มัลดีฟส์คือประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรา เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายที่จำกัด เราจึงอยากได้ที่พักราคาถูกและดี บวกกับรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เราก็เริ่มหาเอเจ้นเพื่อความสะดวกต่อการเที่ยวในครั้งนี้ ดูไว้หลายที่มากกกกก สุดท้ายก็ลงตัวกับที่นี่
https://www.facebook.com/maldivespromotionprice/ ซึ่งราคาทุกอย่างอยู่ในงบที่พอดี ราคาไม่แพง และเอเจ้นก็ดูไว้ใจได้ คนตามหลักแสนเค้าก็คงไม่หลอกเราเนอะ กลัวโดนลอยแพมากตอนนั้น 55555
ขอฝากแฟนเพจเราด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/JourneyStory246
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1. ค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ไป - กลับ 11,500 บาท ( จองเอง )
2. แพคเกจ Safari Island 3 วัน 2 คืน 26,000 บาท ( เอเจ้น )
แพคเกจนี้รวม
- ที่พัก Water Bungalow
- Seaplane
- อาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติทุกมื้อ
- เครื่องดื่มไม่อั้นตลอดการเข้าพัก
และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นบริการแบบ All-inclusive เรียกได้ว่าคุ้มสุด
*** รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 37,500 บาท
( ไม่รวมค่าใช้จ่ายช๊อปปิ้งที่สนามบินของตัวเอง )
รอบรู้เรื่องมัลดีฟส์ก่อนเดินทางมาเที่ยว
- มัลดีฟส์เป็นประเทศและมีเมืองหลวงชื่อว่า " มาเล "
- เวลาที่ประเทศมัลดีฟส์จะช้ากว่าไทย 2 ชม.
- สภาพอากาศปกติ 30 - 32 องศา
- สกุลเงินของมัลดีฟส์เรียกว่า Rufiyaa แต่เราก็สามารถใช้สกุลเงิน USD ได้เหมือนกัน
- สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ไม่ต้องใช้วีซ่า และสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน
- มัลดีฟส์จะใช้ระบบกระแสไฟฟ้า 240 V ใช้ปลั๊กเหลี่ยมสามขา แต่ถ้าให้ดีเตรียม Universal Adapter ไปด้วยดีกว่า
- การเดินทางมาประเทศมัลดีฟส์เรามีสายการบินให้เลือกกันถึง 3 สายด้วยกัน ทั้ง Air Asia , Bangkok Airways , Srilanka Airline
หลังจากรู้ข้อมูลคร่าว ๆ กันแล้ว มาเริ่มต้นการเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่า ครั้งนี้เรามากับสายการบินแอร์เอเชีย เรียกได้ว่าราคาถูกที่สุดถ้าเทียบกับสายการบินอื่น หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางไปมัลดีฟส์กันเล้ยยยยยยยย
หลังจากนั่งเครื่องมานาน 4 ชม. ได้เห็นน้ำใส ๆ จากบนเครื่องแค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ววววว
เมื่อมาถึงแล้วจะเห็นได้ว่าสนามบินมัลดีฟส์เล็กมากกกกกก ไม่มีทางหลงแน่นอน หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋า ก็จะเจอเค้าเตอร์รีสอร์ทต่าง ๆ เราก็นำ Voucher ที่เอเจ้นเตรียมมาให้กับ Passport ไปยื่นกับทางรีสอร์ทได้เลย Safari island อยู่เค้าเตอร์ที่ 15
