© BBC
สวัสดีค่ะทุกคน
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูรายการโทรทัศน์จากต่างประเทศ เราไปเจอรายการๆหนึ่งที่น่าสนใจอยากเล่าสู่กันฟังและเราคิดว่าน่าจะมาทำเวอร์ชั่นไทยได้
รายการที่ว่าคือ
All Together Now รายการประกวดร้องเพลงรูปแบบใหม่จากยูเค ซึ่งเราเชื่อว่าอีกไม่นานคงได้ทำเวอร์ชั่นไทยแน่นอน เพราะรายการนี้มีบางประเทศสนใจซื้อลิขสิทธิ์ทำเป็นเวอร์ชั่นท้องถิ่นแล้ว ทีนี้มาดูรูปแบบรายการนี้และเหตุผลว่าทำไมถึงอยากให้เอามาทำในเวอร์ชั่นไทย และถ้าไทยจะทำรายการนี้ต้องทำการบ้านอย่างไรให้รายการนี้ประสบความสำเร็จ
ข้อมูลของรายการนี้
รายการ All Together Now ผลิตรายการโดย Remarkable ในเครือ EndomolShine UK (บริษัทลูกในเครือ EndomolShine จากเนเธอร์แลนด์) ออกอากาศทางช่อง BBC One โดยทำซีซั่นแรก มีจำนวน 6 ตอน ออกอากาศทุกวันเสาร์ 1 ทุ่ม 15 นาที ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. - 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ดำเนินรายการโดย Rob Beckett นักแสดงตลกและพิธีกร และ Geri Horner แห่งวง Spice Girls โดนร็อบทำหน้าที่เป็นพิธีกรหลัก ส่วนเจรี่ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ
จุดขายของรายการนี้ที่แตกต่างจากรายการประกวดร้องเพลงทั่วไปคือ คณะกรรมการทั้งหมด 100 คน ที่ล้วนมาจากสายวงการเพลง ทั้งศิลปินระดับใหญ่และระดับเล็ก (ซึ่งจะหนักไปทางหลังมากกว่า) จะทำหน้าที่ลงคะแนนผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งพวกเขาจะกดปุ่มจากสีแดงให้เป็นสีทองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการลงคะแนน และจะยืนร้องเพลงไปด้วยกันกับผู้เข้าแข่ง (จึงเป็นที่มาของชื่อรายการ All Together Now) ทำให้การแข่งขันดูผ่อนคลายอย่างมาก เหมือนไม่ใช่การแข่งขันเสียด้วยซ้ำ
โดยกติการายการนี้ ในแต่ละสัปดาห์ ผู้เข้าแข่งขันจะร้องเพลงภายในเวลาที่กำหนด และต้องทำให้คณะกรรมการทั้งหมด 100 คน ลงคะแนนด้วยการลุกขึ้นมาร้องเพลงด้วยกัน เพื่อชิงเก้าอี้สามอันดับที่ดีที่สุด ซึ่งต้องลุ้นให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆที่แข่งทีหลังทำคะแนนน้อยกว่าเพื่อรับประกันการอยู่ต่อ โดยท้ายรายการจะมีการชิงที่สองของคนที่ได้ที่สองและที่สาม เพื่อชิงเก้าอี้สองคนสุดท้ายเพื่อผ่านเข้ารอบชิง ซึ่งจะทำการแข่ง 5 สัปดาห์ เพื่อหาคนเข้ารอบชิง 10 คน และทำการแข่งอีกครั้ง เพื่อหาสามคนที่ดีที่สุดในรอบชิง และแข่งกันอีกครั้งเพื่อหาแชมป์ในซีซั่นนั้น โดยแชมป์จะได้เงินรางวัลไป ในเวอร์ชั่นของยูเคที่เป็นต้นตำรับ ผู้ชนะได้เงินรางวัล 50,000 ปอนด์ และถ้วยรางวัลเท่านั้น ไม่มีรางวัลเรื่องการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินเหมือนรายการอื่นๆ
