안녕하세요~ อันนยองฮาเซโย~ สวัสดีค่ะชาวพันทิพย์ทุกท่าน
วันนี้เราจะมารีวิวทริปเกาหลีครั้งแรกแบบไม่ง้อทัวร์
ทริปนี้เราไปมาเมื่อต้นเดือนตุลา 2561 ค่ะ
เริ่มต้นจากการเล็งวันที่จะไปแล้วจองตั๋วเลยค่ะ ไม่แพลนอะไรก่อนทั้งสิ้น 5555
ตอนแรกกะจะจองการบินไทยค่ะแต่รอคอนเฟิร์มวันหยุดนานไปนิดราคาตั๋วเพิ่ม เลยเปลี่ยนใจไป Korean Air ค่ะ ทริปนี้ สิริรวมเวลาที่เกาหลี คือ 5 วัน 5 คืนค่ะ เพราะว่าไป flight KE660 (BKK-ICN) ซึ่งไปถึงเกาหลีก็ช่วงเย็น กว่าจะนั่งรถไฟไปถึงโรงแรมก็ค่ำแล้ว และกลับ flight KE659 (ICN-BKK) ซึ่งเครื่องออกตอนค่ำ
หลังจากที่จองตั๋วแล้วก็ตามด้วยโรงแรมค่ะ ตอนแรกกะจองอีกโรงแรมนึง แต่พอจ่ายเงินแล้วโดนตีกลับ ไป ๆ มา ๆ เลยจองโรงแรม Seoul N Hotel Dongdaemun ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสถานี Dongmyo (동묘앞역) ตอนแรกก็หวั่น ๆ ว่าโรงแรมนี้มีจริง ๆ มั้ยนะ จะโอเคมั้ย เลยลอง search หารีวิว แต่มีแต่เป็นภาษาอังกฤษ แถมหาใน Google Map แบบ street view แต่ไม่เจอตึก (เพราะว่าเป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดมาไม่นาน Google street view ยังไม่ได้อัพเดท) ตามด้วย search ใน YouTube และเจอวีดิโอวิธีเดินไปโรงแรมในที่สุด
https://www.youtube.com/watch?v=mSfGTGDaLZQ&t=1s
ขั้นตอนสุดท้ายก่อนไปค่ะ แพลนเที่ยวค่ะ ใช้เวลาเขียนนานมากค่ะ แก้ไปแก้มาจนก่อนไปนั่นแหละ จริง ๆ คือ เป็นทริปแบบรีบ ๆ เพราะแค่อยากไปเที่ยวก็กดจองเลย เลยต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง บวกกับไม่เคยไปเลยแล้วยังต้องพาคุณแม่ไปด้วย เลยต้องวางแผนให้รัดกุมเพื่อให้หลงน้อยที่สุด เดินน้อยที่สุด และเที่ยวคุ้มที่สุด ได้ประสบการณ์มากที่สุด ในงบประมาณที่จำกัดประมาณนึง
ขั้นตอนการวางแผนเที่ยวของเราคือ ลิสต์สถานที่ที่เราสนใจค่ะ โดยในทริปนี้ เราไปทั้ง Seoul และ Busan ค่ะ หลังจากที่ลิสต์สถานที่แล้ว ก็เริ่มหารายละเอียดค่ะว่าต้องไปลงรถไฟฟ้าสถานีไหน ต้องนั่งรถต่อมั้ย เวลาเปิด-ปิดกี่โมง มีค่าเข้ามั้ย ค่ารถไฟประมาณกี่วอน ประมาณนี้ค่ะ
แต่!!!! งานเข้าค่ะ!!! หลังจากที่แพลนเสร็จ มีข่าวไต้ฝุ่นเข้าเกาหลีช่วงที่จะไป จขกท เลยต้องนั่งเช็คพยากรณ์อากาศทุกวันก่อนจะถึงวันเดินทาง ทำให้วันแรกที่ไปยังไงก็เจอฝนแน่ ๆ เลยต้องแก้แพลนที่วางไว้ค่ะ เพราะแพลนไว้ว่าจะไปแต่งชุดฮันบกสวย ๆ เดินในกรุงโซลในวันแรกค่ะ 5555
มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่าค่ะ!!
