ถุงมือเรื่องสั้น คู่ที่ 7 เป็นกระทู้สุดท้ายสำหรับรอบนี้...
เรื่องเกี่ยวกับสองสาวซึ่งเป็นเพื่อนซี้กัน คนหนึ่งมาหาอีกคนหนึ่งด้วยมาดราวกับนักสืบหรือกูรูผู้ชำนาญเรื่องฆาตกรรมและฆาตกรต่อเนื่อง มาเตือนเพื่อนให้ระวังตัว ขณะเดียวกันก็รอการมาของพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจสากลจากต่างประเทศ
ดูซิว่าเรื่องจะดำเนินไปอย่างไร...
อ่านจบแล้วมอบเกรดตามอัธยาศัย แล้วเล็งเป้าล็อกผู้แต่งทั้งสองดูเน้อ...
กรรณิกาซึ่งยังอยู่ในชุดนอน เดินอ้าปากหาวออกมาจากห้องครัว ในมือถือแก้วกาแฟสองใบ
“แกมีเรื่องอะไรมิทราบ เล่นมาปลุกฉันตั้งแต่เช้าแบบนี้” กรรณิกาพูดกับนิสาเพื่อนสาวคนสนิทซึ่งนั่งรออยู่บนโซฟา
กรรณิกาวางแก้วกาแฟไว้ที่โต๊ะตรงหน้าเพื่อน และนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวที่นิสานั่ง
“ฉันเป็นห่วงแก อ่านข่าวฆาตกรต่อเนื่องทีไร ฉันอดเป็นห่วงแกไม่ได้จริงๆ”
“แกดูจะหมกหมุ่นเรื่องนี้มากไปหน่อยนะ เหตุการณ์การฆาตกรรมมันอยู่คนละจังหวัดกับที่เราอยู่เลยนะ และไอ้โรคจิตที่เล่นฆ่าคนสามศพต่อเนื่องกันแบบนี้ อีกหน่อย เดี๋ยวตำรวจก็จับได้เองละ แกอย่าไปวิตกแทนตำรวจหน่อยเลย” กรรณิกาส่ายหน้าและนึกขำที่เห็นเพื่อนสาวดูจะจริงจังในเรื่องที่ไกลตัวแบบนี้มากไปหน่อย
“ห้าเดือนฆ่าไปสามศพ ถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันหมด ห้าเดือนแล้วนะแก ตำรวจยังจับฆาตกรที่ทำเรื่องชั่วช้าสามานย์มาลงโทษไม่ได้ และอีกอย่าง แกอยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ ฉันยิ่งเป็นห่วง คืนนี้เลยตั้งใจจะมานอนเป็นเพื่อนแก”
“มีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันคงไม่ใช่เป้าหมายของฆาตกรที่แกว่าหรอกนะ แต่ถ้าแกมาอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ทำให้แกสบายใจขึ้น ฉันก็ยินดีจ้ะ ยัยเพื่อนสุดแสนเจ้ากี้เจ้าการ”
กรรณิกาพูดจบก็เอียงศีรษะซบลงบนไหล่เพื่อน
“ใครว่าแกไม่ใช่เป้าหมายของฆาตกร แกดูให้เต็มตา”
นิสากางหนังสือพิมพ์วางไว้ตรงหน้าเพื่อน หน้าแรกของหนังสือพิมพ์ พาดหัวข้อข่าวใหญ่
‘ฆาตกรถลกหนังหัวหญิงสาว ยังลอยนวล’ ด้านล่างคือภาพถ่ายขนาดสองนิ้ว ของผู้หญิงสามคนที่ตกเป็นเหยื่อ และต่อท้ายด้วยเนื้อหาของข่าวในกรอบเล็กๆ ท้ายกรอบระบุหมายเลขหน้าให้ตามไปอ่านเนื้อข่าวในส่วนที่เหลือ
