สารานุกรมปืนตอนที่ 229 Remington R51

"ขอขอบคุณทางร้าน bullethouse เป็นอย่างสูงครับ"




9 มม. สวยเพรียว เรมิงตัน R51

เรมิงตันเริ่มผลิตปืนพกอีกครั้ง รุ่น R51 ปืนคลาสสิกมาผลิตใหม่ ลดน้ำหนักตัวปืนด้วยโครงอัลลอยด์แทนเหล็ก

.

เรมิงตัน (Remington Arms) เป็นผู้ผลิตปืนเอกชนเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐ เริ่มงานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1816 ในยุคของปืนดินดำประจุปาก ผ่านเข้าสู่ยุคกระสุนปืนปลอกทองเหลืองมีกลไกให้ยิงซ้ำได้, ดินดำเปลี่ยนเป็นดินควันน้อยแรงดันสูง, ขายกิจการผ่านมือหลายเจ้าของ แต่โรงงานหลักยังตั้งอยู่ที่เดิมคือเมือง อิเลียน รัฐนิวยอร์ก (Ilion, NY) ระยะหลังมีการเปิดโรงงานเพิ่มทางใต้ในรัฐ อลาบามา, อาร์คันซอส์ และจอร์เจียสินค้าที่สร้างชื่อให้เรมิงตันส่วนใหญ่เป็นปืนยาว คู่ที่โดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งของโลกคือไรเฟิล โมเดล 700 แบบลูกเลื่อน กับลูกซองห้านัดโมเดล 870 แบบโยนลำ (pump action) ผลงานด้านปืนสั้นมีไม่มากนัก กระบอกสุดท้ายที่ทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำคือปืนพกเล็กแบบเดอริงเยอร์ โมเดล 95 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1866 ถึง 1930 มียอดขายกว่าหนึ่งแสนสามหมื่นกระบอก

.

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เรมิงตันเคยผลิตปืนพก 1911 ตามแบบของโคลท์เพื่อเสริมให้ทันกับความต้องการของกองทัพ แต่หลังจากนั้นก็เลิกทำปืนพก มี “ปืนสั้น” เพียงรุ่นเดียวคือ โมเดล XP 100 ที่เป็นการย่อส่วนปืนยาวลูกเลื่อนมาใส่รางปืนสั้น มีคำอธิบายว่า เรมิงตันมุ่งตลาดปืนยาวกีฬาล่าสัตว์ เพราะเห็นว่าตลาดปืนทหารมีความไม่แน่นอนสูง สัญญาซื้อมาครั้งละเป็นหมื่นกระบอกแต่ก็อาจหายไปได้ทันที ไม่ต่อเนื่องเหมือนตลาดปืนเอกชน


ล่าสุด เรมิงตันเริ่มผลิตปืนพกอีกครั้งหนึ่ง โดยในปี 2010 เปิดตัว R1 ปืนพกรูปแบบ 1911 ที่กลับมานิยมกันอย่างแพร่หลาย ตามด้วยปืนพกเล็ก RM380 ตามแบบของ โรบาห์ (Rohrbaugh Firearms) ที่เรมิงตันซื้อกิจการไว้ในปี 2014 ปรับแบบปืนอยู่สองปี เริ่มออกขายในปี 2016



ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ชื่อรุ่น R51 เป็น การนำปืนคลาสสิกมาผลิตใหม่ ของเดิมคือ โมเดล 51 ผลงานของ John Pedersen วิศวกรในสังกัดเรมิงตันเอง ผลิตขายช่วงปี 1918 ถึง 1927 ยอดขายหกหมื่นกว่ากระบอก ต้องเลิกไปเพราะต้นทุนสูงกว่าคู่แข่งเนื่องจากระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่า

.

ในการปรับแบบโมเดล 51 มาเป็น R51 เรมิงตันใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ลดน้ำหนักตัวปืนด้วยโครงอัลลอยด์แทนเหล็ก และใช้กระสุนแรงขึ้น จากเดิมคือ .380 เปลี่ยนมาเป็น 9 มม. ลูเกอร์ ซึ่งทำได้เพราะ Pedersen ออกแบบระบบหน่วงเวลาเปิดท้ายรังเพลิงไว้แต่เดิมแล้ว เรียกกันว่า “hesitation locked” คือขัดกลอนแบบขยับได้ มีตัวปิดท้ายลำกล้องซ่อนอยู่ในลำเลื่อน ในจังหวะ “ขัดกลอน” สปริงลำเลื่อนจะยันตัวปิดท้ายนี้ให้ชิดรังเพลิง เมื่อกระสุนลั่น ตัวปิดท้ายลำกล้องจะขยับถอยหลังได้ประมาณ 2 มิลลิเมตร มาชนกับแท่งกั้นแล้วหยุด ปล่อยให้ลำเลื่อนถอยต่อไปด้วยแรงเฉื่อย เป็นการหน่วงเวลาให้หัวกระสุนพ้นลำกล้องแรงดันในรังเพลิงลดลง จากนั้น ผิวเอียงด้านในลำเลื่อนจะยกตัวปิดท้ายลำกล้องพ้นจากแท่งกั้นให้ถอยหลังต่อไปด้วยกัน, ง้างนก, แล้วดีดกลับป้อนกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง


ข้อดีของระบบนี้ คือ ตัวปืนสวยเพรียว ลำกล้องยึดแน่นกับโครงลดน้ำหนักส่วนที่วิ่งถอยหลัง ช่วยให้รีคอยล์นิ่มนวล สปริงลำเลื่อนอยู่รอบลำกล้องลักษณะเดียวกับปืนตระกูล PP/PPK ของวอลเธอร์ ยิ่งทำให้แนวลำกล้องใกล้ง่ามมือมาก คุมปืนง่าย ยิงซ้ำได้เร็ว ไกเป็นแบบซิงเกิลหลุดคมดี มีข้อต้องพิจารณาคือ ถอดทำความสะอาดยากกว่าปืนใช้งานทั่วไปอยู่บ้าง.

.

หมายเหตุ: ไม่ทราบราคา และร้านที่จำหน่ายครับ

............................................................

ขอบคุณความรู้ดีๆ จาก:...

นสพ.เดลินิวส์ ออนไลน์

คอลัมน์ รู้ลองเลือกปืน

โดย ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช

............................................................




สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่