พระพุทธเจ้าบาปไหม? ฆ่าเชื้อโรค
ทำไมพระพุทธเจ้าถึงกินยาถ่ายพยาธิ เมื่อเจ็บป่วยก็กินยาฆ่าเชื้อโรค? แล้วพระพุทธเจ้าจะบาปไหม?
บาปเช่นเดียวกัน แต่ทำไมพระพุทธเจ้าถึงทำ ก็ท่านปฏิบัติตามธรรม ในภาวะธรรมนั้นๆ
พระพุทธเจ้าท่านก็มีจิตเมตตาเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเป็นกิจภาวะธรรมนั้นๆ ภาวะธรรมนั้นๆ ของตัวพยาธิก็มีวิบาก พยาธิก็ต้องรับเคราะห์วิบากตามธรรม
ฉะนั้น ทำไมพระพุทธเจ้าถึงต้องทำ ก็เพราะว่า แสดงให้เห็น "แสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม" เจริญธรรมตรงไหน ก็คือ หนีความจริงแห่งธรรมไม่ได้ เราอย่าบ้าจี้
ถ้าอย่างนั้น เวลาพระพุทธเจ้าเจ็บป่วยก็กินยาไม่ได้ เพราะไปฆ่าเชื้อโรค เพราะว่าภาวะภูมิของพระพุทธเจ้ายังอยู่ตรงนี้ พระพุทธเจ้าก็ต้องแสดงธรรมปรากฏออกมาเช่นนี้ ภูมิยังต้องรับการสนองวิบากอยู่ ไม่ใช่ภูมิ ณ ปัจจุบัน มันเป็นคนละเรื่องกัน เราอย่าเข้าใจผิด ในสมัยนั้นพระพุทธเจ้ายังดำรงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ตาม แต่พระพุทธเจ้ายังอยู่ในมรรค ยังปฏิบัติอยู่
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เครดิตภาพ
http://watsenasanaram.blogspot.com/2010/08/blog-post_19.html
พระพุทธเจ้าบาปไหม? ฆ่าเชื้อโรค
ทำไมพระพุทธเจ้าถึงกินยาถ่ายพยาธิ เมื่อเจ็บป่วยก็กินยาฆ่าเชื้อโรค? แล้วพระพุทธเจ้าจะบาปไหม?
บาปเช่นเดียวกัน แต่ทำไมพระพุทธเจ้าถึงทำ ก็ท่านปฏิบัติตามธรรม ในภาวะธรรมนั้นๆ
พระพุทธเจ้าท่านก็มีจิตเมตตาเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเป็นกิจภาวะธรรมนั้นๆ ภาวะธรรมนั้นๆ ของตัวพยาธิก็มีวิบาก พยาธิก็ต้องรับเคราะห์วิบากตามธรรม
ฉะนั้น ทำไมพระพุทธเจ้าถึงต้องทำ ก็เพราะว่า แสดงให้เห็น "แสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม" เจริญธรรมตรงไหน ก็คือ หนีความจริงแห่งธรรมไม่ได้ เราอย่าบ้าจี้
ถ้าอย่างนั้น เวลาพระพุทธเจ้าเจ็บป่วยก็กินยาไม่ได้ เพราะไปฆ่าเชื้อโรค เพราะว่าภาวะภูมิของพระพุทธเจ้ายังอยู่ตรงนี้ พระพุทธเจ้าก็ต้องแสดงธรรมปรากฏออกมาเช่นนี้ ภูมิยังต้องรับการสนองวิบากอยู่ ไม่ใช่ภูมิ ณ ปัจจุบัน มันเป็นคนละเรื่องกัน เราอย่าเข้าใจผิด ในสมัยนั้นพระพุทธเจ้ายังดำรงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ตาม แต่พระพุทธเจ้ายังอยู่ในมรรค ยังปฏิบัติอยู่
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เครดิตภาพ http://watsenasanaram.blogspot.com/2010/08/blog-post_19.html