สวัสดีค่ะ หลังจากอยู่ออสเตรเลียมเกือบ 10 เดือนด้วย Work & Holiday Visa (เราอยู่ซิดนีย์มาก่อนประมาณเกือบ 6 เดือน แล้วย้ายมาเมือง Cairns เพื่อหางานที่จะต่อวีซ่าปีที่สองตอนเดือนมิถุนายน) สามารถไปตามอ่านกระทู้เก่าๆ ของเราได้นะคะที่
(CR) *** Work and Holiday life in Sydney ออสซี่จ๋าเราต้องรอด ***
https://ppantip.com/topic/37555476
CR เล่าประสบการณ์เข้ารพ.เพราะกรวยไตอักเสบเฉียบพลันที่ออสเตรเลียกับการเคลมประกัน Allianz ฉบับเด็ก Work and Holiday Visa
https://ppantip.com/topic/38054370
หรือ Facebook Page : Alone in the wild : ออสซี่จ๋าเราต้องรอด
หลังจากอยู่ Cairns มาได้ 4 เดือนก็คิดว่าควรจะได้ฤกษ์ไปดำน้ำดูปะการังที่ Great Barrier Reef ซะที เนื่องจากหากล่าช้าไปกว่านี้ฝนจะตกเกือบทุกวัน และเข้าหน้าแมงกะพรุนแล้วค่ะ (ที่นี่เรียก Wet Season) ที่นี่มีเอเจนซี่ให้เลือกเยอะมาก ข้อดีคือแต่ละเอเจนซี่พาไปที่ๆ ต่างกันออกไปเลยค่ะ ข้อดีก็คือคนไม่เยอะ และถ้ามีตังเหลือเฟือก็ไปหลายๆ เอเจนซี่เพื่อไปดูที่ที่ต่างกันได้ค่ะ
Great Barrier Reef เป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก เราเองชอบการดำน้ำ Snorkeling เคยไปดำที่ไทยมาหลายที่ เช่น เกาะล้าน เกาะสุรินทร์ เกาะเต่า ตราด ตรัง ภูเก็ต พีพี สิมิลัน ฯลฯ แต่ละที่มีความหลากหลายของปะการังและความสวยงามต่างกัน สภาพอากาศมีส่วนอย่างยิ่งต่อความสวยงามของท้องทะเล เพราะฉะนั้นก่อนจะจองวันไปดำน้ำเช็ตสภาพอากาศและคลื่นลมนิดนึงนะคะ
ราคา One day trip ของ Great Barrier Reef ค่อนข้างแรง ราคาต่ำสุดคือ 90 กว่าเหรียญไปจนถึง 300 กว่าเหรียญ ยิ่งถ้า Scuba ราคาก็จะยิ่งแรงไปอีก เราไปกับทัวร์ชื่อ Passion of Paradise โดยการซื้อทัวร์และตัดบัตรเครดิตออนไลน์ไปเลยค่ะ ราคาก็ 189 เหรียญสำหรับ Snorkeling
เวลาดีเรือออกประมาณ 8.30 น. ใช้เวลา 2 ชม.ก็ไปถึงจุดดำน้ำจุดแรก เรียกว่า East Meets west ให้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ แนะนำให้เช่า Wet suit เนื่องจากน้ำเย็นแม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม (ฤดูกาลของออสเตรลเลียสลับกับประเทศในแถบยุโรป High season สำหรับการดำน้ำคือเดือนมิย. - กย. ค่ะ) ถามว่าสวยมากมั้ยเราว่าก็สวยแต่ไม่ได้แบบ Wowwww ขนาดนั้น ถ้าถามเรื่องปะการังมีความหลากหลายกว่าเมืองไทยเยอะมาก ส่วนปลาตัวใหญ่กว่าแต่เรารู้สึกว่าปลาน้อยกว่าเมืองไทยหลายๆ ที่ที่เราเคยไปดำน้ำมา แถมปลาที่นี่เห็นคนแล้วหนีกระเจิง ไม่แน่ใจว่าที่ไทยปลามันคุ้นกับการที่เคยมีคนไปให้อาหารจนขยายพันธุ์รวดเร็วหรือเปล่า
หลังจากดำน้ำจุดแรกเสร็จก็พักทานอาหารกลางวัน แล้วต่อด้วยไปดำน้ำจุดที่สองชื่อ 5 ways เราชอบจุดนี้มากกว่าที่แรก คือดำลงไปแล้วลืมโลกข้างบนไปเลยค่ะ ชอบมากๆ...ไปดูภาพกันดีกว่า (เราใช้ Gopro 5 ไม่ได้แต่งภาพนะคะ)
หรือไปดูวิดีโอได้เลยค่ะ
ข้อดีของการดำน้ำที่นี่ เทียบกับที่ไทย...
