สวัสดีค่ะ เนื่องจากก่อนเราจะไปขอวีซ่าอเมริกาก็ได้ใช้พันทิปเป็นที่พึ่งหลายสิ่ง วันนี้เลยออยากจะมาแชร์ประสบการณ์การขอครั้งแรกไว้เผื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ คนอื่นๆ บ้างค่ะ
โปรไฟล์ของเราคือ ผู้หญิงโสด อายุ 30+ หน้าที่การงานโอเค เคยไปมาแล้วหลายประเทศค่ะ
บอกก่อนว่า ก่อนจะไปก็ไม่ได้คิดว่าประวัติตัวเองมีปัญหาอะไร น่าจะผ่าน แต่ที่นอยคือ มีคนในฟันทิปบอกว่า หน้าที่การงานต้องมั่นคง ต้องทำที่เดิมมาอย่างน้อยๆ 4 ปีถึงจะชัวร์ แล้วเราเพิ่งเปลี่ยนงานนี้มาได้ปีเดียวเองค่ะ ยังไม่แต่งงานอีก เลยแบบ เอ๊ะ เค้าจะจริงจังกะอายุงานที่ปัจจุบันมั้ยนะ ไรประมาณนี้
ขออนุญาตข้ามขั้นตอนการกรอกฟอร์มและนัดไปเนอะ คนรีวิวเยอะแล้ว ข้ามมาวันที่ไปสัมกันเลยค่ะ
เอกสารที่เตรียมไปคือ
1 พาสปอร์ตปจบ.และเก่าที่มีทั้งหมด
2 ฟอร์ม ds 160 และหลักฐานการนัด/จ่ายตัง
3 หนังสือรับรองการทำงาน
4 สลิปเงินเดือน
5 สเตทเม้นบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนของบัญชีเงินเดือนเข้าและออมทรัพย์อีกอันนึง
เรานัดวันที่ 22 ต.ค. รอบ 9.15 แต่ไปถึงหน้าสถานทูตตอนประมาณ 8.45 ไม่มีคนเลยค่ะ ไม่มีแถวหรือไรทั้งนั้นเลยงงนิดนึง เพราะอ่านมาว่าต้องต่อแถว ฮ่าๆ ผ่านเข้าไปเรื่อย ไม่มีใครถามอะไร ไม่ต้องรอคิวเลยจนถึงตอนที่รอสัมภาษณ์
มาถึงด่านสำคัญ ต่อแถวรอสัมภาษณ์ วันนั้นมีเจ้าหน้าที่ที่สัมแค่สองคนเอง เป็นฝรั่งผู้ชายทั้งคู่ คนนึงใส่แว่น อีกคนตัวใหญ่หน่อย ไม่มีผม จำได้ว่าต่อแถวตรงนี้นานเหมือนกัน อาจจะเพราะว่าวันนี้มีแค่สองช่องค่ะ สุดท้ายถึงคิวเรา ได้สัมกะคนใส่แว่น รายละเอียดที่คุยกันตามนี้
Me: Good morning พร้อมยื่นพาสปอร์ตให้
Him: Morning! How are you? รับพาสปอร์ตไป พร้อมทำท่าให้เราเอานิ้วสแกนที่เครื่อง
Me: I'm good. You?
Him: I'm fine. Thanks. Why are you going to the US?
Me: To travel (เราถามคำตอบคำตลอดนะคะ เพราะอ่านเจอมีคนบอกว่าไม่ต้องตอบเกินที่เค้าถาม ฮ่าๆๆ)
Him: You've been there before?
Me: No
Him: You studied in the UK?
Me: Nope (งงนิดหน่อยว่าถามทำไม)
Him: Your English is very good
Me: Oh! Thank you (ถึงบางอ้อว่าถามทำไม)
ระหว่างนี้เค้าก็เปิดดูพาสปอร์ตเราซึ่งใหม่เอี่ยมเพิ่งทำ เลยหันมาถามว่า
Him: Can I have your other passports?
Me: ยื่นให้
เค้าก็เปิดๆๆ ดูอันเก่า แล้วหันมาถามต่อ
Him: Who are you going with?
Me: My boyfriend
Him: Where is he from?
Me: He's Thai
Him: He lives in the US?
Me: No no, he lives here in Thailand
Him: You don't know anyone in the US?