ถึงแม้รายการนี้ ผู้ชนะอาจไม่ได้การันตีการเป็นศิลปินอาชีพเหมือนรายการอื่นๆ เพราะรูปแบบรายการตั้งใจออกมาในแนวบันเทิงโดยจุดขายคือคณะกรรมการมาร้องเพลงกับผู้เข้าแข่งขัน แต่เราว่ามันอาจจะได้ผลในบ้านเรา เพราะคนไทยชอบอะไรที่บันเทิงเริงใจอยู่แล้ว ทีนี้มาดูคลิปรายการให้เป็นตัวอย่างว่าทันจะออกมาในแนวไหน
อันนี้เป็นคลิปแนะนำรายการเพื่ออธิบายรูปแบบรายการ
คลิปเปิดตัวคณะกรรมการ 100 คน นำทีมโดยเจรี่ แห่ง Spice Girls
ทีนี้มาดูตัวอย่างผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้ให้เห็นภาพค่ะ
Michael Rice คนนี้เป็นแชมป์รายการนี้ ร้องเพลง 'Proud Mary' ของ Tina Turner ในรอบคัดเลือก เขาสามารถทำให้คณะกรรมการลงคะแนนร้อยเต็ม
James Thompson รองแชมป์รายการนี้ ตอนรอบคัดเลือกเขาร้องเพลง 'Ordinary People' ของ John Legend ซึ่งเขาก็ทำให้คณะกรรมการลงคะแนนี้ร้อยเต็มเหมือนกัน
ทีนี้มาดูตัวอย่างผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ได้โชคดีในรอบคัดเลือก
สองสาวนาม Sista Sista ร้องเพลง 'Rather Be' ของ วง Clean Bandit และ Jess Glynne แต่กรรมการลงคะแนนแค่สามคนเท่านั้น
ทีนี้มาดูแชมป์รายการนี้ Michael Rice ในรอบชิงในการดวลครั้งสุดท้ายที่คัดจากสามคนที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 10 คนในรอบชิง เขาร้องเพลง 'Hallelujah' ซึ่งเขาได้ 94 คะแนน เอาชนะ James Thompson ที่ได้ไป 84 คะแนน คว้าแชมป์ไปในที่สุด
ทีนี้มาดูว่ามีประเทศไหนสนใจทำรายการในเวอร์ชั่นของตัวเองบ้าง
เริ่มด้วยที่ออสเตรเลีย เขาใช้ชื่อรายการว่า All Together Now Australia ออกอากาศทางช่อง 7 ดำเนินรายการโดย Julia Zemiro
และ Ronan Keating โดยโรแนน คิตติ้ง แห่งวงบอยโซนในตำนวน ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ ซึ่งบ้านเขาเพิ่งออกอากาศไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ที่เดนมาร์ก ใช้ชื่อรายการว่า All Together Now Denmark ออกอากาศทางช่อง Kanal5 ดำเนินรายการโดย Christopher Læssø และ Mette Lindberg ออกอากาศเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ที่โปแลนด์ ใช้ชื่อรายการว่า Śpiewajmy razem. All Together Now ออกอากาศทางช่อง Polsat ดำเนินรายการโดย Igor Kwiatkowski
และ Ewa Farna โดยอีว่า (ผู้หญิงในรูป) เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ เริ่มออกอากาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว
และที่บราซิล ใช้ชื่อรายการว่า Canta Comigo (Sing with Me) ออกอากาศทางช่อง RecordTV ดำเนินรายการโดย Gugu Liberato โดยออกอากาศจบซีซั่นแรกไปแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และจะทำซีซั่นที่สองในปีหน้า
