ประสบการณ์ติด ตม.เกาหลีใต้ 2018

สวัสดีค่ะ ครั้งแรกของเราที่สมัครพันทิป เพื่อจะมาเล่า ปสก.การติด ตม.เกาหลีใต้ ซึ่งหลายๆคนเค้าก็คงมารีวิวกันไปแล้ว 555+ ลองมาฟังในแบบที่เราเจอมาบ้างละกันเน๊าะ ^^ ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเรากับเพื่อน ไปกันแค่ 2 คน (ไม่ได้ไปกับทัวร์)
..... เราเดินทางออกจากดอนเมือง ตีสอง (เวลาไทย) ของวันที่ 14 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา เดินทางประมาณ 5-6 ชม. กว่าจะถึงก็ประมาณ  10 โมงนิดๆ (เวลาเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชม.) พอแลนดิ้งปุ๊บ เราก็เดินตามๆเค้าไป จนถึงด่าน ตม. !!! .... เริ่มแล้วๆ ในใจแอบแป้วๆ หวั่นๆนิดนึง เค้าจะถามไรมั้ย ถามอะไรยังไง แต่ก็ยังคงเก็บอาการได้เป็นปกติ ในใจคิดว่าคงไม่โดนหรอกเตรียมตัวมาดีละทั้งเอกสารที่จะใช้ยืนยันตัวตน การจองโรงแรม เที่ยวบินกลับไทย ประกันภัยการเดินทาง และวัตถุประสงค์เพื่อมาเที่ยวชัดเจน...
..... เดินไปตามแถว ก็จะเจอช่องตรวจหลายๆช่อง แต่ละช่องก็มี จนท.นั่งประจำอยู่ เราก็ต่อแถวเดียวกับเพื่อน และแล้ว.. เพื่อนเราก็เดินเข้าไปหา ตม.เค้าก็ตรวจเอกสารต่างๆ ซึ่งเราเห็นว่ามี จนท.ผช. คนนึงยืนอยู่ด้านหลัง จนท.ผญ. ที่ตรวจเอกสารเพื่อนเรา ในใจก็นึกอยู่ว่า ผช.คนนี้เค้าเป็นผู้ช่วยป่าวว๊าาาา และแล้ว เพื่อนก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แต่เดี๋ยว!!! เห้ยยยยยยถึงคิวเราแล้ว จนท.ผญ.ลุกออกจากโต๊ะและเปลี่ยน จนท.ผู้ชายคนนั้นมานั่งแทน โอ้ววววว แม่จ้าววววว เริ่มได้กลิ่นตุๆ พอเจ้าหน้าที่ ผช.เริ่มเข้าระบบ ก็เรียกเราเข้าไปตรวจเอกสาร... อ่าาาาา และแล้ว ก็ถามเราว่า...

++++++ คุณมาทำอะไร พักที่ไหน กี่วัน เราก็ตอบๆไป ขอดูเอกสารการจองโรงแรม อ่าาาเราก็ให้ไป สักพักเค้าก็เหมือนจะบันทึกข้อมูล และก็ไม่ว่าไงต่อ สักพักว๊อยยยย เรียกจนท. ที่อยู่แถวนั้น ในใจคิดว่า เอ้าาาาาาาากุโดนแล้ว โดนเรื่องไรว่ะเนี่ย เอกสารก็เหมือนกับเพื่อนทุกอย่าง!!! อ๊ะ ทำไมซวยจังว่ะ มาเจอตอนเปลี่ยน จนท. แต่ก็นะ.........ก็ได้แต่เดินตาม จนท.เข้าไปในห้อง T_T

