การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางด้วยตนเอง ไปกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งหมด 5 คน (ผู้ใหญ่ 4 และลูกสาว 8 ขวบ 1คน )
โดยวางแผนไว้ว่า นั่งเครื่องบินไปลงมาเก๊า – ต่อเรือเฟอร์รี่จากมาเก๊าไปท่าเรือเชอโขว่เข้าเซินเจิ้น - พักเซินเจิ้น 2 คืน - รถไฟความเร็วสูงไปกวางโจว - พักกวางโจว 2 คืน - รถไฟความเร็วสูงไปจูไห่ - พักจูไห่ 1 คืน - เดินทางกลับเข้ามาเก๊า – เครื่องบินกลับกรุงเทพ
อาจจะดูแปลกๆ คือนั่งเครื่องบิน ไปกลับ กทม.-มาเก๊า แต่ใช้เวลาอยู่ในมาเก๊าน้อยมาก เหตุผลคือหลังจากหาข้อมูลแล้ว ปรากฏว่ามีสถานที่ในจีนที่อยากจะไปหลายที่มาก และเมื่อต้องเสียค่าทำวีซ่าจีน 1,500.- จึงคิดว่าควรจะท่องเที่ยวในจีนให้คุ้มค่าหน่อย โดยเน้นการเดินทางด้วยตนเองไปตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการข้ามแดน จีน-มาเก๊า เพื่อเก็บประสบการณ์เดินทาง
ส่วนมาเก๊านั้น ไม่ต้องทำวีซ่าและยังสามารถเดินทางข้ามไปฮ่องกงได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าเช่นกัน เดิมมีแต่ทางเรือ แต่ขณะนี้มีสะพานยาวที่สุดในโลกได้เปิดแล้วเมื่อวันที่ 23/10/2561 จึงคิดว่าค่อยหาโอกาสเดินทาง มาเก๊า-ฮ่องกง ในโอกาสต่อไป (แต่คงอีกหลายปีกว่าจะกลับมาย่านนี้อีกครั้ง ส่วนฮ่องกงนั้นเคยเดินทางมาเที่ยวแล้วเมื่อ 3ปีที่แล้ว)
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- ซื้อตั๋วเครื่องบิน Airasia Big Sale ล่วงหน้า 1 ปี คือซื้อไว้ตั้งแต่ ตุลาคม 2560 ราคาไป-กลับประมาณ 2,600.-
- จองที่พัก ผ่าน Agoda และ Booking.com ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน
- ทำ Passport ใหม่ เพราะเล่มเก่าจะหมดอายุเหลือไม่ถึง 6 เดือน ถึงวันเดินทางกลับ
- ทำ VISA เข้าประเทศจีน ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
- เตรียมอ่านข้อมูลการเดินทาง ซื้อหนังสือ + Internet + Pantip(Special Thanks)
- ติดตั้ง Application Smartphone ที่ใช้ช่วยในการเดินทาง ใน เช่น แผนที่ offline , รถไฟฟ้า , รถไฟ , แปลภาษา
- ซื้อซิม One2Fly ลงทะเบียนซิม -ใส่ซิมแล้วเปิดเครื่อง 1 วันก่อนเดินทาง (ทาง จนท.บอกว่าใส่ซิมเปิดเครื่องซัก 1 ชม.ก่อนบินก็ได้) ตลอดการเดินทาง มาเก๊า-เซินเจิ้น-กวางโจว-จูไห่-มาเก๊า สามารถใช้งาน internet ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง line, FB และ Google)
- Check In เครื่องบิน เลือกที่นั่ง
- แลกเงิน CNY สำหรับใช้ในจีน และ HKD สำหรับใช้ในมาเก๊า สามารถใช้เงิน HKD ได้ แต่เขาจะทอนกลับเป็น MOP