ไม่ใช่แค่ 4 ประเทศที่กล่าวมาที่มีรายการนี้ เพราะตามข้อมูลใน
wikipedia มีเยอรมนี ฝรั่งเศส ที่เปิดตัวรายการนี้ในเวอร์ชั่นของเขาเองแล้ว และกำลังจะออกอากาศในเร็วๆนี้ ส่วนโคลัมเบียและอิตาลีซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้แล้ว และจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ และยังมีอีกบางประเทศที่มีการติดต่อแล้วแต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่ามีประเทศอะไร
และเท่าที่ดู รายการนี้มีชื่อรายการทางเลือกว่า Sing with Me ซึ่งก็ตรงกับรูปแบบรายการเหมือนกัน โดยเวอร์ชั่นบราซิล ฝรั่งเศส และเยอรมนีใช้ชื่อรายการนี้แทน All Together Now
ทำไมถึงอยากให้มีในเวอร์ชั่นไทย
แม้ว่ารายการประกวดร้องเพลงมีกันจนเกร่อในบ้านเรา จนนักร้องจะล้นประเทศแล้วก็เหอะ แต่การที่คนไทยรักในการร้องรำทำเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และชอบอะไรที่เป็นบันเทิงเริงใจ รายการนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ทั้งสองอย่าง เพราะไม่ใช่แค่การแข่งขันร้องเพลงกันธรรมดา แต่มันเป็นการมีส่วนร่วมกับผู้เข้าแข่งขันและคณะกรรมการมาร้องเพลงด้วยกันด้วย และนอกจากนี้ เพราะจำนวนตอนแต่ละซีซั่นไม่ยาว และไม่ยืดยื้อ ซึ่งตอบโจทย์นิสัยคนไทยที่ไม่ชอบอะไรยาวๆ
สาเหตุที่สองนะคะ รายการนี้ใช้การโหวตก็จริง แต่รายการนี้ใช้กรรมการล้วนๆ ไม่พึ่งโหวตทางบ้าน มันก็น่าจะช่วยได้แหล่ะว่าผู้ที่เป็นแชมป์เป็นการคัดเลือกจากกรรมการล้วนๆซึ่งจะได้คนที่ร้องเจ๋งจริง
และสาเหตุสุดท้าย รายการนี้เป็นรายการของ EndomolShine ซึ่งมีสำนักงานในประเทศไทยแล้ว และรายการต่างประเทศที่เอามาทำในเวอร์ชั่นในไทยหลายรายการทางทีวีบ้านเรา ส่วนหนึ่งก็มาจากบริษัทนี้ และก็ประสบความสำเร็จหลายรายการซะด้วยสิ นี่ก็จะเป็นช่องทางของบริษัทนี้ที่จะนำรายการนี้มาทำในบ้านเราที่ตอบโจทย์คนไทยที่ชอบดูรายการประเภทนี้ แต่...จะมีบริษัทผลิตรายการในไทยและทีวีช่องไหนจะสนใจล่ะ หรือว่าจะต้องมีเวอร์ชั่นในอเมริกาและทำออกมาดัง จึงจะเป็นตัวแปรให้ไทยสนใจทำรายการนี้
ทีนี้มาดูว่า
ถ้าจะทำเวอร์ชั่นไทย จะต้องทำยังไงให้เวอร์ชั่นไทยประสบความสำเร็จ
ตอนนี้ได้กลิ่นอายว่าถ้าไทยเอามาทำอาจอยู่แค่ซีซั่นเดียว แต่เราว่ามันขึ้นกับช่องทีวี บริษัทผู้ผลิตรายการ การดำเนินรายการของพิธีกร คณะกรรมการที่สร้างสีสรรให้สนุกสนานเหมือนของต้นฉบับ และไม่ขายดราม่าเหมือนรายการประกวดร้องเพลงหลายรายการที่มีอยู่ในบ้านเราด้วย (อันหลังนี่สำคัญมาก)
นอกจากนี้ ผู้ผลิตรายการในบ้านเราที่จะเอารายการนี้มาทำ ต้องตีโจทย์ให้แตกว่านี่ไม่ใช่รายการประกวดร้องเพลงทั่วไปนะ และต้องวางกลยุทธ์วันและเวลาการออกอากาศว่าต้องเป็นช่วงที่ทุกคนในครอบครัวดูทีวีพร้อมกัน (ซึ่งหลายประเทศเลือกออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์) เพื่อเรียกคนดูให้มากขึ้น
