- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มะละกา(Malacca or Melaka) ดินแดนมรดกโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหพันธรัฐมาเลเซีย
หรือสมัยเรียนมัธยมในวิชาสังคมฯ เราจะได้ยินคำว่า "ช่องแคบมะละกา" นั่นแหละครับที่นี่นั่นเอง!!
และด้วยความที่ในสมัยก่อนตรงนี้เคยเป็นเมืองท่า จึงส่งผลให้อาคารบ้านเรือนของรัฐมะละกา
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานหลากหลาย ทั้งแบบโปรตุเกส, ดัตช์, และมลายู
ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้เราต้องมาครับ...แค่คิดก็สนุกและมีเสน่ห์เหลือเกิน!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Photo by : Aukkanai Pimkoh / Pattara Chorngtawan
Device : NikonD3100 (AF-S 18-135mm.DX) / iPhone6s
Place : Melaka l Kuala Lumpur l Putrajaya, Malaysia
Date : 20-22 October 2018
Software : Adobe Photoshop Lightroom / Adobe Photoshop
มะละกา(Malacca or Melaka) เคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตกกว่า 500 ปี
จึงมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและมีบรรยากาศที่ดูแปลกตา เพราะถูกผสมผสานของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม
ในสมัยนั้น มะละกาได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกบนช่องแคบมะละกาอีกด้วย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การเดินทางมาท่องเที่ยวยังรัฐมะละกา สหพันธรัฐมาเลเซียสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ
เพราะมีเที่ยวบินหลายภูมิภาคจากประเทศไทย สำหรับทริป "มะละกาดินแดนมรดกโลกฯ" ของเราครั้งนี้!!
ต้องขอขอบคุณสายการบินแอร์เอเชีย “ใครใครก็บินได้” #FlyWithAirAsia #AirAsiaTravels ครับ
ที่พาผมเดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ผมออกเดินทางจากบ้านมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
เวลา 04.30 น. ครับ บินไฟล์ทแรกเลยครับ Departure : 07.05 am. / Arrival : 10.15 am.
สำหรับสายการบินแอร์เอเชียเปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ(ดอนเมือง) - กัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย
เปิดให้บริการทุกวันบินตรง ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ลำใหม่ ที่จะพาผู้เราบินลัดฟ้าสู่ทุกจุดหมาย
ที่ต้องการโดยสวัสดิภาพด้วยชั้นโดยสารพรีเมี่ยมอย่าง Premium Flex และชั้นโดยสารแบบประหยัดแพ็กสุดคุ้ม
ใครที่สนใจจะใช้บริการนะครับสามารถสำรองบัตรโดยสารผ่าน
https://www.airasia.com/th/th/home.page
หรือ AirAsia Call Center (+66)2 515 9999 และตัวแทนจำหน่าย AirAsia Agents ได้เลยครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Let's Go พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ "เดินทางต่อ ไม่รอแล้วนะ" หลังจากผ่านพิธีการตรวจฯ
เราก็มารอกันที่ Gate ครับ พร้อมออกเดินทางกันในเวลา 07.05 น. ตรงเวลาเป๊ะเลยครับ!!