*มีสรุปค่าใช้จ่ายตอนจบ อัตราแลกเปลี่ยน 4.3บาท/HKD และ 4.8บาท/CNY
**ก่อนอ่านโปรดทราบก่อนว่า เราจะเล่าเรื่องแบบเป็นการบันทึกการเดินทางไปเรื่อยอาจจะน้ำท่วมทุ่งซะหน่อย แต่จะมีสรุปสาระสำคัญจะมีคำว่า tip กำกับไว้
วันที่ 1 (11/10/2018) ออกเดินทางโดยเครื่องบินสายการบิน AirAsia-สนามบินมาเก๊า-ท่าเรือไทปา-ท่าเรือเชอโขว่-เซินเจิ้น
พร้อมที่สนามบินดอนเมือง ตี 5 สมาชิกครบ ออกเดินทาง ผ่านทางออก ผ่าน ตม. (ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศมาปีกว่า เพิ่งรู้ว่าคนไทย ผ่าน ตม.ไทย ไม่ต้องเขียนใบ ตม.6 แล้ว รู้สึกหน้าแตกมากตอนเดินเข้าแล้วยื่นใบตม.ด้วย จนท.บอกไม่ต้องใช้แล้ว 55) จากนั้นผ่านเครื่องตรวจสัมภาระ เราเดินเข้าเครื่อง Scan แบบที่เป็นเครื่อง Scan หมุนรอบตัว ก็ต้องถอดหมด ทั้งเข็มขัด และรองเท้า ส่วนเพื่อนผ่านเครื่องธรรมดา ก็เดินผ่านได้ปกติ ก็เลยงงว่า เครื่องที่ Scan รอบตัว นั้นเขาทดลองใช้หรือยังไง???
ถึงสนามบินมาเก๊า 10.20 ผ่าน ตม.มาเก๊า (ไม่ต้องเขียนใบตม. และ ตม.ไม่มีการปั้มลงบน Passport มีแต่กระดาษใบเล็กๆที่พิมพ์ข้อความ)
เนื่องจากเที่ยวเรือเที่ยวต่อไปที่จะข้ามไปเซินเจิ้น เป็น เวลา 10:45 เราจึงรีบเดิน แต่ก็ไม่ทัน คือเข้าใจผิดคิดว่าท่าเรือจะมีทางเชื่อมต่อกับสนามบินเลย แต่กลายเป็นว่าต้องเดินออกไปทางประตูทิศเหนือ ออกไปลานจอดรถ เดินผ่านถนน ไปยังท่าเรือ Macau Taipa Ferry Terminal 澳門氹仔 ประมาณ 700m.
ได้ตั๋วเรือเที่ยว 12:30 ค่าตั๋วเรือ Turbo Jet คนละ 250HKD เด็ก 1-6 ขวบ ครึ่งราคา แต่ลูกสาวอายุ 8 ขวบ จึงต้องเสียเต็มราคา ข้อมูลที่หามาแจ้งราคาเป็น CNY แต่เมื่อจะจ่ายเงินเขารับเป็น HKD จึงต้องจ่าย 250HKD/คน
(คือจะบอกว่าให้เตรียมเงิน HKD ให้เพียงพอ เพราะส่วนนี้เยอะอยู่)
ข้อมูลจาก Internet
ป้ายหน้า Counter
เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็ได้นั่งพัก และเดินดูภายในอาคารท่าเรือ อาหารมื้อแรกในจีนเป็นพวกขนมปัง และข้าวเหนียวหมูที่เตรียมไปเอง เนื่องจากที่ผ่านมา มีประสบการณ์ว่าเมื่อเดินทางไปต่างเมืองลงเครื่องแล้วจะงงอยู่ซักพักกว่าจะตั้งตัวได้ จึงต้องเตรียมอาหารมื้อแรกไปกินกันตายไว้ก่อน
เรือที่สามารถเดินทางได้จากท่าเรือไทปา มี 3 เจ้า คือ Turbo Jet , Cotai Jet และ Yuet Tung
เรือแล่นรอดใต้สะพานที่ยาวที่สุดในโลก (ขณะเดินทางยังไม่เปิดให้บริการ จะเปิดในวันที่ 23/10/2018)
ในห้องโดยสารมี VDO โปรโมท ท่าเรื่อเชอโขว่ด้วยดูใหญ่โตอลังการมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็ถึง Shekou Ferry Terminal (ท่าเรือเชอโขว่) 蛇口客运码头 เมื่อถึงก็พบกับเรือสำราญขนาดใหญ่จอดเทียบท่าอยู่ และท่าเรือก็ใหญ่โตมาก
