'หนังเนวอลวอร์แฟร์' เป็นหนังที่มีฉากหลังอยู่ในสภาวะสงคราม และมีโลเคชั่นหลักเป็นท้องทะเล โดยจะโฟกัสไปยังเหล่าทหารเรือหรือกองทัพราชนาวีที่ต้องปฏิบัติภารกิจ การฝึกกำลังพล การซักซ้อมยุทธวิธี และการสู้รบเพื่อประเทศชาติ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. K-19: The Widowmaker (2002)
อิงเค้าโครงจากเรื่องจริงในยุคที่สหรัฐและสภาพโซเวียตต่างห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปมสำคัญจะอยู่ที่ฝั่งสหรัฐได้ทำการเคลื่อนเรือรบดำน้ำเข้าในเขตเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมองโก ทำให้กลุ่มผู้นำสภาพโซเวียตต้องเร่งการผลิตเรือดำน้ำ K-19 เพื่อเตรียมทำสงครามที่กำลังขึ้นในอนาคต โดยจุดโฟกัสจะอยู่ที่การเข้ามาของ 'อเล็กไซ ออสตริคอฟ' กัปตันคนใหม่ แทนที่ 'มิคาอิล โพเลนิน' กัปตันเรือคนเก่าที่ถูกปลดไปเป็นที่ปรึกษา หลังโต้เถียงกับกลุ่มผู้นำสภาพโซเวียตถึงความไม่พร้อมของเรือดำน้ำ K-19 ก่อนท้ายที่สุดหนังได้แสดงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวละคร หลังเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกิดการชำรุดและชีวิตเหล่าลูกเรือต้องมาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
9. Crimson Tide (1995)
การเชือดเฉือนคมระหว่างสองนักแสดงรุ่นเก๋าอย่าง Denzel Washington ในบทบาทของรองกัปตันเรือสหรัฐ กับ Gene Hackman หัวหน้ากัปตันเรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในโลกรองจากประธานาธิบดีสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งปมของหนังเกิดจากความเสียหายของอุปกรณ์สื่อสารภายในเรือดำน้ำ จนเกิดความคลุมเครือถึงคำสั่งยิงขีปนาวุธที่กลายความขัดแย้งทางความคิดระหว่างกัปตันเรือที่ยังคงยืนยันในการดำเนินคำสั่งยิง กับรองกัปตันที่เห็นต่างเพราะตัวคำสั่งยังไม่ชัดเจน ทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนกับการกุมชะตาชีวิตผู้คนหลายล้านคน และอาจเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม
8. U-571 (2000)
หนึ่งในหนังสงครามเรือดำน้ำคุณภาพจากยุค 2000s ที่คว้ารางวัลตัดต่อเสียงจากออสการ์ โดยตัวบทยอดเยี่ยมในการลงรายละเอียดตัวละคร แสดงถึงพัฒนาการในการแก้ปัญหา และเซ็ทสถานการณ์ความลุ้นระทึกได้อย่างต่อเนื่องและดูสมจริง โดยหนังเล่าถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝ่ายกองทัพสหรัฐสามารถตรวจจับได้ว่ามีเรือดำน้ำเยอรมัน U-571 จอดเสียกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจุดโฟกัสจะอยู่ที่การส่งเรือดำน้ำ S-33 เดินทางไปยังตำแหน่งของเรือดำน้ำ U-571 ก่อนให้กำลังทหารสหรัฐสวมรอยเป็นเรือหนุนของเยอรมันเพื่อเข้าไปยึดเรือ แล้วนำเครื่องอินิกม่าที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนโมเมนตัมของสงครามให้กลับมาอยู่ที่ฝ่ายพันธมิตรหากสามารถถอดรหัสได้สำเร็จ
7. The Admiral: Roaring Currents (2014)