1. เรือขนาดเล็กกว่า เรือใหม่กว่า ใครเมาเรือและอยากผิวแทนแบบเราแนะนำนั่งข้างนอกค่ะ นอนอาบแดดดูคลื่นไปเลย
2. อุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ ใหม่และดูแลรักษาดี แถมเสื้อชูชีพไม่ใช่ชูชีพแบบที่ไทยนะคะ มันจะเป็นแผ่นโฟมสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณกระดาษ A3 มีเข็มขัดติดกับหลังเรา ไม่เกะกะแบบเสื้อชูชีพ เราชอบมาก อยากซื้อกลับไทยเลยค่ะ และที่นี่ดำน้ำทุกคนต้องใส่ฟิน เราไม่เคยใส่ฟินมาก่อนในชีวิต ก็มาลองครั้งแรกที่นี่ คือมันดีงาม ไม่เหนื่อยเลย เตะขานิดเดียวแล่นฉิว ใครไม่ใส่ฟิน เค้าไม่ให้ลงไปเลยนะคะ
3. ปะการังหลากหลายกว่าเยอะมากค่ะ ชอบๆๆ
ใครมาเที่ยวออสเตรเลียก็อย่าลืมแวะมาดำน้ำที่ Great Barrier Reef นะคะ นอกจากเมือง Cairns แล้วเรายังสามารถไปดำน้ำดู Great Barrier Reef ได้จากเมืองอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่น Townville. Airline Beach แต่คนส่วนใหญ่ก็จะมาดำที่เมือง Cairns มากกว่า
วันนี้ขอลาไปก่อน..สวัสดีค่า
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแนวประการังที่ยาวที่สุดในโลก Great Barrier Reef @ Cairns, Australia ฉบับเด็ก Work & Holiday Visa
(CR) *** Work and Holiday life in Sydney ออสซี่จ๋าเราต้องรอด ***
https://ppantip.com/topic/37555476
CR เล่าประสบการณ์เข้ารพ.เพราะกรวยไตอักเสบเฉียบพลันที่ออสเตรเลียกับการเคลมประกัน Allianz ฉบับเด็ก Work and Holiday Visa
https://ppantip.com/topic/38054370
หรือ Facebook Page : Alone in the wild : ออสซี่จ๋าเราต้องรอด
หลังจากอยู่ Cairns มาได้ 4 เดือนก็คิดว่าควรจะได้ฤกษ์ไปดำน้ำดูปะการังที่ Great Barrier Reef ซะที เนื่องจากหากล่าช้าไปกว่านี้ฝนจะตกเกือบทุกวัน และเข้าหน้าแมงกะพรุนแล้วค่ะ (ที่นี่เรียก Wet Season) ที่นี่มีเอเจนซี่ให้เลือกเยอะมาก ข้อดีคือแต่ละเอเจนซี่พาไปที่ๆ ต่างกันออกไปเลยค่ะ ข้อดีก็คือคนไม่เยอะ และถ้ามีตังเหลือเฟือก็ไปหลายๆ เอเจนซี่เพื่อไปดูที่ที่ต่างกันได้ค่ะ
Great Barrier Reef เป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก เราเองชอบการดำน้ำ Snorkeling เคยไปดำที่ไทยมาหลายที่ เช่น เกาะล้าน เกาะสุรินทร์ เกาะเต่า ตราด ตรัง ภูเก็ต พีพี สิมิลัน ฯลฯ แต่ละที่มีความหลากหลายของปะการังและความสวยงามต่างกัน สภาพอากาศมีส่วนอย่างยิ่งต่อความสวยงามของท้องทะเล เพราะฉะนั้นก่อนจะจองวันไปดำน้ำเช็ตสภาพอากาศและคลื่นลมนิดนึงนะคะ
