ผมขอพูดถึงดัชนีSETนะครับ ไม่ใช่ราคาหุ้นรายตัวเพราะราคาหุ้นบางตัวอาจจะไม่ได้แพง
"ในความคิดของผม"ผมคิดว่าดัชนีSETในปัจจุบันนั้น"อาจจะ"แพงเกินไปหน่อย
ถ้าย้อนไปดู PE เฉลี่ยในช่วง30ปีที่ผ่านมานั้น PE เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 14.7 เท่า(ช่วงตลาดกระทิง PE สูงถึง20+เท่า / ช่วงวิกฤต PE ไม่ถึง10เท่า)
แต่ถ้าดูค่า PE เฉลี่ยตั้งแต่มีการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ขึ้นมา PE เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 12.2 เท่า
ในที่นี้ผมจะขอยึดค่า PE เฉลี่ยย้อนหลัง30ปีเพราะคิดว่าตลาดน่าจะมีเหตุผลมากกว่าแต่ก่อน
บางคนอาจจะบอกว่าบริษัทในตลาดมันก็ต้องมีการเติบโตในทุกๆปีจะให้ PE มาอยู่ที่14-15เท่าตลอดนั้นได้อย่างไร
ผมอยากให้คุณลองคิดในมุมมองที่ว่า บริษัทโดยรวมในตลาดนั้นกำไรโตจริง แต่ราคานั้นโตกว่าจึงทำให้ PEมันสูงกว่าค่าเฉลี่ย
แต่ก็ยังมีเหตุผล support เรื่องค่าPEที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยใน30ปีที่ผ่านมาที่ว่า
1) เทรนของมนุษย์ในปัจจุบันและในอนาคตจะเปลี่ยนไปนั้นคือ คนจะหันมาลงทุนกันมากกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะคนได้เรียนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทำให้เขามีความรู้มากขึ้น หรือ ผมเริ่มสังเกตได้ว่าในอนาคตคนจะเริ่มรักสบายมากขึ้นแต่ก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์หรือการทำงาน เหตุผลนี้ทำให้อาชีพ นักลงทุน,trader นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดนิยมของคน
2) ในปัจจุบันหรืออนาคตตลาดอาจมีสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นที่ขายสินค้าที่สามารถเติบโตได้ปีละหลายเปอร์เซ็นต์มากกว่าเมื่อก่อนจึงทำให้ค่าเฉลี่ย PE สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย
3) กระแสVI ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันเมื่อหุ้นถูก จะมีคนช้อนซื้อตลอดทำให้ช่วยพยุงดัชนีได้เป็นส่วนหนึ่ง
แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมนั้นไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนหรือเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต
ตลาดอาจจะปรับตัวขึ้นก็ได้หรือจะลงก็ได้ผมไม่รู้เพียงแต่อยากจะบอกว่าดัชนีSETหรือตลาดหุ้นไทยในตอนนี้นั้นไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงมาก
ในช่วงซับไพร์มนั้น
PE หุ้นร้านสะดวกซื้อชื่อดังนั้นเฉลี่ยๆอยู่ราวๆ15เท่า และต่ำสุดที่ประมาณ 10-11 เท่า
PE หุ้นร้าน chain restaurant และ hotel ชื่อดังนั้นเฉลี่ยอยู่ราวๆ 17-18เท่า และต่ำสุดประมาณ10เท่า
แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าPEหุ้นตัวนึงจะลงไปถึงเท่าไหร่และก็คิดว่าไม่มีใครสามารถรู้ได้ด้วย เราทำได้เพียงกำจัดความเสี่ยงโดยการลงทุนที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัย
ปล.ถ้าใครมีความคิดอะไรดีๆก็แชร์ได้นะครับ ผมอยากทราบความคิดของนักลงทุนคนอื่นๆด้วยครับ
ค่าดัชนีSET ณ ปัจจุบันในความคิดของผม
"ในความคิดของผม"ผมคิดว่าดัชนีSETในปัจจุบันนั้น"อาจจะ"แพงเกินไปหน่อย
ถ้าย้อนไปดู PE เฉลี่ยในช่วง30ปีที่ผ่านมานั้น PE เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 14.7 เท่า(ช่วงตลาดกระทิง PE สูงถึง20+เท่า / ช่วงวิกฤต PE ไม่ถึง10เท่า)
แต่ถ้าดูค่า PE เฉลี่ยตั้งแต่มีการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ขึ้นมา PE เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 12.2 เท่า
ในที่นี้ผมจะขอยึดค่า PE เฉลี่ยย้อนหลัง30ปีเพราะคิดว่าตลาดน่าจะมีเหตุผลมากกว่าแต่ก่อน
บางคนอาจจะบอกว่าบริษัทในตลาดมันก็ต้องมีการเติบโตในทุกๆปีจะให้ PE มาอยู่ที่14-15เท่าตลอดนั้นได้อย่างไร
ผมอยากให้คุณลองคิดในมุมมองที่ว่า บริษัทโดยรวมในตลาดนั้นกำไรโตจริง แต่ราคานั้นโตกว่าจึงทำให้ PEมันสูงกว่าค่าเฉลี่ย
แต่ก็ยังมีเหตุผล support เรื่องค่าPEที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยใน30ปีที่ผ่านมาที่ว่า
1) เทรนของมนุษย์ในปัจจุบันและในอนาคตจะเปลี่ยนไปนั้นคือ คนจะหันมาลงทุนกันมากกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะคนได้เรียนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทำให้เขามีความรู้มากขึ้น หรือ ผมเริ่มสังเกตได้ว่าในอนาคตคนจะเริ่มรักสบายมากขึ้นแต่ก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์หรือการทำงาน เหตุผลนี้ทำให้อาชีพ นักลงทุน,trader นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดนิยมของคน
2) ในปัจจุบันหรืออนาคตตลาดอาจมีสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นที่ขายสินค้าที่สามารถเติบโตได้ปีละหลายเปอร์เซ็นต์มากกว่าเมื่อก่อนจึงทำให้ค่าเฉลี่ย PE สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย
3) กระแสVI ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันเมื่อหุ้นถูก จะมีคนช้อนซื้อตลอดทำให้ช่วยพยุงดัชนีได้เป็นส่วนหนึ่ง
แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมนั้นไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนหรือเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต
ตลาดอาจจะปรับตัวขึ้นก็ได้หรือจะลงก็ได้ผมไม่รู้เพียงแต่อยากจะบอกว่าดัชนีSETหรือตลาดหุ้นไทยในตอนนี้นั้นไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงมาก
ในช่วงซับไพร์มนั้น
PE หุ้นร้านสะดวกซื้อชื่อดังนั้นเฉลี่ยๆอยู่ราวๆ15เท่า และต่ำสุดที่ประมาณ 10-11 เท่า
PE หุ้นร้าน chain restaurant และ hotel ชื่อดังนั้นเฉลี่ยอยู่ราวๆ 17-18เท่า และต่ำสุดประมาณ10เท่า
แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าPEหุ้นตัวนึงจะลงไปถึงเท่าไหร่และก็คิดว่าไม่มีใครสามารถรู้ได้ด้วย เราทำได้เพียงกำจัดความเสี่ยงโดยการลงทุนที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัย
ปล.ถ้าใครมีความคิดอะไรดีๆก็แชร์ได้นะครับ ผมอยากทราบความคิดของนักลงทุนคนอื่นๆด้วยครับ