Me: No
Him: Ok. Enjoy your trip! พร้อมกับเก็บพาสปอร์ตเราไป และยื่นอันเก่าคืนให้
Me: Oh thank you! หน้าบานเดินออกมา
วันนี้ก็ได้พาสปอร์ตกลับมาแล้ว ได้มา 10 ปีค่า
หวังว่าคนที่ผ่านมาอ่าน จะใจชื้นขึ้นมาบ้างว่าก็ไม่ได้มีแต่เคสที่เค้าปฏิเสธเสมอไปนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่า
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกา (ต.ค. 2018)
โปรไฟล์ของเราคือ ผู้หญิงโสด อายุ 30+ หน้าที่การงานโอเค เคยไปมาแล้วหลายประเทศค่ะ
บอกก่อนว่า ก่อนจะไปก็ไม่ได้คิดว่าประวัติตัวเองมีปัญหาอะไร น่าจะผ่าน แต่ที่นอยคือ มีคนในฟันทิปบอกว่า หน้าที่การงานต้องมั่นคง ต้องทำที่เดิมมาอย่างน้อยๆ 4 ปีถึงจะชัวร์ แล้วเราเพิ่งเปลี่ยนงานนี้มาได้ปีเดียวเองค่ะ ยังไม่แต่งงานอีก เลยแบบ เอ๊ะ เค้าจะจริงจังกะอายุงานที่ปัจจุบันมั้ยนะ ไรประมาณนี้
ขออนุญาตข้ามขั้นตอนการกรอกฟอร์มและนัดไปเนอะ คนรีวิวเยอะแล้ว ข้ามมาวันที่ไปสัมกันเลยค่ะ
เอกสารที่เตรียมไปคือ
1 พาสปอร์ตปจบ.และเก่าที่มีทั้งหมด
2 ฟอร์ม ds 160 และหลักฐานการนัด/จ่ายตัง
3 หนังสือรับรองการทำงาน
4 สลิปเงินเดือน
5 สเตทเม้นบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนของบัญชีเงินเดือนเข้าและออมทรัพย์อีกอันนึง
เรานัดวันที่ 22 ต.ค. รอบ 9.15 แต่ไปถึงหน้าสถานทูตตอนประมาณ 8.45 ไม่มีคนเลยค่ะ ไม่มีแถวหรือไรทั้งนั้นเลยงงนิดนึง เพราะอ่านมาว่าต้องต่อแถว ฮ่าๆ ผ่านเข้าไปเรื่อย ไม่มีใครถามอะไร ไม่ต้องรอคิวเลยจนถึงตอนที่รอสัมภาษณ์
มาถึงด่านสำคัญ ต่อแถวรอสัมภาษณ์ วันนั้นมีเจ้าหน้าที่ที่สัมแค่สองคนเอง เป็นฝรั่งผู้ชายทั้งคู่ คนนึงใส่แว่น อีกคนตัวใหญ่หน่อย ไม่มีผม จำได้ว่าต่อแถวตรงนี้นานเหมือนกัน อาจจะเพราะว่าวันนี้มีแค่สองช่องค่ะ สุดท้ายถึงคิวเรา ได้สัมกะคนใส่แว่น รายละเอียดที่คุยกันตามนี้
Me: Good morning พร้อมยื่นพาสปอร์ตให้
Him: Morning! How are you? รับพาสปอร์ตไป พร้อมทำท่าให้เราเอานิ้วสแกนที่เครื่อง
Me: I'm good. You?
Him: I'm fine. Thanks. Why are you going to the US?
Me: To travel (เราถามคำตอบคำตลอดนะคะ เพราะอ่านเจอมีคนบอกว่าไม่ต้องตอบเกินที่เค้าถาม ฮ่าๆๆ)
Him: You've been there before?
Me: No
Him: You studied in the UK?
Me: Nope (งงนิดหน่อยว่าถามทำไม)
Him: Your English is very good
Me: Oh! Thank you (ถึงบางอ้อว่าถามทำไม)
ระหว่างนี้เค้าก็เปิดดูพาสปอร์ตเราซึ่งใหม่เอี่ยมเพิ่งทำ เลยหันมาถามว่า
Him: Can I have your other passports?
Me: ยื่นให้
เค้าก็เปิดๆๆ ดูอันเก่า แล้วหันมาถามต่อ
Him: Who are you going with?
Me: My boyfriend
Him: Where is he from?
Me: He's Thai
Him: He lives in the US?
Me: No no, he lives here in Thailand
Him: You don't know anyone in the US?
Me: No
Him: Ok. Enjoy your trip! พร้อมกับเก็บพาสปอร์ตเราไป และยื่นอันเก่าคืนให้
Me: Oh thank you! หน้าบานเดินออกมา
วันนี้ก็ได้พาสปอร์ตกลับมาแล้ว ได้มา 10 ปีค่า
หวังว่าคนที่ผ่านมาอ่าน จะใจชื้นขึ้นมาบ้างว่าก็ไม่ได้มีแต่เคสที่เค้าปฏิเสธเสมอไปนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่า