หนังเชิดชูวีรบุรุษที่อิงเค้าโครงบางส่วนจากเรื่องจริงของเรือรบเกาหลี 12 ลำ ที่สามารถทำลายแนวหน้าและขับไล่เรือรบกองทัพญี่ปุ่นกว่า 300 ลำ ที่หวังจะเข้ามายึดโซชอน ซึ่งหนังจะค่อยๆเล่าสถานการณ์ความตึงเครียดและความสิ้นหวังภายใต้กำลังพลอันน้อยนิดและการสูญเสียเรือเต่าซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสู้ศึก ทว่าสิ่งที่นายพล 'ยีซุนชิน' มองเห็นว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการสู้ศึกไม่แพ้เรื่องเรือรบ จำนวนทหาร หรือกลยุทธ์ศึก คือสภาพจิตใจของผู้คนในกองทัพที่ย่ำแย่ ก่อนที่เขาจะแปรเปลี่ยนมันจากความกลัวเป็นความกล้าที่จะยืดหยัดต่อสู้เพื่อประเทศชาติ
6. The Hunt for Red October (1990)
ผลงานดัดแปลงจากนิยายสายลับจารชนของ Tom Clancy โดยเป็นสงครามจิตวิทยาที่เต็มไปด้วยแผนการล่อลวง โมเม้นต์พลิกผันที่ถูกเล่าภายในเรือดำน้ำ 'เรด ออคโทเบอร์' กับปมเรื่องที่พูดถึง 'มาร์โก ราเมียส' หัวหน้ากัปตันเรือของรัสเซีย ที่ตัดสินใจแปรพักตร์และมุ่งหน้าสู่น่านน้ำอเมริกา ทว่าฝ่ายรัสเซียก็โต้กลับและประกาศกร้าวถึงจุดประสงค์ของราเมียสที่หวังใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์เข้าไปถล่มอเมริกา ซึ่งจุดโฟกัสจะอยู่ที่ตัวเอก 'แจ๊ค ไรอัน' สายลับซีไอเอ ที่ถูกฝั่งอเมริกาส่งเข้าไปสืบหาความจริง ก่อนที่สถานการณ์ความตึงเครียดจะบานปลายจนกลายเป็นชนวนก่อสงครามระหว่างประเทศ
5. The Caine Mutiny (1954)
อีกหนึ่งผลงานขึ้นหิ้งของหนังสงครามทางทะเลที่ถูกดัดแปลงจากนิยายรางวัลพูลิตเซอร์ของ Herman Wouk โดยสะท้อนแง่มุมการใช้กฎระเบียบวินัยทหารที่นำมาสู่การตั้งคำถามถึงจุดสมดุลของความเหมาะสมต่อการปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสำรวจผ่านมุมมองของ 'คีธ' พลทหารที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนทหารเรือ และได้เข้าประจำการในเรือกวาดระเบิดที่มี 'เดอไวซ์' กัปตันผู้เป็นที่รักของเหล่าลูกเรือ ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างเป็นกันเองและยืดหยุ่นในกฎระเบียบ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเดอไวซ์ก็ถูกปลด ก่อนได้กัปตันคนใหม่เป็น 'ฟิลิปส์ ฟรานซิสต์ ควี๊ก' ชายผู้เคร่งครัดในกฎระเบียบและต้องการปฏิวัติทุกสิ่งในเรือลำนี้ให้กลับสู่รูปแบบที่ควรจะเป็น
4. Master and Commander: The Far Side of the World (2003)
องค์ประกอบของภาพงาน ระบบเสียง และการลงรายละเอียดของเนื้อหาที่สมจริง คงเป็นเรื่องยากที่จะหาหนังเรือรบโบราณที่ดีเทียบเท่ากับเรื่องนี้ ซึ่งหนังเซ็ทเรื่องราวในยุครุ่งเรืองอำนาจของนโปเลียนที่กำลังไล่ล่าอาณานิคมหลายประเทศในยุโรป ก่อนจะโฟกัสไปยังพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลของบราซิลที่เรือรบเซอร์ไพร์สของอังกฤษซึ่งนำโดยกัปตันแจ๊ค ต้องหาทางหยุดเรืออาร์เครอนที่กำลังมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อก่อสงคราม ทว่าสิ่งสำคัญก็คือเรือรบเซอร์ไพร์สมีปืนใหญ่เพียง 28 กระบอก ลูกเรืออีก 197 คน นับเป็นกองกำลังรบที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับเรืออาร์เครอน ทำให้กัปตันแจ๊คต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆมาใช้เพื่อชนะศึกในครั้งนี้ให้ได้
3. Tora! Tora! Tora! (1970)