“ผู้หญิงทั้งสามคนที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดนถลกหนังศีรษะ ใบหน้าถูกกรีดด้วยของมีคมจนดูไม่ออกว่าหน้าตาเป็นยังไง พวกเธอที่ถูกฆ่าล้วนมีรูปลักษณ์ภายนอก ที่แหมือนกันเปี๊ยบ รูปร่างผอม ผมสีดำยาวประบ่า ดวงตากลมโต ความสูงอยู่ที่ 150-155 เซนติเมตร อายุของเหยื่อทั้งสามรายอยู่ระหว่าง 28-33 ปี ขอแสดงความยินดีด้วย แกเข้าเกณฑ์ที่ฉันว่ามาทุกข้อ เห็นได้ชัดว่าฆาตกรเลือกเหยื่อที่จะฆ่า มันไม่ฆ่าใครมั่วๆ” นิสาพูดต่อหลังจากส่งหนังสือพิมพ์ให้เพื่อนอ่าน
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
กรรณิกาพูดเสียงแผ่ว พลันรู้สึกว่าขนท้ายทอยลุกตั้งชันและตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อจ้องเข้าไปในดวงตาเหยื่อทั้งสามรายผ่านภาพถ่ายในหนังสือพิมพ์ และเธอเพิ่งสังเกตเห็นชัดๆเดี๋ยวนี้นี่เองว่า หญิงสาวสามคนมีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกันจริงๆ
“ก็แน่ละ แกไม่เคยสนใจข่าวแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นข่าวดังระดับประเทศก็ตามทีเถอะ ฉันถึงต้องมาบอกแกไง”
กรรณิกาไม่ว่ากล่าวอะไรได้แต่นั่งนิ่งเงียบ มองดูรูปถ่ายของเหยื่อทั้งสามราย นิสาจึงพูดต่อ
“ฆาตกรต่อเนื่องเป็นพฤติกรรมมนุษย์ลักษณะหนึ่งที่จะมีรูปแบบของมัน ตำรวจสากลได้แบ่งไว้สองประเภทคือ พวกมีระเบียบแบบแผนกับพวกที่มีไม่ระเบียบแบบแผน พวกแรกนั้นฉลาด เข้าสังคมได้ปกติ และมีความสนใจทางเพศ มีการวางแผนฆ่าที่แยบยล เหยื่อเป็นคนแปลกหน้าที่เลือกมาอย่างดี และยังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ตั้งแต่ก่อนลงมือ จนจัดการที่เกิดเหตุเรียบร้อย มักนำศพไปไว้ที่อื่นและเก็บซ่อน พวกนี้ตำรวจจะจับตัวได้ยาก”
“แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง” กรรณิกาโพล่งถามเพื่อนออกไป แววตามีความทึ่งในตัวเพื่อนสาวอยู่ไม่น้อย
“แหม..แกอย่าลืมสิว่าพี่ชายฉันเป็นตำรวจสากลประจำการอยู่ที่อังกฤษ และไอ้ที่ฉันต้องมาอยู่เป็นเพื่อนแก ก็เพราะพี่ชายฉันนี่แหละ เพราะรายนั้นติดตามข่าวสารที่เมืองไทยเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มาตลอด และพี่ชายฉันเห็นว่าแกมีลักษณะที่ฆาตกรต้องการ เลยเป็นห่วงแกน่ะ”
กรรณิกาพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพิ่งนึกถึงพี่สันต์ พี่ชายของนิสาขึ้นมา ไม่ได้เจอมาสองปีแล้ว อดดีใจไม่ได้ที่พี่สันต์ยังจำเธอได้
“แล้วอีกประเภทล่ะ” กรรณิกาเอ่ยถาม ด้วยความอยากรู้
“พวกไม่มีระเบียบแบบแผนน่ะเหรอ พวกนี้ฆ่าคนไปเรื่อย มักมีปัญหาเรื่องสถานะทางสังคมและความพึงพอใจทางเพศ ทำงานใช้แรงงานและไอคิวต่ำ สุ่มเลือกเหยื่อ มักทิ้งศพไว้โดยไม่คิดจะซ่อน บางครั้งฆาตกรอาศัยอยู่ใกล้ๆและมักรู้จักเหยื่อ พร้อมที่จะเข้าทำร้ายแบบฉับพลัน ทั้งรุนแรงและกะทันหันชนิดแบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้า”