ส่วนชื่อรายการ เราเบื่อชื่อ All Together Now Thailand ไม่ก็ Sing with Me Thailand แล้ว ควรตั้งชื่อรายการเป็นภาษาไทยให้ดูมีเอกลักษณ์บ้าง
เราขอตั้งชื่อรายการว่า
"มาร้องเพลงด้วยกัน" ไม่ก็
"เรามาร้องเพลงกัน" โดยได้แรงบันดาลใจจากเพลงของเต๋อ เรวัติ และวงคีตกวี เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ซึ่งเนื้อร้องของเพลงนี้เข้าโจทย์กับรูปแบบรายการนะ และควรใช้เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวของคณะกรรมการ 100 คนในบ้านเรา เหมือนที่ยูเคเขามีเพลงของเขาเปิดตัวคณะกรรมการ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราจะมาถามความเห็นของคุณกันว่าคิดเห็นกันอย่างไร อยากให้มีในไทยไหม และจะตั้งชื่อรายการในเวอร์ชั่นไทยว่าอะไร
และนี่คือเรื่องราวที่เรานำเสนอค่ะ ถ้ามีรายการไหนจากต่างประเทศน่าสนใจจะมาเล่าสู่กันฟังและมาช่วยวิเคราะห์ถ้าจะทำเวอร์ชั่นไทยนะคะ
กระทู้ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ว่าเราเคยแนะนำรายการอะไร
[ถ้าจะมีในเวอร์ชั่นไทยนะ] ส่องรายการ War On Waste รายการจากออสเตรเลียที่ชวนตระหนักปัญหาขยะที่อยากให้มีในไทย
[ถ้าจะมีในเวอร์ชั่นไทยนะ] แนะนำรายการ All Together Now รายการประกวดร้องเพลงรูปแบบใหม่จากยูเคที่น่าจะมีในไทย
© BBC
สวัสดีค่ะทุกคน
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูรายการโทรทัศน์จากต่างประเทศ เราไปเจอรายการๆหนึ่งที่น่าสนใจอยากเล่าสู่กันฟังและเราคิดว่าน่าจะมาทำเวอร์ชั่นไทยได้
รายการที่ว่าคือ All Together Now รายการประกวดร้องเพลงรูปแบบใหม่จากยูเค ซึ่งเราเชื่อว่าอีกไม่นานคงได้ทำเวอร์ชั่นไทยแน่นอน เพราะรายการนี้มีบางประเทศสนใจซื้อลิขสิทธิ์ทำเป็นเวอร์ชั่นท้องถิ่นแล้ว ทีนี้มาดูรูปแบบรายการนี้และเหตุผลว่าทำไมถึงอยากให้เอามาทำในเวอร์ชั่นไทย และถ้าไทยจะทำรายการนี้ต้องทำการบ้านอย่างไรให้รายการนี้ประสบความสำเร็จ
ข้อมูลของรายการนี้
รายการ All Together Now ผลิตรายการโดย Remarkable ในเครือ EndomolShine UK (บริษัทลูกในเครือ EndomolShine จากเนเธอร์แลนด์) ออกอากาศทางช่อง BBC One โดยทำซีซั่นแรก มีจำนวน 6 ตอน ออกอากาศทุกวันเสาร์ 1 ทุ่ม 15 นาที ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. - 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ดำเนินรายการโดย Rob Beckett นักแสดงตลกและพิธีกร และ Geri Horner แห่งวง Spice Girls โดนร็อบทำหน้าที่เป็นพิธีกรหลัก ส่วนเจรี่ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ
จุดขายของรายการนี้ที่แตกต่างจากรายการประกวดร้องเพลงทั่วไปคือ คณะกรรมการทั้งหมด 100 คน ที่ล้วนมาจากสายวงการเพลง ทั้งศิลปินระดับใหญ่และระดับเล็ก (ซึ่งจะหนักไปทางหลังมากกว่า) จะทำหน้าที่ลงคะแนนผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งพวกเขาจะกดปุ่มจากสีแดงให้เป็นสีทองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการลงคะแนน และจะยืนร้องเพลงไปด้วยกันกับผู้เข้าแข่ง (จึงเป็นที่มาของชื่อรายการ All Together Now) ทำให้การแข่งขันดูผ่อนคลายอย่างมาก เหมือนไม่ใช่การแข่งขันเสียด้วยซ้ำ
โดยกติการายการนี้ ในแต่ละสัปดาห์ ผู้เข้าแข่งขันจะร้องเพลงภายในเวลาที่กำหนด และต้องทำให้คณะกรรมการทั้งหมด 100 คน ลงคะแนนด้วยการลุกขึ้นมาร้องเพลงด้วยกัน เพื่อชิงเก้าอี้สามอันดับที่ดีที่สุด ซึ่งต้องลุ้นให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆที่แข่งทีหลังทำคะแนนน้อยกว่าเพื่อรับประกันการอยู่ต่อ โดยท้ายรายการจะมีการชิงที่สองของคนที่ได้ที่สองและที่สาม เพื่อชิงเก้าอี้สองคนสุดท้ายเพื่อผ่านเข้ารอบชิง ซึ่งจะทำการแข่ง 5 สัปดาห์ เพื่อหาคนเข้ารอบชิง 10 คน และทำการแข่งอีกครั้ง เพื่อหาสามคนที่ดีที่สุดในรอบชิง และแข่งกันอีกครั้งเพื่อหาแชมป์ในซีซั่นนั้น โดยแชมป์จะได้เงินรางวัลไป ในเวอร์ชั่นของยูเคที่เป็นต้นตำรับ ผู้ชนะได้เงินรางวัล 50,000 ปอนด์ และถ้วยรางวัลเท่านั้น ไม่มีรางวัลเรื่องการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินเหมือนรายการอื่นๆ
ถึงแม้รายการนี้ ผู้ชนะอาจไม่ได้การันตีการเป็นศิลปินอาชีพเหมือนรายการอื่นๆ เพราะรูปแบบรายการตั้งใจออกมาในแนวบันเทิงโดยจุดขายคือคณะกรรมการมาร้องเพลงกับผู้เข้าแข่งขัน แต่เราว่ามันอาจจะได้ผลในบ้านเรา เพราะคนไทยชอบอะไรที่บันเทิงเริงใจอยู่แล้ว ทีนี้มาดูคลิปรายการให้เป็นตัวอย่างว่าทันจะออกมาในแนวไหน
อันนี้เป็นคลิปแนะนำรายการเพื่ออธิบายรูปแบบรายการ
คลิปเปิดตัวคณะกรรมการ 100 คน นำทีมโดยเจรี่ แห่ง Spice Girls
ทีนี้มาดูตัวอย่างผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้ให้เห็นภาพค่ะ
Michael Rice คนนี้เป็นแชมป์รายการนี้ ร้องเพลง 'Proud Mary' ของ Tina Turner ในรอบคัดเลือก เขาสามารถทำให้คณะกรรมการลงคะแนนร้อยเต็ม
James Thompson รองแชมป์รายการนี้ ตอนรอบคัดเลือกเขาร้องเพลง 'Ordinary People' ของ John Legend ซึ่งเขาก็ทำให้คณะกรรมการลงคะแนนี้ร้อยเต็มเหมือนกัน
ทีนี้มาดูตัวอย่างผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ได้โชคดีในรอบคัดเลือก
สองสาวนาม Sista Sista ร้องเพลง 'Rather Be' ของ วง Clean Bandit และ Jess Glynne แต่กรรมการลงคะแนนแค่สามคนเท่านั้น
