การบินไทย ดีเลย์ถี่ โวยยับ กรุงเทพ-กวางโจว ช้า 10 ชั่วโมง หวั่นประท้วงเงียบ!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG669 เส้นทาง กวงโจว-กรุงเทพ เมื่อวันที่28 ต.ค. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Sureeporn Thammarak ตำหนิสายการบินไทยที่ไม่เข้ามาดูแลรับผิดชอบผู้โดยสารจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเครื่องบินดีเลย์นาน 8-10ชั่วโมงที่สนามบินกวางโจว
โดยระบุว่า “เหตุการณ์เมื่อวาน สอนให้เราได้เรียนรู้ การช่วยเหลือดิ้นรนด้วยตัวเองดีที่สุด #การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า อยากรู้เรื่องรอฟังนะคะ เรื่องมันยาวนาน 8-10 ชั่วโมง ได้ไม่จบยังมีภาคต่อเมื่อกลับมาอีก รักเรามากขนาดนี้ เลยหรอค่ะ”
พร้อมกันนั้น ยังโพสต์พร้อมภาพนิ่งและคลิปวีดีโอความวุ่นวายและความโกลาหลของผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 300คน ที่เดินทางมารอขึ้นเครื่องบินที่สนามบินกวางโจว เพื่อกลับเมืองไทยกับเที่ยวบิน TG669 ที่จะออกเดินทางในเวลา 14.50น.ของวันที่ 28 ต.ค. โดยผู้โดยสารทั้งหมด ได้ติดอยู่ที่สนามบินนานกว่า 8-10 ชั่วโมง ไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้
โดยในช่วงแรกไม่มีเจ้าหน้าที่จากการบินไทยมาชี้แจงหรือแจ้งถึงสาเหตุหรือพูดคุยกับลูกค้าแต่อย่างใดและไม่มีการดูแลเรื่องของอาหารหรือเครื่องดื่มจากกรณีเที่ยวบินดีเลย์ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่การบินไทยเข้ามาแจ้งต่อผู้โดยสารว่าเครื่องบินขัดข้อง จำเป็นต้องมีขอการยกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางในวันที่ 28 ต.ค.ออกไป
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thanawat Thaweeprasart ยังแสดงความไม่พอใจบริษัทการบินไทยได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยความล่าช้าเที่ยวบินดังกล่าวด้วย “RIP TG 669 ( CAN – BKK ) OCT 28,2018 ( Delays 11 HRS ) , until now 7 luggate in our group do not arrive , No TG Ans my gods”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 24.20 น.ของวันที่ 29ต.ค. ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาเที่ยวบินTG669 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2561 เส้นทางจากกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน สู่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากนักบินตรวจพบความขัดข้องทางเทคนิคบางประการ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว โดยได้ดูแลผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล
สำหรับเที่ยวบินดังกล่าว ได้ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300ER บรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 309 คน นักบินและลูกเรือ จำนวน 16 คน รวม 325 คน นักบินได้ตรวจพบว่าเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางประการ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างมาทำการตรวจเช็ค ระหว่างรอการตรวจเช็คเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นได้นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้บริการผู้โดยสาร
แต่เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากกระบวนการผลิตจึงต้องใช้เวลา ต่อมาจากการตรวจเช็คพบว่ามีความจำเป็นต้องรออะไหล่จากกรุงเทพฯ นักบินจึงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติการบินจึงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นได้นำหนังสือเดินทางของผู้โดยสารทุกท่านไปยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการโอนย้ายผู้โดยสารบางส่วนไปยังสายการบินอื่นในวันเดียวกัน เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง และนำผู้โดยสารบางส่วนเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 679 ของวันที่ 28 ตุลาคม 2561 ออกเดินทางจากกวางโจว เวลา 22.20 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 00.33 น. และนำผู้โดยสารที่เหลือ จัดเข้าโรงแรมที่พักพร้อมจัดอาหารค่ำและอาหารเช้า เพื่อรอเดินทางกลับในเที่ยวบินที่ ทีจี 669 ของวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ออกเดินทางจากกวางโจว เวลา 15.33 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงทางอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 น.
สำหรับกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น จะทำการติดต่อให้ผู้โดยสารมารับภายหลัง เนื่องจากไม่สามารถคัดแยกกระเป๋าของผู้โดยสารแต่ละท่านให้ทันเวลาเที่ยวบินที่ผู้โดยสารจะต้องเดินทาง
รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทยแจ้งถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถทำการบินได้นั้น เนื่องจากช่างตรวจพบว่าระบบป้องกันนำแข็งจับตัวที่เครื่องยนต์เกิดปัญหาขัดข้องหากทำการขึ้นบินอาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้นจำเป็นจะต้องจอดเครื่องบินรอที่สนามบินกวางโจว เพื่อให้ฝ่ายชางจัดส่งอะไหล่จากเมืองไทยมาเพื่อทำการเปลี่ยนและซ่อมแซม ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการบินไทยมีปัญหาถูกร้องเรียนเที่ยวบิน TG971 เส้นทางซูริค-กรุงเทพ วันที่ 11ต.ค. ดีเลย์ กว่า 2 ชั่วโมง จากปัญหาการจัดสรรที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของนักบินกับผู้โดยสารไม่ลงตัว จนทำให้ฝ่ายบริหารตั้งคณะกรรการสอบสวนวินัยเพื่อเอาผิดนักบิน และผู้จัดการสถานีซูริคที่บกพร่องในหน้าที่จากการการสื่อสารจนส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารและภาพลักษณ์ของการบินไทยนั้น จะเห็นได้ว่าการบินไทยเริ่มมีปัญหาเที่ยวบินดีเลย์เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา เที่ยวบิน TG 622 เส้นทางกรุงเทพ-โอซาก้า เกิดปัญหาดีเลย์นานกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งเดิมมีกำหนดออกเวลา 23.30น.ของวันที่ 27ต.ค. แต่ได้ออกเดินทางจริงในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 07.55น. ซึ่งการบินไทยออกมาชี้แจงเหตุล่าช้าว่าเกิดจากเครื่องบินขัดข้องจากปัญหาปีกด้านขวาของเครื่องบินเกิดปัญหาชำรุดต้องจอดรอซ่อม
และต่อมาเมื่อวันที่ 28 ต.ค.เครื่องบินของการบินไทย เกิดปัญหาดีเลย์ขึ้นอีก กับ เที่ยวบิน TG 669 เส้นทางกวางโจว-กรุงเทพ นาน 8-10 ชั่วโมง และยังเกิดปัญหาการประสานงานที่ล่าช้าของนายสถานีกวางโจวจนผู้โดยสารออกมาร้องเรียนผ่านสื่อด้วย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มสงสัยว่า ปัญหาดีเลย์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรายวันในขณะนี้นั้น เกิดจากปัญหาเครื่องบินขัดข้อง หรือเกิดจากการประท้วงเงียบของพนักงานหลายฝ่ายในบริษัทหรือไม่
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตอีกด้านหนึ่งว่า เหตุการณ์ดีเลย์ถี่ๆ ประจวบเหมาะกับ แผนการจัดซื้อฝูงบินใหม่ของฝ่ายบริหารการบินไทยจำนวน 23 ลำ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ที่ถูกตีกลับจากรัฐบาลโดยขอให้ไปทบทวนความเหมาะสมในการจัดซื้อใหม่อีกครั้ง
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1755203
การบินไทย ดีเลย์ถี่ โวยยับ กรุงเทพ-กวางโจว ช้า 10 ชั่วโมง หวั่นประท้วงเงียบ!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG669 เส้นทาง กวงโจว-กรุงเทพ เมื่อวันที่28 ต.ค. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Sureeporn Thammarak ตำหนิสายการบินไทยที่ไม่เข้ามาดูแลรับผิดชอบผู้โดยสารจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเครื่องบินดีเลย์นาน 8-10ชั่วโมงที่สนามบินกวางโจว
โดยระบุว่า “เหตุการณ์เมื่อวาน สอนให้เราได้เรียนรู้ การช่วยเหลือดิ้นรนด้วยตัวเองดีที่สุด #การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า อยากรู้เรื่องรอฟังนะคะ เรื่องมันยาวนาน 8-10 ชั่วโมง ได้ไม่จบยังมีภาคต่อเมื่อกลับมาอีก รักเรามากขนาดนี้ เลยหรอค่ะ”
พร้อมกันนั้น ยังโพสต์พร้อมภาพนิ่งและคลิปวีดีโอความวุ่นวายและความโกลาหลของผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 300คน ที่เดินทางมารอขึ้นเครื่องบินที่สนามบินกวางโจว เพื่อกลับเมืองไทยกับเที่ยวบิน TG669 ที่จะออกเดินทางในเวลา 14.50น.ของวันที่ 28 ต.ค. โดยผู้โดยสารทั้งหมด ได้ติดอยู่ที่สนามบินนานกว่า 8-10 ชั่วโมง ไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้
โดยในช่วงแรกไม่มีเจ้าหน้าที่จากการบินไทยมาชี้แจงหรือแจ้งถึงสาเหตุหรือพูดคุยกับลูกค้าแต่อย่างใดและไม่มีการดูแลเรื่องของอาหารหรือเครื่องดื่มจากกรณีเที่ยวบินดีเลย์ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่การบินไทยเข้ามาแจ้งต่อผู้โดยสารว่าเครื่องบินขัดข้อง จำเป็นต้องมีขอการยกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางในวันที่ 28 ต.ค.ออกไป
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thanawat Thaweeprasart ยังแสดงความไม่พอใจบริษัทการบินไทยได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยความล่าช้าเที่ยวบินดังกล่าวด้วย “RIP TG 669 ( CAN – BKK ) OCT 28,2018 ( Delays 11 HRS ) , until now 7 luggate in our group do not arrive , No TG Ans my gods”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 24.20 น.ของวันที่ 29ต.ค. ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาเที่ยวบินTG669 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2561 เส้นทางจากกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน สู่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากนักบินตรวจพบความขัดข้องทางเทคนิคบางประการ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว โดยได้ดูแลผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล
สำหรับเที่ยวบินดังกล่าว ได้ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300ER บรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 309 คน นักบินและลูกเรือ จำนวน 16 คน รวม 325 คน นักบินได้ตรวจพบว่าเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางประการ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างมาทำการตรวจเช็ค ระหว่างรอการตรวจเช็คเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นได้นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้บริการผู้โดยสาร
แต่เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากกระบวนการผลิตจึงต้องใช้เวลา ต่อมาจากการตรวจเช็คพบว่ามีความจำเป็นต้องรออะไหล่จากกรุงเทพฯ นักบินจึงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติการบินจึงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นได้นำหนังสือเดินทางของผู้โดยสารทุกท่านไปยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการโอนย้ายผู้โดยสารบางส่วนไปยังสายการบินอื่นในวันเดียวกัน เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง และนำผู้โดยสารบางส่วนเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 679 ของวันที่ 28 ตุลาคม 2561 ออกเดินทางจากกวางโจว เวลา 22.20 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 00.33 น. และนำผู้โดยสารที่เหลือ จัดเข้าโรงแรมที่พักพร้อมจัดอาหารค่ำและอาหารเช้า เพื่อรอเดินทางกลับในเที่ยวบินที่ ทีจี 669 ของวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ออกเดินทางจากกวางโจว เวลา 15.33 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงทางอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 น.
สำหรับกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น จะทำการติดต่อให้ผู้โดยสารมารับภายหลัง เนื่องจากไม่สามารถคัดแยกกระเป๋าของผู้โดยสารแต่ละท่านให้ทันเวลาเที่ยวบินที่ผู้โดยสารจะต้องเดินทาง
รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทยแจ้งถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถทำการบินได้นั้น เนื่องจากช่างตรวจพบว่าระบบป้องกันนำแข็งจับตัวที่เครื่องยนต์เกิดปัญหาขัดข้องหากทำการขึ้นบินอาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้นจำเป็นจะต้องจอดเครื่องบินรอที่สนามบินกวางโจว เพื่อให้ฝ่ายชางจัดส่งอะไหล่จากเมืองไทยมาเพื่อทำการเปลี่ยนและซ่อมแซม ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการบินไทยมีปัญหาถูกร้องเรียนเที่ยวบิน TG971 เส้นทางซูริค-กรุงเทพ วันที่ 11ต.ค. ดีเลย์ กว่า 2 ชั่วโมง จากปัญหาการจัดสรรที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของนักบินกับผู้โดยสารไม่ลงตัว จนทำให้ฝ่ายบริหารตั้งคณะกรรการสอบสวนวินัยเพื่อเอาผิดนักบิน และผู้จัดการสถานีซูริคที่บกพร่องในหน้าที่จากการการสื่อสารจนส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารและภาพลักษณ์ของการบินไทยนั้น จะเห็นได้ว่าการบินไทยเริ่มมีปัญหาเที่ยวบินดีเลย์เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา เที่ยวบิน TG 622 เส้นทางกรุงเทพ-โอซาก้า เกิดปัญหาดีเลย์นานกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งเดิมมีกำหนดออกเวลา 23.30น.ของวันที่ 27ต.ค. แต่ได้ออกเดินทางจริงในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 07.55น. ซึ่งการบินไทยออกมาชี้แจงเหตุล่าช้าว่าเกิดจากเครื่องบินขัดข้องจากปัญหาปีกด้านขวาของเครื่องบินเกิดปัญหาชำรุดต้องจอดรอซ่อม
และต่อมาเมื่อวันที่ 28 ต.ค.เครื่องบินของการบินไทย เกิดปัญหาดีเลย์ขึ้นอีก กับ เที่ยวบิน TG 669 เส้นทางกวางโจว-กรุงเทพ นาน 8-10 ชั่วโมง และยังเกิดปัญหาการประสานงานที่ล่าช้าของนายสถานีกวางโจวจนผู้โดยสารออกมาร้องเรียนผ่านสื่อด้วย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มสงสัยว่า ปัญหาดีเลย์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรายวันในขณะนี้นั้น เกิดจากปัญหาเครื่องบินขัดข้อง หรือเกิดจากการประท้วงเงียบของพนักงานหลายฝ่ายในบริษัทหรือไม่
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตอีกด้านหนึ่งว่า เหตุการณ์ดีเลย์ถี่ๆ ประจวบเหมาะกับ แผนการจัดซื้อฝูงบินใหม่ของฝ่ายบริหารการบินไทยจำนวน 23 ลำ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ที่ถูกตีกลับจากรัฐบาลโดยขอให้ไปทบทวนความเหมาะสมในการจัดซื้อใหม่อีกครั้ง
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1755203