[CR] Inter City Bus Pass Hokkaido

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิป วันนี้เราจะมารีวิวข้อมูลเกี่ยวกับตั๋ว Hokkaido Inter bus pass ค่ะ สืบเนื่องจากเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา เราไปเที่ยวฮอกไกโดคนเดียว และเป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งต้องบอกก่อนว่า จริงๆแล้วกลัวมากๆ กับการเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว ประเด็นหลักๆคือกลัวหลง แต่เพราะความอยากเที่ยว และอยากเอาชนะความกลัวของตัวเอง จึงต้องทำการบ้านอย่างหนัก. แต่พอหาข้อมูลอยู่หนึ่งเดือน ความกลัวหายหมดเลยค่ะ (ไม่รู้ความเชื่อมั่นมันมาจากไหน 555) ซึ่งข้อมูลทั้งหมดทั้งหลาย เราก็พยายามเก็บมาให้ได้มากที่สุด โดยอาศัย อากู๋ ยูทูป เป็นไกด์ อันนี้สำหรับมือใหม่ หัดเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว จงจำไว้ ไม่มีอะไรน่ากลัว แค่ทำการบ้านให้หนัก สำหรับขาเก๋าญี่ปุ่น ข้ามรีวิวนี้ได้เลยนะคะ เพราะเราตั้งใจจะรีวิวให้มือใหม่หัดเที่ยวฮอกไกโด เม่าดี๊ด๊า

ด้วยงบที่มีน้อยนิด จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในฮอกไกโดโดยรถบัส โดยตั้งใจจะไป Furano Biei Otaru และ Hakodate (แต่ด้วยเวลาที่น้อยนิดต้องตัด Hakodate ออกไป) และได้ไปเจอข้อมูลนี้ จาก เพจ Hokkaido X ของชาวญี่ปุ่น  เลยตัดสินใจลองใช้บริการเค้าดู ซึ่งแนะนำเลยนะคะ สำหรับแบ็คแพ็ค และใครที่ต้องการเที่ยวฮอกไกโดแบบประหยัด เพราะ ตั๋วนี้ถูกกว่า JR มาก และทางบริษัทเดินรถ ก็ทำขายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศเท่านั้นค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางข้ามภาคนะคะ ถ้าจะเดินทางไปอีกฝั่ง ก็ซื้อตั่ว JR ดีกว่า รีวิวนี้เราไม่เน้นรูปสถานที่สวยงามต่างๆนะคะ และข้อมูลจะลงเท่าที่จำได้ หวังแต่ว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดได้บ้าง ซึ่งถ้าใครต้องการสอบถาม หลังไมค์ได้ค่ะ

สำหรับมือใหม่ ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเดินทางในฮอกไกโดจำไว้นะคะว่า

1. JR คือรถไฟระหว่างเมือง ตั๋ว JR Pass Hokkaido แบบเหมาจำนวนวันต่างๆ สามารถสั่งจองได้ตามเวปไซด์ และไปรับตั๋วที่ JR Hokkaido หรือไปซื้อได้ที่ JR Hokkaido เลยก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องวางแผนการเดินทางให้ดีนะคะ ตั๋วเหมาสามารถใช้ได้ตามเงื่อนไข แต่จะไม่รวมถึงรถไฟใต้ดิน รถราง จะมีที่ใช้ร่วมได้กับรถบัสในบางประเภทเท่านั้น

2. Subway คือรถไฟใต้ดิน ที่มีแค่ใน Sapporo เท่านั้น จะมีขายตามตู้ แบบแยกเส้นทาง และ เหมาวัน (ราคาเหมาวัน วันปกติ 830 เยน วันหยุดญี่ปุ่น 520 เยน * ราคาต้องเช็คอัพเดทอีกนะคะ ไม่แน่ใจว่า มีการเปลี่ยนแปลงรึยัง *) ซึ่งการซื้อเหมาวันเป็นสิ่งที่ควรสำหรับมือใหม่ เพราะหลงยังไงก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ แต่รถไฟใต้ดินฮอกไกโดมีแค่ 3 สาย

