พอดีเพื่อนฝากมาร้องทุกข์ครับ เขาไม่มีไอดีพันทิป ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ทุกท่านครับผม
---
ปกติเป็นคนนึงที่ชอบอ่านพันทิปครับ (แต่ไม่มีไอดีครับ 555+) ชอบเข้ามาอ่านเรื่องบ้าน เทคนิคแต่งห้อง เพราะฝันอยากมีบ้านของตัวเองตั้งแต่เด็ก อ่านๆ ไปเจอดราม่าผู้อยู่อาศัยกับโครงการหลายกระทู้ก็คิดว่าคงเกิดแบบหนึ่งในล้านมั้ง ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาเจอกับตัวเองซึ้งใจจริงๆ เลยขออนุญาตแชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ
คือผมก็เป็นคนทำงานธรรมดาคนหนึ่ง ก็อยากมีบ้านมีรถตามประสา ทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ทำทุกอย่างตั้งแต่เซลล์แมน ขายของ จนสุดท้ายก็เก็บตังค์ผ่อนบ้านตัวเองสำเร็จ และด้วยความอยากได้ของดีที่สุดก็เลยกัดฟันผ่อนบ้านโครงการ ส แถว ติวานนท์ ซึ่งหลังหนึ่งราคาเหยียบสิบล้าน (เป็นบ้านตัวอย่างแต่งครบครับ) รู้ทั้งรู้ว่าไม่รู้จะตายก่อนผ่อนหมดหรือเปล่าแต่ก็ตัดใจซื้อเพราะคิดแล้วว่าจะตายที่นี้แน่นอน ซื้อทั้งทีเอาดีๆ ไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง
แต่สุดท้ายก็เจอปัญหาจนได้และเป็นปัญหางี่เง่าสุดๆ คือเรื่องเพื่อนบ้านจอดขวางทางเข้า-ออก ดูเหมือนธรรมดาแต่มันแสบมากๆ ครับ คือต้องบอกก่อนว่าโครงการที่ผมซื้อเป็นบ้านขนาดใหญ่ จอดรถได้ 4 คัน (ผมก็ซื้อบ้านนี้ด้วยเหตุผลนี้แหละเพราะบ้านผมมีรถ 4 คันพอดี เป็นกระบะเอาไว้ขนของหนึ่ง รถของแฟนกับพี่น้องมาฝากจอดอีกสอง อีกคันเป็นของตัวเองพอดีเป๊ะ) ตอนแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาเอารถเข้ามาจอดในบ้านได้ปกติ แต่อยู่ๆ ไปสัก 2 เดือนข้างบ้านเริ่มเอารถมาจอดบนถนนส่วนกลางตรงข้ามประตูบ้านผม ดูในรูปก็จะเห็นว่าถนนส่วนกลางหน้าบ้านผมมันก็ไม่ได้กว้างมากพอมีรถมาจอดขวางหน้าประตู รถบ้านผมจากที่เข้าได้ 4 คัน คันสุดท้ายถอยไม่พ้นก็เอาเข้ามาจอดไม่ได้
สภาพรถที่จอดขวางหน้าประตูพอดี แต่ตอนเย็นบางทีมาจอดเพิ่ม 3-4 คันครับ
เดินไปถามเพื่อนบ้านตัวแสบเป็นลุงทำหน้ามึนๆ บอกว่าของลูกตัวเอง
“พี่ช่วยถอยรถออกได้ไหมครับ ผมเอารถเข้าบ้านไม่ได้”
“ไม่ใช่รถผม รถลูกนะ”
... จากนั้นลุงก็สะบัดตูดเดินเข้าบ้านไปแบบไม่แคร์สื่อ