++++++ พอเข้าไปในห้อง(เราขอเรียกว่าด่านที่ 2) เค้าก็ให้เรานั่ง สักพักมี จนท.ผู้หญิง คนนึงมานั่งสัมภาษณ์เรา ชื่ออะไร มาพักกี่วัน ขอดูตั๋วกลับ เราก็ให้ไปหลักฐานการจองเที่ยวบินของเรากับเพื่อน ซึ่งในเอกสารระบุวันไปกลับ รายชื่อผู้โดยสาร ชัดเจนว่ามีชื่อเรา (กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องทำเอาเงิบมากกก คือนึกในใจมันไม่มี จนท.คนอื่นที่พูดภาษาอังกฤษดีกว่านี้แล้วหรอว่ะ คือช่วยสปีคอิ้งแบบไม่เกาหลีได้ป่าวว่ะ กุฟังไม่ออก) พอเราขอให้พูดอีกทีเพราะเราฟังเค้าไม่รู้เรื่อง (ปล.อิ้งเราก็ไม่ได้แย่นะ) สักพักไม่รู้ว่านาง งง อะไร เลยเรียก จนท.ผู้ชายอีกคนมาคุยเรื่องตั๋ว เราจับใจความภาษาเกาหลีได้ประมาณว่า จนท.ผญ.ไม่แน่ใจว่าคือนี่เป็นเอกสารการจองจริงๆมั้ย แล้ว จนท.ผช.ก็ตอบประมาณว่าการจองตั๋วของคนไทยหรือเที่ยวบินตอนจองมันมีแบบนี้ได้ ละเค้าก็คุยกันไรไม่รู้อีก บลาๆ ... เพื่อความแน่ใจ จนท.ผช. คนนั้นก็โทรไปหาใครสักคนแล้วถาม บลาๆ... พีคสุดคืออยู่ตรงนี้!!!!! ให้เอกสารเรามา 1 แผ่น บอกให้เราไปกรอกละนั่งรอในห้องข้างใน!!!! (ห้องเย็นที่ร่ำลือกัน 555+)
>>>> โอ้โหหหหหหหหห.... ในใจนี่คิดว่า กุไม่ชัดเจนอะไรอีก!!!! หรือพวกคุณยิ้มไม่รู้เรื่องอะไรว่ะ !!! คุณใช้วิจารณญาณยังไงตัดสินว่ะ!! หน้ากุเหมือนคนจะมาเป็นผีน้อยหรอ??? หน้าที่การงานก็ชัดเจน!!  คือแบบ..... ต้องข่มไว้ไง อย่ากระโตกกระตากไป #$&ร้องไห้*_)+_+_|
>>>> เอาว่ะ มันจะแค่ไหนเชียว สู้ว๊อยยย!! จำใจถือกระดาษแผ่นนั้นเดินเข้าไปในห้องนั้น สิ่งที่เห็นคือ โอ้โหหหห ใครเยอะแยะนั่งอยู่ในนี้ ทั้งไทย ทั้งเทศ ทั้งมาเดี่ยว มาเป็นครอบครัว จะไปนั่งตรงไหนดีว๊าาาา หน้าตาโหดๆ เถื่อนๆ สวยๆ มีหมดในนั้น แต่งตัวแบบพร้อมมาโดด แต่งแบบคุณนายก็มี (เราใส่กางเกงยีนส์ เสื้อเชิ๊ต สะพาย กป.เป้ หอบ Jacket ตัวนึง) ^^  ..... เอาละหว่า นั่งตรงนี้ก็ได้ หน้าตาดูเหมือนเป็นคนไทย ทุกคนทำหน้าเครียดกันหมด...มีทั้งคนที่สัมภาษณ์มาแล้วไม่ผ่าน คนรอสัมภาษณ์ (เราด้วย) 555+
>>>> มาดูในเอกสาร 1 แผ่นกัน เป็นกระดาษที่ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป แต่มีคำถามเพิ่มเติมมา คือ มาเที่ยวบินอะไร พกเงินติดตัวมาเท่าไหร่(ให้กรอกจำนวน)  ใครเชิญให้มา บริษัทไหนเชิญให้มา เคยมีประวัติด่างพร้อยอะไรมามั้ย ทำนองถามว่าเคยมีคดี หรือถูกคุกคามด้านเสรีภาพมามั้ย ... ใครจะเป็นคนมารับ ให้ใส่ชื่อพร้อมเบอร์ติดต่อเผื่อจะต้องกลับงี้... แล้วก็มีคำถามอื่นอีกซึ่งเราก็จำมาได้ไม่หมด... ทุกคำถามอัดรวมอยู่ในแผ่นเดียว!! และให้เราเซ็นชื่อ.............