3. Tram รถรางก็คือรถที่วิ่งตามรางรอบๆเมือง จะมีที่ Sapporo กับ Hakodate (อันนี้เราไม่ได้ใช้บริการ ต้องหาข้อมูลเองนะคะ)

เราไปแค่ 5 วันค่ะ (แอบเสียดาย น้อยวันไปนิด แค่เดินทางก็สองวันแล้ว) เดินทางวันที่ 12สิงหาคม 2561 กับสายการบินแอร์เอเชีย เครื่องออกจากดอนเมือง 23:55 น. ถึงสนามบิน Chitose 08:40 น. (ได้ตั๋วโปร 3990 ทั้งไปและกลับ )

ไปถึงสนามบิน Chitose ก็หมายใจว่าจะไปรับตั๋ว และจะได้ใช้นั่งรถบัสไป Sapporo เลย. แต่ปรากฏว่าหาเค้าท์เตอร์ชองบริษัท Chou ไม่เจอค่ะ. ก็เลยตัดสินใจขึ้น JR ไปลงที่ Sapporo ก่อน ตั๋ว JR ก็กดที่ตู้เลยค่ะ ราคา 1070 เยน วิธีการกดมีใน ยูทูป ค่ะ ง่ายมากๆ



เราจองห้องพักไว้ที่ Susukino ชื่อโรงแรม Sun Route New Sapporo Hotel (นั่ง JR ไปลงที่ Sapporo แล้วก็ต่อ Subway สาย Namboku line อีกสองป้ายไปลงที่ Susukino) ซึ่งดีงามมมมากกก (สำหรับความรู้สึกเรา) ทำเลดี เพราะอยู่ในแหล่งใจกลาง ราคาที่จองได้ตอนนั้นประมาณ 1800/คืน (แอบแพงเพราะเป็น Golden Week) ที่สำคัญ รถบัสขากลับไปสนามบินจอดป้ายตรงข้ามหน้าโรงแรมเลย แต่ขามาจากสนามบิน(รถบัส) ให้ลงที่ ป้าย Susukino แล้วข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามที่ร้านแมคโดนัลด์ และเดินตรงไปอีกสองบล๊อคจะเห็นแหล่งช๊อปปิ้งถนน Tanukikoji บล๊อค 4 เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปอีกสองบล๊อค จะเจอโรงแรม อยู่ฝั่งถนนคนเดิน Tanukikoji บล๊อคที่ 6 ค่ะ







ถึงที่พักแล้วก็ออกไปขึ้น Subway ย้อนกลับไป JR Sapporo อีกที เพื่อจะไปรับตั๋ว Inter Bus Pass ที่ สถานีรถบัส ของ JR sapporo และเดินสำรวจดูป้ายที่จะขึ้นไป Furano ซึ่งสำหรับเรา การไปเดิน survey ไว้ก่อน สำคัญมาก เพื่อที่จะได้จำทางไว้ค่ะ (แต่ถึงอย่างนั้นก็หลงค่ะ 5555 เพราะ subway ตอนเช้า เค้าเปิดประตูไว้เป็นบางช่วง แต่เราก็ผ่านมันมาได้ในเช้าวันนั้น) สถานีรถบัสอยู่ฝั่งห้าง Sapporo Esta

ซึ่งราคาตั๋วจะมีสองแบบค่ะ
- 3 วัน ราคาจะอยู่ที่ 6000 เยน และ 5 วัน ราคาจะอยู่ที่ 9000 เยนค่ะ แต่แนะนำว่าให้วางแผนการเดินทางให้ดีและเช็ครอบรถให้ละเอียด

เราซื้อแบบ 5 วันค่ะ ได้ตั๋วแล้ว เก็บไว้ให้ดี อย่าให้หายนะคะ วิธีใช้ก็แค่แสดงตั๋วกับคนขับทั้งขึ้นและลงค่ะ