หลังจากนั้นก็พาเราไปเช็คอิน Seaplane อีกที ก็ชั่งกระเป๋าอะไรปกติ แล้วก็รอเวลาขึ้นรถเพื่อไปรอ Seaplane อีกที่นึง
ระหว่างรอไปขึ้น Seaplane เราก็ไปซื้อซิมส์เพื่อเล่นเน็ต จากที่อ่านรีวิวต่าง ๆ ว่าซิมเครือข่ายนี้ Dhiraagu ร้านสีส้ม ๆ เน็ตเร็วและแรงมาก เนื่องด้วยเราเป็นคนเชื่อคนง่าย จึงซื้อมาในราคา 20 USD และพอเล่นได้เล่นก็รู้เลยว่าแรงจริงงงงงงง
หลังจากทำธุระอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปเดินเล่นนอกสนามบิน แค่หน้าสนามบินน้ำก็ใสมากกกกกกก
พอถึงเวลาก็ไปขึ้นรถเพื่อไปขึ้น Seaplane อีกที่นึงใช้เวลานั่งรถ 5 นาที หน้าตาของตั๋ว Seaplane จะระบุ ชื่อ ที่นั่ง และเวลา
Seaplane จ๋าาาาาาาา เรามาแล้ว ครั้งแรกในชีวิตก็จะมีความตื่นเต้นนิด ๆ
ภายใน Seaplane เจ้าหน้าที่จะแจกที่อุดหู เนื่องจากเสียงภายในเครื่องดังมาก ๆ วันนั้นโชคดีรอบที่เราขึ้นไม่ค่อยมีคน ที่นั่งเลยว่างเยอะ
ตอนนั่ง Seaplane ไม่รู้ได้สึกกลัวเลย รู้สึกอย่างเดียว รู้สึกรวย แฮร่ มองออกมานอกหน้าต่างจะเห็นเมืองหลวงมาเล่ในมุมสูง สวยมาก ๆๆ
นั่ง Seaplane ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะลงจอดตรงโป๊ะซึ่งใกล้ ๆ กับรีสอร์ท และต่อเรือ Speedboat อีก 10 นาที
หลังจากเดินทางมาอย่างยาวนานก็ถึงรีสอร์ทที่เราจะพักกันแล้ววววววว Safari Island
ในส่วนของห้องพักมีทั้งแบบบนหาดและกลางน้ำ แต่มาเที่ยวมัลดีฟส์ทั้งทีก็พักกลางน้ำไปเลย
ภายในห้องพักกว้างมากกกกกกกก เรียกได้ว่าราคาถูกแล้วดีจริง ๆ
บันไดลงเล่นน้ำหน้าห้อง น้ำใสมากกกกกกกกกกก
หลังจากพักผ่อนเต็มที่กันแล้ว ก็ถึงเวลากินอาหาร ที่นี่ห้องอาหารจะอยู่กลางน้ำ ได้บรรยากาศสุด ๆ
หน้าตาอาหารก็คล้าย ๆ บ้านเรา แต่ต่างที่รสชาติ ความจริงอาหารมีเยอะมาก ๆ แต่ถ่ายมาได้แค่นี้ ตอนนั้นหิว ตาลายเลยรีบถ่าย 55555
มีบาร์บริการตลอดกินได้ไม่อั้น ไม่เมาไม่เลิก คุ้มสุด ๆๆ
บรรยากาศรอบ ๆ รีสอร์ท และกิจกรรมต่าง ๆ ความจริงมีมากกว่าที่ถ่ายแต่ถ่ายมาเบลอบ้าง แสงไม่สวยบ้าง
และอีกไฮไลท์ที่สำคัญของที่นี่ก็คือ กิจกรรมสุดพิเศษ Sunset Cruise นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกดินและถ้าโชคดีก็จะเจอปลาโลมามาว่ายน้ำให้ชมกันอีกด้วย
จบแล้ววววววววววว เป็นทริปที่มีความสุขและคุ้มค่าสุด ๆ อาจจะเจอฝนบ้างแต่ตกแค่แป๊บเดียวก็หยุด โดยรวมคือฟินนนนนนนนน แค่เห็นน้ำใส ๆ ก็มีความสุขแล้ว รีสอร์ทดี บริการดี ราคาไม่แพง อาหารพอกินได้ สำหรับเอเจ้นที่เราจองบริการดี ดูแลดี ทักไปถามอะไรก็ตอบเร็ว ตอนแรกคือกลัวมากว่าจะโดนลอยแพรึเปล่า สรุปไม่ลอยนะ 555555
[CR] เปิดประสบการณ์เที่ยวมัลดีฟส์ด้วยตัวเอง พักกลางน้ำ All-inclusive 3 วัน 2 คืน รวมทุกอย่าง 37,500 บาท