ท่าเรือ Shekou (ไม่ได้ถ่ายรูปเรือสำราญ ที่เห็นในภาพเป็น Turbo Jet อีกลำ)
เมื่อเข้าท่าเรือก็ต้องผ่าน ตม.จีน ทีแรก จนท.ให้ไปใช้เครื่อง Scan นิ้ว Scan Passport แบบทำเอง แต่สุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงใช้วิธีเดิม คือเขียนใบ ตม.จีน และเดินเข้าช่องพบ จนท. Scan ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปที่หน้า Counter
หลังจากผ่าน ตม.ออกมาได้ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นทันที เพราะไม่รู้จะไปทางไหน เข้าเมืองอย่างไร เพราะคิดว่า(อีกแระ) จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย ก็คิดผิดถนัดอีกแล้ว มีพี่ Taxi จีนพยายามจะมาชวนให้ไป Taxi โดยเขาบอกว่าไปรถไฟฟ้าไม่ได้ และบอกราคาเข้าเมือง 200CNY แต่เราไม่ไป เดินวนไปมาอยู่ 2 รอบ จะถามใครก็รู้สึกวุ่นวายไปหมดเพราะคนจีนเดินทางกันเยอะมาก ถาม จนท.ก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ในที่สุดก็พบว่าต้องไปขึ้นรถ Shuttle Bus ชั้นล่างเพื่อไปต่อรถไฟฟ้า เข้าแถวจนถึงคิว ปรากฏว่ายังขึ้นรถไม่ได้เพราะ ค่ารถเพียงแค่ 1CNY เรายื่นแบงค์ 100 เขาไม่รับ และไม่สนใจ จะหาทางออกให้เรา จึงตไปถาม จนท.คนอื่น หาคนที่พอพูดอังกฤษได้ จึงได้ความว่าให้ขึ้นไปแลกที่ธนาคารด้านบนได้ เมื่อเข้าไป จนท.ธนาคาร ก็ให้แลกแต่โดยดี พร้อมกับถามยิ้มๆว่าจะไปขึ้น Shuttle Bus เหรอ เหมือนรู้ว่าจะแลกไปทำอะไร
Tip (สรุปเมื่อผ่านตม.ให้ลงไปชั้นล่าง ตามป้าย Shuttle Bus to Metro Station ขึ้น Suttle Bus ไปต่อรถไฟฟ้า ค่ารถ 1 CNY ถ้าไม่มีให้ปแลกที่ธนาคารชั้นบนก่อน)
เห็นตั้งแต่ที่นี่เลยว่าคนจีนส่วนใหญ่ใช้มือถือ หรือไม่ก็บัตรเงินสดจ่ายค่ารถ
เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า ก็ใช้เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ วิธีการซื้อก็คล้ายบ้านเรา ตั๋วจะเป็นชนิดแบบเหรียญพลาสติก แตะเข้า และหยอดคืนที่สถานีปลายทาง ตามแผน ไปสถานี Futian เพื่อจะไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปกวางโจวในวันที่ 3 ของการเดินทาง
Tip การเดินทางในเซินเจิ้น อาจจะใช้บัตรเงินสด Shenzhen Tong เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่สำหรับครั้งนี้ไม่ได้ใช้เนื่องจากอยู่ไม่นาน และ ไม่สะดวกตอนคืนบัตร (ข้อมูลหาได้ใน web)