การจองให้เข้าไปที่เวปไซด์ Hokkaido inter bus pass นะคะ เค้าจะมีแบบฟอร์มให้กรอก และหวังจากนั้นจะมีอีเมล์ยืนยัน ซึ่งในวันที่ไปเอาตั๋วก็เอาอีเมล์ให้เค้าดูค่ะ แล้วก็จ่ายเงินที่นั่นได้เลย และในเวปจะมีตารางรถให้ดูด้วย ซึ่งรถบัสที่วิ่งจะเป็นของบริษัท Chuo ค่ะ แต่ให้ทำความเข้าใจนะคะว่า ตั๋วนี้จะใช้ได้เฉพาะ Sapporo ไปยังเมืองต่างๆ เท่านั้น แต่ถ้าไปต่อรถจะต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ แต่ก็ไม่มากนะคะ อย่างเช่นจขกทเอง ไป Furano, Biei , Asahikawa ก็ต้องจ่ายค่ารถเมล์เพิ่ม ประมาณ 200-300 เยน

วันแรกไป Furano ไปเจอเค้าเข้าแถวรอคิวก้นแล้วค่ะ





รถที่ไปแต่ละสาย เค้าจะมีตารางบอกตามล๊อคของรถสายนั้นๆนะคะ ไม่ได้ถ่ายมา วันที่ไปก็ไปถามเจ้าหน้าที่เค้าว่าขึ้นล๊อคไหน ข้างรถจะมีไฟวิ่งบอกจุดหมายที่จะไปค่ะ ตอนขึ้นก็แสดงตั๋วให้คนขับนะคะ


อันนี้ภาพบนรถค่ะ เค้าจะมีจอแจ้งจุดจอดและราคา บนรถเค้ามีไวไฟฟรีให้ด้วยนะคะ แต่เราไม่ได้ใช้ ใช้Sim to fly ที่ซื้อไปจากเมืองไทย



ถึง Furano ก็รอขึ้นรถ Lavender Express ต่อไปที่ Nakafurano สายนี้เราต้องจ่ายเพิ่มนะคะ ที่จำได้ คือ 160 เยน วิธีขึ้นรถเมล์คือ หยิบบัตรสีขาวตรงเครื่องทางขึ้น ตอนลงให้หยอดจำนวนเงินกับบัตรลงไปด้วยกัน เดี๋ยวเครื่องจะทอนให้เอง



บรรยากาศบนรถเมล์ค่ะ



ถึง Naka furano ลงรถบัสข้ามถนนมาอีกฝั่ง เดินไปถามทางที่จะไป ฟาร์ม Tomita กับเจ้าหน้าที่ JR Naka furano ซึ่งเดินไปประมาณ 15 นาที วันนั้นฝนตก (จริงๆแล้ว ตกทั้งสามวันที่เราไปนั่นแหละค่ะ 5555) ไปถึงก็เก็บรูปนิดหน่อย คนเยอะมาก รูปที่ถ่ายมาก็ประมาณนี้

















ฟาร์ม Tomita ช่วงที่เราไป ลาเวนเดอร์โรยหมดแล้ว จะมีก็แต่ผู้คน ที่หนาแน่นเหมือนในรูปที่เคยเห็น สำหรับเรา การมาในที่แลนด์มาร์ค แค่เพื่ออยากเห็นว่าความโด่งดังของสถานที่มันเป็นเช่นไร แต่สิ่งที่เห็นแล้วทำให้ยิ้มได้สำหรับเรา คือภาพเด็กผู้หญิงเก็บขยะ กับความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในการจัดการขยะของคนญี่ปุ่น กับรูปหมาที่ถ่ายคู่ป้ายฟาร์ม .

