ได้ดั่งใจฝัน ประสบการณ์บางอย่างเราเรียนรู้จากความผิดพลาด และสิ่งนี้แหละเราจะทำยังไงให้ลูกไต่ตามความฝันของเขาได้ดียิ่งกว่าเรา พ่อแม่ทุกคนคิดว่านะส่วนมากแหละไม่ก็ทั้งหมดเลยละกันอยากให้ลูกได้ดีกว่าตัวเองอ่ะ อะไรที่เราพลาดก็ไม่อยากให้ลูกพลาด แต่ถ้าเขาพลาดก็อยากให้เรียนรู้

ความฝันของลูกในวัยเด็กเป็นทั้งโอกาสที่พ่อแม่อย่างเราๆจะได้สอนลูกถึงวิธีที่จะตามความฝันของเค้าในอนาคต และดีไม่ดีความฝันที่อยากจะเป็มนุษย์อวกาศไปดาวอังคารคนแรก หรือ นักฟุตบอลที่พาบอลไทยไปบอลโลกอาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยความใส่ใจความฝันของเจ้าตัวน้อยจากพ่อแม่อย่างพวกเรา (รู้สึกฮึบขึ้นมาไหมอ่ะ555 พ่อแม่สู้ๆ)

เราสรุป 5 ข้อสำคัญที่ "คุณ" จะช่วยให้ลูกพาตัวเองไปถึงความฝันไว้ในบทความนี้แล้ว

นี่ก็สรุปสั้นอีกหล่ะแต่เนื้อหาครบนะอ่านสิๆ อ่านเถอะ

อาจมีบางอย่างที่จะช่วยสะกิดต่อมตุ๊กติ๊กในตัว และหันมามองตัวเองก็เป็นได้ ว่าพ่อแม่อย่างเราได้ตามความฝันตัวเองกันบางหรือเปล่า ดูแลลูกๆดูแครอบครัวอย่าลืมดูแลตัวเอง

ที่มา https://www.pickthebrain.com/blog
https://bit.ly/2zhXCfU


“เด็กๆมีสิทธิ์ที่จะฝันและเราไม่ควรดูถูกมัน”

เด็กๆมักจะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ และเด็กๆมักจะคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นเวลาลูกฝันว่าอยากเป็นอะไร อยากทำอะไรในอนาคต เราไม่ควรบอกพวกเค้าว่า

“มันเป็นไปไม่ได้”
“ฝันเฟื่องเกินไปแล้ว”
“มองอะไรให้มันเป็นความจริงบ้าง”

คำพูดเหล่านี้จะทำลายความฝันของพวกเค้า และอาจจะทำให้พวกเค้าขาดความมั่นใจ

เพื่อที่เค้าจะไม่กลัวที่จะฝันและจะไม่ทิ้งฝันที่เค้ามีเมื่อเค้าโตเป็นผู้ใหญ่เราควรปล่อยให้เค้าฝัน ไม่ว่าฝันนั้นจะเป็นอะไร จะใหญ่แค่ไหนก็ตาม


“อย่าเข้าไปขัดขวาง หรือยัดเยียดความฝันของตัวเองไปให้ลูก”

คุณอาจจะขัดขวางลูกโดยไม่รู้ตัว โดยการ

1) ปฏิเสธความฝันของเค้ายัดเยียดความต้องการของตัวเองใส่เค้า

2) ไม่ให้การศึกษาและประสบการ์ณชีวิตที่ดีแก่ลูก

และที่สำคัญที่สุด
3) คอยป้อนการมองโลกในแง่ร้ายให้กับเด็กๆ

หน้าที่ของพ่อแม่คือการ สร้างทางเดินที่จะส่งลูกไปสู่ความสำเร็จ

พยายามอย่าขัดขวางลูกๆ ด้วยข้อผิดพลาดเหล่านี้เพื่อที่เค้าจะเติบโดตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต


“ลูกจะมองพ่อแม่เป็นตัวอย่าง แม้แต่เรื่องความฝัน”

ลูกๆมักจะมองพ่อแม่เป็นฮีโร่และนำความสำเร็จของเรามาเป็นมาตราฐาน

ความสำเร็จเกิดมาจากขั้นตอนเล็กๆน้อยๆมากมาย เด็กๆที่พ่อแม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ได้เห็นขั้นตอนสู่ความสำเร็จของพ่อแม่ และจะรุ้ว่าการทำความฝันให้สำเร็จต้องผ่านอะไรและมีขั้นตอนยังไงบ้าง

แต่ในขณะเดียวกันก็มีเด็กบางคนที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง แต่ครอบครัวที่พ่อแม่มีความพยายามไล่ตามความฝันมักจะมีผลดีต่อการไล่ตามความฝันของลูกมากกว่า