สถานีรถไฟฟ้า Futian เป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูง ใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลวิกิพีเดีย) เมื่อไปถึงก็แวะทานอาหารบ่ายในสถานี สถานีก็ใหญ่สมคำร่ำลือ แต่ทว่าเมื่อจะซื้อตั๋วในอีก 2 วันข้างไม่อาจทำได้ จนท.บอกว่าซื้อได้เฉพาะวันนี้กับวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้มะได้ (ทามมายม่ายล่าย?? งงเหมือนกัน คิดเองว่าเขาคงอยากจะให้จองผ่านนายหน้า พวกหน้า Web หรือ Application Smart Phone แต่เท่าที่หาข้อมูลมา น่าจะจองที่สถานีได้ล่วงหน้า 28 วัน
อาหารมื้อแรก ในจีน ในศูนย์อาหารภายในสถานีใต้ดิน Futian
Tip สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าผ่าน web ได้ และ application เช่น China Train Booking ค่าธรรมเนียมประมาณ 12-15 CNY
จากนั้นเข้าพักโรงแรม Lee Garden ย่านตงเหมิน สถานี Shaibu (แต่ไม่แนะนำ รร.นี้นะ เพราะในห้องกลิ่นบุหรี่แรงมาก ลงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเราจองห้องไม่สูบบุหรี่ จะขอเปลี่ยนห้อง ก็ได้คำตอบว่าทุกห้องของ รร.นี้ เป็นห้องปลอดบุหรี่ ป๊าด!! กลิ่นแรงขนาดนี้บอกเป็นห้องปลอดบุหรี่ ?X$#@*! เฮ้อ เลยจำใจต้องพักไป ก่อนเข้าพักโรงแรมกต้องยื่น Passport ทุกคน และถ่ายรูปด้วย และ รร.จะเก็บเงินมัดจำ ( deposit) 200CNY โดยใช้บัตรเครดิตให้เขารูดไว้ และคืนให้เมื่อ Check Out
ตลอดเวลาที่เดินทางในจีน จะได้กลิ่นควันบุหรี่ตลอดเวลา คนที่นี่สูบบุหรี่กันมากจริงๆ โดยเฉพาะในห้องน้ำชาย อากาศไม่ระบายด้วย ก่อนเข้าต้องทำใจก่อนทุกครั้ง ทั้งห้องน้ำสาธารณะ และตามสถานที่ต่างๆ
พักผ่อนได้สักครู่ ก็ออกไป Walmart สาขาที่ใกล้กับ สถานี Grand Theatre Exit D ซื้อของกินกันนิดหน่อย
ตึก KK100 ที่มองเห็นได้ระหว่างทางไป Walmart
หลังจากนั้นก็กลับไปย่านตงเหมิน ถนนคนเดิน แต่วันนี้เป็นวันพฤหัส คนไม่เยอะมาก เดินซื้อของกินแปลกๆแต่ไม่รู้ชื่ออะไรเช่น ขนมแป้งห่อไส้กรอกมีชีสยืดๆ , ปลาหมึกเสียบไม้ ปิ้งลาดซอสเผ็ด(น่าจะหม่าล่า) , ปีกไก่ยัดไส้ข้าว
บรรยากาศร้านขายอาหาร ถนนตงเหมิน
ปลาหมึกย่างเสียบไม้ ซอสพริกหม่าล่า
22.00 กลับที่พัก พักผ่อน จบทริปวันแรกพร้อมกับการนวดขา และพบว่าการนวดขาด้วยน้ำมันหรือครีมนวดกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทากลิ่นบุกรี่ได้ 555
จบบันทึกการเดินทางสำหรับวันแรก จะต่อให้จบต่อไปครั
[CR] บันทึกการเดินทาง มาเก๊า-เซินเจิ้น-กวางโจว-จูไห่-มาเก๊า 6 วัน 11-16/10/2018
โดยวางแผนไว้ว่า นั่งเครื่องบินไปลงมาเก๊า – ต่อเรือเฟอร์รี่จากมาเก๊าไปท่าเรือเชอโขว่เข้าเซินเจิ้น - พักเซินเจิ้น 2 คืน - รถไฟความเร็วสูงไปกวางโจว - พักกวางโจว 2 คืน - รถไฟความเร็วสูงไปจูไห่ - พักจูไห่ 1 คืน - เดินทางกลับเข้ามาเก๊า – เครื่องบินกลับกรุงเทพ