ขากลับ มาขึ้นรถที่ป้ายรถบัส ซึ่งหน้าตาก็คือป้ายเหลืองๆนี้นะคะ เราดูไว้ตอนลงรถขามา จะอยู่อีกฝั่งถนนตรงข้ามกัน



ลงรถที่สวนโอโดริ ช่วงที่ไปเป็น Golden Week เทศกาลโอบ้ง ไปเจอเค้ามีรำวงที่สวนโอโดริ และเทศกาลเบียร์( เหมือนชาติที่แล้วทำบุญด้วยเบียร์ 5555) ขาเมาอย่างเรา ก็ต้องแจม เจ้าคิกคัก คนเยอะมากมาย เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะแบตหมด พอได้ชาร์ตแล้วก้็ได้ถ่ายรูปเพื่อนใหม่สองคน



นั่งอยู่จนสามทุ่ม ถึงเวลาปุ๊บ ลานเบียร์จะดับไฟไล่แขกทันที เป็นอะไรที่ได้หัวเราะ เมาแล้วกลับโรงแรมไม่ถูก นั่งแท็กซี่ค่าาาา 670 เยน เข้านอนเอาแรงตื่นไป Biei ในวันถัดไป

ซึ่งการไป Biei ต้องนั่งรถไป Asahikawa ก่อน แล้วค่อยต่อรถสาย Lavender Express ไปเหมือนเดิม ก็ใช้ตั๋ว Inter Pass จาก Sapporo มา Asahikawa และจ่ายค่ารถเมล์เหมือนเดิม พอถึง Asahikawa ก็ไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 9 (สถานีรถบัส Asahikawa จะอยู่ด้านหน้า JR Asahikawa นะคะ)

จะหน้าตาเป็นแบบนี้





รูปที่สองหน้าตาแปลกๆ เพราะเราแคป Google translate ไว้ เจ้าคิกคัก

นั่งรถไปสักพัก ก็ถึงสถานีรถบัส Biei ให้เดินเข้าตึกขึ้นลิฟท์เพื่อที่จะข้ามมาฝั่ง JR Biei ไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ตึก information เกี่ยวกับรถบัสชะโงกเที่ยว เรียกว่า Biei View Bus ที่จะมีอยู่หลายรอบ ราคา 2000 เยน เค้าจะจัดวิ่งอยู่สองสาย คือสาย Flower Patchwork กับ Blue Pond เราซื้อทั้งสองสายเลย เพราะไหนๆก็มาแล้ว จริงๆแล้วความตั้งใจคือจะไปปั่นจักรยาน แต่ด้วยอากาศไม่เป็นใจ

รูปตึกโดมคือสถานีรถบัส



เข้าไปซื้อบัตรรถบัสนำเที่ยวที่ตึกนี้





หน้าตาบัตรห้อยคอ



รูปที่ลง คือสวนดอกไม้มหาชน กับ Blue Pond ในมุมข้างๆ และวิวด้านหน้า ก่อนเข้า Blue Pond อย่างที่บอกนะคะ วันไปฝนตกทั้งคืนทั้งวัน เลยได้รูปมาแบบผิดหวังนิดหน่อย ลงให้ดูพอเป็นพิธี เพี้ยนแช๊ะ







และด้วยเวลาที่ค่อนข้างเย็น รถบัส Lavender Express ที่จะกลับจาก Biei ไป Asahika หมด จึงต้องนั่ง JR รอบสุดท้าย ไปลงที่ Asahikawa แทน แต่รถบัสที่วิ่งจาก Asahikawa ไป Sapporo ยังมีหลายรอบ เราสามารถใช้ตั๋ว Inter Pass ได้ตามปกติ

อีกวันต่อมาใช้ pass ใบเดิม ไป Otaru แต่มีเวลาไม่มาก รูปถ่ายก็มีแต่รูปคลองมหาชนมุมคล้ายๆกัน ไม่ได้ลงให้ดูนะคะ

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ใช้ตั๋วใบเดิม ขึ้นรถบัสกลับสนามบินค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วถ้ามีเวลาแพลนอยู่ได้นานๆ ตั๋วนี้ประโยชน์มากๆค่ะ
ชื่อสินค้า:   Hokkaido กับ Inter Bus Pass
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่