เนื่องจาก จขกท พักอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองและไม่อยากเสียค่าแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ และไม่อยากเสี่ยงกับ Airport Rail Link เพราะบินไฟลท์เช้า เลยรีบหาข้อมูลค่ะ
ในที่สุดก็ได้วิธีไปสนามบินสุวรรณภูมิแบบฟรี ๆ (ถ้าไม่นับค่าแท็กซี่จากบ้านไปสนามบินดอนเมือง 555) โดยรถ Shuttle bus สนามบินค่ะ ซึ่งมีข้อแม้ว่าคุณ ๆ ทั้งหลายจะต้องมีเที่ยวบินในวันดังกล่าวที่ออก (depart) จากสนามบินสุวรรณภูมิ (ไม่จำเป็นต้องต่อไฟลท์จากสนามบินดอนเมืองนะคะ) วิธีก็ง่าย ๆ ค่ะ นำตั๋วไปยื่นให้ จนท ดูค่ะ แล้ว จนท ก็จะทำการแสตมป์มือของทุกท่าน ตอนแรกไม่ได้สังเกตค่ะว่าเป็นตราปั๊มลายอะไร พอขึ้นรถมานั่งมองเท่านั้นแหละ! อ้าว... โนบิตะ 5555 คิ้วท์ ๆ กันไปค่ะ
เนื่องจากเป็นพวกรีบค่ะ (รีบไปนั่งรอเคาน์เตอร์เปิด ฮ่า ๆ) จริง ๆ คือ กลัวมีเหตุฉุกเฉินแล้วตกเครื่องค่ะ เลยขึ้นรถ Shuttle bus เที่ยวแรกค่ะ 05.00 น. ซึ่ง!!!! มองที่นาฬิกาใน iPhone ค่ะ 04.59 น. รถออกแล้วค่ะคุณผู้ชม!!! ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงเร่งด่วน รถจะออกทุกประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ ถ้าจำไม่ผิด ใครอยากใช้บริการ ลองไปเช็คเวลาดูอีกทีนะจ๊ะ
พอไปถึงสนามบิน สิ่งแรกที่ทำ คือ แลกเงินวอน (KRW) ค่ะ เสร็จแล้วก็เดินเล่นชมสนามบินรอเคาน์เตอร์เปิด KE660 เคาน์เตอร์เปิดเวลา 07.00 – 09.10 น. ค่ะ
จขกท เช็คอินผ่านเว็บค่ะ เพื่อที่จะเลือกที่นั่งก่อน (กลัวแย่งที่กับชาวบ้านเค้าไม่ทัน 5555) พอเคาน์เตอร์เปิดก็รีบไปต่อแถวค่ะ เนื่องจากเป็นทริปเกาหลีครั้งแรก และอ่านดราม่ามาเยอะ เราเลยไม่กล้าสบตากับคนไทยเลยค่ะ 55555 (จริง ๆ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกนะคะ) จากที่สังเกต ไฟลท์ที่เราบินไม่ค่อยมีคนทำออนไลน์เช็คอินมาค่ะ เพราะว่า มีแค่ จขกท มายืนต่อแถวโหลดสัมภาระกับคนเกาหลีอีกคนนึงก่อนหน้า เคาน์เตอร์ luggage drop ก็ดันเปิดช้ากว่าเคาน์เตอร์อื่น ajussi ที่ยืนก่อนหน้าเราก็หัวเสียสิคะ รีบมาต่อแถวคนแรกแล้วต้องยืนรอ 5555 เดินไปโวยวายกับสตาฟ แล้วกลับมาบ่นกับเราใหญ่
ยืนรออยู่พักนึง ก็ถึงคิว จขกท ค่ะ ผ่านไปแบบชิวๆค่ะ เพราะว่าเช็คอินมาแล้ว หลังจากนั้นก็เดินตัวปลิวผ่าน ตม. ไปเดินเล่นใน Duty Free ค่ะ
เหลือเวลาพอสมควรกว่าจะถึงเวลาบอร์ดผู้โดยสาร เลยไปนั่งกินโจ๊กฟรีใน lounge ของ King Power ค่ะ ชอบมากค่ะ บินไฟลท์เช้าทีไรต้องได้กิน