มัลดีฟส์คือประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรา เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายที่จำกัด เราจึงอยากได้ที่พักราคาถูกและดี บวกกับรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เราก็เริ่มหาเอเจ้นเพื่อความสะดวกต่อการเที่ยวในครั้งนี้ ดูไว้หลายที่มากกกกก สุดท้ายก็ลงตัวกับที่นี่ https://www.facebook.com/maldivespromotionprice/ ซึ่งราคาทุกอย่างอยู่ในงบที่พอดี ราคาไม่แพง และเอเจ้นก็ดูไว้ใจได้ คนตามหลักแสนเค้าก็คงไม่หลอกเราเนอะ กลัวโดนลอยแพมากตอนนั้น 55555
ขอฝากแฟนเพจเราด้วยนะคะ https://www.facebook.com/JourneyStory246
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1. ค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ไป - กลับ 11,500 บาท ( จองเอง )
2. แพคเกจ Safari Island 3 วัน 2 คืน 26,000 บาท ( เอเจ้น )
แพคเกจนี้รวม
- ที่พัก Water Bungalow
- Seaplane
- อาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติทุกมื้อ
- เครื่องดื่มไม่อั้นตลอดการเข้าพัก
และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นบริการแบบ All-inclusive เรียกได้ว่าคุ้มสุด
*** รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 37,500 บาท
( ไม่รวมค่าใช้จ่ายช๊อปปิ้งที่สนามบินของตัวเอง )
รอบรู้เรื่องมัลดีฟส์ก่อนเดินทางมาเที่ยว
- มัลดีฟส์เป็นประเทศและมีเมืองหลวงชื่อว่า " มาเล "
- เวลาที่ประเทศมัลดีฟส์จะช้ากว่าไทย 2 ชม.
- สภาพอากาศปกติ 30 - 32 องศา
- สกุลเงินของมัลดีฟส์เรียกว่า Rufiyaa แต่เราก็สามารถใช้สกุลเงิน USD ได้เหมือนกัน
- สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ไม่ต้องใช้วีซ่า และสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน
- มัลดีฟส์จะใช้ระบบกระแสไฟฟ้า 240 V ใช้ปลั๊กเหลี่ยมสามขา แต่ถ้าให้ดีเตรียม Universal Adapter ไปด้วยดีกว่า
- การเดินทางมาประเทศมัลดีฟส์เรามีสายการบินให้เลือกกันถึง 3 สายด้วยกัน ทั้ง Air Asia , Bangkok Airways , Srilanka Airline
หลังจากรู้ข้อมูลคร่าว ๆ กันแล้ว มาเริ่มต้นการเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่า ครั้งนี้เรามากับสายการบินแอร์เอเชีย เรียกได้ว่าราคาถูกที่สุดถ้าเทียบกับสายการบินอื่น หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางไปมัลดีฟส์กันเล้ยยยยยยยย
หลังจากนั่งเครื่องมานาน 4 ชม. ได้เห็นน้ำใส ๆ จากบนเครื่องแค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ววววว
เมื่อมาถึงแล้วจะเห็นได้ว่าสนามบินมัลดีฟส์เล็กมากกกกกก ไม่มีทางหลงแน่นอน หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋า ก็จะเจอเค้าเตอร์รีสอร์ทต่าง ๆ เราก็นำ Voucher ที่เอเจ้นเตรียมมาให้กับ Passport ไปยื่นกับทางรีสอร์ทได้เลย Safari island อยู่เค้าเตอร์ที่ 15
