Homestay - (9.5/10)
___________________________

.
หลังจากห่างหายจากการรีวิวหนังมานานพอสมควร ในที่สุดก็มีเวลาว่างได้ดูหนังเสียที555 โฮมสเตย์นั้นเป็นหนังเรื่องล่าสุดจากทางค่าย GDH ขวัญใจวัยรุ่นไทยหลายๆคน ซึ่งกลับมาครั้งนี้ก็ได้เฌอปรางมาเล่นในเรื่องอีกด้วย เป็นการเพิ่มความตื่นเต้นและความน่าดูของหนังเรื่องนี้ไปอีกขั้น รวมถึงบทบาทครั้งใหม่ของเจมส์ที่ได้มาเป็นนักแสดงนำอีกเช่นกัน และที่พลาดไม่ได้เลยคือคุณภาพของ CG ในหนังที่เมื่อได้เห็นในตัวอย่างแล้วก็เรียกได้ว่าว้าวววมากๆ
.
โดยหนังนั้นได้ดัดแปลงมาจากนวนิยายญี่ปุ่นเรื่อง "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" ซึ่งเนื้อเรื่องย่อนั้นเกี่ยวกับ วิญญาณเร่ร่อนที่ได้รับโฮกาสจากสวรรค์อีกครั้งให้มาสิงในร่างของเด็กหนุ่มที่ฆ่าตัวตายไป โดยที่มีเงื่อไขว่าจะต้องหาสาเหตุการตายของมิน เด็กหนุ่มคนนี้ให้ได้ในเวลา 100 วัน ไม่เช่นนั้นวิญญาณเร่ร่อนนี้จะไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย
.
ส่วนตัวหลังดูจบแล้วนั้นคิดว่าหนังตีความความหมายของ เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม ได้ชัดเจนมากๆ ตรงไปตรงมา และจับใจมากๆ เข้าใจว่าการดำเนินเรื่องนั้นอาจจะทำให้คนดูพอเดาถึงตอนจบของเรื่องได้แต่เนิ่นแล้ว แต่คิดว่าหนังเรื่องนี้นั้นเปิดมุมมองของคนที่มีปัญหาในครอบครัว ในวัยเรียน ในสังคมต่างๆได้ดีมากๆ ปัญหาของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าที่อยากจะฆ่าตัวตายในสังคมปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้น เพราะอะไร เราได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจความคิดของตัวละครที่ประสบปัญหาเหล่านั้นจริงๆ เรามักฟังเรื่องของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจากหลายๆสื่อ อย่างเช่นการผังเรื่องที่คนโทรเข้ามาที่รายการวิทยุอย่างพุธทอลค์พุธโทร แต่เราไม่ได้เข้าใจจริงๆว่าคนเหล่านั้นมีการพัฒนาจิตใจมาอย่างไรก่อนจะมาเป็นถึงจุดนี้
.
ซึ่งหนังเรื่องนี้ตีโจทย์ตรงนี้แตกมาก หนังพาเราเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นของจิตใจ จุดที่จิตใจเรายังบริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาใดๆ จนไปถึงปัญหาต่างๆนชีวิตที่เข้ามาและที่สำคัญคือปัญหาเหล่านั้น "ไม่มีทางออก" เลยจนกลายเป็นว่าทางออกที่ดีที่สุดและไม่ง่ายเลยคือการ "ลบตัวเองออกไปจากโลกใบนี้" (การฆ่าตัวตาย หลายคนอาจมองว่าเป็นทางออกที่เห็นแก่ตัวและง่ายแต่แท้จริงแล้ วมันไม่เคยง่ายเลยสำหรับคนที่ประสบปัญหาหนักๆในชีวิต)
.
การแสดงของทั้งเฌอปรางและเจมส์ ถือว่าออกมาดีเกินคาด ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปด้วยกับหนังอย่างมาก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการแสดงครั้งแรกของเฌอปราง และบทที่ได้รับนั้นก็ยากมาก แต่ก็แสดงสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน แต่ที่จะขอปรบมือให้ที่สุดคือการแสดงของ คุณสู่ขวัญ ที่รับบทเป็นแม่ บอกเลยว่าเล่นได้กินใจและซึ้งมากถึงขั้นสุด สมแล้วที่เป็นนักแสดงคุณภาพ และโปรดักชั่นของหนังก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก สวยงามทัดเทียมหนังในระดับต่างประเทศเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าอาจจะมีฉากที่ดูลอยไปบ้าง แต่เป็นกำลังใจให้ CG ในวงการหนังไทยพัฒนาไปมากขึ้นเรื่อยๆ
.
Spoiler Alert!







.
ชอบที่เมื่อเราดูจนจบแล้วนั้น เราได้ข้อคิดที่ตรงกับชื่อเรื่องของนิยายเลยจริงๆ นั่นคือ "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" เพราะรางวัลนั้นคือ "ชีวิต" นั่นเอง การที่ตอบไปว่าทุกคนเป็นคนทำให้มินตายนั้นเป็นคำตอบที่ผิดจริงๆ เพราะทุกคนมีส่วนให้มินมีปัญหาในจิตใจที่หาทางออกไม่ได้ แต่การฆ่าตัวตายนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างที่สุด เพราะเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเป็นคนอย่างไรต่อไปในชีวิต เราได้รับรางวัลอันสูงสุดจากสวรรค์มาแล้ว นั่นคือการมีชีวิตอยู่รอด
.
"When the world goes to shit, I didn't let it drag me down with it- Dale (The Walking Dead S2)"
.
ประโยคดังกล่าวเป็นประโยคที่อ้างอิงมาจากคำพูดของตัวละครในซีรีย์ The Walking Dead โดยความหมายหลักนั้นคือว่า ต่อให้ทุกอย่างจะพังทลายลงไปจนเหมือนกับว่าเราไม่มีทางออกแล้ว แต่สุดท้ายเราก็เป็นคนเลือกเองว่าเราจะตกต่ำลงไปกับมัน หรือเราจะลุกขึ้นสู่เพื่อชีวิตที่เราเห็นว่ามันถูกต้อง เพราะในสุดท้ายแล้วนั้นมินก็ทำให้เราเห็นได้ว่า ปัญหามันมีเข้ามาอยู่เสมอในชีวิตเราไม่ว่าจะหนักหรือน้อยเพียงใด แต่การที่เราจมปลักกับมัน ไม่ยอมรับมัน หรือพยายามจะฆ่าตัวตายเพื่อหาทางออกจากมันนั้นมีแต่ทำให้ชีวิตเขาและคนรอบข้างแย่ลงไปอีก แต่การที่เรายอมรับมัน และหาวิธีเดินหน้าไปกับมัน นั่นแหละคือสิ่งที่ถูกต้อง

สามารถติดตามต่อได้ที่เพจ Facebook: โต๊ะดราฟตัวนั้น
https://www.facebook.com/TheDraftingTable/