“แล้วแกคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าหญิงสาวทั้งสามคนนี้จัดอยู่ประเภทไหน”
“ประเภทแรกแบบไม่ต้องสงสัย เพราะมันเลือกเหยื่อที่จะฆ่า อาจเป็นคนปกติทั่วไปนี่ละ และมันฉลาดโคตรๆ เพราะไม่ทิ้งหลักฐานให้ตามหาร่องรอยได้เลย แสดงว่าต้องมีการวางแผนมาอย่างดี”
“ทำไมต้องฆ่าคนเล่น ฆาตกรอาจมีความแค้นกับเหยื่อที่ฆ่า แต่ฉันไม่เคยมีอะไรเรื่องกับใครเลยนะ เหตุเกิดที่โคราช เราอยู่กรุงเทพฯนะแก ตำรวจปูพรมจับตัวมันไปทั่วประเทศ ฉันคิดว่ามันคงไม่กล้าเข้ามากรุงเทพฯหรอกนะ”
“แต่ก็อย่าประมาทนะแก กรุงเทพฯยิ่งมีผู้คนมากหน้าหลายตา ยิ่งเหมาะกับการแอบซ่อนตัว” นิสาย้ำเตือนเพื่อน ก่อนจะลุกขึ้น ขอตัวไปสำรวจประตูหน้าต่าง และทุกซอกมุมที่อาจเป็นจุดให้ฆาตกรแอบเข้ามาได้
“แกเริ่มทำตัวเป็นตำรวจแล้วนะ” กรรณิกาตะโกนพูดกับนิสา แล้วชะเง้อหน้ามองดูท่าทางเพื่อนสาวที่ดูเอาจริงๆเอาจังกับการตรวจตราบ้านเรือน
“เอ่อนา ปลอดภัยไว้ก่อน” นิสาตะโกนตอบกลับมา ก่อนจะเดินหายไปทางหลังบ้าน
----------------------------------------------------------------------------------------------
กรรณิกาส่ายหน้ากับความเจ้ากี้เจ้าการของคุณเพื่อนตัวดีแล้วหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์ จริงๆแล้วเธอก็ไม่สนหรอกว่าเป็นรายการอะไร ขอแค่ในห้องมีเสียงก็พอ อย่างน้อยก็ยังรู้สึกดีที่ห้องไม่เงียบเหงา
เธอใช้เวลาสิบห้านาทีในห้องแต่งตัว แล้วออกมาในชุดยาวฟูลเดรสหลวมๆและใบหน้าที่ไร้การแต่งเติม
ที่หลังบ้าน ไม่มีแม้แต่เงาของนิสา
เธอหายไปไหนกันนะ
กรรณิกาถอนหายใจกับความไวประหนึ่งนินจาของนิสาแล้วเดินออกมาจากบ้าน จุดหมายคือร้านข้าวแกงคุณยายสุดอร่อยและแสนถูก
เมื่อเดินมาถึงทางแยก เธอตัดสินใจเลี้ยวเข้าตรอกหลังคอนโดที่ไม่ค่อยมีคนสัญจร เส้นทางนี้จะพาเธอไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าการเดินอ้อมหน้าคอนโด ยกเว้นตอนกลางคืนเท่านั้นที่ขอยอมเสียเวลาเดินอ้อมคอนโดดีกว่า
เมื่อเดินไปได้สักพักก็สังเกตเห็นเงาของอะไรบางอย่างหลบหลังรั้วปูนอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว เธอนึกถึงสิ่งที่นิสาบอกโดยอัตโนมัติ ส่วนอีกใจก็คิดว่าเธอตาฝาดไปเอง แต่ลางสังหรณ์กลับพาสองขาออกก้าวเดินไปอย่างฉับพลัน สัญชาตญาณบอกว่าเงาร่างนั้นยังคงติดตามมาอย่างไม่ลดละ โชคดีที่เธอไม่ได้อยู่คนเดียว กรรณิกาเร่งฝีเท้าไปหาหญิงสาวที่ผ่านทางมา
"ช่วยด้วยค่ะ มีคนติดตามฉันมา"
.....
....
...
..
.
กรรณิกากลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ถุงพลาสติกใสในมือซ้ายเป็นหมูพะโล้แทนที่จะเป็นข้าวแกง ในบ้านไร้วี่แววของนิสา รายการโทรทัศน์ฉายภาพยนต์ที่เธอชื่นชอบ แต่เธอไม่มีแก่ใจจะไปรับชม เพราะกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต กรรณิกายิ้มให้กระจกบานเล็ก แต่กระจกยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มที่เปลี่ยนไป
แกร๊ก ลูกบิดถูกหมุน ประตูถูกเปิด
กรรณิกาสลายรอยยิ้ม หันไปมองประตูที่เปิดแง้มไว้ มือขวาล้วงกระเป๋าของชุดยาวโดยอัตโนมัติ เธอชั่งใจว่าจะเดินไปเปิดหรือว่าจะรอคอย แต่อย่างหลังมีน้ำหนักมากกว่า
ดูเหมือนว่าคนข้างหลังประตูจะรอไม่ไหว จึงเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้อง เพื่อนรักในบรรยากาศที่แตกต่าง นิสานั่นเอง
"เฮ้อ ก็นึกว่าใคร" กรรณิกาพูดโดยที่มือยังอยู่ในกระเป๋า นิสามองตามแล้วยกมือยอมแพ้ "ฉันละนับถือเธอจริงๆเลย เธอทำได้ยังไง การควบคุมและปรับเปลี่ยนอารมณ์เนี่ย ไหนจะการหลอกตัวเองอีก ขั้นเทพเลยนะเนี่ย"
กรรณิกาถอนมือออกจากกระเป๋า แล้วยิ้มแบบที่นิสาไม่เคยเห็นมาก่อนจนกระทั่งเมื่อสักครู่นี้
"แต่ฉันไม่เข้าใจอย่างนึง" นิสาหมุนตัว มีดสปาต้าสิบสองนิ้วสำหรับเดินป่าติดมือมาอย่างช่ำชอง
เคร้ง มีดกรูข่าขนาดใกล้เคียงกันสกัดไว้ได้ราวประกายไฟ "เธอถลกหนังหัวเหยื่อด้วยสิ่งนี้สินะ มิน่าล่ะ" นิสาเบะปากพยักหน้าหงึกหงัก
"เธอก็ใช้มีดเก่งดีนะ" แล้วสองสาวก็หัวเราะพร้อมกัน
หลายวันผ่านไป ที่หน้าแผงหนังสือ มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าตำรวจสากลจำนวนสี่นายถูกส่งมาช่วยคลี่คลายคดีฆาตกรรมต่อเนื่องห้าศพ ล่าสุดตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิตถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดถึงสองรายในเวลาและสถานที่ใกล้เคียงกัน
อีกด้าน สันต์กับพวกอีกสามคนเดินออกมาที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ
เขากลับมาแล้ว ด้วยความชำนาญทางด้านฆาตกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะ
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
ฝ่ายชาย
1 B-thirteen
2 Chee River (ลำน้ำ C)
3 Christian Trevelyan Grey
4 GTW
5 kasareev
6 KTHc
7 ruennara
8 Soul Master
9 WANG JIE (พฤษภเสารี)
10 จอมยุทธนักสืบ
11 ชายขอบคันนายาว
12 ลูนาติก
13 ส.สัตยา
14 สมาชิกหมายเลข 4563770 (TO SHARE)
ฝ่ายหญิง
1 Lady Star 919
2 Susisiri
3 เกสรผกา
4 นลินมณี
5 ยัยตัวร้ายมุกอันดา
6 รัชต์สารินท์
7 ลายลิขิต
8 สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg)
9 สมาชิกหมายเลข 817884 (โจอี้)
จะวาง ภาพปริศนา วันที่ 1 พ.ย. <เที่ยงคืนวันที่ 31 ต.ค.> บทกวีชี้ทาง วันที่ 2 <เที่ยงคืนวันที่ 1> และ เฉลย คืนวันที่ 2 พฤศจิกายน เวลา สองทุ่มครึ่ง ครับ
เพื่อความสะดวกรวดเร็วและแม่นยำของกรรมการในการตรวจให้คะแนน จึงขอความร่วมมือจากทุกท่าน
เมื่อเปลี่ยนใจ เปลี่ยนคำตอบ ให้ "ขีดฆ่า" คำตอบเดิม อย่าลบทิ้งเพราะกรรมการต้องการบันทึกไว้
หลังจากขีดฆ่าคำตอบเดิมแล้ว ขอให้ ตอบใหม่ ในคอมเม้นท์ใหม่ อย่าตอบลงที่เดิมครับ ขอบคุณครับ
🐑💗🐑THE GLOVES FINAL 2018 #5 ถุงมือเรื่องสั้น คู่ที่ 7 "ถุงมืออยากเขียน"+ "ถุงมือซ่อนยิ้ม" ตอน "หนังแกะ"🐑💗🐑
ถุงมือเรื่องสั้น คู่ที่ 7 เป็นกระทู้สุดท้ายสำหรับรอบนี้...