บินเช้าขนาดนี้ก็คงไม่พลาดครับที่จองเมนูมื้ออาหารเช้ามาด้วยเลยครับ ผมจองมาก่อนผ่าน My Booking
บนหน้าเว็บไซต์ครับ ราคาดีมากเลยครับ ผมจองผัดกะเพราไก่ครับ, น้ำดื่ม, และขนมอื่นๆ อีกครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เวลานี้ก็ประมาณ 10.15 น. เรามาถึงแล้วครับยังสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ สำหรับ AirAsia จะจอดที่ KLIA2 ครับ
ไปกันต่อเลยครับ!! เราลงไปยังชั้นที่มีทั้งรถบัส, รถแท๊กซี่, และรถที่เชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆ ครับ เพื่อต่อรถไปมะละกาครับ
นี่ครับ!! รถ Coach ที่จะพาเรามุ่งหน้าสู่ "มะละกาดินแดนมรดกโลกแห่งเอเชีย"
ราคา 21+ ริงกิตครับ (ประมาณ 171+ บาท.-) ครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าครับ
ไปครับ!! ขึ้นรถกันครับ บนรถสะดวกสบายและสะอาดมากครับเป็นรถปรับที่นั่งนอนครับ ที่นั่งกว้างมากๆ ครับ
เส้นทางที่รถวิ่งไประหว่างทางผมก็ถ่ายภาพมาฝากครับ (ด่านเก็บค่าทางด่วน) ครับ
และแล้วก็มาถึงแล้วครับ!! สถานีรถบัสสาธาธารณะของมะละกา (Melaka Sentral) เวลานี้ก็บ่ายกว่าๆ ครับ
หิวแล้วครับ!! ในสถานีฯ มีร้านอาหารให้เลือกมากมายครับ พวกเราเลือกที่ง่ายและสะดวกครับ
MC Donald's เพราะจะต้องนั่งรถจากที่นี่ต่อไปยังในตัวเมืองมะละกาอีกครับ
มีร้านค้ามากมายเลยครับ ร้านเสื้อผ้า, ร้านอาหารท้องถิ่น, ร้านขายอุปกรณ์มือถือ ฯลฯ
อิ่มท้องแล้วก็ไปกันต่อครับ!! ขึ้นรถประจำทางไปยังย่านท่องเที่ยวเมืองมะละกาให้มาขึ้นที่ ป้ายเบอร์ 17 ครับ
รถจะวิ่งไปลงที่หน้าโบสถ์ฯ ด้านหน้าตึกแดงของ Christ Church ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองมะละกาเลยครับ
นักท่องเที่ยวเยอะอยู่ครับหลายเชื้อชาติเลย เมืองมะละกาเป็นเมืองที่ต้องตั้งใจไปครับไม่ใช่เมืองทางผ่าน
ดังนั้นการเดินทางอาจจะเยอะแยะมากมายหลายต่อครับ แต่รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอนครับ!!
สำหรับชื่อของโรงแรมที่ต่อท้ายด้วย Jonker Wing และ Garden Wing คือแบ่งตามชื่อถนน
และย่านที่อยู่ตรงนั้นครับ ซึ่ง Garden Wing ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของ Jonker Wing ครับอยู่ริมน้ำครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์หลักของโรงแรมครับ :
http://www.therucksackgroup.com/caratel/
พอก้าวเข้ามารู้สึกว้าว!! มากๆ ครับ ตกแต่งได้เป็นแบบ Street มากๆ ครับ
ไปครับ!! ไปดูห้องพักกันครับ และเอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บด้วยครับ
เตียงนอนสามารถนอนได้ 2 คนสบายๆ เลยครับ
ห้องพักตกแต่งได้ Modern เรียบง่าย สะอาดตามากๆ ครับ ชอบมากๆ ครับ หลังจากเก็บกระเป๋าสัมภาระ
ล้างหน้าให้สดชื่นซะหน่อย!! เราก็พร้อมแล้วครับที่จะออกไปเดินชมเมืองมรดกโลกกันครับ เวลานี้ก็ 14.30 น. ครับ
นี่เลยครับสำหรับสถานที่แรกใจกลางเมืองมะละกาซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พักเราด้วยครับ!! โบสถ์แดงแห่งมะละกา
Christ Church, Melaka โบสถ์สีแดงแบบดัชท์ประยุกต์สร้างด้วยอิฐสีชมพูจากฮอลแลนด์มาก่อสร้างและเชื่อมด้วยปูนสีแดง
ในปี ค.ศ. 1650 ใช้สำหรับเป็นสถานที่พักของผู้ว่าการฯ และคณะเจ้าหน้าที่ชาวดัชท์ ด้านหน้าโบสถ์จะมีลานน้ำพุ
ไปกันต่อครับ!!เดินท่องเที่ยวตามแผนที่ของเมืองมะละกาเลยครับ!!
