กระทู้นี้สำหรับคนที่ศึกษาเรื่องกองทุนมาบ้างแล้ว
อยากซื้อกองทุนแต่ไม่ได้ซื้อสักที ผลัดมานาน 555 วันนี้เรามาซื้อกองทุนกันเถอะ

๑.เลือกกองทุน
กองทุนในกลุ่ม LTF มีอยู่หลายกอง ถ้าวิธีเลือกแบบมาตรฐาน เบสิกสุด คือ หาที่ค่าธรรมเนียมต่ำๆเข้าไว้ “กองทุนดัชนี(index funds)ที่ค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด” อันนี้ไม่ได้นั่งเทียนคิดขึ้นมา แต่จากงานวิจัย สถิติย้อนหลัง และวอเรน บัฟเฟต(ปู่ที่รวยเป็นอันดับ ๓ ของโลกตอนนี้)ก็แนะนำไว้นะเออ
หมายเหตุ  ดูด้วยว่ากองทุนที่เราจะซื้อเป็นของธนาคารไหน หรือธนาคารใดเป็นตัวแทนขายบ้าง หาในกูเกิ้ลได้เลย จะได้ไปธนาคารถูก
ของมันต้องมี – กระดาษจดชื่อกองทุนที่เราจะซื้อ (ชื่อเต็ม ชื่อย่อ เลข ISIN จดไปให้หมด กันซื้อผิดกอง)

๒.เตรียมเงิน
    ของผมซื้อ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ๒๐๐๐๐ = ๓๐๐๐ บาท ต่อมา DCA ซื้อประจำทุกเดือน วันเงินเดือนออกให้ซื้อก่อนเลย(เดี๋ยวกินชาบูหมด) หรือใครจะสมัครตัดบัญชีอัตโนมัติก็ยิ่งดี (เตรียมสมุดบัญชีที่จะให้ตัดเงินไปด้วย)
    ของมันต้องมี – เงินสด ๓๐๐๐ บาท(และหลังจากนี้ทุกเดือน เดือนละ ๓๐๐๐) , เงินเปิดบัญชีออมทรัพย์ ๕๐๐ บาท(***ไม่เอาบัตร ATM) รวมเตรียมไป ๓๕๐๐ บาท

๓.เตรียมอุปกรณ์
    ของมันต้องมี – บัตรประชาชน

๔.ฝืนตัวเองไปธนาคารให้ได้
    มาถึงขั้นตอนที่ยากที่สุดสำหรับผู้ซื้อกองทุนครั้งแรก เราจะหาข้ออ้างให้ตัวเองมากมาย เพราะกลัวที่ต้องไปทำอะไรที่ไม่คุ้นเคย เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องไปให้ได้ อย่าผลัดวันจนเป็นนิสัย
    เมื่อไปถึง
-กดบัตรคิว (ส่วนใหญ่จะอันเดียวกับบัตรคิวเปิดบัญชีเงินฝาก)
-เดินไปหาพนักงาน ยิ้มแล้วพูดว่า “มาเปิดบัญชีกองทุนครับ...ครั้งแรก” เสร็จแล้วทำตามขั้นตอนไป มีเอกสารให้เซ็นเยอะพอสมควร ประมาณครึ่งชั่วโมงน่าจะเสร็จ สมัครซื้อขายทางเน็ตไว้ด้วยสะดวกดี(ส่วนใหญ่เขาจะสมัครให้เองอยู่แล้ว โหลดแอปของธนาคารแล้ว ให้พี่พนักงานช่วยดูให้เลย จะได้ไม่ต้องมานั่งงมเอง)
-เมื่อเสร็จ เราจะได้เอกสารกลับมา ดังนี้ สมุดบัญชีกองทุน สมุดบัญชีเงินฝาก หนังสือชี้ชวน เอกสารเปิดบัญชี ประมาณนี้ ไม่ค่อยได้ใช้อะไรหรอก ก็เก็บๆกลับมา (ขอซองกระดาษใหญ่ๆที่พี่พนักงานได้ รวมเอกสารใส่เข้าไปจะได้ไม่กระจัดกระจาย) เสร็จกลับบ้าน

แนะนำเพิ่มเติม
-ควรไปวันทำการ ถ้าไปวันหยุด(ธนาคารตามห้าง) ยังไงก็ต้องรอทำรายการวันเปิดทำการอยู่ดี และข้อสำคัญวันหยุดคนเยอะ กดดัน 55555
-กองทุนไม่ได้ดีทุกกอง ต้องเลือกอย่างมีสติ อย่าจิ้มมั่ว
-อย่าวู่วาม ศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ LTF นิดหน่อยไม่ต้องอ่านก็ได้    
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-ใช้ LTF ตัวเดียวลดหย่อนภาษีก็พอ ไม่ต้องไปสนใจ RMF แต่บางคนที่รายรับมากๆ ก็ใช้ RMF มาช่วยลดภาษีได้อีก เอาเป็นว่าเด็กจบใหม่เงินเดือนน้อยเมิน RMF ไปก่อน
-กองทุน LTF/RMF เนี่ย กระทรวงการคลังสนับสนุน เหตุผลหนึ่งเนื่องจากคนที่ลงทุนจะมีฐานะการเงินมั่นคงในระดับหนึ่ง ยามเจ็บป่วยหรือชราจะได้ไม่เป็นภาระแก่รัฐมากนัก(มีเงินก้อน/ปันผล) จึงลดหย่อนภาษีให้ (หลักการเดียวกับที่ลดหย่อนภาษีให้คนที่ชื้อประกัน)
-กระทรวงการคลังประกาศใช้กฎกระทรวง ขยายระยะเวลาถือครอง LTF จากเดิม 5 ปี เป็น 7 ปี ดังนั้น ควรซื้อในปริมาณที่พอดี  ไม่กระทบรายจ่ายของเรา เพราะเงินที่ใช้ซื้อ LTF จะถูก freeze ไปอีก 7 ปี(ถอนก่อนระวังขาดทุนนะเออ)
-กฎหมายกำหนดซื้อได้สูงสุด 15% ของรายได้เท่านั้น (15% ของรายได้ที่เรายื่นภาษีนั่นแหละ) เพราะเดี๋ยวซื้อไปลดภาษีกันหมด ไม่มีใครจ่ายพอดี
-รายได้ยังไม่ถึงขั้นเสียภาษีก็ซื้อได้( ผมก็รายได้น้อย ยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ) ถือว่าลงทุน ส่วนการลดหย่อนภาษีเป็นเพียงสิทธิ์ประโยชน์เสริม
-การวางแผนการเงินยังเป็นเรื่องใหม่ยุคนี้ ในสมัยปู่ย่าตายายเราถึงจะไม่วางแผนการเงินก็ไม่มีผลกระทบมากเท่าใดนัก แต่ในรุ่นเราหากไม่วางแผนการเงินเมื่อจากไปจะทิ้งภาระหนี้สิน และไม่เหลือมรดกใดๆให้ลูกหลาน สุดท้ายไม่ว่ากี่ชั่วอายุคนก็ยังวนเวียนในวงจรนี้ ดังนั้น มาเริ่มสร้างความมั่งคั่งกันตั่งแต่วันนี้เถอะครับ