“ช่วยลูกเริ่มลงมือ และสอนให้ลงมือด้วยตัวเอง”

เด็กๆมักจะสนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ดนตรี กีฬา และอื่นๆ แต่เมื่อพวกเค้าโตขี้นมันจะเริ่มชัดเจนมากขึ้น และหนึ่งในสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นความฝันของพวกเค้า

ความฝันส่วนใหญ่จะดูยิ่งใหญ่และไกลมาก

วิธีการไล่ตามความฝันก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ เพียงแต่เราต้องช่วยทำไปกับเค้าในช่วงเริ่มต้น

1) ช่วยลูกทำการค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งที่เค้าสนใจ - ยิ่งเค้ามีความรุ้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เค้าอยากเป็นมากเท่าไหร่ความฝันของเค้าก็จะเป็นรูปธรรมมากขึ้นเท่านั้น และเค้าจะเข้าใจว่าเค้าต้องการและต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะไปถึงฝันนั้น

2) สร้างกำหนดเวลาสำหรับเป้าหมายเบื้องต้น - เริ่มต้นจากเป้าหมายง่ายๆ เช่น “ภายใน 5 เดือนผมจะต้องเล่นเปียโนสองมือให้ได้” การตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลาง่ายๆแบบนี้จะทำให้เค้ารุ้จักความสำเร็จทีละเล็กละน้อยและจะพาเค้าไปถึงฝันได้ในอนาคต

3) วางแผนเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวพ่อแม่ต้องทำ - ลูกของคุณต้องการความสามารถพิเศษด้านไหน การศึกษาแบบไหนที่เค้าต้องการ การเรียนพิเศษ การเข้าค่าย การพบเจอผู้คนที่อยู่ในวงการที่ลูกคุณฝันถึง สิ่งเหล่านี้พ่อแม่ต้องคอยวางแผนและกำหนดเวลาตามอายุและความสามารถของลูก เด็กตัวเล็กๆ อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง พ่อแม่จึงมีความสำคัญมากๆ

4) การเล่นคือการเรียนรุ้ที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก - การเล่นเกมส์หรือการเล่นของเล่นที่มีจุดสิ้นสุด จะทำให้เค้าเรียนจากการประสบความสำเร็จเล็กๆจากการเล่น เช่นการต่อ Lego ให้ออกมาได้ตามกล่อง หรือการเล่นวีดีโอเกมส์จนเคลียร์ด่านได้ เค้าจะเรียนรู้ว่าความพยายาม,สมาธิ,การจัดการและการทำตามขั้นตอน สิ่งเหล่านี้จะพาเค้าไปหาจุดหมายได้แม้ว่ามันจะใหญ่ขึ้นก็ตาม

** สิ่งสำคัญตรงนี้ไม่ใช่ว่าความฝันลูกในตอนนี้คืออะไร แต่มันคือการสอนให้ลูกรุ้ว่าต้องทำยังไงเพื่อจะทำความฝันให้สำเร็จแม้ว่าตอนโตขึ้นความฝันเค้าจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร แต่สิ่งที่เราฝึกฝนเค้าไว้ก็จะยังอยู่กับเค้าต่อไป


“ให้กำลังใจ และอยู่ข้างหลังเค้าเสมอ”

เด็กๆก็มีแรงบันดาลใจของตัวเองเหมือนผู้ใหญ่ทุกคน แต่พวกเค้าก็ยังจะคอยมองเสมอว่าพ่อแม่คิดยังไง และพวกเราก็มีผลต่ออารมณ์ของพวกเค้าเป็นอย่างมาก

เด็กๆจะมีความมั่นใจมากขึ้นมากถ้ามีพ่อแม่อยู่ข้างๆ

ถ้าคุณอนุญาติให้เค้าวิ่งเค้าก็จะวิ่งไปสุดแรง แต่เมื่อเค้าสะดุดล้มเค้าก็ยังต้องการที่จะหันกลับมาแล้วเจอคุณอยู่ตรงนั้น

ทำตัวเป็นทะเลแห่งความคิดในแง่บวก ให้การสนับสนุนอยู่ห่างๆ และเป็นกำลังใจเมื่อพวกเค้าพบความผิดหวัง

ถ้าทำได้ตามนี้ ลูกของคุณจะเชื่อว่าอะไรก็เป็นไปได้ ถึงล้มก็ลุกขึ้นมาทำมันใหม่จนสำเร็จได้ แม้วันที่พวกเค้าโตเกินที่คุณจะสอนเค้าได้แล้ว แต่ทัศนคติที่ดีเหล่านี้ก็จะอยู่กับเค้าตลอดไป

ติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/namjaipainai จ้า