อิงเค้าโครงจากเหตุโศกนาฏกรรมเพิร์ลฮาเบิลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหนังจะเล่าผ่านมุมมองของทั้งฝั่งสหรัฐและญี่ปุ่นเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์ การโต้เถียงกันเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมของสถานการณ์ก่อนนำไปสู่การโจมตีที่เพิร์ลฮาเบิล โดยหนังเปิดด้วยการประชุมของกลุ่มผู้นำฝั่งญี่ปุ่นที่กำลังดีเบตถึงการคว่ำบาตรจากสหรัฐหลังกองทัพญี่ปุ่นไปรุกรานชาติพันธมิตรใหญ่อย่างจีน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะลงนามสนธิสัญญาเข้าร่วมฝ่ายอักษะเป็นชาติที่สามต่อจากเยอรมันและอิตาลี ขณะเดียวกันหนังก็ตัดไปฝั่งสหรัฐที่พยายามแก้ข้อบาดหมางที่เกิดขึ้น ทั้งยังติดตามข่าวสารและเตรียมรับมือกับฝั่งญี่ปุ่นที่กำลังซักซ้อมกลยุทธ์กลางทะเลโดยมุ่งหมายจะใช้เครื่องบินทุ่มตอร์ปิโดมาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่อ่าวเพิร์ลฮาเบิล
2. The Enemy Below (1957)
ผลงานดัดแปลงจากนิยายของ D.A. Rayner นายทหารอังกฤษที่เคยเข้าร่วมสงครามเรือดำน้ำในคาบมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งหนังได้กลายเป็นแบบอย่างชั้นเยี่ยมของหนังสงครามทางเรือที่ห้ำหั่นกันด้วยกลยุทธ์ศึก กับเรื่องราวในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรือรบสหรัฐซึ่งนำโดยกัปตัน 'เมอร์เรล' ที่ได้รับภารกิจให้ค้นหาและทำลายเรือข้าศึก ต้องมาโคจรพบกับเรือรบเยอรมันที่นำโดยกัปตัน 'สโตเบิร์ก' โดยหนังยอดเยี่ยมในการวางคาแรคเตอร์ของสองกัปตันให้มีความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันกัน ทำให้กว่า 1 ชั่วโมงแรกจะเป็นเกมกลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ความตึงเครียด กับการเดินหมากที่ดำเนินภายในห้องควบคุม ที่จะมีการหลบหลีก ตั้งรับกันไปมาอย่างลุ้นระทึก
1. Das Boot (1981)
หนึ่งในหนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล การันตีได้จากการเข้าชิง 6 รางวัลใหญ่ออสการ์ ด้วยการลงรายละเอียดของตัวหนังที่สมจริง ทั้งเนื้อหาด้านยุทธวิธีการรบ การสำรวจสภาพชีวิตและจิตใจของเหล่าลูกเรือที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่แคบๆ เต็มไปด้วยความกดดันสูงจากสถานการณ์ที่คาบเส้นระหว่างความเป็นความตาย และยังรวมไปถึงฝ่ายเทคนิคพิเศษงานเสียงและงานภาพที่ทำได้อย่างสมจริง จนอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังสงครามเรือดำน้ำที่ดีที่สุด โดยหนังเปิดด้วยงานเฉลิมฉลองเพื่อต้อนรับเหล่านายทหารเยอรมันพร้อมคำโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้คนจงรักภักดีในตัวผู้นำ ก่อนโฟกัสไปยังภารกิจที่พวกเขาต้องนำเรือดำน้ำ U-96 ไปออกลาดตระเวนและทำลายเรือเสบียงอาหารหรือเรือรบข้าศึกของฝั่งพันธมิตร
+(1)
Hunter Killer (2018)
เข้าฉายในไทย 25 ตุลาคมนี้
หนังสงครามเรือดำน้ำที่ถูกดัดแปลงจากนิยายที่อิงประสบการณ์ตรงของ George Wallace อดีตผู้บังคับบัญชาของยูเอสเอส ฮิวส์ตัน และนำแสดงโดยหนึ่งในแอคชั่นสตาร์แห่งยุคอย่าง Gerard Butler ในบทบาทของ 'โจ กลาส' กัปตันเรือดำน้ำของกองทัพสหรัฐ ที่ตรวจพบข้อมูลลับของการรัฐประหารที่กำลังขึ้นในรัสเซีย นำโดยอดีตนายพลที่แปรพักตร์เพื่อหวังจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม ทางเหล่าบุคคลชั้นสูงในเพนตากอนจึงมอบหมายภารกิจสำคัญให้กัปตันกลาสในการนำทีมฝ่าน่านน้ำของศัตรูเเละไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยซีลในการบุกชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลย
ตัวอย่างซับไทย