ทีนี้มาดูแชมป์รายการนี้ Michael Rice ในรอบชิงในการดวลครั้งสุดท้ายที่คัดจากสามคนที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 10 คนในรอบชิง เขาร้องเพลง 'Hallelujah' ซึ่งเขาได้ 94 คะแนน เอาชนะ James Thompson ที่ได้ไป 84 คะแนน คว้าแชมป์ไปในที่สุด
ทีนี้มาดูว่ามีประเทศไหนสนใจทำรายการในเวอร์ชั่นของตัวเองบ้าง
เริ่มด้วยที่ออสเตรเลีย เขาใช้ชื่อรายการว่า All Together Now Australia ออกอากาศทางช่อง 7 ดำเนินรายการโดย Julia Zemiro
และ Ronan Keating โดยโรแนน คิตติ้ง แห่งวงบอยโซนในตำนวน ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ ซึ่งบ้านเขาเพิ่งออกอากาศไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ที่เดนมาร์ก ใช้ชื่อรายการว่า All Together Now Denmark ออกอากาศทางช่อง Kanal5 ดำเนินรายการโดย Christopher Læssø และ Mette Lindberg ออกอากาศเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ที่โปแลนด์ ใช้ชื่อรายการว่า Śpiewajmy razem. All Together Now ออกอากาศทางช่อง Polsat ดำเนินรายการโดย Igor Kwiatkowski
และ Ewa Farna โดยอีว่า (ผู้หญิงในรูป) เป็นกัปตันทีมคณะกรรมการ เริ่มออกอากาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว
และที่บราซิล ใช้ชื่อรายการว่า Canta Comigo (Sing with Me) ออกอากาศทางช่อง RecordTV ดำเนินรายการโดย Gugu Liberato โดยออกอากาศจบซีซั่นแรกไปแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และจะทำซีซั่นที่สองในปีหน้า
ไม่ใช่แค่ 4 ประเทศที่กล่าวมาที่มีรายการนี้ เพราะตามข้อมูลใน wikipedia มีเยอรมนี ฝรั่งเศส ที่เปิดตัวรายการนี้ในเวอร์ชั่นของเขาเองแล้ว และกำลังจะออกอากาศในเร็วๆนี้ ส่วนโคลัมเบียและอิตาลีซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้แล้ว และจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ และยังมีอีกบางประเทศที่มีการติดต่อแล้วแต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่ามีประเทศอะไร
และเท่าที่ดู รายการนี้มีชื่อรายการทางเลือกว่า Sing with Me ซึ่งก็ตรงกับรูปแบบรายการเหมือนกัน โดยเวอร์ชั่นบราซิล ฝรั่งเศส และเยอรมนีใช้ชื่อรายการนี้แทน All Together Now
ทำไมถึงอยากให้มีในเวอร์ชั่นไทย
แม้ว่ารายการประกวดร้องเพลงมีกันจนเกร่อในบ้านเรา จนนักร้องจะล้นประเทศแล้วก็เหอะ แต่การที่คนไทยรักในการร้องรำทำเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และชอบอะไรที่เป็นบันเทิงเริงใจ รายการนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ทั้งสองอย่าง เพราะไม่ใช่แค่การแข่งขันร้องเพลงกันธรรมดา แต่มันเป็นการมีส่วนร่วมกับผู้เข้าแข่งขันและคณะกรรมการมาร้องเพลงด้วยกันด้วย และนอกจากนี้ เพราะจำนวนตอนแต่ละซีซั่นไม่ยาว และไม่ยืดยื้อ ซึ่งตอบโจทย์นิสัยคนไทยที่ไม่ชอบอะไรยาวๆ