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- ซื้อตั๋วเครื่องบิน Airasia Big Sale ล่วงหน้า 1 ปี คือซื้อไว้ตั้งแต่ ตุลาคม 2560 ราคาไป-กลับประมาณ 2,600.-
- จองที่พัก ผ่าน Agoda และ Booking.com ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน
- ทำ Passport ใหม่ เพราะเล่มเก่าจะหมดอายุเหลือไม่ถึง 6 เดือน ถึงวันเดินทางกลับ
- ทำ VISA เข้าประเทศจีน ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
- เตรียมอ่านข้อมูลการเดินทาง ซื้อหนังสือ + Internet + Pantip(Special Thanks)
- ติดตั้ง Application Smartphone ที่ใช้ช่วยในการเดินทาง ใน เช่น แผนที่ offline , รถไฟฟ้า , รถไฟ , แปลภาษา
- ซื้อซิม One2Fly ลงทะเบียนซิม -ใส่ซิมแล้วเปิดเครื่อง 1 วันก่อนเดินทาง (ทาง จนท.บอกว่าใส่ซิมเปิดเครื่องซัก 1 ชม.ก่อนบินก็ได้) ตลอดการเดินทาง มาเก๊า-เซินเจิ้น-กวางโจว-จูไห่-มาเก๊า สามารถใช้งาน internet ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง line, FB และ Google)
- Check In เครื่องบิน เลือกที่นั่ง
- แลกเงิน CNY สำหรับใช้ในจีน และ HKD สำหรับใช้ในมาเก๊า สามารถใช้เงิน HKD ได้ แต่เขาจะทอนกลับเป็น MOP
*มีสรุปค่าใช้จ่ายตอนจบ อัตราแลกเปลี่ยน 4.3บาท/HKD และ 4.8บาท/CNY
**ก่อนอ่านโปรดทราบก่อนว่า เราจะเล่าเรื่องแบบเป็นการบันทึกการเดินทางไปเรื่อยอาจจะน้ำท่วมทุ่งซะหน่อย แต่จะมีสรุปสาระสำคัญจะมีคำว่า tip กำกับไว้
วันที่ 1 (11/10/2018) ออกเดินทางโดยเครื่องบินสายการบิน AirAsia-สนามบินมาเก๊า-ท่าเรือไทปา-ท่าเรือเชอโขว่-เซินเจิ้น
พร้อมที่สนามบินดอนเมือง ตี 5 สมาชิกครบ ออกเดินทาง ผ่านทางออก ผ่าน ตม. (ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศมาปีกว่า เพิ่งรู้ว่าคนไทย ผ่าน ตม.ไทย ไม่ต้องเขียนใบ ตม.6 แล้ว รู้สึกหน้าแตกมากตอนเดินเข้าแล้วยื่นใบตม.ด้วย จนท.บอกไม่ต้องใช้แล้ว 55) จากนั้นผ่านเครื่องตรวจสัมภาระ เราเดินเข้าเครื่อง Scan แบบที่เป็นเครื่อง Scan หมุนรอบตัว ก็ต้องถอดหมด ทั้งเข็มขัด และรองเท้า ส่วนเพื่อนผ่านเครื่องธรรมดา ก็เดินผ่านได้ปกติ ก็เลยงงว่า เครื่องที่ Scan รอบตัว นั้นเขาทดลองใช้หรือยังไง???
ถึงสนามบินมาเก๊า 10.20 ผ่าน ตม.มาเก๊า (ไม่ต้องเขียนใบตม. และ ตม.ไม่มีการปั้มลงบน Passport มีแต่กระดาษใบเล็กๆที่พิมพ์ข้อความ)
เนื่องจากเที่ยวเรือเที่ยวต่อไปที่จะข้ามไปเซินเจิ้น เป็น เวลา 10:45 เราจึงรีบเดิน แต่ก็ไม่ทัน คือเข้าใจผิดคิดว่าท่าเรือจะมีทางเชื่อมต่อกับสนามบินเลย แต่กลายเป็นว่าต้องเดินออกไปทางประตูทิศเหนือ ออกไปลานจอดรถ เดินผ่านถนน ไปยังท่าเรือ Macau Taipa Ferry Terminal 澳門氹仔 ประมาณ 700m.