ที่ผมงงมากคือในบ้านมันจอดรถได้ 4 คัน บ้านลุงมีรถ 4 คันแต่จอดข้างในแค่ 3 อีกคันมาจอดบนถนนส่วนกลาง (เพื่อ?) จะว่าผมไปทำอะไรให้เขาโกรธก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ 2 เดือนจะไปทำอะไรได้ ที่น่าโกรธคือยิ่งนานวันลูกลุงก็เอารถมาจอดหน้าถนนเพิ่มขึ้น บางวันจอดเรียงกัน 3-4 คันทำให้ผมจอดรถได้แค่ 2 คันในบ้านเพราะมันไม่มีที่ถอยรถเข้า แถมรถ 2 คันกว่าจะเข้าบ้านได้ก็ต้องถอย 4-5 ครั้งเป็นอย่างต่ำ แล้วผมกลับบ้านมาดึกๆ ประจำก็ต้องคอยระวังรถของคุณลุงตลอดทั้งๆ มันไม่ใช่ที่จอดรถเลยด้วยซ้ำ
ในบ้านลุงมีที่จอด 4 คันแต่จอด 3 ประจำ
ผ่านไป 3 เดือนทนไม่ไหว กดออดว่าก็แล้ว โทรว่าก็แล้ว คุณลุงก็เฉยๆ ผมเลยเริ่มแจ้งโครงการ โครงการก็มาเจรจากับบ้านนั้นแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ผมก็แจ้งไปอีกครั้งนี้โครงการกลับมาหาผมและพูดประโยคที่ทำให้เจ็บใจสุดๆ
“ผมเตือนเขาแล้วแต่เขาก็ไม่เชื่อ คุณก็ยอมๆ เขาไปหน่อยไม่เป็นไรมั้งครับ”
ผมงงจนไม่รู้จะงงยังไง คือผมเป็นฝ่ายเดือดร้อนมา 3 เดือน แต่โครงการบอกให้ผม “ยอมๆ” เขาไปเหมือนผมเป็นฝ่ายผิด คือเอาง่ายๆ คุณลุงมีที่จอดรถเยอะแยะนะ ถ้าไม่อยากจอดในบ้านตัวเองก็ไปจอดที่คลับเฮ้าท์ส่วนกลางแล้วก็นั่งรถกอล์ฟหรือเดินมาก็ได้ ตรงนั้นจอดได้เกือบ 10 กว่าคันและคนอื่นที่เขามีรถเยอะเกินก็จอดที่นั่น (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว) แต่แบบนี้เจาะจงมักง่ายให้ตัวเองสบายที่สุดเลยหรือเปล่า ไม่คิดถึงคนอื่นสักนิดเลยเหรอ?
หลังจากนั้นผมก็ร้องเรียนไปทาง call center ของโครงการซึ่งเป็นน้องผู้หญิง น่ารักมาก เขาพยายามประสานงานแก้ปัญหาให้ผมแต่สุดท้ายเรื่องมันก็ตีกลับมาที่โครงการหมู่บ้านผมเหมือนเดิมอีก ผลสุดท้ายก็เหลวคือโครงการส่งจดหมายเวียนให้ทุกบ้านแจ้งว่าห้ามจอดรถบนถนนส่วนกลางแต่คุณลุงก็ไม่แคร์ ก็ยังจอดเหมือนเดิมจนตอนนี้ก็เกือบ 6 เดือนแล้ว
วันนึงที่ผมปี๊ดมากคือเขาเอารถมาจอดเรียงกัน 4 คันเลยโทรไปหาโครงการ จะตามเรื่องให้ถึงที่สุดผลสรุปโครงการบอกว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย เขาทำอะไรไม่ได้
“ตอนนี้บ้านยังโอนไม่ครบทั้งหมู่บ้าน ต้องรอโอนครบก่อนโครงการถึงมีสิทธิดำเนินการขั้นเด็ดขาดครับ”
...ตอนนี้โครงการขายมา 5 ปีแล้วก็ยังไม่หมด แล้วถ้าอีก 5 10 20 ปียังขายไม่หมดก็คือผมต้องทนกับสภาพนี้ตลอดโดยที่โครงการไม่ช่วยอะไรเลยเหรอครับ? คำตอบคือโครงการทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นครับ ผมเลยบอกว่าผมไม่ไหวแล้วนะ ผมจะเอาเรื่องนี้ไปโพสต์ในเน็ต คุณแน่ใจเหรอว่าคุณทำอะไรไม่ได้อีก