สาเหตุที่สองนะคะ รายการนี้ใช้การโหวตก็จริง แต่รายการนี้ใช้กรรมการล้วนๆ ไม่พึ่งโหวตทางบ้าน มันก็น่าจะช่วยได้แหล่ะว่าผู้ที่เป็นแชมป์เป็นการคัดเลือกจากกรรมการล้วนๆซึ่งจะได้คนที่ร้องเจ๋งจริง
และสาเหตุสุดท้าย รายการนี้เป็นรายการของ EndomolShine ซึ่งมีสำนักงานในประเทศไทยแล้ว และรายการต่างประเทศที่เอามาทำในเวอร์ชั่นในไทยหลายรายการทางทีวีบ้านเรา ส่วนหนึ่งก็มาจากบริษัทนี้ และก็ประสบความสำเร็จหลายรายการซะด้วยสิ นี่ก็จะเป็นช่องทางของบริษัทนี้ที่จะนำรายการนี้มาทำในบ้านเราที่ตอบโจทย์คนไทยที่ชอบดูรายการประเภทนี้ แต่...จะมีบริษัทผลิตรายการในไทยและทีวีช่องไหนจะสนใจล่ะ หรือว่าจะต้องมีเวอร์ชั่นในอเมริกาและทำออกมาดัง จึงจะเป็นตัวแปรให้ไทยสนใจทำรายการนี้
ทีนี้มาดูว่าถ้าจะทำเวอร์ชั่นไทย จะต้องทำยังไงให้เวอร์ชั่นไทยประสบความสำเร็จ
ตอนนี้ได้กลิ่นอายว่าถ้าไทยเอามาทำอาจอยู่แค่ซีซั่นเดียว แต่เราว่ามันขึ้นกับช่องทีวี บริษัทผู้ผลิตรายการ การดำเนินรายการของพิธีกร คณะกรรมการที่สร้างสีสรรให้สนุกสนานเหมือนของต้นฉบับ และไม่ขายดราม่าเหมือนรายการประกวดร้องเพลงหลายรายการที่มีอยู่ในบ้านเราด้วย (อันหลังนี่สำคัญมาก)
นอกจากนี้ ผู้ผลิตรายการในบ้านเราที่จะเอารายการนี้มาทำ ต้องตีโจทย์ให้แตกว่านี่ไม่ใช่รายการประกวดร้องเพลงทั่วไปนะ และต้องวางกลยุทธ์วันและเวลาการออกอากาศว่าต้องเป็นช่วงที่ทุกคนในครอบครัวดูทีวีพร้อมกัน (ซึ่งหลายประเทศเลือกออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์) เพื่อเรียกคนดูให้มากขึ้น
ส่วนชื่อรายการ เราเบื่อชื่อ All Together Now Thailand ไม่ก็ Sing with Me Thailand แล้ว ควรตั้งชื่อรายการเป็นภาษาไทยให้ดูมีเอกลักษณ์บ้าง
เราขอตั้งชื่อรายการว่า "มาร้องเพลงด้วยกัน" ไม่ก็ "เรามาร้องเพลงกัน" โดยได้แรงบันดาลใจจากเพลงของเต๋อ เรวัติ และวงคีตกวี เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ซึ่งเนื้อร้องของเพลงนี้เข้าโจทย์กับรูปแบบรายการนะ และควรใช้เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวของคณะกรรมการ 100 คนในบ้านเรา เหมือนที่ยูเคเขามีเพลงของเขาเปิดตัวคณะกรรมการ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราจะมาถามความเห็นของคุณกันว่าคิดเห็นกันอย่างไร อยากให้มีในไทยไหม และจะตั้งชื่อรายการในเวอร์ชั่นไทยว่าอะไร
และนี่คือเรื่องราวที่เรานำเสนอค่ะ ถ้ามีรายการไหนจากต่างประเทศน่าสนใจจะมาเล่าสู่กันฟังและมาช่วยวิเคราะห์ถ้าจะทำเวอร์ชั่นไทยนะคะ
กระทู้ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ว่าเราเคยแนะนำรายการอะไร
[ถ้าจะมีในเวอร์ชั่นไทยนะ] ส่องรายการ War On Waste รายการจากออสเตรเลียที่ชวนตระหนักปัญหาขยะที่อยากให้มีในไทย