10+(1) หนังสมรภูมิทะเลเดือด (Naval Warfare) ที่คุณไม่ควรพลาด
'หนังเนวอลวอร์แฟร์' เป็นหนังที่มีฉากหลังอยู่ในสภาวะสงคราม และมีโลเคชั่นหลักเป็นท้องทะเล โดยจะโฟกัสไปยังเหล่าทหารเรือหรือกองทัพราชนาวีที่ต้องปฏิบัติภารกิจ การฝึกกำลังพล การซักซ้อมยุทธวิธี และการสู้รบเพื่อประเทศชาติ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. K-19: The Widowmaker (2002)
อิงเค้าโครงจากเรื่องจริงในยุคที่สหรัฐและสภาพโซเวียตต่างห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปมสำคัญจะอยู่ที่ฝั่งสหรัฐได้ทำการเคลื่อนเรือรบดำน้ำเข้าในเขตเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมองโก ทำให้กลุ่มผู้นำสภาพโซเวียตต้องเร่งการผลิตเรือดำน้ำ K-19 เพื่อเตรียมทำสงครามที่กำลังขึ้นในอนาคต โดยจุดโฟกัสจะอยู่ที่การเข้ามาของ 'อเล็กไซ ออสตริคอฟ' กัปตันคนใหม่ แทนที่ 'มิคาอิล โพเลนิน' กัปตันเรือคนเก่าที่ถูกปลดไปเป็นที่ปรึกษา หลังโต้เถียงกับกลุ่มผู้นำสภาพโซเวียตถึงความไม่พร้อมของเรือดำน้ำ K-19 ก่อนท้ายที่สุดหนังได้แสดงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวละคร หลังเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกิดการชำรุดและชีวิตเหล่าลูกเรือต้องมาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
9. Crimson Tide (1995)
การเชือดเฉือนคมระหว่างสองนักแสดงรุ่นเก๋าอย่าง Denzel Washington ในบทบาทของรองกัปตันเรือสหรัฐ กับ Gene Hackman หัวหน้ากัปตันเรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในโลกรองจากประธานาธิบดีสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งปมของหนังเกิดจากความเสียหายของอุปกรณ์สื่อสารภายในเรือดำน้ำ จนเกิดความคลุมเครือถึงคำสั่งยิงขีปนาวุธที่กลายความขัดแย้งทางความคิดระหว่างกัปตันเรือที่ยังคงยืนยันในการดำเนินคำสั่งยิง กับรองกัปตันที่เห็นต่างเพราะตัวคำสั่งยังไม่ชัดเจน ทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนกับการกุมชะตาชีวิตผู้คนหลายล้านคน และอาจเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม
8. U-571 (2000)
หนึ่งในหนังสงครามเรือดำน้ำคุณภาพจากยุค 2000s ที่คว้ารางวัลตัดต่อเสียงจากออสการ์ โดยตัวบทยอดเยี่ยมในการลงรายละเอียดตัวละคร แสดงถึงพัฒนาการในการแก้ปัญหา และเซ็ทสถานการณ์ความลุ้นระทึกได้อย่างต่อเนื่องและดูสมจริง โดยหนังเล่าถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝ่ายกองทัพสหรัฐสามารถตรวจจับได้ว่ามีเรือดำน้ำเยอรมัน U-571 จอดเสียกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจุดโฟกัสจะอยู่ที่การส่งเรือดำน้ำ S-33 เดินทางไปยังตำแหน่งของเรือดำน้ำ U-571 ก่อนให้กำลังทหารสหรัฐสวมรอยเป็นเรือหนุนของเยอรมันเพื่อเข้าไปยึดเรือ แล้วนำเครื่องอินิกม่าที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนโมเมนตัมของสงครามให้กลับมาอยู่ที่ฝ่ายพันธมิตรหากสามารถถอดรหัสได้สำเร็จ
7. The Admiral: Roaring Currents (2014)