ส่วนด้าหลังของโบสถ์จะเป็นเนินเขาเดินขึ้นไปยัง St.Paul's Church (โบสถ์เซนต์ปอล)
ระหว่างทางที่เราจะเดินขึ้นไปยัง St.Paul's Church (โบสถ์เซนต์ปอล) ครับ
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ทำเอาเหนื่อยเหมือนกันนะครับ แนะนำเลยพกน้ำ, พกร่มกันแดด, ยาดมไปด้วยครับ
แวะถ่ายภาพระหว่างทางซะหน่อยครับ จะได้พักไปด้วย เหนื่อยเอาเรื่องครับ
เย้!! ถึงแล้วครับ St.Paul's Church (โบสถ์เซนต์ปอล) สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเนิน St. Paul’s Hill
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยกัปตันเรือชาวโปรตุเกส นามว่า ดอร์เต้ โคเอลโฮ และใช้ชื่อโบสถ์ว่า “Nosa Senhora”
หรือ Our Lady of the Hill ด้วยความตั้งใจให้เป็นโบสถ์ของชาวโปรตุเกสที่ใหญ่ที่สุดในมะละกา
ในปี ค.ศ. 1641 เมื่อครั้งที่ชาวดัชท์เข้ายึดครองได้เปลี่ยนชื่อโบสถ์แห่งนี้เป็น St. Paul’s Church
เพื่อใช้โบสถ์แห่งนี้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกันชาวดัชท์ได้สร้างโบสถ์แดงแห่งมะละกา
“Christ Church Melaka” ให้เป็นโบสถ์ของชาวดัชท์ หลังจากนั้นโบสถ์เซนต์ปอลก็ไม่ได้ใช้
ในการประกอบพิธีทางศาสนาอีกและเปลี่ยนโบสถ์เซนต์ปอลเป็นสุสานฝั่งศพของบุคคลสำคัญ
[CR] "มะละกาดินแดนมรดกโลกแห่งเอเชีย" เยือนเมืองเอกตอนใต้แห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย
มะละกา(Malacca or Melaka) ดินแดนมรดกโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหพันธรัฐมาเลเซีย
หรือสมัยเรียนมัธยมในวิชาสังคมฯ เราจะได้ยินคำว่า "ช่องแคบมะละกา" นั่นแหละครับที่นี่นั่นเอง!!
และด้วยความที่ในสมัยก่อนตรงนี้เคยเป็นเมืองท่า จึงส่งผลให้อาคารบ้านเรือนของรัฐมะละกา
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานหลากหลาย ทั้งแบบโปรตุเกส, ดัตช์, และมลายู
ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้เราต้องมาครับ...แค่คิดก็สนุกและมีเสน่ห์เหลือเกิน!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Photo by : Aukkanai Pimkoh / Pattara Chorngtawan
Device : NikonD3100 (AF-S 18-135mm.DX) / iPhone6s
Place : Melaka l Kuala Lumpur l Putrajaya, Malaysia
Date : 20-22 October 2018
Software : Adobe Photoshop Lightroom / Adobe Photoshop
จึงมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและมีบรรยากาศที่ดูแปลกตา เพราะถูกผสมผสานของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม
ในสมัยนั้น มะละกาได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกบนช่องแคบมะละกาอีกด้วย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การเดินทางมาท่องเที่ยวยังรัฐมะละกา สหพันธรัฐมาเลเซียสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ
เพราะมีเที่ยวบินหลายภูมิภาคจากประเทศไทย สำหรับทริป "มะละกาดินแดนมรดกโลกฯ" ของเราครั้งนี้!!
ต้องขอขอบคุณสายการบินแอร์เอเชีย “ใครใครก็บินได้” #FlyWithAirAsia #AirAsiaTravels ครับ
ที่พาผมเดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ผมออกเดินทางจากบ้านมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
เวลา 04.30 น. ครับ บินไฟล์ทแรกเลยครับ Departure : 07.05 am. / Arrival : 10.15 am.
เปิดให้บริการทุกวันบินตรง ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ลำใหม่ ที่จะพาผู้เราบินลัดฟ้าสู่ทุกจุดหมาย
ที่ต้องการโดยสวัสดิภาพด้วยชั้นโดยสารพรีเมี่ยมอย่าง Premium Flex และชั้นโดยสารแบบประหยัดแพ็กสุดคุ้ม
ใครที่สนใจจะใช้บริการนะครับสามารถสำรองบัตรโดยสารผ่าน https://www.airasia.com/th/th/home.page
หรือ AirAsia Call Center (+66)2 515 9999 และตัวแทนจำหน่าย AirAsia Agents ได้เลยครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Let's Go พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ "เดินทางต่อ ไม่รอแล้วนะ" หลังจากผ่านพิธีการตรวจฯ
เราก็มารอกันที่ Gate ครับ พร้อมออกเดินทางกันในเวลา 07.05 น. ตรงเวลาเป๊ะเลยครับ!!