เรื่องเกี่ยวกับสองสาวซึ่งเป็นเพื่อนซี้กัน คนหนึ่งมาหาอีกคนหนึ่งด้วยมาดราวกับนักสืบหรือกูรูผู้ชำนาญเรื่องฆาตกรรมและฆาตกรต่อเนื่อง มาเตือนเพื่อนให้ระวังตัว ขณะเดียวกันก็รอการมาของพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจสากลจากต่างประเทศ
ดูซิว่าเรื่องจะดำเนินไปอย่างไร...
อ่านจบแล้วมอบเกรดตามอัธยาศัย แล้วเล็งเป้าล็อกผู้แต่งทั้งสองดูเน้อ...
กรรณิกาซึ่งยังอยู่ในชุดนอน เดินอ้าปากหาวออกมาจากห้องครัว ในมือถือแก้วกาแฟสองใบ
“แกมีเรื่องอะไรมิทราบ เล่นมาปลุกฉันตั้งแต่เช้าแบบนี้” กรรณิกาพูดกับนิสาเพื่อนสาวคนสนิทซึ่งนั่งรออยู่บนโซฟา
กรรณิกาวางแก้วกาแฟไว้ที่โต๊ะตรงหน้าเพื่อน และนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวที่นิสานั่ง
“ฉันเป็นห่วงแก อ่านข่าวฆาตกรต่อเนื่องทีไร ฉันอดเป็นห่วงแกไม่ได้จริงๆ”
“แกดูจะหมกหมุ่นเรื่องนี้มากไปหน่อยนะ เหตุการณ์การฆาตกรรมมันอยู่คนละจังหวัดกับที่เราอยู่เลยนะ และไอ้โรคจิตที่เล่นฆ่าคนสามศพต่อเนื่องกันแบบนี้ อีกหน่อย เดี๋ยวตำรวจก็จับได้เองละ แกอย่าไปวิตกแทนตำรวจหน่อยเลย” กรรณิกาส่ายหน้าและนึกขำที่เห็นเพื่อนสาวดูจะจริงจังในเรื่องที่ไกลตัวแบบนี้มากไปหน่อย
“ห้าเดือนฆ่าไปสามศพ ถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันหมด ห้าเดือนแล้วนะแก ตำรวจยังจับฆาตกรที่ทำเรื่องชั่วช้าสามานย์มาลงโทษไม่ได้ และอีกอย่าง แกอยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ ฉันยิ่งเป็นห่วง คืนนี้เลยตั้งใจจะมานอนเป็นเพื่อนแก”
“มีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันคงไม่ใช่เป้าหมายของฆาตกรที่แกว่าหรอกนะ แต่ถ้าแกมาอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ทำให้แกสบายใจขึ้น ฉันก็ยินดีจ้ะ ยัยเพื่อนสุดแสนเจ้ากี้เจ้าการ”
กรรณิกาพูดจบก็เอียงศีรษะซบลงบนไหล่เพื่อน
“ใครว่าแกไม่ใช่เป้าหมายของฆาตกร แกดูให้เต็มตา”
นิสากางหนังสือพิมพ์วางไว้ตรงหน้าเพื่อน หน้าแรกของหนังสือพิมพ์ พาดหัวข้อข่าวใหญ่ ‘ฆาตกรถลกหนังหัวหญิงสาว ยังลอยนวล’ ด้านล่างคือภาพถ่ายขนาดสองนิ้ว ของผู้หญิงสามคนที่ตกเป็นเหยื่อ และต่อท้ายด้วยเนื้อหาของข่าวในกรอบเล็กๆ ท้ายกรอบระบุหมายเลขหน้าให้ตามไปอ่านเนื้อข่าวในส่วนที่เหลือ