ราคา One day trip ของ Great Barrier Reef ค่อนข้างแรง ราคาต่ำสุดคือ 90 กว่าเหรียญไปจนถึง 300 กว่าเหรียญ ยิ่งถ้า Scuba ราคาก็จะยิ่งแรงไปอีก เราไปกับทัวร์ชื่อ Passion of Paradise โดยการซื้อทัวร์และตัดบัตรเครดิตออนไลน์ไปเลยค่ะ ราคาก็ 189 เหรียญสำหรับ Snorkeling
เวลาดีเรือออกประมาณ 8.30 น. ใช้เวลา 2 ชม.ก็ไปถึงจุดดำน้ำจุดแรก เรียกว่า East Meets west ให้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ แนะนำให้เช่า Wet suit เนื่องจากน้ำเย็นแม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม (ฤดูกาลของออสเตรลเลียสลับกับประเทศในแถบยุโรป High season สำหรับการดำน้ำคือเดือนมิย. - กย. ค่ะ) ถามว่าสวยมากมั้ยเราว่าก็สวยแต่ไม่ได้แบบ Wowwww ขนาดนั้น ถ้าถามเรื่องปะการังมีความหลากหลายกว่าเมืองไทยเยอะมาก ส่วนปลาตัวใหญ่กว่าแต่เรารู้สึกว่าปลาน้อยกว่าเมืองไทยหลายๆ ที่ที่เราเคยไปดำน้ำมา แถมปลาที่นี่เห็นคนแล้วหนีกระเจิง ไม่แน่ใจว่าที่ไทยปลามันคุ้นกับการที่เคยมีคนไปให้อาหารจนขยายพันธุ์รวดเร็วหรือเปล่า
หลังจากดำน้ำจุดแรกเสร็จก็พักทานอาหารกลางวัน แล้วต่อด้วยไปดำน้ำจุดที่สองชื่อ 5 ways เราชอบจุดนี้มากกว่าที่แรก คือดำลงไปแล้วลืมโลกข้างบนไปเลยค่ะ ชอบมากๆ...ไปดูภาพกันดีกว่า (เราใช้ Gopro 5 ไม่ได้แต่งภาพนะคะ)
หรือไปดูวิดีโอได้เลยค่ะ
ข้อดีของการดำน้ำที่นี่ เทียบกับที่ไทย...
1. เรือขนาดเล็กกว่า เรือใหม่กว่า ใครเมาเรือและอยากผิวแทนแบบเราแนะนำนั่งข้างนอกค่ะ นอนอาบแดดดูคลื่นไปเลย
2. อุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ ใหม่และดูแลรักษาดี แถมเสื้อชูชีพไม่ใช่ชูชีพแบบที่ไทยนะคะ มันจะเป็นแผ่นโฟมสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณกระดาษ A3 มีเข็มขัดติดกับหลังเรา ไม่เกะกะแบบเสื้อชูชีพ เราชอบมาก อยากซื้อกลับไทยเลยค่ะ และที่นี่ดำน้ำทุกคนต้องใส่ฟิน เราไม่เคยใส่ฟินมาก่อนในชีวิต ก็มาลองครั้งแรกที่นี่ คือมันดีงาม ไม่เหนื่อยเลย เตะขานิดเดียวแล่นฉิว ใครไม่ใส่ฟิน เค้าไม่ให้ลงไปเลยนะคะ
3. ปะการังหลากหลายกว่าเยอะมากค่ะ ชอบๆๆ
ใครมาเที่ยวออสเตรเลียก็อย่าลืมแวะมาดำน้ำที่ Great Barrier Reef นะคะ นอกจากเมือง Cairns แล้วเรายังสามารถไปดำน้ำดู Great Barrier Reef ได้จากเมืองอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่น Townville. Airline Beach แต่คนส่วนใหญ่ก็จะมาดำที่เมือง Cairns มากกว่า
วันนี้ขอลาไปก่อน..สวัสดีค่า