เรื่องนี้ เป็นเคสของเพื่อนบ้านในโครงการหมู่บ้านผม ซึ่งทะเลาะกันเสียงดังมาก
ปัญหาเกิดมาจาก เพื่อนบ้านคนแรก ชื่อ นาย ก. มีบ้านซึ่งเป็นทาวน์โฮมอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันกับทาวน์โฮมของ นาย ข. ซึ่งทั้งสองหลังอยู่ในซอยย่อยกว้าง 8 เมตรของโครงการ ทาวน์โฮมทุกหลังในโครงการนี้หน้ากว้าง 5.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน
ทาวน์โฮมของนาย ก. ติดกับสวนหย่อมเล็กๆ หน้ากว้างประมาณ 6 - 7 ม. ซึ่งติดกับรั้วโครงการพอดี ทางโครงการปลูกแต่งต้นไม้พอประมาณให้ดูแล้วชื่นใจ
ทาวน์โฮมของนาย ข. อยู่ตรงข้ามกับสวนหย่อมพอดี และเป็นหลังที่ติดกับรั้วโครงการ
บ้านนาย ก. มีรถ 3 คัน ซึ่ง 2 คันก็จอดในบ้าน แต่อีกคัน มักจะเอามาจอดตรงหน้าสวน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านนาย ข. พอดี
นาย ข. ไม่พอใจ เหตุผลเดียว คือหาว่านาย ก. มาจอดรถขวางทัศนียภาพสวน ซึ่งตนตั้งใจซื้อบ้านหลังนี้ด้วยราคาแพงกว่าหลังอื่นเพราะชื่นชอบในทัศนียภาพดังกล่าวตั้งแต่เซลส์พามาดู แต่พอมาอยู่แล้ว เวลานั่งหน้าบ้าน จะมองไปทางสวนเพื่อความชื่นใจทีไร ก็เห็นแต่ไอ้รถคันนี้แหละขวางหูขวางตาอยู่ทั้งวัน
แต่นาย ก. ก็อ้างว่าที่ตรงนั้น เป็นที่ส่วนรวม เค้ามีสิทธิจอด และก็ไม่ได้ขวางหน้าบ้านนาย ข. แต่อย่างใด เพราะถ้าเค้าจอดไว้หน้าบ้าน ก็จะทำให้อีก 2 คันเข้าออกไม่ได้ เวลาคันในจะออก ก็ต้องคอยมาเลื่อนรถ เค้าอ้างว่า ถามเซลส์ตั้งแต่ก่อนจะซื้อแล้วว่าจอดได้มั้ย เซลส์ก็บอกว่าจอดได้
อยากทราบความคิดเห็นครับว่า เคสนี้ คุณเห็นใจใคร ใครผิดใครถูก และนิติบุคคลควรแก้ไขอย่างไรครับ
ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับว่า เคสนี้ใครผิดใครถูก เรื่องจอดรถไม่ได้ขวางแต่ตรงข้ามหน้าบ้านจนไปบังทัศนีภาพของสวนหย่อม
ปัญหาเกิดมาจาก เพื่อนบ้านคนแรก ชื่อ นาย ก. มีบ้านซึ่งเป็นทาวน์โฮมอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันกับทาวน์โฮมของ นาย ข. ซึ่งทั้งสองหลังอยู่ในซอยย่อยกว้าง 8 เมตรของโครงการ ทาวน์โฮมทุกหลังในโครงการนี้หน้ากว้าง 5.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน
ทาวน์โฮมของนาย ก. ติดกับสวนหย่อมเล็กๆ หน้ากว้างประมาณ 6 - 7 ม. ซึ่งติดกับรั้วโครงการพอดี ทางโครงการปลูกแต่งต้นไม้พอประมาณให้ดูแล้วชื่นใจ
ทาวน์โฮมของนาย ข. อยู่ตรงข้ามกับสวนหย่อมพอดี และเป็นหลังที่ติดกับรั้วโครงการ
บ้านนาย ก. มีรถ 3 คัน ซึ่ง 2 คันก็จอดในบ้าน แต่อีกคัน มักจะเอามาจอดตรงหน้าสวน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านนาย ข. พอดี
นาย ข. ไม่พอใจ เหตุผลเดียว คือหาว่านาย ก. มาจอดรถขวางทัศนียภาพสวน ซึ่งตนตั้งใจซื้อบ้านหลังนี้ด้วยราคาแพงกว่าหลังอื่นเพราะชื่นชอบในทัศนียภาพดังกล่าวตั้งแต่เซลส์พามาดู แต่พอมาอยู่แล้ว เวลานั่งหน้าบ้าน จะมองไปทางสวนเพื่อความชื่นใจทีไร ก็เห็นแต่ไอ้รถคันนี้แหละขวางหูขวางตาอยู่ทั้งวัน
แต่นาย ก. ก็อ้างว่าที่ตรงนั้น เป็นที่ส่วนรวม เค้ามีสิทธิจอด และก็ไม่ได้ขวางหน้าบ้านนาย ข. แต่อย่างใด เพราะถ้าเค้าจอดไว้หน้าบ้าน ก็จะทำให้อีก 2 คันเข้าออกไม่ได้ เวลาคันในจะออก ก็ต้องคอยมาเลื่อนรถ เค้าอ้างว่า ถามเซลส์ตั้งแต่ก่อนจะซื้อแล้วว่าจอดได้มั้ย เซลส์ก็บอกว่าจอดได้
อยากทราบความคิดเห็นครับว่า เคสนี้ คุณเห็นใจใคร ใครผิดใครถูก และนิติบุคคลควรแก้ไขอย่างไรครับ