“ผู้หญิงทั้งสามคนที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดนถลกหนังศีรษะ ใบหน้าถูกกรีดด้วยของมีคมจนดูไม่ออกว่าหน้าตาเป็นยังไง พวกเธอที่ถูกฆ่าล้วนมีรูปลักษณ์ภายนอก ที่แหมือนกันเปี๊ยบ รูปร่างผอม ผมสีดำยาวประบ่า ดวงตากลมโต ความสูงอยู่ที่ 150-155 เซนติเมตร อายุของเหยื่อทั้งสามรายอยู่ระหว่าง 28-33 ปี ขอแสดงความยินดีด้วย แกเข้าเกณฑ์ที่ฉันว่ามาทุกข้อ เห็นได้ชัดว่าฆาตกรเลือกเหยื่อที่จะฆ่า มันไม่ฆ่าใครมั่วๆ” นิสาพูดต่อหลังจากส่งหนังสือพิมพ์ให้เพื่อนอ่าน
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
กรรณิกาพูดเสียงแผ่ว พลันรู้สึกว่าขนท้ายทอยลุกตั้งชันและตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อจ้องเข้าไปในดวงตาเหยื่อทั้งสามรายผ่านภาพถ่ายในหนังสือพิมพ์ และเธอเพิ่งสังเกตเห็นชัดๆเดี๋ยวนี้นี่เองว่า หญิงสาวสามคนมีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกันจริงๆ
“ก็แน่ละ แกไม่เคยสนใจข่าวแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นข่าวดังระดับประเทศก็ตามทีเถอะ ฉันถึงต้องมาบอกแกไง”
กรรณิกาไม่ว่ากล่าวอะไรได้แต่นั่งนิ่งเงียบ มองดูรูปถ่ายของเหยื่อทั้งสามราย นิสาจึงพูดต่อ
“ฆาตกรต่อเนื่องเป็นพฤติกรรมมนุษย์ลักษณะหนึ่งที่จะมีรูปแบบของมัน ตำรวจสากลได้แบ่งไว้สองประเภทคือ พวกมีระเบียบแบบแผนกับพวกที่มีไม่ระเบียบแบบแผน พวกแรกนั้นฉลาด เข้าสังคมได้ปกติ และมีความสนใจทางเพศ มีการวางแผนฆ่าที่แยบยล เหยื่อเป็นคนแปลกหน้าที่เลือกมาอย่างดี และยังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ตั้งแต่ก่อนลงมือ จนจัดการที่เกิดเหตุเรียบร้อย มักนำศพไปไว้ที่อื่นและเก็บซ่อน พวกนี้ตำรวจจะจับตัวได้ยาก”
“แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง” กรรณิกาโพล่งถามเพื่อนออกไป แววตามีความทึ่งในตัวเพื่อนสาวอยู่ไม่น้อย
“แหม..แกอย่าลืมสิว่าพี่ชายฉันเป็นตำรวจสากลประจำการอยู่ที่อังกฤษ และไอ้ที่ฉันต้องมาอยู่เป็นเพื่อนแก ก็เพราะพี่ชายฉันนี่แหละ เพราะรายนั้นติดตามข่าวสารที่เมืองไทยเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มาตลอด และพี่ชายฉันเห็นว่าแกมีลักษณะที่ฆาตกรต้องการ เลยเป็นห่วงแกน่ะ”
กรรณิกาพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพิ่งนึกถึงพี่สันต์ พี่ชายของนิสาขึ้นมา ไม่ได้เจอมาสองปีแล้ว อดดีใจไม่ได้ที่พี่สันต์ยังจำเธอได้
“แล้วอีกประเภทล่ะ” กรรณิกาเอ่ยถาม ด้วยความอยากรู้
“พวกไม่มีระเบียบแบบแผนน่ะเหรอ พวกนี้ฆ่าคนไปเรื่อย มักมีปัญหาเรื่องสถานะทางสังคมและความพึงพอใจทางเพศ ทำงานใช้แรงงานและไอคิวต่ำ สุ่มเลือกเหยื่อ มักทิ้งศพไว้โดยไม่คิดจะซ่อน บางครั้งฆาตกรอาศัยอยู่ใกล้ๆและมักรู้จักเหยื่อ พร้อมที่จะเข้าทำร้ายแบบฉับพลัน ทั้งรุนแรงและกะทันหันชนิดแบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้า”