ได้ตั๋วเรือเที่ยว 12:30 ค่าตั๋วเรือ Turbo Jet คนละ 250HKD เด็ก 1-6 ขวบ ครึ่งราคา แต่ลูกสาวอายุ 8 ขวบ จึงต้องเสียเต็มราคา ข้อมูลที่หามาแจ้งราคาเป็น CNY แต่เมื่อจะจ่ายเงินเขารับเป็น HKD จึงต้องจ่าย 250HKD/คน
(คือจะบอกว่าให้เตรียมเงิน HKD ให้เพียงพอ เพราะส่วนนี้เยอะอยู่)
ข้อมูลจาก Internet
ป้ายหน้า Counter
เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็ได้นั่งพัก และเดินดูภายในอาคารท่าเรือ อาหารมื้อแรกในจีนเป็นพวกขนมปัง และข้าวเหนียวหมูที่เตรียมไปเอง เนื่องจากที่ผ่านมา มีประสบการณ์ว่าเมื่อเดินทางไปต่างเมืองลงเครื่องแล้วจะงงอยู่ซักพักกว่าจะตั้งตัวได้ จึงต้องเตรียมอาหารมื้อแรกไปกินกันตายไว้ก่อน
เรือที่สามารถเดินทางได้จากท่าเรือไทปา มี 3 เจ้า คือ Turbo Jet , Cotai Jet และ Yuet Tung
เรือแล่นรอดใต้สะพานที่ยาวที่สุดในโลก (ขณะเดินทางยังไม่เปิดให้บริการ จะเปิดในวันที่ 23/10/2018)
ในห้องโดยสารมี VDO โปรโมท ท่าเรื่อเชอโขว่ด้วยดูใหญ่โตอลังการมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็ถึง Shekou Ferry Terminal (ท่าเรือเชอโขว่) 蛇口客运码头 เมื่อถึงก็พบกับเรือสำราญขนาดใหญ่จอดเทียบท่าอยู่ และท่าเรือก็ใหญ่โตมาก
ท่าเรือ Shekou (ไม่ได้ถ่ายรูปเรือสำราญ ที่เห็นในภาพเป็น Turbo Jet อีกลำ)
เมื่อเข้าท่าเรือก็ต้องผ่าน ตม.จีน ทีแรก จนท.ให้ไปใช้เครื่อง Scan นิ้ว Scan Passport แบบทำเอง แต่สุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงใช้วิธีเดิม คือเขียนใบ ตม.จีน และเดินเข้าช่องพบ จนท. Scan ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปที่หน้า Counter
หลังจากผ่าน ตม.ออกมาได้ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นทันที เพราะไม่รู้จะไปทางไหน เข้าเมืองอย่างไร เพราะคิดว่า(อีกแระ) จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย ก็คิดผิดถนัดอีกแล้ว มีพี่ Taxi จีนพยายามจะมาชวนให้ไป Taxi โดยเขาบอกว่าไปรถไฟฟ้าไม่ได้ และบอกราคาเข้าเมือง 200CNY แต่เราไม่ไป เดินวนไปมาอยู่ 2 รอบ จะถามใครก็รู้สึกวุ่นวายไปหมดเพราะคนจีนเดินทางกันเยอะมาก ถาม จนท.ก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ในที่สุดก็พบว่าต้องไปขึ้นรถ Shuttle Bus ชั้นล่างเพื่อไปต่อรถไฟฟ้า เข้าแถวจนถึงคิว ปรากฏว่ายังขึ้นรถไม่ได้เพราะ ค่ารถเพียงแค่ 1CNY เรายื่นแบงค์ 100 เขาไม่รับ และไม่สนใจ จะหาทางออกให้เรา จึงตไปถาม จนท.คนอื่น หาคนที่พอพูดอังกฤษได้ จึงได้ความว่าให้ขึ้นไปแลกที่ธนาคารด้านบนได้ เมื่อเข้าไป จนท.ธนาคาร ก็ให้แลกแต่โดยดี พร้อมกับถามยิ้มๆว่าจะไปขึ้น Shuttle Bus เหรอ เหมือนรู้ว่าจะแลกไปทำอะไร
Tip (สรุปเมื่อผ่านตม.ให้ลงไปชั้นล่าง ตามป้าย Shuttle Bus to Metro Station ขึ้น Suttle Bus ไปต่อรถไฟฟ้า ค่ารถ 1 CNY ถ้าไม่มีให้ปแลกที่ธนาคารชั้นบนก่อน)
เห็นตั้งแต่ที่นี่เลยว่าคนจีนส่วนใหญ่ใช้มือถือ หรือไม่ก็บัตรเงินสดจ่ายค่ารถ
เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า ก็ใช้เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ วิธีการซื้อก็คล้ายบ้านเรา ตั๋วจะเป็นชนิดแบบเหรียญพลาสติก แตะเข้า และหยอดคืนที่สถานีปลายทาง ตามแผน ไปสถานี Futian เพื่อจะไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปกวางโจวในวันที่ 3 ของการเดินทาง
Tip การเดินทางในเซินเจิ้น อาจจะใช้บัตรเงินสด Shenzhen Tong เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่สำหรับครั้งนี้ไม่ได้ใช้เนื่องจากอยู่ไม่นาน และ ไม่สะดวกตอนคืนบัตร (ข้อมูลหาได้ใน web)
สถานีรถไฟฟ้า Futian เป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูง ใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลวิกิพีเดีย) เมื่อไปถึงก็แวะทานอาหารบ่ายในสถานี สถานีก็ใหญ่สมคำร่ำลือ แต่ทว่าเมื่อจะซื้อตั๋วในอีก 2 วันข้างไม่อาจทำได้ จนท.บอกว่าซื้อได้เฉพาะวันนี้กับวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้มะได้ (ทามมายม่ายล่าย?? งงเหมือนกัน คิดเองว่าเขาคงอยากจะให้จองผ่านนายหน้า พวกหน้า Web หรือ Application Smart Phone แต่เท่าที่หาข้อมูลมา น่าจะจองที่สถานีได้ล่วงหน้า 28 วัน
อาหารมื้อแรก ในจีน ในศูนย์อาหารภายในสถานีใต้ดิน Futian
Tip สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าผ่าน web ได้ และ application เช่น China Train Booking ค่าธรรมเนียมประมาณ 12-15 CNY
จากนั้นเข้าพักโรงแรม Lee Garden ย่านตงเหมิน สถานี Shaibu (แต่ไม่แนะนำ รร.นี้นะ เพราะในห้องกลิ่นบุหรี่แรงมาก ลงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเราจองห้องไม่สูบบุหรี่ จะขอเปลี่ยนห้อง ก็ได้คำตอบว่าทุกห้องของ รร.นี้ เป็นห้องปลอดบุหรี่ ป๊าด!! กลิ่นแรงขนาดนี้บอกเป็นห้องปลอดบุหรี่ ?X$#@*! เฮ้อ เลยจำใจต้องพักไป ก่อนเข้าพักโรงแรมกต้องยื่น Passport ทุกคน และถ่ายรูปด้วย และ รร.จะเก็บเงินมัดจำ ( deposit) 200CNY โดยใช้บัตรเครดิตให้เขารูดไว้ และคืนให้เมื่อ Check Out
ตลอดเวลาที่เดินทางในจีน จะได้กลิ่นควันบุหรี่ตลอดเวลา คนที่นี่สูบบุหรี่กันมากจริงๆ โดยเฉพาะในห้องน้ำชาย อากาศไม่ระบายด้วย ก่อนเข้าต้องทำใจก่อนทุกครั้ง ทั้งห้องน้ำสาธารณะ และตามสถานที่ต่างๆ
พักผ่อนได้สักครู่ ก็ออกไป Walmart สาขาที่ใกล้กับ สถานี Grand Theatre Exit D ซื้อของกินกันนิดหน่อย
ตึก KK100 ที่มองเห็นได้ระหว่างทางไป Walmart
หลังจากนั้นก็กลับไปย่านตงเหมิน ถนนคนเดิน แต่วันนี้เป็นวันพฤหัส คนไม่เยอะมาก เดินซื้อของกินแปลกๆแต่ไม่รู้ชื่ออะไรเช่น ขนมแป้งห่อไส้กรอกมีชีสยืดๆ , ปลาหมึกเสียบไม้ ปิ้งลาดซอสเผ็ด(น่าจะหม่าล่า) , ปีกไก่ยัดไส้ข้าว
บรรยากาศร้านขายอาหาร ถนนตงเหมิน
ปลาหมึกย่างเสียบไม้ ซอสพริกหม่าล่า
22.00 กลับที่พัก พักผ่อน จบทริปวันแรกพร้อมกับการนวดขา และพบว่าการนวดขาด้วยน้ำมันหรือครีมนวดกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทากลิ่นบุกรี่ได้ 555
จบบันทึกการเดินทางสำหรับวันแรก จะต่อให้จบต่อไปครั
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้