และแล้วก็ถึงเวลาเตรียมตัวขึ้นเครื่องค่ะ ไฟลท์นี้ คึกคัก ผู้โดยเยอะมาก!! ดีที่ไฟลท์ไม่ดีเลย์ค่ะ ถือเป็นการเปิดทริปแบบสวย ๆ ยกเว้นเรื่องอากาศ ฝนตกตั้งแต่ออกจากบ้านยันถึงโรงแรมที่โซลเลยค่ะ
ขึ้นเครื่องไปก็ตื่นตาตื่นใจค่ะ มีแต่แอร์สาว ๆ สวย ๆ ฝั่งที่ จขกท นั่ง มีแต่แอร์เกาหลีค่ะ เลยได้โอกาสทดสอบสกิลที่ฝึกมา 5555 และ!!! แน่นอนค่ะว่า สกิลไก่กาอย่าง จขกท นั้น... ต้องมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นค่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่าแอร์สาวก็ร่ายเมนูมาว่าจะรับอะไรดีคะ จขกท ก็ตอบไปว่า 비비밥 주세요 (บิบิมบับ จูเซโย) คุณแอร์ก็บอกว่ารอซักครู่และกลับมาพร้อมถาดบิบิมบับ แต่ด้วยความที่หน้าตามันไม่เหมือนกับบิบิมบับที่เคยกินในร้าน และคุณแอร์ก็ถามมาว่ารู้วิธีกินมั้ย จขกท เลยตอบกลับไปว่า “No” แต่คุณแอร์กลับเดินจากไป ปล่อยให้ จขกท นั่งงงกับถาดบิบิมบับ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่า สงสัยคุณแอร์ท่านนั้นคงได้ยินว่าเราตอบว่า “네” (เน่) ซึ่งแปลว่า “Yes” เพราะว่าก่อนหน้านี้พูดกับเธอเป็นภาษาเกาหลี แต่ไม่เป็นไรค่ะ หลังจากนั่งมองถาดตรงหน้า (เค้าแยกข้าว เครื่อง และซอส ออกจากกันค่ะ) ก็นึกออกว่าต้องกินยังไง คลุกเข้าไปสิคะ (비빔밥 /bibimbab/ มาจากกริยา 비비다 /bibida/ ซึ่งแปลว่า mix ค่ะ) เรื่องรสชาติก็ โอเคกว่าที่เคยกินในห้างแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางกรุงเทพค่ะ
เราบินกันในช่วงไต้ฝุ่นค่ะ แน่นอนว่าเจอ Turbulence บ้าง แต่โชคดีค่ะ แต่เบา ๆ แต่เครื่องก็สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะช่วงบินอยู่แถวไต้หวันและก่อนเข้าเกาหลี (ช่วงนั้นไต้ฝุ่นเข้าแถวปูซานค่ะ) กำลังไปเข้าห้องน้ำก็โดนแอร์เคาะประตูเรียกกลับไปนั่งที่เพราะสัญญาณรัดเข็มขัดขึ้น
ระหว่างอยู่บนเครื่องก็เล่นกับจอกันไปค่ะ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ เบื่อจอก็อ่านหนังสือ เซลฟี่ และกรอกใบ ตม. กับศุลกากร กันไป
และแล้วเราก็ถึงสนามบินอินชอนค่ะ กับเทอร์มินอลใหม่ (Incheon International Airport Terminal 2) สายการบินที่จอดที่เทอร์มินอลนี้มีอยู่แค่ไม่กี่สายเท่านั้นค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือเจ้าถิ่นอย่าง Korean Air
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
[CR] Pre-Autumn Trip in South Korea OCT 2018 ครั้งแรกกับการเที่ยวเกาหลีแบบไม่ง้อทัวร์