หลังจากนั้นก็พาเราไปเช็คอิน Seaplane อีกที ก็ชั่งกระเป๋าอะไรปกติ แล้วก็รอเวลาขึ้นรถเพื่อไปรอ Seaplane อีกที่นึง
ระหว่างรอไปขึ้น Seaplane เราก็ไปซื้อซิมส์เพื่อเล่นเน็ต จากที่อ่านรีวิวต่าง ๆ ว่าซิมเครือข่ายนี้ Dhiraagu ร้านสีส้ม ๆ เน็ตเร็วและแรงมาก เนื่องด้วยเราเป็นคนเชื่อคนง่าย จึงซื้อมาในราคา 20 USD และพอเล่นได้เล่นก็รู้เลยว่าแรงจริงงงงงงง
หลังจากทำธุระอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปเดินเล่นนอกสนามบิน แค่หน้าสนามบินน้ำก็ใสมากกกกกกก
พอถึงเวลาก็ไปขึ้นรถเพื่อไปขึ้น Seaplane อีกที่นึงใช้เวลานั่งรถ 5 นาที หน้าตาของตั๋ว Seaplane จะระบุ ชื่อ ที่นั่ง และเวลา
Seaplane จ๋าาาาาาาา เรามาแล้ว ครั้งแรกในชีวิตก็จะมีความตื่นเต้นนิด ๆ
ภายใน Seaplane เจ้าหน้าที่จะแจกที่อุดหู เนื่องจากเสียงภายในเครื่องดังมาก ๆ วันนั้นโชคดีรอบที่เราขึ้นไม่ค่อยมีคน ที่นั่งเลยว่างเยอะ
ตอนนั่ง Seaplane ไม่รู้ได้สึกกลัวเลย รู้สึกอย่างเดียว รู้สึกรวย แฮร่ มองออกมานอกหน้าต่างจะเห็นเมืองหลวงมาเล่ในมุมสูง สวยมาก ๆๆ
นั่ง Seaplane ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะลงจอดตรงโป๊ะซึ่งใกล้ ๆ กับรีสอร์ท และต่อเรือ Speedboat อีก 10 นาที
หลังจากเดินทางมาอย่างยาวนานก็ถึงรีสอร์ทที่เราจะพักกันแล้ววววววว Safari Island
ในส่วนของห้องพักมีทั้งแบบบนหาดและกลางน้ำ แต่มาเที่ยวมัลดีฟส์ทั้งทีก็พักกลางน้ำไปเลย
ภายในห้องพักกว้างมากกกกกกกก เรียกได้ว่าราคาถูกแล้วดีจริง ๆ
บันไดลงเล่นน้ำหน้าห้อง น้ำใสมากกกกกกกกกกก
หลังจากพักผ่อนเต็มที่กันแล้ว ก็ถึงเวลากินอาหาร ที่นี่ห้องอาหารจะอยู่กลางน้ำ ได้บรรยากาศสุด ๆ
หน้าตาอาหารก็คล้าย ๆ บ้านเรา แต่ต่างที่รสชาติ ความจริงอาหารมีเยอะมาก ๆ แต่ถ่ายมาได้แค่นี้ ตอนนั้นหิว ตาลายเลยรีบถ่าย 55555
มีบาร์บริการตลอดกินได้ไม่อั้น ไม่เมาไม่เลิก คุ้มสุด ๆๆ
บรรยากาศรอบ ๆ รีสอร์ท และกิจกรรมต่าง ๆ ความจริงมีมากกว่าที่ถ่ายแต่ถ่ายมาเบลอบ้าง แสงไม่สวยบ้าง
และอีกไฮไลท์ที่สำคัญของที่นี่ก็คือ กิจกรรมสุดพิเศษ Sunset Cruise นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกดินและถ้าโชคดีก็จะเจอปลาโลมามาว่ายน้ำให้ชมกันอีกด้วย
จบแล้ววววววววววว เป็นทริปที่มีความสุขและคุ้มค่าสุด ๆ อาจจะเจอฝนบ้างแต่ตกแค่แป๊บเดียวก็หยุด โดยรวมคือฟินนนนนนนนน แค่เห็นน้ำใส ๆ ก็มีความสุขแล้ว รีสอร์ทดี บริการดี ราคาไม่แพง อาหารพอกินได้ สำหรับเอเจ้นที่เราจองบริการดี ดูแลดี ทักไปถามอะไรก็ตอบเร็ว ตอนแรกคือกลัวมากว่าจะโดนลอยแพรึเปล่า สรุปไม่ลอยนะ 555555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้