หนังเชิดชูวีรบุรุษที่อิงเค้าโครงบางส่วนจากเรื่องจริงของเรือรบเกาหลี 12 ลำ ที่สามารถทำลายแนวหน้าและขับไล่เรือรบกองทัพญี่ปุ่นกว่า 300 ลำ ที่หวังจะเข้ามายึดโซชอน ซึ่งหนังจะค่อยๆเล่าสถานการณ์ความตึงเครียดและความสิ้นหวังภายใต้กำลังพลอันน้อยนิดและการสูญเสียเรือเต่าซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสู้ศึก ทว่าสิ่งที่นายพล 'ยีซุนชิน' มองเห็นว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการสู้ศึกไม่แพ้เรื่องเรือรบ จำนวนทหาร หรือกลยุทธ์ศึก คือสภาพจิตใจของผู้คนในกองทัพที่ย่ำแย่ ก่อนที่เขาจะแปรเปลี่ยนมันจากความกลัวเป็นความกล้าที่จะยืดหยัดต่อสู้เพื่อประเทศชาติ
6. The Hunt for Red October (1990)
ผลงานดัดแปลงจากนิยายสายลับจารชนของ Tom Clancy โดยเป็นสงครามจิตวิทยาที่เต็มไปด้วยแผนการล่อลวง โมเม้นต์พลิกผันที่ถูกเล่าภายในเรือดำน้ำ 'เรด ออคโทเบอร์' กับปมเรื่องที่พูดถึง 'มาร์โก ราเมียส' หัวหน้ากัปตันเรือของรัสเซีย ที่ตัดสินใจแปรพักตร์และมุ่งหน้าสู่น่านน้ำอเมริกา ทว่าฝ่ายรัสเซียก็โต้กลับและประกาศกร้าวถึงจุดประสงค์ของราเมียสที่หวังใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์เข้าไปถล่มอเมริกา ซึ่งจุดโฟกัสจะอยู่ที่ตัวเอก 'แจ๊ค ไรอัน' สายลับซีไอเอ ที่ถูกฝั่งอเมริกาส่งเข้าไปสืบหาความจริง ก่อนที่สถานการณ์ความตึงเครียดจะบานปลายจนกลายเป็นชนวนก่อสงครามระหว่างประเทศ
5. The Caine Mutiny (1954)
อีกหนึ่งผลงานขึ้นหิ้งของหนังสงครามทางทะเลที่ถูกดัดแปลงจากนิยายรางวัลพูลิตเซอร์ของ Herman Wouk โดยสะท้อนแง่มุมการใช้กฎระเบียบวินัยทหารที่นำมาสู่การตั้งคำถามถึงจุดสมดุลของความเหมาะสมต่อการปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสำรวจผ่านมุมมองของ 'คีธ' พลทหารที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนทหารเรือ และได้เข้าประจำการในเรือกวาดระเบิดที่มี 'เดอไวซ์' กัปตันผู้เป็นที่รักของเหล่าลูกเรือ ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างเป็นกันเองและยืดหยุ่นในกฎระเบียบ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเดอไวซ์ก็ถูกปลด ก่อนได้กัปตันคนใหม่เป็น 'ฟิลิปส์ ฟรานซิสต์ ควี๊ก' ชายผู้เคร่งครัดในกฎระเบียบและต้องการปฏิวัติทุกสิ่งในเรือลำนี้ให้กลับสู่รูปแบบที่ควรจะเป็น
4. Master and Commander: The Far Side of the World (2003)
องค์ประกอบของภาพงาน ระบบเสียง และการลงรายละเอียดของเนื้อหาที่สมจริง คงเป็นเรื่องยากที่จะหาหนังเรือรบโบราณที่ดีเทียบเท่ากับเรื่องนี้ ซึ่งหนังเซ็ทเรื่องราวในยุครุ่งเรืองอำนาจของนโปเลียนที่กำลังไล่ล่าอาณานิคมหลายประเทศในยุโรป ก่อนจะโฟกัสไปยังพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลของบราซิลที่เรือรบเซอร์ไพร์สของอังกฤษซึ่งนำโดยกัปตันแจ๊ค ต้องหาทางหยุดเรืออาร์เครอนที่กำลังมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อก่อสงคราม ทว่าสิ่งสำคัญก็คือเรือรบเซอร์ไพร์สมีปืนใหญ่เพียง 28 กระบอก ลูกเรืออีก 197 คน นับเป็นกองกำลังรบที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับเรืออาร์เครอน ทำให้กัปตันแจ๊คต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆมาใช้เพื่อชนะศึกในครั้งนี้ให้ได้
3. Tora! Tora! Tora! (1970)