วันนี้เราจะมารีวิวทริปเกาหลีครั้งแรกแบบไม่ง้อทัวร์
ทริปนี้เราไปมาเมื่อต้นเดือนตุลา 2561 ค่ะ
เริ่มต้นจากการเล็งวันที่จะไปแล้วจองตั๋วเลยค่ะ ไม่แพลนอะไรก่อนทั้งสิ้น 5555
ตอนแรกกะจะจองการบินไทยค่ะแต่รอคอนเฟิร์มวันหยุดนานไปนิดราคาตั๋วเพิ่ม เลยเปลี่ยนใจไป Korean Air ค่ะ ทริปนี้ สิริรวมเวลาที่เกาหลี คือ 5 วัน 5 คืนค่ะ เพราะว่าไป flight KE660 (BKK-ICN) ซึ่งไปถึงเกาหลีก็ช่วงเย็น กว่าจะนั่งรถไฟไปถึงโรงแรมก็ค่ำแล้ว และกลับ flight KE659 (ICN-BKK) ซึ่งเครื่องออกตอนค่ำ
หลังจากที่จองตั๋วแล้วก็ตามด้วยโรงแรมค่ะ ตอนแรกกะจองอีกโรงแรมนึง แต่พอจ่ายเงินแล้วโดนตีกลับ ไป ๆ มา ๆ เลยจองโรงแรม Seoul N Hotel Dongdaemun ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสถานี Dongmyo (동묘앞역) ตอนแรกก็หวั่น ๆ ว่าโรงแรมนี้มีจริง ๆ มั้ยนะ จะโอเคมั้ย เลยลอง search หารีวิว แต่มีแต่เป็นภาษาอังกฤษ แถมหาใน Google Map แบบ street view แต่ไม่เจอตึก (เพราะว่าเป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดมาไม่นาน Google street view ยังไม่ได้อัพเดท) ตามด้วย search ใน YouTube และเจอวีดิโอวิธีเดินไปโรงแรมในที่สุด
https://www.youtube.com/watch?v=mSfGTGDaLZQ&t=1s
ขั้นตอนสุดท้ายก่อนไปค่ะ แพลนเที่ยวค่ะ ใช้เวลาเขียนนานมากค่ะ แก้ไปแก้มาจนก่อนไปนั่นแหละ จริง ๆ คือ เป็นทริปแบบรีบ ๆ เพราะแค่อยากไปเที่ยวก็กดจองเลย เลยต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง บวกกับไม่เคยไปเลยแล้วยังต้องพาคุณแม่ไปด้วย เลยต้องวางแผนให้รัดกุมเพื่อให้หลงน้อยที่สุด เดินน้อยที่สุด และเที่ยวคุ้มที่สุด ได้ประสบการณ์มากที่สุด ในงบประมาณที่จำกัดประมาณนึง
ขั้นตอนการวางแผนเที่ยวของเราคือ ลิสต์สถานที่ที่เราสนใจค่ะ โดยในทริปนี้ เราไปทั้ง Seoul และ Busan ค่ะ หลังจากที่ลิสต์สถานที่แล้ว ก็เริ่มหารายละเอียดค่ะว่าต้องไปลงรถไฟฟ้าสถานีไหน ต้องนั่งรถต่อมั้ย เวลาเปิด-ปิดกี่โมง มีค่าเข้ามั้ย ค่ารถไฟประมาณกี่วอน ประมาณนี้ค่ะ
แต่!!!! งานเข้าค่ะ!!! หลังจากที่แพลนเสร็จ มีข่าวไต้ฝุ่นเข้าเกาหลีช่วงที่จะไป จขกท เลยต้องนั่งเช็คพยากรณ์อากาศทุกวันก่อนจะถึงวันเดินทาง ทำให้วันแรกที่ไปยังไงก็เจอฝนแน่ ๆ เลยต้องแก้แพลนที่วางไว้ค่ะ เพราะแพลนไว้ว่าจะไปแต่งชุดฮันบกสวย ๆ เดินในกรุงโซลในวันแรกค่ะ 5555
มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่าค่ะ!!