“แล้วแกคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าหญิงสาวทั้งสามคนนี้จัดอยู่ประเภทไหน”
“ประเภทแรกแบบไม่ต้องสงสัย เพราะมันเลือกเหยื่อที่จะฆ่า อาจเป็นคนปกติทั่วไปนี่ละ และมันฉลาดโคตรๆ เพราะไม่ทิ้งหลักฐานให้ตามหาร่องรอยได้เลย แสดงว่าต้องมีการวางแผนมาอย่างดี”
“ทำไมต้องฆ่าคนเล่น ฆาตกรอาจมีความแค้นกับเหยื่อที่ฆ่า แต่ฉันไม่เคยมีอะไรเรื่องกับใครเลยนะ เหตุเกิดที่โคราช เราอยู่กรุงเทพฯนะแก ตำรวจปูพรมจับตัวมันไปทั่วประเทศ ฉันคิดว่ามันคงไม่กล้าเข้ามากรุงเทพฯหรอกนะ”
“แต่ก็อย่าประมาทนะแก กรุงเทพฯยิ่งมีผู้คนมากหน้าหลายตา ยิ่งเหมาะกับการแอบซ่อนตัว” นิสาย้ำเตือนเพื่อน ก่อนจะลุกขึ้น ขอตัวไปสำรวจประตูหน้าต่าง และทุกซอกมุมที่อาจเป็นจุดให้ฆาตกรแอบเข้ามาได้
“แกเริ่มทำตัวเป็นตำรวจแล้วนะ” กรรณิกาตะโกนพูดกับนิสา แล้วชะเง้อหน้ามองดูท่าทางเพื่อนสาวที่ดูเอาจริงๆเอาจังกับการตรวจตราบ้านเรือน
“เอ่อนา ปลอดภัยไว้ก่อน” นิสาตะโกนตอบกลับมา ก่อนจะเดินหายไปทางหลังบ้าน
กรรณิกาส่ายหน้ากับความเจ้ากี้เจ้าการของคุณเพื่อนตัวดีแล้วหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์ จริงๆแล้วเธอก็ไม่สนหรอกว่าเป็นรายการอะไร ขอแค่ในห้องมีเสียงก็พอ อย่างน้อยก็ยังรู้สึกดีที่ห้องไม่เงียบเหงา
เธอใช้เวลาสิบห้านาทีในห้องแต่งตัว แล้วออกมาในชุดยาวฟูลเดรสหลวมๆและใบหน้าที่ไร้การแต่งเติม
ที่หลังบ้าน ไม่มีแม้แต่เงาของนิสา เธอหายไปไหนกันนะ
กรรณิกาถอนหายใจกับความไวประหนึ่งนินจาของนิสาแล้วเดินออกมาจากบ้าน จุดหมายคือร้านข้าวแกงคุณยายสุดอร่อยและแสนถูก
เมื่อเดินมาถึงทางแยก เธอตัดสินใจเลี้ยวเข้าตรอกหลังคอนโดที่ไม่ค่อยมีคนสัญจร เส้นทางนี้จะพาเธอไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าการเดินอ้อมหน้าคอนโด ยกเว้นตอนกลางคืนเท่านั้นที่ขอยอมเสียเวลาเดินอ้อมคอนโดดีกว่า
เมื่อเดินไปได้สักพักก็สังเกตเห็นเงาของอะไรบางอย่างหลบหลังรั้วปูนอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว เธอนึกถึงสิ่งที่นิสาบอกโดยอัตโนมัติ ส่วนอีกใจก็คิดว่าเธอตาฝาดไปเอง แต่ลางสังหรณ์กลับพาสองขาออกก้าวเดินไปอย่างฉับพลัน สัญชาตญาณบอกว่าเงาร่างนั้นยังคงติดตามมาอย่างไม่ลดละ โชคดีที่เธอไม่ได้อยู่คนเดียว กรรณิกาเร่งฝีเท้าไปหาหญิงสาวที่ผ่านทางมา
"ช่วยด้วยค่ะ มีคนติดตามฉันมา"
.....
....
...
..
.
กรรณิกากลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ถุงพลาสติกใสในมือซ้ายเป็นหมูพะโล้แทนที่จะเป็นข้าวแกง ในบ้านไร้วี่แววของนิสา รายการโทรทัศน์ฉายภาพยนต์ที่เธอชื่นชอบ แต่เธอไม่มีแก่ใจจะไปรับชม เพราะกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต กรรณิกายิ้มให้กระจกบานเล็ก แต่กระจกยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มที่เปลี่ยนไป
แกร๊ก ลูกบิดถูกหมุน ประตูถูกเปิด
กรรณิกาสลายรอยยิ้ม หันไปมองประตูที่เปิดแง้มไว้ มือขวาล้วงกระเป๋าของชุดยาวโดยอัตโนมัติ เธอชั่งใจว่าจะเดินไปเปิดหรือว่าจะรอคอย แต่อย่างหลังมีน้ำหนักมากกว่า
ดูเหมือนว่าคนข้างหลังประตูจะรอไม่ไหว จึงเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้อง เพื่อนรักในบรรยากาศที่แตกต่าง นิสานั่นเอง
"เฮ้อ ก็นึกว่าใคร" กรรณิกาพูดโดยที่มือยังอยู่ในกระเป๋า นิสามองตามแล้วยกมือยอมแพ้ "ฉันละนับถือเธอจริงๆเลย เธอทำได้ยังไง การควบคุมและปรับเปลี่ยนอารมณ์เนี่ย ไหนจะการหลอกตัวเองอีก ขั้นเทพเลยนะเนี่ย"
กรรณิกาถอนมือออกจากกระเป๋า แล้วยิ้มแบบที่นิสาไม่เคยเห็นมาก่อนจนกระทั่งเมื่อสักครู่นี้
"แต่ฉันไม่เข้าใจอย่างนึง" นิสาหมุนตัว มีดสปาต้าสิบสองนิ้วสำหรับเดินป่าติดมือมาอย่างช่ำชอง เคร้ง มีดกรูข่าขนาดใกล้เคียงกันสกัดไว้ได้ราวประกายไฟ "เธอถลกหนังหัวเหยื่อด้วยสิ่งนี้สินะ มิน่าล่ะ" นิสาเบะปากพยักหน้าหงึกหงัก
"เธอก็ใช้มีดเก่งดีนะ" แล้วสองสาวก็หัวเราะพร้อมกัน
หลายวันผ่านไป ที่หน้าแผงหนังสือ มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าตำรวจสากลจำนวนสี่นายถูกส่งมาช่วยคลี่คลายคดีฆาตกรรมต่อเนื่องห้าศพ ล่าสุดตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิตถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดถึงสองรายในเวลาและสถานที่ใกล้เคียงกัน
อีกด้าน สันต์กับพวกอีกสามคนเดินออกมาที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ
เขากลับมาแล้ว ด้วยความชำนาญทางด้านฆาตกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะ
ผู้ต่อ "ถุงมือ ซ่อนยิ้ม"
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
ฝ่ายชาย
1 B-thirteen
2 Chee River (ลำน้ำ C)
3 Christian Trevelyan Grey
4 GTW
5 kasareev
6 KTHc
7 ruennara
8 Soul Master
9 WANG JIE (พฤษภเสารี)
10 จอมยุทธนักสืบ
11 ชายขอบคันนายาว
12 ลูนาติก
13 ส.สัตยา
14 สมาชิกหมายเลข 4563770 (TO SHARE)
ฝ่ายหญิง
1 Lady Star 919
2 Susisiri
3 เกสรผกา
4 นลินมณี
5 ยัยตัวร้ายมุกอันดา
6 รัชต์สารินท์
7 ลายลิขิต
8 สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg)
9 สมาชิกหมายเลข 817884 (โจอี้)
จะวาง ภาพปริศนา วันที่ 1 พ.ย. <เที่ยงคืนวันที่ 31 ต.ค.> บทกวีชี้ทาง วันที่ 2 <เที่ยงคืนวันที่ 1> และ เฉลย คืนวันที่ 2 พฤศจิกายน เวลา สองทุ่มครึ่ง ครับ
เมื่อเปลี่ยนใจ เปลี่ยนคำตอบ ให้ "ขีดฆ่า" คำตอบเดิม อย่าลบทิ้งเพราะกรรมการต้องการบันทึกไว้
หลังจากขีดฆ่าคำตอบเดิมแล้ว ขอให้ ตอบใหม่ ในคอมเม้นท์ใหม่ อย่าตอบลงที่เดิมครับ ขอบคุณครับ