“โพสต์ได้เลยครับ ผมทำดีที่สุดแล้วครับ” (ซึ่งผมโทรไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายของโครงการบ้านจัดสรรยี่ห้ออื่น เขาบอกว่าจริงๆ โครงการมีอำนาจเต็มในการจัดการเพราะพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเป็นของโครงการแต่ต้น ยิ่งยังไม่โอนหมดนี่แหละจัดการได้ง่าย แต่ผมก็ไม่รู้เรื่องกฏหมายดีก็เลยยังไม่แน่ใจ)
เป็นที่มาว่าผมอยากเอาเรื่องนี้มาแชร์ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปอ่านเป็นอุทาหรณ์ หากคุณกำลังเล็งบ้านของโครงการนี้อยู่ ผมบอกได้เลยครับว่าคุณกำลังเจอกับความเสี่ยงแบบผม จะมาดูบ้านสักกี่สิบครั้งก็ไม่มีทางรู้ว่าคุณจะเจอเพื่อนบ้านมหาภัย ที่สำคัญโครงการจะไม่ช่วยอะไรครับ เขาจะบอกให้คุณยอมๆ ไปแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายคุณก็มีอยู่สองทางแก้
1.ย้ายบ้านหนี (ซึ่งผมจะทำได้ยังไง นี่จะผ่อนจนตายหรือเปล่ายังไม่รู้เลย)
2.ทนไปจนตายกับบ้านหลังนี้
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีผลประโยชน์ได้เสียอะไรกับแบรนด์โดยอ้อม จะหลังไมค์มาขอข้อมูลอะไรยินดีเลยครับ แต่ที่ผมเอามาโพสต์เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ เลยอยากโพสต์เผื่อจะมีใครหาทางออกให้ผมได้บ้างครับ
อุทาหรณ์เพื่อนบ้านจอดรถขวางประตูกับโครงการที่ไม่ไหวจริงๆ
---
ปกติเป็นคนนึงที่ชอบอ่านพันทิปครับ (แต่ไม่มีไอดีครับ 555+) ชอบเข้ามาอ่านเรื่องบ้าน เทคนิคแต่งห้อง เพราะฝันอยากมีบ้านของตัวเองตั้งแต่เด็ก อ่านๆ ไปเจอดราม่าผู้อยู่อาศัยกับโครงการหลายกระทู้ก็คิดว่าคงเกิดแบบหนึ่งในล้านมั้ง ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาเจอกับตัวเองซึ้งใจจริงๆ เลยขออนุญาตแชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ
คือผมก็เป็นคนทำงานธรรมดาคนหนึ่ง ก็อยากมีบ้านมีรถตามประสา ทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ทำทุกอย่างตั้งแต่เซลล์แมน ขายของ จนสุดท้ายก็เก็บตังค์ผ่อนบ้านตัวเองสำเร็จ และด้วยความอยากได้ของดีที่สุดก็เลยกัดฟันผ่อนบ้านโครงการ ส แถว ติวานนท์ ซึ่งหลังหนึ่งราคาเหยียบสิบล้าน (เป็นบ้านตัวอย่างแต่งครบครับ) รู้ทั้งรู้ว่าไม่รู้จะตายก่อนผ่อนหมดหรือเปล่าแต่ก็ตัดใจซื้อเพราะคิดแล้วว่าจะตายที่นี้แน่นอน ซื้อทั้งทีเอาดีๆ ไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง
แต่สุดท้ายก็เจอปัญหาจนได้และเป็นปัญหางี่เง่าสุดๆ คือเรื่องเพื่อนบ้านจอดขวางทางเข้า-ออก ดูเหมือนธรรมดาแต่มันแสบมากๆ ครับ คือต้องบอกก่อนว่าโครงการที่ผมซื้อเป็นบ้านขนาดใหญ่ จอดรถได้ 4 คัน (ผมก็ซื้อบ้านนี้ด้วยเหตุผลนี้แหละเพราะบ้านผมมีรถ 4 คันพอดี เป็นกระบะเอาไว้ขนของหนึ่ง รถของแฟนกับพี่น้องมาฝากจอดอีกสอง อีกคันเป็นของตัวเองพอดีเป๊ะ) ตอนแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาเอารถเข้ามาจอดในบ้านได้ปกติ แต่อยู่ๆ ไปสัก 2 เดือนข้างบ้านเริ่มเอารถมาจอดบนถนนส่วนกลางตรงข้ามประตูบ้านผม ดูในรูปก็จะเห็นว่าถนนส่วนกลางหน้าบ้านผมมันก็ไม่ได้กว้างมากพอมีรถมาจอดขวางหน้าประตู รถบ้านผมจากที่เข้าได้ 4 คัน คันสุดท้ายถอยไม่พ้นก็เอาเข้ามาจอดไม่ได้
เดินไปถามเพื่อนบ้านตัวแสบเป็นลุงทำหน้ามึนๆ บอกว่าของลูกตัวเอง
“พี่ช่วยถอยรถออกได้ไหมครับ ผมเอารถเข้าบ้านไม่ได้”
“ไม่ใช่รถผม รถลูกนะ”
... จากนั้นลุงก็สะบัดตูดเดินเข้าบ้านไปแบบไม่แคร์สื่อ
ที่ผมงงมากคือในบ้านมันจอดรถได้ 4 คัน บ้านลุงมีรถ 4 คันแต่จอดข้างในแค่ 3 อีกคันมาจอดบนถนนส่วนกลาง (เพื่อ?) จะว่าผมไปทำอะไรให้เขาโกรธก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ 2 เดือนจะไปทำอะไรได้ ที่น่าโกรธคือยิ่งนานวันลูกลุงก็เอารถมาจอดหน้าถนนเพิ่มขึ้น บางวันจอดเรียงกัน 3-4 คันทำให้ผมจอดรถได้แค่ 2 คันในบ้านเพราะมันไม่มีที่ถอยรถเข้า แถมรถ 2 คันกว่าจะเข้าบ้านได้ก็ต้องถอย 4-5 ครั้งเป็นอย่างต่ำ แล้วผมกลับบ้านมาดึกๆ ประจำก็ต้องคอยระวังรถของคุณลุงตลอดทั้งๆ มันไม่ใช่ที่จอดรถเลยด้วยซ้ำ
ผ่านไป 3 เดือนทนไม่ไหว กดออดว่าก็แล้ว โทรว่าก็แล้ว คุณลุงก็เฉยๆ ผมเลยเริ่มแจ้งโครงการ โครงการก็มาเจรจากับบ้านนั้นแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ผมก็แจ้งไปอีกครั้งนี้โครงการกลับมาหาผมและพูดประโยคที่ทำให้เจ็บใจสุดๆ
“ผมเตือนเขาแล้วแต่เขาก็ไม่เชื่อ คุณก็ยอมๆ เขาไปหน่อยไม่เป็นไรมั้งครับ”
ผมงงจนไม่รู้จะงงยังไง คือผมเป็นฝ่ายเดือดร้อนมา 3 เดือน แต่โครงการบอกให้ผม “ยอมๆ” เขาไปเหมือนผมเป็นฝ่ายผิด คือเอาง่ายๆ คุณลุงมีที่จอดรถเยอะแยะนะ ถ้าไม่อยากจอดในบ้านตัวเองก็ไปจอดที่คลับเฮ้าท์ส่วนกลางแล้วก็นั่งรถกอล์ฟหรือเดินมาก็ได้ ตรงนั้นจอดได้เกือบ 10 กว่าคันและคนอื่นที่เขามีรถเยอะเกินก็จอดที่นั่น (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว) แต่แบบนี้เจาะจงมักง่ายให้ตัวเองสบายที่สุดเลยหรือเปล่า ไม่คิดถึงคนอื่นสักนิดเลยเหรอ?
