Homestay หนังเนื้อหาดี แต่เดินเรื่องราบเรียบ /Hunter Killer โคตรโม้ โคตรมันส์ (ไม่สปอยล์)

ที่จริงตั้งใจแค่ไปดู Homestay ครับ แต่พอรู้สึกไม่ว้าวกับเรื่องนี้ พอออกโรงมา เลยดู Hunter  Killer ต่อให้อิ่ม ก็เลยมารีวิวควบแบบสั้นๆ เป็นทางเลือกให้ฟังละกันนะครับ

Homestay นี่เอาจริงๆ ตั้งแต่รู้ว่าหนังมาจากต้นฉบับญี่ปุ่น ก็คงจะประมาณนี้ สไตล์เนิบๆ ราบเรียบ เรื่อยๆ แต่เห็นในเทรลเลอร์มีโชว์สเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์เยอะ ก็เลยคิดว่า GDH คงฉีกจากบทดั้งเดิมของญี่ปุ่นไปไซไฟเลยก็ได้ (ผมไม่เคยดูต้นฉบับ แต่อ่านเรื่องย่อกับสปอยล์มาระดับนึง) แต่พอดูจริง กลายเป็นหนังเดินเรื่องสไตล์ราบเรียบแบบหนังญี่ปุ่นทั่วไปจริงๆ (ผมเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นนะไม่ได้อคติ คือดูมาเยอะ อย่างล่าสุดก็ after rain ชอบเลย มาดูอนิเมะต่อจนจบ) คือไม่เข้าใจว่าจะพยายามใส่แนวไซไฟออกมาให้ดูล้ำแบบ inception ทำไม ในเมื่อแกนหลักของเรื่อง นำเสนอแบบเดินเรื่องเรียบๆ ไปจนจบแบบนั้น มันเลยดูประดักประเดิดล้นๆ ในบางฉาก อย่างฉากหมอทุบโต๊ะ กรอกน้ำมันตับปลาเข้าปากจากเทรลเลอร์นั่นแหละครับ ผู้คุมจะโชว์โอเวอร์แอ็กชั่น เพื่อ??? (เอาตลก หรืออะไรผมก็ไม่แน่ใจจริงๆ แต่แอบขำนิดๆ)

จริงๆ สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ในเรื่องดีมากทุกฉาก ให้ 10 เลยก็ได้ครับกับตรงนี้ ยิ่งฉากหยุดฝนกับผู้คุมเด็กนี่ดูพีค+งดงามเข้ากับจังหวะของเรื่องที่สุดแล้ว ฉากอื่นๆ ก็สวย แม้แต่ฉากน้ำมันตับปลาที่ผมว่าด้านบน แต่ที่มีปัญหาก็คงเพราะพอจบฉากเหล่านั้น ทุกอย่างก็กลับมาราบเรียบสงบ ดูเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปจนจบ แม้จะมีจุดที่บทหนังทำให้พีคได้อยู่ แต่เอาจริงๆ คือหนังมันพาไปไม่ถึงเลย ทั้งๆ ที่ตัวเอกเล่นดี น่าจะเป็นเพราะทุกอย่างมันคาดเดาได้ธรรมดาหมด ตามหนังดราม่ามีปมแบบนี้ หนังไม่มีการพาอารมณ์คนดูไต่ขึ้น หรือเหวี่ยงขึ้นลงได้เหมือนอย่างหนัง GTH GDH ที่ทำได้บ่อยๆ (อย่างฉลาดเกมโกงตอนจบ หรือแฟนเดย์ตอนเฉลยความจริงของนางเอก) บทพ่อกับพี่ที่น่าจะมีปัญหาหนักๆ ก็ปูน้อยจนไม่ค่อยรู้สึกอินอะไรเลย แถมเฉลยปมนางเอกก็ไม่มีบทสรุปคลี่คลายปัญหาที่แท้จริงอีก (กับคนๆ นั้น)

สรุปเลยว่าหนังดี แต่การกำกับ การเดินเรื่องค่อนไปทางธรรมดามาก (ยกเว้นแค่ช่วง CG) ถ้าเทียบกับฉลาดเกมโกง แบบที่ค่ายยกให้ระดับเดียวกันว่านี่คือเต็งหนึ่งของปีจาก GDH ผิดหวังครับ เพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยจริงๆ ไม่ว้าวแบบตอนดูฉลาดเกมโกงจบเลย (เรื่องนั้นก็มีข้อเสียอยู่ แต่หลายอย่างมันสดใหม่ ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ)  ถามว่าควรดูไหมก็ควรครับ แต่พลาดมาก็ไม่เสียดายอะไร

ให้คะแนนก็ 7.5 ครับ  (แฟนเดย์ 8 ฉลาดเกมโกง 9 ฟรีแลนซ์ 8.5 บอกเผื่อให้เทียบมาตรฐานที่ดูมากับค่ายนี้ครับ)

ส่วน Hunter Killer นี่คงไม่ต้องพูดเยอะครับ หนังของเจอร์ราร์ด บัตเลอร์ก็คงรู้ๆ กันอยู่ ชอบไปวุ่นกับประธานาธิบดีแทบทุกครั้ง หนังก็สไตล์เดิมโคตรโม้ แต่มากกว่าเดิมเพราะล่อไปจับประธานาธิบดีรัสเซีย ลามไปถึงสงครามโลกครั้งใหม่ เพียงแต่คราวนี้เจอร์ราร์ดไม่ได้มาบู๊ แต่บุ๋นอยู่ในเรือดำน้ำ ให้คนอื่นบู๊แทนทั้งเรื่อง (มีตัวหลักหลายทีม)

หนังเปิดมาก็เข้าเรื่องเลยอย่างไว แทบนอนสต็อปแอ็กชั่น หลังๆ นี่มันส์โคตร ฉากชิงไหวพริบหมือนกำลังเล่นเกมจำลองการรบอยู่เลย  หนังโชว์สารพัดอาวุธไฮเทคทั้งอเมริกาและรัสเซียได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ยังมีสไตล์อึดอัดอึมครึม เหมือนหนังเรือดำน้ำต้นตำหรับอย่าง Crimson tide กับ U-571 อยู่ด้วย ถ้าใครชอบสองเรื่องนี้ ก็ดูเรื่องนี้ได้เลยเพราะเทคโนโลยีเรือดำน้ำมันไปไกลกว่ามาก ได้เห็นอะไรแปลกๆ เยอะครับ แล้วยังผนวกการรบทั้งบนบก เหนือน้ำ ในห้องบัญชาการมาครบด้วย ก่อนดูคาดหวังไว้ว่าคงสนุกดี แต่ได้มากกว่าหวังหน่อยๆ บทดี แม้ฉากขับคันหลายอย่างจะรอดแบบโม้สุดๆ ก็ตามทีครับ

ให้คะแนน 8.5 ครับ ถ้าในความจำก็น่าจะชอบสุดของที่เจอร์ราร์ดเล่น แนววิกฤติประธานาธิบดีครับ เรื่องนี้ดูหลากหลายกว่า มีอะไรมากกว่าเยอะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่