มันเป็นที่แทคติคครับ มิดฟิดล์กับกองหลังยืนห่างกันเกินไป

ไทยจะเล่นแบบมีมิดฟิลด์ตัวรับ 1 คนเสมอ ที่เหลือยืนลอยกันหมด

พอโดนตัดบอลแล้วสวนกลับเหลือพื้นที่ว่างตรงกลางมากไป

วิธีแก้คือต้องยอมถอดมิดฟิลด์ขี้เกียจออก 1 คน เอกนิจหรือย้า

แล้วส่งมิดฟิลด์ขยันๆลงมาคู่กับอิฟาน เล่นหลัง 4 คนเหมือน

ครึ่งแรกที่เล่นกับเกาเหนือนั่นแหล่ะ ปรับให้ยืน 4-2-3-1

เน้นตรงกลางให้แน่นที่สุดห้ามให้บอลผ่านตรงนี้ไปได้

กองหน้าเบอร์ 7 จะถูกบีบให้ออกไปเล่นริมเส้นโดยอัตโนมัต

กาต้าร์ชุดนี้ไม่ค่อยบอมบ์เท่าไหร่ถ้าตัดพื้นที่การเล่นของกองหน้า

เบอร์ 7 ได้งานกองหลังเราจะง่ายขึ้น ทำไมโค้ชไม่ลองใช้

กฤษดามาเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ เขาวางบอลดี เข้าปะทะเป็น

มีประสบการณ์เล่นที1 หรอว่าเขาแทคเคิ้ลดีสุดแล้วเลยต้องแบกกองหลัง

การเอาเบอร์ 6 ที่ตัวใหญ่มาเล่นตัวรับเหมือนครึ่งแรกที่เล่นกับเกาเหนือ

ไม่เวิร์คโค้ชก็เห็นแล้ว เบอร์ 6 ช้าออกบอลไม่ได้ทำได้แค่แปะคืนหลัง

สร้างเกมส์รุกจากหลังไปกลางไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นกฤษดาที่วางบอลแม่น

เขาจะฉวยโอกาสบางจังหวะวางบอลไปซ้ายไปขวาได้ เป็นการเพิ่มออปชั่น

ขึ้นเกมส์รุกของทีมอีกรูปแบบนึง เสียดายนะถ้าไม่ได้ซ้อมกันมา

อีกเรื่องนึงเกมส์รุกตัวริมเส้นธรรมชาติไม่มี กองหน้ายืนกองกัน

ตรงกลางหมดเวลาขึ้นเกมส์รุกจากกลางขึ้นไปหน้ามันจะอึดอัดๆ

เหมือนที่เป็นมาทุกเกมส์ในรอบแรก เพราะจะแทงเข้ากลางได้อย่างเดียว

เกมส์รับริมเส้นก็จะโหว่ด้วยเพราะจะแค่วิงแบคตัวเดียวไม่มี

ตัวรุกริมเส้นลงมาช่วยเล่นเกมส์รับ เนี่ยรายละเอียดแทคติคยิบย่อยอีกเยอะ

ถ้าอยากให้เด็กเราเล่นเกมส์รับได้แน่นขึ้นไม่พลาดเสียประตูจาก

ลูกสวนกลับแทงบอลทะลุตรงกลางหลุดเดี่ยวไปดวล 1-1 ได้

ถ้าทีมงานมาอ่านเจอก็ลองพิจารณากันดู