หลังจากนั้นผมก็ร้องเรียนไปทาง call center ของโครงการซึ่งเป็นน้องผู้หญิง น่ารักมาก เขาพยายามประสานงานแก้ปัญหาให้ผมแต่สุดท้ายเรื่องมันก็ตีกลับมาที่โครงการหมู่บ้านผมเหมือนเดิมอีก ผลสุดท้ายก็เหลวคือโครงการส่งจดหมายเวียนให้ทุกบ้านแจ้งว่าห้ามจอดรถบนถนนส่วนกลางแต่คุณลุงก็ไม่แคร์ ก็ยังจอดเหมือนเดิมจนตอนนี้ก็เกือบ 6 เดือนแล้ว
วันนึงที่ผมปี๊ดมากคือเขาเอารถมาจอดเรียงกัน 4 คันเลยโทรไปหาโครงการ จะตามเรื่องให้ถึงที่สุดผลสรุปโครงการบอกว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย เขาทำอะไรไม่ได้
“ตอนนี้บ้านยังโอนไม่ครบทั้งหมู่บ้าน ต้องรอโอนครบก่อนโครงการถึงมีสิทธิดำเนินการขั้นเด็ดขาดครับ”
...ตอนนี้โครงการขายมา 5 ปีแล้วก็ยังไม่หมด แล้วถ้าอีก 5 10 20 ปียังขายไม่หมดก็คือผมต้องทนกับสภาพนี้ตลอดโดยที่โครงการไม่ช่วยอะไรเลยเหรอครับ? คำตอบคือโครงการทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นครับ ผมเลยบอกว่าผมไม่ไหวแล้วนะ ผมจะเอาเรื่องนี้ไปโพสต์ในเน็ต คุณแน่ใจเหรอว่าคุณทำอะไรไม่ได้อีก
“โพสต์ได้เลยครับ ผมทำดีที่สุดแล้วครับ” (ซึ่งผมโทรไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายของโครงการบ้านจัดสรรยี่ห้ออื่น เขาบอกว่าจริงๆ โครงการมีอำนาจเต็มในการจัดการเพราะพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเป็นของโครงการแต่ต้น ยิ่งยังไม่โอนหมดนี่แหละจัดการได้ง่าย แต่ผมก็ไม่รู้เรื่องกฏหมายดีก็เลยยังไม่แน่ใจ)
เป็นที่มาว่าผมอยากเอาเรื่องนี้มาแชร์ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปอ่านเป็นอุทาหรณ์ หากคุณกำลังเล็งบ้านของโครงการนี้อยู่ ผมบอกได้เลยครับว่าคุณกำลังเจอกับความเสี่ยงแบบผม จะมาดูบ้านสักกี่สิบครั้งก็ไม่มีทางรู้ว่าคุณจะเจอเพื่อนบ้านมหาภัย ที่สำคัญโครงการจะไม่ช่วยอะไรครับ เขาจะบอกให้คุณยอมๆ ไปแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายคุณก็มีอยู่สองทางแก้
1.ย้ายบ้านหนี (ซึ่งผมจะทำได้ยังไง นี่จะผ่อนจนตายหรือเปล่ายังไม่รู้เลย)
2.ทนไปจนตายกับบ้านหลังนี้
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีผลประโยชน์ได้เสียอะไรกับแบรนด์โดยอ้อม จะหลังไมค์มาขอข้อมูลอะไรยินดีเลยครับ แต่ที่ผมเอามาโพสต์เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ เลยอยากโพสต์เผื่อจะมีใครหาทางออกให้ผมได้บ้างครับ