เนื่องจาก จขกท พักอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองและไม่อยากเสียค่าแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ และไม่อยากเสี่ยงกับ Airport Rail Link เพราะบินไฟลท์เช้า เลยรีบหาข้อมูลค่ะ
ในที่สุดก็ได้วิธีไปสนามบินสุวรรณภูมิแบบฟรี ๆ (ถ้าไม่นับค่าแท็กซี่จากบ้านไปสนามบินดอนเมือง 555) โดยรถ Shuttle bus สนามบินค่ะ ซึ่งมีข้อแม้ว่าคุณ ๆ ทั้งหลายจะต้องมีเที่ยวบินในวันดังกล่าวที่ออก (depart) จากสนามบินสุวรรณภูมิ (ไม่จำเป็นต้องต่อไฟลท์จากสนามบินดอนเมืองนะคะ) วิธีก็ง่าย ๆ ค่ะ นำตั๋วไปยื่นให้ จนท ดูค่ะ แล้ว จนท ก็จะทำการแสตมป์มือของทุกท่าน ตอนแรกไม่ได้สังเกตค่ะว่าเป็นตราปั๊มลายอะไร พอขึ้นรถมานั่งมองเท่านั้นแหละ! อ้าว... โนบิตะ 5555 คิ้วท์ ๆ กันไปค่ะ
เนื่องจากเป็นพวกรีบค่ะ (รีบไปนั่งรอเคาน์เตอร์เปิด ฮ่า ๆ) จริง ๆ คือ กลัวมีเหตุฉุกเฉินแล้วตกเครื่องค่ะ เลยขึ้นรถ Shuttle bus เที่ยวแรกค่ะ 05.00 น. ซึ่ง!!!! มองที่นาฬิกาใน iPhone ค่ะ 04.59 น. รถออกแล้วค่ะคุณผู้ชม!!! ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงเร่งด่วน รถจะออกทุกประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ ถ้าจำไม่ผิด ใครอยากใช้บริการ ลองไปเช็คเวลาดูอีกทีนะจ๊ะ
พอไปถึงสนามบิน สิ่งแรกที่ทำ คือ แลกเงินวอน (KRW) ค่ะ เสร็จแล้วก็เดินเล่นชมสนามบินรอเคาน์เตอร์เปิด KE660 เคาน์เตอร์เปิดเวลา 07.00 – 09.10 น. ค่ะ
จขกท เช็คอินผ่านเว็บค่ะ เพื่อที่จะเลือกที่นั่งก่อน (กลัวแย่งที่กับชาวบ้านเค้าไม่ทัน 5555) พอเคาน์เตอร์เปิดก็รีบไปต่อแถวค่ะ เนื่องจากเป็นทริปเกาหลีครั้งแรก และอ่านดราม่ามาเยอะ เราเลยไม่กล้าสบตากับคนไทยเลยค่ะ 55555 (จริง ๆ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกนะคะ) จากที่สังเกต ไฟลท์ที่เราบินไม่ค่อยมีคนทำออนไลน์เช็คอินมาค่ะ เพราะว่า มีแค่ จขกท มายืนต่อแถวโหลดสัมภาระกับคนเกาหลีอีกคนนึงก่อนหน้า เคาน์เตอร์ luggage drop ก็ดันเปิดช้ากว่าเคาน์เตอร์อื่น ajussi ที่ยืนก่อนหน้าเราก็หัวเสียสิคะ รีบมาต่อแถวคนแรกแล้วต้องยืนรอ 5555 เดินไปโวยวายกับสตาฟ แล้วกลับมาบ่นกับเราใหญ่
ยืนรออยู่พักนึง ก็ถึงคิว จขกท ค่ะ ผ่านไปแบบชิวๆค่ะ เพราะว่าเช็คอินมาแล้ว หลังจากนั้นก็เดินตัวปลิวผ่าน ตม. ไปเดินเล่นใน Duty Free ค่ะ
เหลือเวลาพอสมควรกว่าจะถึงเวลาบอร์ดผู้โดยสาร เลยไปนั่งกินโจ๊กฟรีใน lounge ของ King Power ค่ะ ชอบมากค่ะ บินไฟลท์เช้าทีไรต้องได้กิน