//// นอกเรื่องแป๊ป /// ระหว่างที่เรากรอกเอกสารและรอเรียกไปสัมภาษณ์ เราได้คุยกับคนไทย 2 คน คนนึงเค้าก็ตั้งใจมาเที่ยวกับเพื่อนเหมือนกัน ซึ่งเพื่อนเค้าก็ผ่านเข้าไปแล้ว เค้าสัมภาษณ์แล้ว แต่เหมือนต้องรอยืนยันอะไรสักอย่าง ส่วน ผญ.อีกคนเท่าที่คุย น้องเค้ายังเรียนมหาลัย แล้วก็มีโอปป้าออกค่าตั๋วให้มาเที่ยว นางก็เลยมา..พอไปสัมภาษณ์ จนท.ก็ถามว่าใครเชิญมา พกเงินมาเท่าไหร่ น้องเล่าให้ฟังว่า ติดต่อโอปป้าไปแต่ โอปป้าไม่มาช่วยยืนยันตัวตนเลยเลยติดอยู่ตรงนี้ ส่วนเรื่องเงินนั้น น้องเค้าพกบัตรเครดิตมา ซึ่งน้องเค้าก็เป็น นศ.อะเน้าะ จะให้พกเงินเป็นถุงเป็นถังมาก็คงไม่ใช่ (แต่จริงๆน้องต้องมีนะ น้องเค้าพลาดตรงนี้ไปอ่า) ปล.ดีนะเราแลกตังมาพร้อมกับเพื่อน แล้วเพื่อนเอะใจว่าต้องแบ่งกันเผื่อตม.ขอดู และมันก็เป็นแบบนั้นจริงค่ะท่านผู้ช๊มมมมมมม หลังจากที่ได้คุยกับคนไทย เราก็ได้รู้มาว่าพอถึงขั้นตอนที่สัมภาษณ์ ถ้าเค้าพิจารณาไม่ให้เราผ่าน เค้าจะให้เซ็นชื่อ ซึ่งก็หมายถึงว่าคุณยอมกลับประเทศของคุณ หลายคนไม่รู้ก็เซ็นไป คนที่รู้ก็ไม่ยอมเซ็น ก็รอพิสูจน์กับจนท.ต่อไป....จังหวะนั้นก็จะมีโอปป้า (น่ารักๆ อิอิ เดี๋ยวชะตาจะเป็นไงไม่รู้อย่าเพิ่งมองโอปป้า 555+) ก็จะเข็นกระเป๋าเดินทางของคนที่ติดอยู่เข้ามาให้ คือแบบรอกลับประเทศงี้....
>>>>  อ่าๆๆ มาละ นาทีที่รอคอย หลังจากรอมาเกือบ 2 ชม. ในห้องเย็น (มันเย็นตรงไหน!! ร้อนก็ร้อน ข้าวก็ไม่ได้กิน คนก็คุยกันเสียงดัง) .... มี จนท.มาเรียกชื่อเราออกไป..เค้าขอเอกสารที่เรากรอก และให้เรานั่งฝั่งตรงข้ามกับเค้า ซึ่งเป็นกระจกกั้นมีเจาะรูแบบให้เสียงลอดผ่าน ในใจคิดว่าเหมือนกระจกเวลาให้นักโทษคุยกับญาติเหมือนในซีรี่ย์งี้ 5555+ ส่วนบนโต๊ะมีกล้อง+ที่สแกนนิ้วมือ เหมือนที่เรายื่นกับ ตม.ครั้งแรก มีไมค์ และโทรศัพท์ .... เราก็นั่งลง จนท.ก็พูดกับเราว่าเราจะสัมภาษณ์คุณ เดี๋ยวเราจะโทรหาใครสักคนให้คุณพูดกับเขา สักพักจนท.ก็ต่อสายไปหาใครสักคน (ประชุมสาย 3 คน) เค้าก็คุยกัน....แล้วคนในสายก็ถามเราเป็นภาษาไทย อ่อ... ประมาณว่าล่ามงี้ คำถามคือ...