บนหน้าเว็บไซต์ครับ ราคาดีมากเลยครับ ผมจองผัดกะเพราไก่ครับ, น้ำดื่ม, และขนมอื่นๆ อีกครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เวลานี้ก็ประมาณ 10.15 น. เรามาถึงแล้วครับยังสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ สำหรับ AirAsia จะจอดที่ KLIA2 ครับ
ไปกันต่อเลยครับ!! เราลงไปยังชั้นที่มีทั้งรถบัส, รถแท๊กซี่, และรถที่เชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆ ครับ เพื่อต่อรถไปมะละกาครับ
ราคา 21+ ริงกิตครับ (ประมาณ 171+ บาท.-) ครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าครับ
หิวแล้วครับ!! ในสถานีฯ มีร้านอาหารให้เลือกมากมายครับ พวกเราเลือกที่ง่ายและสะดวกครับ
MC Donald's เพราะจะต้องนั่งรถจากที่นี่ต่อไปยังในตัวเมืองมะละกาอีกครับ
รถจะวิ่งไปลงที่หน้าโบสถ์ฯ ด้านหน้าตึกแดงของ Christ Church ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองมะละกาเลยครับ
ดังนั้นการเดินทางอาจจะเยอะแยะมากมายหลายต่อครับ แต่รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอนครับ!!
ด้วยความโชคดีครับที่หาข้อมูลการท่องเที่ยวไว้แล้วโรงแรมที่พักของเราอยู่ใกล้ๆ ตรงนี้เลยครับ ไป Check-in กันก่อนครับ
สำหรับโรงแรมที่พักของเราในทริปครั้งนี้ The Rucksack Caratel - Jonker Wing ครับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ
ใครที่มามะละกา เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ครับเพราะเป็นจุดเชื่อมต่อหลายๆ สถานที่
ที่เราสามารถเดินเท้าท่องเที่ยวชมเมืองได้อย่างสนุกเลยครับ เราจองโรงแรมผ่าน Agoda มาครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูตามลิงค์นี้ได้เลยครับ : https://www.agoda.com/th-th/the-rucksack-caratel-jonker-wing/hotel/malacca-my.html?checkin=2018-11-06&los=1&adults=1&rooms=1&cid=1732630&tag=1dd46ad8-236b-f41e-1ee9-69a0ef856286&searchrequestid=f26fb705-65cf-4532-acf5-daa55a1d080b&tspTypes=1&tabbed=true
และย่านที่อยู่ตรงนั้นครับ ซึ่ง Garden Wing ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของ Jonker Wing ครับอยู่ริมน้ำครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์หลักของโรงแรมครับ : http://www.therucksackgroup.com/caratel/
ล้างหน้าให้สดชื่นซะหน่อย!! เราก็พร้อมแล้วครับที่จะออกไปเดินชมเมืองมรดกโลกกันครับ เวลานี้ก็ 14.30 น. ครับ
Christ Church, Melaka โบสถ์สีแดงแบบดัชท์ประยุกต์สร้างด้วยอิฐสีชมพูจากฮอลแลนด์มาก่อสร้างและเชื่อมด้วยปูนสีแดง
ในปี ค.ศ. 1650 ใช้สำหรับเป็นสถานที่พักของผู้ว่าการฯ และคณะเจ้าหน้าที่ชาวดัชท์ ด้านหน้าโบสถ์จะมีลานน้ำพุ
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยกัปตันเรือชาวโปรตุเกส นามว่า ดอร์เต้ โคเอลโฮ และใช้ชื่อโบสถ์ว่า “Nosa Senhora”
หรือ Our Lady of the Hill ด้วยความตั้งใจให้เป็นโบสถ์ของชาวโปรตุเกสที่ใหญ่ที่สุดในมะละกา
เพื่อใช้โบสถ์แห่งนี้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกันชาวดัชท์ได้สร้างโบสถ์แดงแห่งมะละกา
“Christ Church Melaka” ให้เป็นโบสถ์ของชาวดัชท์ หลังจากนั้นโบสถ์เซนต์ปอลก็ไม่ได้ใช้
ในการประกอบพิธีทางศาสนาอีกและเปลี่ยนโบสถ์เซนต์ปอลเป็นสุสานฝั่งศพของบุคคลสำคัญ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น