และแล้วก็ถึงเวลาเตรียมตัวขึ้นเครื่องค่ะ ไฟลท์นี้ คึกคัก ผู้โดยเยอะมาก!! ดีที่ไฟลท์ไม่ดีเลย์ค่ะ ถือเป็นการเปิดทริปแบบสวย ๆ ยกเว้นเรื่องอากาศ ฝนตกตั้งแต่ออกจากบ้านยันถึงโรงแรมที่โซลเลยค่ะ
ขึ้นเครื่องไปก็ตื่นตาตื่นใจค่ะ มีแต่แอร์สาว ๆ สวย ๆ ฝั่งที่ จขกท นั่ง มีแต่แอร์เกาหลีค่ะ เลยได้โอกาสทดสอบสกิลที่ฝึกมา 5555 และ!!! แน่นอนค่ะว่า สกิลไก่กาอย่าง จขกท นั้น... ต้องมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นค่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่าแอร์สาวก็ร่ายเมนูมาว่าจะรับอะไรดีคะ จขกท ก็ตอบไปว่า 비비밥 주세요 (บิบิมบับ จูเซโย) คุณแอร์ก็บอกว่ารอซักครู่และกลับมาพร้อมถาดบิบิมบับ แต่ด้วยความที่หน้าตามันไม่เหมือนกับบิบิมบับที่เคยกินในร้าน และคุณแอร์ก็ถามมาว่ารู้วิธีกินมั้ย จขกท เลยตอบกลับไปว่า “No” แต่คุณแอร์กลับเดินจากไป ปล่อยให้ จขกท นั่งงงกับถาดบิบิมบับ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่า สงสัยคุณแอร์ท่านนั้นคงได้ยินว่าเราตอบว่า “네” (เน่) ซึ่งแปลว่า “Yes” เพราะว่าก่อนหน้านี้พูดกับเธอเป็นภาษาเกาหลี แต่ไม่เป็นไรค่ะ หลังจากนั่งมองถาดตรงหน้า (เค้าแยกข้าว เครื่อง และซอส ออกจากกันค่ะ) ก็นึกออกว่าต้องกินยังไง คลุกเข้าไปสิคะ (비빔밥 /bibimbab/ มาจากกริยา 비비다 /bibida/ ซึ่งแปลว่า mix ค่ะ) เรื่องรสชาติก็ โอเคกว่าที่เคยกินในห้างแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางกรุงเทพค่ะ
เราบินกันในช่วงไต้ฝุ่นค่ะ แน่นอนว่าเจอ Turbulence บ้าง แต่โชคดีค่ะ แต่เบา ๆ แต่เครื่องก็สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะช่วงบินอยู่แถวไต้หวันและก่อนเข้าเกาหลี (ช่วงนั้นไต้ฝุ่นเข้าแถวปูซานค่ะ) กำลังไปเข้าห้องน้ำก็โดนแอร์เคาะประตูเรียกกลับไปนั่งที่เพราะสัญญาณรัดเข็มขัดขึ้น
ระหว่างอยู่บนเครื่องก็เล่นกับจอกันไปค่ะ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ เบื่อจอก็อ่านหนังสือ เซลฟี่ และกรอกใบ ตม. กับศุลกากร กันไป
และแล้วเราก็ถึงสนามบินอินชอนค่ะ กับเทอร์มินอลใหม่ (Incheon International Airport Terminal 2) สายการบินที่จอดที่เทอร์มินอลนี้มีอยู่แค่ไม่กี่สายเท่านั้นค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือเจ้าถิ่นอย่าง Korean Air
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้