1. คุณมาทำอะไรที่นี่? - เราก็ตอบว่า มาเที่ยวจริงๆ ค่ะ เค้าขอดูตั๋วกลับ เราก็ให้เอกสารที่เราเตรียมมาไปทั้งหมดเลย...
2. มากับใคร? - มากับเพื่อน  เพื่อนชื่ออะไร เกิดวันที่เท่าไหร่? -- เราก็ตอบเค้าไป
3. คุณจะไปเที่ยวที่ไหน? - เคียงบกกุง Lotte world เมียงดง ...
4. คุณจะไปเที่ยวยังไง? - ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ ไปเคียงบกกุง รถไฟฟ้าสายอะไร? คิดในใจว่า อห.คือจะถามขนาดนี้เลยช่ายป่ะ ด้วยความที่เราไม่เคยไปเกาหลีมาก่อนเลย แต่ก็ทำแพลนเดินทาง แพลนเที่ยว พร้อมหมายเหตุสายรถไฟฟ้าไว้แล้ว..ก็เลยพูดตอบกลับไปว่า "พี่ค่ะหนูเพิ่งมาเกาหลีเป็นครั้งแรกหนูยังจำไม่ได้หรอกค่ะว่าสายสีอะไรไปถึงไหน ตรงไหนใช้สายสีอะไร แต่ยังไงหนูก็ศึกษาและโน๊ตไว้ในแพลนเที่ยว พร้อมโหลดแอพ subway ไว้แล้วค่ะ อยู่ในเอกสารที่เค้าถือนั่น.... นางก็เลยบอก จนท.ให้ดูแพลน..จนท.นางก็เลยพลิกๆดู
5. คุณพักที่ไหน จ่ายเงินค่าที่พักรึยัง? -- เราบอกว่าตามเอกสารค่ะ เงินค่าที่พักหนูจองผ่านเน็ต หนูเลือกไปจ่ายตอนถึงที่พักค่ะ แต่ตอนจองเค้าก็ให้ใส่เลขบัตรเครดิตและเดบิตแล้ว คือถ้าไม่เข้าพักเค้าก็หักเงินในบัตรอัติโนมัติค่ะ ฉะนั้นยังไงก็ต้องไปจ่าย 5555+) นางก็เลยบอก จนท.ตามที่เราบอกนาง เค้าก็คุยภาษาเกาหลีอะไรกันไม่รู้ สักพักประโยคที่เราอยากได้ยินก็ออกมาจากล่าม.... นางบอกเราว่า โอเคค่ะ จนท.เค้าจะอนุญาต ให้ผ่านเข้าไปนะค่ะ เราก็เลยขอบคุณเค้า ^___^   (เก็บอาการสุดๆ)

.... สิ้นสุดการรอคอย จนท.เค้าก็ปริ้นกระดาษ แผ่นเล็กๆ ให้เรา เขียนประมาณว่าใบอนุญาตผ่าน ตม. งี้!! แล้ว จนท.ก็พาเราเดินมาที่ประตู เปิดให้เราเข้าไปโซนข้างใน ฮิ้วววววววววววววววววววววว คือเข้ามาแล้ว ผ่าน ตม.มาแล้ว ต่อไปก็ออกไปเผชิญกับบ้านเมืองของเค้าต่อไป.....
ปล. ไว้เค้ากลับมาเล่าในกระทู้ต่อไปนะ เค้าล้อเล่น

**** เราว่าทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมทั้งเรื่องของเอกสารอ่ะ  จนท.จะถามอะไร จะขอดูอะไรควรจะแสดงได้อ่ะเนาะ เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆดวงเราจะดีหรือจะซวยแบบเรา 555+ หวังว่ากระทู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้หลายๆคนที่อยากจะไปเที่ยวด้วยตัวเอง ที่สำคัญศึกษาให้รอบด้าน สำหรับเราและเพื่อนทริปเที่ยวเกาหลี 14-18 ต.ค. 61 ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ได้กลับมาปั่นงานต่อไม่รอแล้วนะ 5555+ เจอกันกระทู้หน้านะค่ะ ^^

#KoreaTrip #ติดตม.เกาหลีใต้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่