อิงเค้าโครงจากเหตุโศกนาฏกรรมเพิร์ลฮาเบิลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหนังจะเล่าผ่านมุมมองของทั้งฝั่งสหรัฐและญี่ปุ่นเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์ การโต้เถียงกันเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมของสถานการณ์ก่อนนำไปสู่การโจมตีที่เพิร์ลฮาเบิล โดยหนังเปิดด้วยการประชุมของกลุ่มผู้นำฝั่งญี่ปุ่นที่กำลังดีเบตถึงการคว่ำบาตรจากสหรัฐหลังกองทัพญี่ปุ่นไปรุกรานชาติพันธมิตรใหญ่อย่างจีน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะลงนามสนธิสัญญาเข้าร่วมฝ่ายอักษะเป็นชาติที่สามต่อจากเยอรมันและอิตาลี ขณะเดียวกันหนังก็ตัดไปฝั่งสหรัฐที่พยายามแก้ข้อบาดหมางที่เกิดขึ้น ทั้งยังติดตามข่าวสารและเตรียมรับมือกับฝั่งญี่ปุ่นที่กำลังซักซ้อมกลยุทธ์กลางทะเลโดยมุ่งหมายจะใช้เครื่องบินทุ่มตอร์ปิโดมาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่อ่าวเพิร์ลฮาเบิล
2. The Enemy Below (1957)
ผลงานดัดแปลงจากนิยายของ D.A. Rayner นายทหารอังกฤษที่เคยเข้าร่วมสงครามเรือดำน้ำในคาบมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งหนังได้กลายเป็นแบบอย่างชั้นเยี่ยมของหนังสงครามทางเรือที่ห้ำหั่นกันด้วยกลยุทธ์ศึก กับเรื่องราวในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรือรบสหรัฐซึ่งนำโดยกัปตัน 'เมอร์เรล' ที่ได้รับภารกิจให้ค้นหาและทำลายเรือข้าศึก ต้องมาโคจรพบกับเรือรบเยอรมันที่นำโดยกัปตัน 'สโตเบิร์ก' โดยหนังยอดเยี่ยมในการวางคาแรคเตอร์ของสองกัปตันให้มีความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันกัน ทำให้กว่า 1 ชั่วโมงแรกจะเป็นเกมกลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ความตึงเครียด กับการเดินหมากที่ดำเนินภายในห้องควบคุม ที่จะมีการหลบหลีก ตั้งรับกันไปมาอย่างลุ้นระทึก
1. Das Boot (1981)
หนึ่งในหนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล การันตีได้จากการเข้าชิง 6 รางวัลใหญ่ออสการ์ ด้วยการลงรายละเอียดของตัวหนังที่สมจริง ทั้งเนื้อหาด้านยุทธวิธีการรบ การสำรวจสภาพชีวิตและจิตใจของเหล่าลูกเรือที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่แคบๆ เต็มไปด้วยความกดดันสูงจากสถานการณ์ที่คาบเส้นระหว่างความเป็นความตาย และยังรวมไปถึงฝ่ายเทคนิคพิเศษงานเสียงและงานภาพที่ทำได้อย่างสมจริง จนอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังสงครามเรือดำน้ำที่ดีที่สุด โดยหนังเปิดด้วยงานเฉลิมฉลองเพื่อต้อนรับเหล่านายทหารเยอรมันพร้อมคำโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้คนจงรักภักดีในตัวผู้นำ ก่อนโฟกัสไปยังภารกิจที่พวกเขาต้องนำเรือดำน้ำ U-96 ไปออกลาดตระเวนและทำลายเรือเสบียงอาหารหรือเรือรบข้าศึกของฝั่งพันธมิตร
+(1) Hunter Killer (2018)
เข้าฉายในไทย 25 ตุลาคมนี้
หนังสงครามเรือดำน้ำที่ถูกดัดแปลงจากนิยายที่อิงประสบการณ์ตรงของ George Wallace อดีตผู้บังคับบัญชาของยูเอสเอส ฮิวส์ตัน และนำแสดงโดยหนึ่งในแอคชั่นสตาร์แห่งยุคอย่าง Gerard Butler ในบทบาทของ 'โจ กลาส' กัปตันเรือดำน้ำของกองทัพสหรัฐ ที่ตรวจพบข้อมูลลับของการรัฐประหารที่กำลังขึ้นในรัสเซีย นำโดยอดีตนายพลที่แปรพักตร์เพื่อหวังจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม ทางเหล่าบุคคลชั้นสูงในเพนตากอนจึงมอบหมายภารกิจสำคัญให้กัปตันกลาสในการนำทีมฝ่าน่านน้ำของศัตรูเเละไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยซีลในการบุกชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลย
ตัวอย่างซับไทย