ในยุคทีวีดิจิทัลที่ทำ “สงคราม” เรียกเรตติ้งร้อนระอุอยู่ในตอนนี้ ผู้ผลิตมักเน้นรายการ อย่าง ละคร ข่าว วาไรตี้ เกมโชว์ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ “รายการเด็ก”
          ซึ่งในความคุ้นชินของเรา จะนึกถึงการ์ตูนที่ออกอากาศ ตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ทุกสถานีมัก “ตั้งใจ” เอามาสู้กันในสนามนี้ เพราะยังเชื่อว่า “การ์ตูน” ยังไงก็ต้องดึงดูด เด็กๆ ได้ทุกยุค
          แต่ล่าสุดมีบางสถานีที่ตัดสินใจ เปิดสนามด้วย “คอนเทนต์ใหม่” เอาใจเด็กๆ ที่ต้องใช้ความสามารถเพื่อพิชิตสิ่งที่มุ่งหวังให้กับครอบครัว และความสามารถนั้นไม่ใช่การตอบปัญหาทางวิชาการ / ไม่ต้องโชว์ลูกคอมาพ่นไฟร้องเพลงประชันกัน แต่ใช้ความสามารถของ "พละกำลัง" และ "ความแข็งแกร่ง" ทางร่างกายที่ต้องผ่านด่านสุดหินที่กดดันทั้งเวลา ความเหนื่อยล้า และความหวังของตัวเอง
          นั่นคือ รายการ “Kids Stronger ภารกิจเด็กแกร่ง” เป็นความร่วมมือของ “สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย” และผู้ใหญ่ใจดีอย่าง “โรซ่า” ร่วมผลิตรายการนี้ขึ้น
          โดยในรอบออดิชั่นก็ใช้หลักสูตร “Kid’s Athletics” ในคัดเลือกและเก็บสถิติจากเด็กทั่วประเทศถึง 1,200 คน จนเหลือน้องๆ ที่ได้คะแนนสูงสุด 80 คน เพื่อไปพิชิตฝันชิงเงินรางวัล 1 แสนบาท ด้วยการฝ่าด่านสุดหินในสตูดิโอ


          ระยะทางของการแข่งขันในครั้งนี้ เด็กๆ จะต้องแข่งขันกับพละกำลังของตัวเองล้วนๆ ไม่ได้มีกรรมการที่ไหนให้คะแนนและตะโกนคำว่า “ผ่าน” มาให้เด็กได้ลุ้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ความสามารถทางร่างกาย” ของเด็กที่ต้องพิชิต 5 ด่านในรอบแรกภายใน 2 นาที ที่ทั้งต้อง ปีนหน้าผา 4 เมตร ไหนจะต้องทรงตัวบนแท่น 5 แท่น วัดความอดทนของร่างกายด้วยการไต่กำแพงกระจกที่แคบเพียง 1 เมตร ท้ากำลังแขนด้วยการไต่คานเหล็กและโหนห่วงข้ามฝั่งในระยะ 10 เมตร รวมถึงวิ่งต้านแรงโน้มถ่วงเพื่อไปกดหยุดเวลา
          ทั้งหมดคือสิ่งที่ “เด็ก” ต้องทำทั้งหมดเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ ซึ่งผู้ใหญ่อย่างเราๆ บางคนได้แต่อ้าปากค้าง ในความสามารถนี้ เพราะบางคนแค่ปีนหน้าผาด่านแรกก็คงจะไม่รอดแล้ว!!
          ส่วนการได้เงิน 1 แสนบาทไปต่อยอดความหวังของตัวเองนั้น จะต้องผ่าน 3 ด่านให้ได้ภายใน 1 นาทีเท่านั้น ได้แก่ “ไต่แท่งเหล็ก 9 ขั้น – สไลด์แท่งเหล็ก 1.5 เมตร และ สไลด์แท่งเหล็กบนขั้นซิกแซ็ก 5 ขั้น” เรียกได้ว่า ต้องใช้พละกำลังที่ไม่ใช่แค่เตรียมตัวจากเมื่อวานแล้วมาแข่ง ต้องใช้ความฝึกฝนที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง


          สิ่งที่รายการนำเสนอไม่ใช่ใช้ “ความยาก” มาทรมานเด็ก แต่ถ้าได้ลองเสพรายการนี้ดูแล้ว ผู้เข้าแข่งขันรุ่นเยาว์ต่างมี “ความมุ่งมั่น” ที่ชัดเจนมาก และมีความสามารถที่ผู้ใหญ่บางคนขอเซย์โนว่าทำไม่ได้เท่ารุ่นจิ๋วแน่นอน
          อีกสิ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ ระยะเวลาเช้าตรู่ 8 โมงครึ่ง กับรายการโปรดักชั่นจัดเต็มเพื่อเยาวชนขนาดนี้ แทบจะไม่เห็นในผังของสถานีมานานมากแล้ว ถือว่าเป็นการทุ่มทุนแบบไม่คิดถึงกำไร เป็น “รายการเด็ก” ที่เปรียบเสมือน “สลัดผัก” ที่ขายยากในยุค “ฟาสต์ฟู้ด” แต่รายการนี้ปรุงออกมาพร้อมเสิร์ฟ และบริโภคได้ง่ายขึ้นอย่างสบายๆ
          ถ้าดูการ์ตูนแล้วสร้างจินตนาการ ดูละครพื้นบ้านสร้างความบันเทิง การดู “Kids Stronger” จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยหลายคนให้ฉุกคิดและลุกขึ้นมาแสดง “พลัง” ให้โลกเห็นว่า “ถึงจะตัวเล็กแต่ใจแกร่ง” ใครที่อยากสนับสนุนให้เด็กไทยที่มี “พลัง” สามารถสนับสนุนง่ายๆ ด้วยการ “ดูสด” ผ่านหน้าจอทีวี 8 โมงครึ่งวันเสาร์ช่อง Workpoint
          การ “ดูสด” ของคุณในวันนั้นจะกลายเป็นแรงผลักดันยิ่งใหญ่ให้ “รายการเด็กน้ำดี” อยู่ต่อไปในผังของทีวีดิจิตอลที่นับวันจะกระชับ “พื้นที่” รายการเด็กให้น้อยลงแทบทุกวัน