InspireMyJourney in Cape Town เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

เราออกเดินทางกับไดอารี่เล่มเล็กอีกเช่นเคย ครั้งนี้มาทางตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา เยือนเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขากับทะเลอย่าง เคปทาวน์ นับเป็นเวลาหลายร้อยปีที่มีการขุดพบเพชรและทอง จนได้รับการขนานนามว่า ‘The Gateway to Africa’ แต่สำหรับเรารู้จักเมืองนี้ในนาม Dream Destination ของนักเดินทางทั่วโลก
[ข้อมูลเดินทางเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้]

ช่วงเวลา : Winter season (September)
   เวลาเตรียมตัวเราน้อยมาก เวลาหาข้อมูลก็น้อยเช่นกัน กว่าจะรู้ว่ามาท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ก็ตอนที่เท้าแตะถึงสนามบินนี่แหละ
   หาซื้อเสื้อหนาวมือสองที่ร้าน Clothing Shop แถวถนน Adderley ราคาหลักร้อยบาทเอง
ภาษา (Languages) : ภาษาที่ใช้ค่อนข้างหลากหลาย แต่ภาษาที่ใช้เป็นทางการ คือ English และ German

วีซ่า (Visa) : Free Visa 30 Days

สกุลเงิน (Currency) : Rand แบงก์ 10 , 20 , 50 , 100 , 200 เหรียญ 1 , 2 , 5 Rand  เหรียญย่อย 10c , 50c

Time Zone : ช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง

Emergency contact : สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพริทิเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ (ประเทศที่ดูแล: แอฟริกาใต้ มอริเชียส ซิมบับเว เลโซโท โมซัมบิก แซมเบีย บอตสวานา แองโกลา สวาซิแลนด์ นามิเบีย และมาลาวี)
428 Pretorius/Hill Street Arcadia, Pretoria 0083 P.O. Box 12080 Hatfield, Pretoria 0028
โทรศัพท์: +2712 342-4600, 342-5470    โทรสาร: +2712 342-4805   
อีเมล์: info@thaiembassy.co.za     เว็บไซต์: http://www.thaiembassy.co.za/
เวลาทำการ: Monday - Friday 9.00 - 12.00 / 14.00 - 17.00 hrs.   
Visa and Consular section: 9.00 - 12.00 / 14.00 - 16.00 hrs.   
(ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ http://sameaf.mfa.go.th/th/embassies/royal-thai-embassy-consulate/africa/)

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเดินทาง : จาก TravelCentre IATA ให้คำแนะนำตั้งแต่เรื่อง Passport , Visa จนถึงเรื่องสุขภาพ
กรอกข้อมูลที่นี่ https://www.iatatravelcentre.com/

การเดินทาง :
   ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) 9:10 สายการบิน Oman air ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง ถึงสนามบินมัสกัต(Muscat) ประเทศโอมาน(Oman)12:00 หยุดเปลี่ยนเครื่องที่นี่ 3 ชั่วโมง ภายในอาคารของสนามบินมีขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีค่ะ
   ออกจากสนามบินมัสกัต(Muscat) ประเทศโอมาน(Oman) 14:55 ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมง ถึงสนามบินไนโรบี(Nairobi) ประเทศเคนย่า(Kenya) 19:00
   เรามีเวลาหยุดเปลี่ยนเครื่อง 12 ชั่วโมง ถ้าใครสนใจนอนสนามบินไนโรบี อ่านกระทู้นี้ได้ค่ะ https://ppantip.com/topic/38122940
   ออกจากสนามบินไนโรบี(Nairobi) ประเทศเคนย่า(Kenya) 7:20 สายการบิน Kenya airways ใช้เวลาบิน 7 ชั่วโมง แวะเติมเชื้อเพลิงที่สนามบินลิฟวิงสโตน(Livingstone) ประเทศแซมเบีย(Zambia) และถึงสนามบินเคปทาวน์(Cape Town) ประเทศแอฟริกาใต้(South Africa) 13:35
   หลังเติมเชื้อเพลิง กัปตันหญิงพาบินชมความอลังการของราชินีน้ำตกวิกตอเรีย ที่มีความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ประเทศ Zambia และประเทศ Zimbabwe จากมุมนี้เรามองเห็นรุ้งกินน้ำพาดผ่านละอองน้ำฟุ้งๆที่ลอยขึ้นฟ้า สวยจนขนลุก ผู้โดยสารบนเครื่องปรบมือกันใหญ่

การเดินทางภายในเมือง : ก่อนแพลนที่เที่ยว ที่พัก ต้องศึกษาแต่ละโซนของเมืองให้ดีก่อน จากข้อมูล Cape Town Safety  https://www.capetownsafety.com/cape-town-safety-map/ แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ Safe , Low Risk , Moderate Risk , High Risk และ Extreme Risk โซนไหนที่มีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี จะมีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อ Security สีเขียว ยืนเป็นจุดเต็มสองข้างถนน

  เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเคปทาวน์
1.ติดต่อบริษัท Shutter service บริเวณหน้าบันไดเลื่อน หรือจากทางที่พัก
2.ใช้ App Uber เรียกมารับที่สนามบิน
3.แนะนำ Shuttle Bus ราคาถูกสุด ซื้อตั๋ว MyCiti airport transport service นั่งสาย A01 รถออกจากสนามบินเข้าเมือง(City Centre) ทุก 30 นาที (ข้อมูลที่นี่ http://capetown-internationalairport.co.za/airport/airport-transfers.php)
   ขึ้นขนส่งสาธารณะในเคปทาวน์ช่วยให้ค่าใช้จ่ายทริปประหยัดไปได้เยอะ สามารถซื้อบัตร MyCiti ตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เราซื้อที่ร้าน KWIKSPAR บนถนน Kloof ติดกับที่พัก เติมเงินในบัตรขั้นต่ำ 35 Rand แล้วใช้งานได้เลย
   โหลดแผนที่และตารางเวลา MyCiti ที่นี่ MyCiTi | Cape Town Integrated Rapid Transit (IRT) systemhttps://myciti.org.za › ...

  เราลองนั่งรถไฟจาก Cape Town ไป Muizenberg ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ หลายคนในที่พักนิยมเช่ารถขับเองมากกว่า
   ตั๋วแบบ MetroPlus(ชั้นพิเศษ) และ Metro(ชั้นธรรมดา) ต่างกันแค่ที่นั่ง ในชั้นธรรมดาจะเป็นที่นั่งยาวๆสองฝั่ง โดยเราซื้อตั๋ว MetroPlus ราคาแค่ 13.50 Rand เท่านั้น
   ขาไป ผู้โดยสารน้อย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจบนรถไฟตลอด บรรยากาศดี นั่งรับลมธรรมชาติตลอดทาง
   ขากลับ เหมือนหนังคนละม้วน ผู้โดยสารขึ้นกันมาเต็มรถ ไม่มีแยกชั้นตั๋ว ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจ ดื่มแอลกอฮอล์บนรถ และคนที่นั่งเบาะหลังเราโดนกระชากโทรศัพท์ต่อหน้าต่อตา ส่วนแผ่นกระดาษสีขาวเล็กๆที่แปะรอบขบวนคือโฆษณาคลินิกทำแท้ง

ที่พัก (Accommodations) : The Backpack hostel ห้องแบบ 8 Bed Mixed Dorm Shared Bathroom ราคา 270-340 Rand ต่อคืน รวมอาหารเช้า รับบัตรเครดิต มีค่า Deposite กุญแจอีก 50 Rand โดยจะคืนให้ตอน Check out
   เราส่งเมล์ให้ทางที่พักติดต่อ คุณ MONIEB ADAMS ไปรับที่สนามบิน ขับรถถึงที่พักใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือถ้าใครจะมาที่พักด้วย MyCiti ให้นั่งจากป้าย Airport >> ลงป้ายสถานีหลัก Civic Certre >> ต่อมาลงป้าย Lower Kloof โดยรถสาย 107 (เส้นทางสีม่วง) อีกทีค่ะ
  ถ้าเที่ยวบินเช้าตรู่หรือดึกมาก แนะนำให้ติดต่อบริษัท Shutter ผ่านที่พัก ราคา 220-280 Rand ต่อเที่ยว
  เราว่าที่นี่เป็นที่พักที่วิวสวย สะดวกสบาย ราคาประหยัด และปลอดภัยมาก เราเริ่มแพลนที่เที่ยวเมื่อมาถึงที่พัก ยังไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน Staff ให้คำแนะนำดีมาก สนใจอยากไปทริปไหน Staff ก็โทรจองให้เลยค่ะ
  วิวหลังที่พักติดกับ Table Mountain มีกล้อง CCTV ติดทุกมุม มีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้าอีก ที่ประทับใจคือ Staff น่ารักมาก นั่งห้องนั่งเล่นก็คอยเปิดฮีทเตอร์ให้เอาผ้าห่มอุ่นมาเพิ่มให้ตอนนอนอีก เราเลยเลือกนอนที่นี่ทุกคืนไม่ไปไหนเลยค่ะ ฮ่า...
  ที่พักแบ่งเป็นหลายส่วน แผนกต้อนรับ ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ตู้เซฟ สวนพักผ่อน และสระว่ายน้ำ
  Supermarket ก็อยู่ไม่ไกลจากนี้เลย สะดวกในการซื้อของมาทำมื้อเย็นทานเอง
  เที่ยวแอฟริกา ไม่ว่าที่ไหนก็ต้องช่วยกันประหยัดน้ำนะคะ ช่วง Extreme water ก็แปะข้อความหน้าห้องน้ำกันไปเลย ‘If it is yellow let it mellow’ ‘If it is brown flush it down’ สุดของจริง

   เรื่องปลั๊กที่เราเตรียมไปจากไทยก็ใช้ได้ ไม่ต้องซื้อปลั๊กสามขาที่โน่นเพิ่ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่